“เดอะ เมล์แมน” คาร์ล มาโลน อดีตฟอร์เวิร์ดซูเปอร์สตาร์ ยูทาห์ แจซซ์ เป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวในท็อปไฟว์ (คาริม อับดูร์-จาบาร์, ไมเคิล จอร์แดน, วิลท์ แชมเบอร์เลน และ โมเซส มาโลน) ของนักล่าสกอร์ศึกยัดห่วงถล่มโลก เอ็นบีเอ (NBA) ที่ปราศจากแหวนแชมป์ ลองมาดูกันว่า ณ ปัจจุบันมี “ราชาทำแต้ม” คนใดบ้างยังคงวาดลวดลายในลีกและกำลังหาหนทางไต่ขึ้นสู่บัลลังก์
อัลเลน ไอเวอร์สัน (การ์ด : ดีทรอยต์ พิสตันส์)
อัลเลน ไอเวอร์สัน ดีกรีดราฟท์คนแรกปี 1996 เคยพา ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส มีลุ้นเกียรติยศสูงสุด ทว่า “เอ.ไอ.” คนเดียวหมดปัญญาต่อกรกับ แชคคิว โอนีล และ โคบี ไบรอันท์ จึงเป็น แอลเอ เลเกอร์ส สอยชัยขาดลอย 4-1 เกม จากนั้นการ์ดวัย 33 ปี โยกมาประสานงาน คาร์เมโล แอนโธนีย์ และ เคนยอน มาร์ติน อย่างไรก็ตาม ก็ทำดีที่สุดเพียงแค่พา เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ตกรอบแรกเพลย์ออฟสองปีติด
มาวันนี้ ไอเวอร์สัน ที่กดรวมไปแล้ว 23,165 แต้ม แซงทาง เอลจิน เบย์เลอร์ อดีตฟอร์เวิร์ด เลเกอร์ส ขึ้นไปอยู่อันดับ 19 ของผู้เล่นทำคะแนนมากที่สุด ถูกเทรดข้ามฟากมาอยู่กับ ดีทรอยต์ พิสตันส์ ทีมซึ่งมีโอกาสเข้าชิงแชมป์สายตะวันออกเป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกัน เป็นโอกาสดีที่ “เอ.ไอ.” จะถึงฝั่งฝัน อย่างไรก็ดี ถ้า “ดิ แอนเซอร์ (The Answer) หาใช่คำตอบสุดท้าย หลังจบฤดูกาลคงถึงคราวทางใครทางมันตามสัญญาที่หมดลง อีกทั้งด้วยอายุอานามขนาดนี้อาจส่งผลให้ ไอเวอร์สัน ไม่มีโอกาสเขยิบใกล้ตำแหน่งแชมป์อีกเลย
เดิร์ก โนวิตซกี (ฟอร์เวิร์ด : ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์)
ย้อนไปเมื่อปี 1998 หลายคนพากันสงสัยว่าเหตุใด ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ จึงเลือก เดิร์ก โนวิตซกี ขึ้นมาสูงถึงอันดับ 9 แต่วันนี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่าฟอร์เวิร์ดทีมชาติเยอรมนี คือสมบัติล้ำค่าที่สุดของเฟรนไชส์ พาขุนพล “แมฟส์แมน” เข้าเพลย์ออฟ 8 ปีติดต่อกัน มือเกือบแตะถึง “แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี” ในปี 2006 แต่น่าเสียดายที่พลิกเสียท่า ไมอามี ฮีท ในหกเกมทั้งที่ออกนำไปก่อน 2-0 เกม
ฤดูกาล 2008/09 แมฟเวอร์ริกส์ เป็นหนึ่งในม้ามืดที่มีลุ้นแหวนแชมป์ เพียงแต่ว่าการอยู่ทางฝั่งตะวันตกซึ่งเต็มไปด้วยทีมที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการออกตัวที่แกว่งไกว ทำให้นักวิเคราะห์วิจารณ์ปรามาสมองว่า “แมฟส์แมน” ยังหาองค์ประกอบมาเสริมสมรรถภาพของ โนวิตซกี ไม่ดีพอ ผู้เล่นวัย 30 ปี ซึ่งปัจจุบันกดไปแล้ว 17,230 แต้ม รั้งอันดับ 69 ของผู้ทำคะแนนสูงสุดในลีก ทำท่าต้องรอขึ้นสู่เกียรติยศสูงสุดกันต่อไป
เทรซีย์ แม็คเกรดี (การ์ด : ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์)
แฟนๆ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ อยากเห็นทีมกลับไปยิ่งใหญ่ดั่งยุคกลางทศวรรษที่ 90 ซึ่งมี ฮาคีม โอลาจูวอน และ ไคลด์ เด็กซ์เลอร์ อดีตซูเปอร์สตาร์เป็นคู่หูกัน แต่ทีมดังแห่งเท็กซัสดูยังไม่มีโชคเข้าข้างเท่าที่ควร “ดูโอ” ยุคใหม่อย่าง เหยา หมิง เซ็นเตอร์ชาวจีน กับ เทรซีย์ แม็คเกรดี สลับกันเจ็บเป็นระยะๆ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม ร็อคเก็ตส์ ถึงตกรอบแรกเพลย์ออฟ 4 ในห้าฤดูกาลหลังสุด
ซีซั่นนี้ทีมได้ รอน อาร์เตสท์ มาผนึกกำลังเป็น 3 ประสาน คอยช่วยเกมวงใน เหยา หมิง “เจ้าจรวด” ร็อคเก็ตส์ มีโอกาสพวยพุ่งกว่าเดิมแต่จะขึ้นถึงจุดสูงสุดหรือไม่ ต้องมาดูกันด้วยว่า “ที-แม็ค” วัย 29 ปี ซึ่งสอยรวมไปแล้ว 16,911 แต้ม อยู่ที่ 73 ของบรรดาจอมทำแต้ม สภาพร่างกายแกร่งพอและพร้อมสลัดอาถรรพ์ลิงเกาะหลังให้หลุดพ้นไปหรือยัง
วินซ์ คาร์เตอร์ (การ์ด : นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์)
ครั้งหนึ่ง วินซ์ คาร์เตอร์ เคยได้รับการยกย่องว่าฝีไม้ลายมือดีพอที่จะเป็น ไมเคิล จอร์แดน คนต่อไป แต่สิ่งที่คอยฉุดรั้งดาวเด่นวัย 31 ปี ให้ห่างจากความเจริญเห็นจะหนีไม่พ้นต้นสังกัดที่ไม่ดีพอ หลังย้ายจาก โตรอนโต แร็พเตอร์ส ในปี 2004 “แอร์ แคนาดา” หวังมาพา นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์ ก้าวเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง ทว่าการปฏิรูปทีมใหม่คงต้องใช้เวลาพอสมควร
อันที่จริง คาร์เตอร์ ที่ส่องไปแล้ว 16,086 แต้ม อยู่ในอันดับ 74 ของผู้เล่นทำคะแนนสูงสุดในลีก น่าจะประสบความสำเร็จได้หากทีมเลือกเก็บ เจสัน คิดด์ และ ริชาร์ด เจฟเฟอร์สัน เอาไว้ แต่ในเมื่อกลุ่มเจ้าของทีมชุดใหม่ต้องการรื้อเฟรนไชส์ขนานใหญ่ ด้วยการทยอยปลดเพดานค่าจ้างเพื่อรอจิ๊กซอว์คนสำคัญมาเติมเต็ม อาทิเช่น เลอบรอน เจมส์, ดีเวย์น เหว็ด หรือ คริส บอช ซึ่งมีโอกาสหลุดสู่ตลาดฟรีเอเย่นต์ในปี 2010 อย่างไรก็ตาม ถึงเวลานั้น คาร์เตอร์ อาจไม่ได้อยู่ในทีม เน็ตส์ แล้วก็เป็นได้
