"โปรหมู" เผยเล่นแอลพีจีเอเป็นประสบการณ์อันมีค่า

อรนรินทร์ สัตยาบรรพต โปรสาวชาวไทย รับเป็นประสบการณ์อันมีค่าที่ได้เล่นอยู่ใน แอลพีจีเอ ทัวร์ ทำใจหากอยากได้สิทธิ์เล่นต่อในปีหน้าคงต้องพึ่งปาฎิหาริย์ระเบิดฟอร์มสุดยอดในศึก นาร์บิสตาร์ แอลพีจีเอ คลาสสิค เท่านั้น

"โปรหมู" อรนรินทร์ สัตยาบรรพต ที่ลงเล่น แอลพีจีเอ ทัวร์ ไปแล้ว 7 รายการในปีนี้ กำลังทำศึก นาวิสตาร์ แอลพีจีเอ คลาสสิก อยู่ที่เมืองแพรตต์วิล รัฐอลาบามา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยวันแรกตีเกินไปถึง 6 โอเวอร์พาร์ อยู่ที่ 133 ร่วม

ทั้งนี้ก่อนลงแข่ง สวิงสาววัย 24 ปีจากรุงเทพ ได้เขียนบล็อกไว้ในเว็บไซด์แอลพีจีเอ โดยยอมรับว่าน่าจะได้โอกาสลงแข่งรายการนี้เป็นรายการสุดท้ายในปีนี้ ก่อนเตรียมตัวไปเล่นคัดเลือกเพื่อคว้าสิทธิ์เล่น แอลพีจีเอ ทัวร์ ในปีหน้าต่อไป "นาวิสตาร์ฯ จะเป็นทัวร์นาเมนท์สุดท้ายในปีนี้ที่สหรัฐฯ หลังจากนี้คงกลับบ้านเพื่อเตรียมตัวเล่น คิว-สคูล แต่หากทำผลงานรายการนี้ได้อย่างมหัศจรรย์ก็อาจไม่ต้องกลับไปเล่น คิว-สคูล อีกครั้งที่ เดย์โทนา บีช หากเป็นอย่างนั้นจริงก็คงดี การได้อยู่ใน แอลพีจีเอ ทำให้ได้เจอกับคนดีๆ มากมาย ตลอดจนได้เรียนรู้บทเรียนหลายอย่างที่หาค่าไม่ได้"

นอกจากนี้ "โปรหมู" ยังเล่าให้ฟังถึงความรู้สึกตอนที่รู้ว่าตัวเองจะได้ลงเล่นรายการนี้ว่า "ตอนแรกตั้งใจจะไปเล่นรอบคัดเลือกในวันจันทร์ แต่เจ้าหน้าที่ของ แอลพีจีเอ โทรมาบอกตอนเช้าวันจันทร์พอดี มันเหมือนเสียงจากสวรรค์ที่ได้ยินว่า "ตอนนี้คุณได้เข้าร่วมทัวร์นาเมนท์แล้ว" พนันได้เลยว่านี่คือสิ่งที่ผู้เล่นในลิสต์รายชื่อสำรองต้องการได้ยินมากที่สุด จากนั้นก็ได้เรียนรู้อะไรนิดหน่อยเกี่ยวกับตัวเองหลังจากดูหนังเรื่อง "Jerry Maguire" มันทำให้คิดถึงสิ่งดีๆ ได้ว่า เราจะเล่นด้วยหัวใจและความรักในเกมกอล์ฟและไม่เล่นด้วยความคิดมาก หรือคิดว่าอะไรที่คนอื่นมีและอะไรที่เราไม่มี จากตอนนั้นก็บอกกับตัวเองว่าจะเลิกเล่นด้วยหัวสมองและออกไปเล่นด้วยหัวใจและความกล้าหาญ ดังนั้นเป้าหมายในทุกๆ วันก็คือการสนุกกับเกมและสนุกกับช่วงเวลาที่เรามี"

"วันที่ 1 ตุลาคมจะกลับไปบ้านเกิดที่ประเทศไทย เนื่องจากไม่ได้กลับมานานมากแล้ว เพื่อได้เจอกับครอบครัว, เพื่อน, โค้ช และลูกสุนัขที่ตั้งชื่อไว้ให้ว่า "มินิ มี" (Mini Me) อยากรู้จริงๆ ว่ามันจะจำเราได้หรือไม่ เพราะเพิ่งได้อยู่กับมันแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น หลังจากได้มาเมื่อต้นปี" อรนรินทร์ ที่เทิร์นโปรเมื่อปี 2006 และทำเงินรางวัลรวมในปีนี้ไปแล้ว 8,575 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 2.8 แสนบาท เขียนไว้ในบล็อก