"ซูเปอร์บอล" ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตยอดนักหวดมือ 9 ของโลก เผยวางแผนมีทายาทตัวน้อย ก่อนจะกลับคืนคอร์ตในเดือนมีนาคมปี 52
ภายหลังจากที่ ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสชาวไทย ที่เคยไต่อันดับสูงสุดด้วยการเกาะตำแหน่งมือ 9 ของโลกมาแล้ว ได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือขวา จนต้องหยุดพักไปนานถึง 1 ปี 8 เดือนด้วยกัน
ล่าสุด "ซูเปอร์บอล" วางแผนกลับสู่คอร์ตเทนนิสอีกครั้ง ในการแข่งขันเทนนิสเดวิส คัพ กับทีมชาติออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม 2552 เป็นรายการแรก
"ตามแผนแล้วผมมองว่าจะกลับมาเล่นเดวิส คัพ ในนามทีมชาติไทย เป็นรายการแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เริ่มกลับมาเล่นเวตได้ 3-4 เดือน จากนั้นก็ลงคอร์ตไป 2 เดือน แต่เป็นการซ้อมเบาๆ เท่านั้น"
สำหรับแผนของ "หนุ่มบอล" ในการไต่อันดับโลกนั้น เจ้าตัวเผยว่า "ผมจะใช้สิทธิ์ใช้อันดับเดิมตามกฏของเอทีพีก่อนได้รับบาดเจ็บ กลับมาลงแข่งขันที่เขากำหนดไว้ 9 รายการ ซึ่งอันดับที่จะได้ในการแข่งขันปีหน้าคือ อันดับ 75 ของโลก ขณะที่ใน 9 รายการที่วางแผนว่าจะลงแข่งขันก็จะเป็นรายการแกรนดสแลม 4 รายการ ส่วนอีก 5 รายการก็จะเป็นเทนนิสรายการใหญ่ๆ ที่มีความสำคัญ"
"นอกจาก 9 รายการนี้แล้ว ผมจะลงแข่งขันเทนนิสในระดับเอเชีย ด้วยการขอไวล์คาร์ด รวมถึงชาเลนเจอร์ด้วย เพราะต้องการเรียกความมั่นใจให้กลับคืนมาก่อน เนื่องจากเจ็บไปนานมากแล้ว หากไปตระเวณแข่งขันรายการใหญ่ๆ แล้วแพ้ติดๆ กันคงบั่นทอนความมั่นใจของผมมากทีเดียว"
ซึ่งหากระหว่างที่หวนคืนคอร์ตแล้วเกิดอาการบาดเจ็บหนักขึ้นมาอีก "หนุ่มบอล" ยอมรับว่าอาจจะถึงเวลาต้องพักยาว และหันหลังให้กับการแข่งขันในที่สุด "ผมคงจะเล่นเหมือนที่เคยเล่นมา เพราะผมไม่สามารถเปลี่ยนรูปแบบการเล่นของตัวเองได้ ดังนั้นหากว่าการยิงบอลหนักๆ ระหว่างการแข่งขันจะทำให้ผมได้รับบาดเจ็บอีก ถึงตอนนั้น ผมคงต้องเลิกเล่นแน่นอน"
ขณะเดียวกันนักหวดภรรยาสวย ยังเปิดเผยด้วยว่าระหว่างนี้มีแผนผลิตทายาทตัวน้อยก่อนคืนวงการเทนนิสด้วยเช่นกัน "ตอนนี้ผมเลิกใช้การคุมกำเนิดแล้ว และก็พยายามที่จะมีลูกกับภรรยาอยู่ แต่ก็ยังไม่สำเร็จในตอนนี้"
ส่วนกระแสข่าวเรื่องการก้าวข้ามไปสู่วงการขับ 2 ล้อนั้น ภราดร กล่าวว่า "ที่ผ่านมาเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่ว่าผมจะไปแข่ง มอเตอร์ไซค์ เป็นอาชีพ ซึ่งผมก็แข่งไปเพราะชื่นชอบในกีฬาความเร็วเท่านั้น และตอนนี้ที่ไปคลุกคลีอยู่กับทีมสกอร์เปียนนั้นก็เพราะความชอบ แต่ไม่ได้แข่ง ขณะที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาผมเดินทางไปดูการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกที่สนามเซปัง ในมาเลเซีย ก็เพราะชื่นชอบในลีลาของ นิคกี เฮย์เดน เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว"
