พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ออกมายอมรับที่ขายหุ้น “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ให้แก่กลุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับ เพราะอยากเห็นสโมสรก้าวไปถึงขั้นสูงสุดของวงการลูกหนัง
เมื่อช่วงหน้าร้อนปีก่อน พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย สร้างความฮือฮาด้วยการทุ่มเงิน 80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,200 ล้านบาท) เข้าเทกโอเวอร์ แมนฯ ซิตี สโมสรกลางตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ทว่า เมื่อต้นเดือนกันยายน “แม้ว” ตัดสินใจขายหุ้นของตัวเองให้แก่ อาบูดาบี ยูไนเต็ดกรุ๊ป อินเวสต์เมนท์ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ ลิมิเต็ด จากสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ภายใต้การนำของอภิมหาเศรษฐีอย่าง ดร.สุไลมาน อัล-ฟาฮิม เพื่อแลกกับเงินก้อนโต 150 ล้านปอนด์ (ราว 9,750 ล้านบาท)
แม้กลายเป็นเพียงอดีตประธานสโมสร แต่ ทักษิณ ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ “เรือใบสีฟ้า” เดินทางมายัง ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ เพื่อให้กำลังใจทีมเมื่อคืนวันเสาร์ อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี สู้ความแข็งแกร่งของ “สิงห์บลูส์” เชลซี ไม่ได้จึงปราชัยไป 1-3
ภายหลังการแข่งขัน ทักษิณ มีโอกาสให้สัมภาษณ์กับ “สกาย สปอร์ตส” สื่อชั้นนำเมืองผู้ดี ถึงเหตุผลว่าทำไมจึงตัดสินใจขายหุ้น “ผมต้องการใครสักคนที่จะนำสโมสรเดินไปข้างหน้าให้ได้ มันเป็นช่วงซึ่งยากลำบากที่ผมจะพา แมนฯ ซิตี เดินหน้าต่อไป เพราะต้องยอมรับว่ามีการแข่งขันกันสูงมาก อีกทั้งนักฟุตบอลก็มีค่าตัวแพงมหาศาล ดังนั้นเราจึงต้องการคนที่กระเป๋าหนัก มีใจรักฟุตบอล และอยากนำพาทีมของเราเดินไปข้างหน้าจริงๆ”
ซึ่งการมาของกลุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับทำให้แฟนๆ ซิตี ดูกระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันที และจากเจตนารมณ์ของ ดร.อัล ฟาฮิม คาดว่า ในอนาคตอันใกล้จะมีนักเตะซูเปอร์สตาร์อีกหลายคนเดินทางมาค้าแข้งยังอีสต์แลนด์ หลังจากที่ แมนฯ ซิตี ประสบความสำเร็จในการดึงตัว โรบินโญ กองหน้าร่างเล็กทีมชาติบราซิล มาด้วยค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,100 ล้านบาท) ถือเป็นสถิติการย้ายทีมแพงสุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลอังกฤษ
เมื่อช่วงหน้าร้อนปีก่อน พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย สร้างความฮือฮาด้วยการทุ่มเงิน 80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,200 ล้านบาท) เข้าเทกโอเวอร์ แมนฯ ซิตี สโมสรกลางตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ทว่า เมื่อต้นเดือนกันยายน “แม้ว” ตัดสินใจขายหุ้นของตัวเองให้แก่ อาบูดาบี ยูไนเต็ดกรุ๊ป อินเวสต์เมนท์ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ ลิมิเต็ด จากสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ภายใต้การนำของอภิมหาเศรษฐีอย่าง ดร.สุไลมาน อัล-ฟาฮิม เพื่อแลกกับเงินก้อนโต 150 ล้านปอนด์ (ราว 9,750 ล้านบาท)
แม้กลายเป็นเพียงอดีตประธานสโมสร แต่ ทักษิณ ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ “เรือใบสีฟ้า” เดินทางมายัง ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ เพื่อให้กำลังใจทีมเมื่อคืนวันเสาร์ อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี สู้ความแข็งแกร่งของ “สิงห์บลูส์” เชลซี ไม่ได้จึงปราชัยไป 1-3
ภายหลังการแข่งขัน ทักษิณ มีโอกาสให้สัมภาษณ์กับ “สกาย สปอร์ตส” สื่อชั้นนำเมืองผู้ดี ถึงเหตุผลว่าทำไมจึงตัดสินใจขายหุ้น “ผมต้องการใครสักคนที่จะนำสโมสรเดินไปข้างหน้าให้ได้ มันเป็นช่วงซึ่งยากลำบากที่ผมจะพา แมนฯ ซิตี เดินหน้าต่อไป เพราะต้องยอมรับว่ามีการแข่งขันกันสูงมาก อีกทั้งนักฟุตบอลก็มีค่าตัวแพงมหาศาล ดังนั้นเราจึงต้องการคนที่กระเป๋าหนัก มีใจรักฟุตบอล และอยากนำพาทีมของเราเดินไปข้างหน้าจริงๆ”
ซึ่งการมาของกลุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับทำให้แฟนๆ ซิตี ดูกระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันที และจากเจตนารมณ์ของ ดร.อัล ฟาฮิม คาดว่า ในอนาคตอันใกล้จะมีนักเตะซูเปอร์สตาร์อีกหลายคนเดินทางมาค้าแข้งยังอีสต์แลนด์ หลังจากที่ แมนฯ ซิตี ประสบความสำเร็จในการดึงตัว โรบินโญ กองหน้าร่างเล็กทีมชาติบราซิล มาด้วยค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,100 ล้านบาท) ถือเป็นสถิติการย้ายทีมแพงสุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลอังกฤษ