รถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก มีคิวกลับมาดวลความเร็วกันอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ ในรายการยูโรเปียนกรังด์ปรีซ์ โดยจะแข่งขันกันที่ บาเลนเซีย สตรีทเซอร์กิต ประเทศสเปน สังเวียนแข่งใหม่ล่าสุด ที่ถูกเนรมิตขึ้นกลางใจเมืองบาเลนเซีย
ก่อนที่นักขับเอฟวันจะนำรถลงห่ำหั่นกันในวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคมนี้ ลองมาว่าดูกันว่าสตรีทเซอร์กิตแห่งนี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
- สนามบาเลนเซีย ถูกบรรจุในปฏิทินแข่งขันฤดูกาล 2008 ท่ามกลางความมึนงงของบุคคนในวงการเอฟวัน หลังก่อนหน้านี้เบอร์นี เอ็คเคิลสโตน ประธานฝ่ายสิทธิประโยชน์ ถอดสนาม อิโมลา ที่ซานมาริโม และเนิร์นแบร์กริง ที่เยอรมนี ออก โดยให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการให้แต่ละประเทศจัดกรังด์ปรีซ์ 2 ครั้ง แต่ในที่สุดสเปนก็มีทั้ง คาตาลุนญา และบาเลนเซีย ที่ได้จัดเอฟวันถึง 2 ครั้งในฤดูกาลเดียว
- สนามบาเลนเซียเป็นการแข่งขันในรูปแบบสตรีทเซอร์กิต โดยเส้นทางจะขับผ่านใจกลางเมืองบริเวณท่าเรือสแปนิช ซึ่งเส้นทางที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่มีกำแพงคอนกรีตเกือบทั้งหมดล้อมรอบตลอดเส้นทาง
- สตรีทเซอร์กิตแห่งนี้ ถือเป็นสนามที่นักขับสามารถทำความเร็วได้สูงพอสมควร เนื่องจากแทร็กที่สรางขึ้นมามีขนาดกว้างและมีจุดแซงที่น่าติดตามอยู่ถึง 3 จุด
- ความยาวของสนามแห่งนี้ มีระยะทางต่อรอบ 5.4 กิโลเมตร มีโค้งทั้งหมด 25 โค้ง เป็นโค้งช้าย 14 และโค้งขวา 11
- จากโปรแกรมคอมคอมพิวเตอร์ของทีมงานแม็คลาเรนสนามแห่งนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความเร็วเฉลี่ยที่ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขณะที่สนามโมนาโกสตรีทเซอร์กิตอันเก่าแก่ทำความเร็วเฉลี่ยได้เพียง 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- เอฟวันที่จะแข่งที่สนามบาเลนเซียในสุดสัปดาห์นี้ ไม่ใช่เปิดซิงแทร็กแห่งนี้ เพราะในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีการใช้ประลองความเร็วในศึกสแปนิชฟอร์มูลา ทรี และ การแข่งขันแกรนด์ทัวร์ริงคาร์มาแล้ว
- ก่อนหน้านี้ศึกยูโรเปียนกรังด์ปรีซ์ มีการสลับสับเปลี่ยนเจ้าภาพมาถึง 4 สนาม ตั้งแต่ปี 1983 ไล่ตั้งแต่ แบรนด์ ฮัทช์ (อังกฤษ),โดนิงตัน พาร์ค(อังกฤษ),เฆเรซ(สเปน)และเนิร์นแบร์กริง(เยอรมนี)
- นักขับคนสุดท้ายที่ชนะรายการยูโรเปียนกรังด์ปรีซ์ คือ เฟอร์นานโด อลอนโซ สังกัดแม็คลาเรนเมื่อปี 2007 ที่ผ่านมา
