xs
xsm
sm
md
lg

“Anything is Possible” จุดเปลี่ยนแบรนด์ “หลี หนิง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ก่อนหน้าที่พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจะเริ่มขึ้น คำถามยอดฮิตในศูนย์ผู้สื่อข่าวโอลิมปิก 2008 (Main Press Center) คือชื่อของผู้วิ่งคบเพลิงคนสุดท้ายที่ต้องรับหน้าที่สำคัญในการจุดไฟในกระถางคบเพลิง หลายคนคิดว่าน่าจะเป็น “เหยา หมิง” แต่ทันทีที่สตาร์เอ็นบีเอจากแผ่นดินมังกรเป็นผู้รับคบเพลิงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ชื่อของ “เหยา” ก็ถูกกาทิ้งไปและยิ่งทำให้ความใคร่รู้ของผู้คนเพิ่มดีกรีขึ้นมาเรื่อยๆ

จนกระทั่งเวลาแห่งการเปิดเผยความลับที่ถูกรักษาอย่างดีมานานกว่าหนึ่งปีมาถึง ผู้ชมกว่าแปดหมื่นในสนามกีฬาแห่งชาติ หรือ เบิร์ด เนสต์ รวมไปถึงแฟนกีฬาที่ติดตามการถ่ายทอดสดจากทั่วโลก ก็ต้องร้อง “อ๋อ” เมื่อคนที่ “จาง อี้ โหมว” ระบุไว้ว่าเป็นเซอร์ไพรส์ที่ไม่มีใครนึกออกคือ “หลี หนิง” อดีตราชาแห่งวงการยิมนาสติกจีน เจ้าของ 6 เหรียญรางวัลโอลิมปิกปี 1984 ที่สหรัฐฯ (3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ หนึ่งเหรียญทองแดง)

“จาง อี้ โหมว” ซึ่งรับหน้าที่ผู้อำนวยการแสดงในพิธีเปิดการแข่งขันปักกิ่งเกมส์ ให้เหตุผลที่เขาเลือก “หลี หนิง” เป็นผู้วิ่งคบเพลิงคนสุดท้ายว่า “เขาคือบุคคลที่เหมาะสมที่สุดเพราะนอกจากจะมีพื้นฐานในกีฬายิมนาสติกแล้ว หลี หนิง คือคนที่ทำให้ชาวจีนทั้งประเทศภูมิใจ เมื่อครั้งที่สามารถสร้างพื้นที่ให้กับนักกีฬาจีนในโอลิมปิกที่สหรัฐอเมริกา”

แม้ภาพทางสรีระของ ฮีโร่โอลิมปิกของชาวจีนในอดีตและปัจจุบันจะมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ หัวใจของ “หลี หนิง” ที่เต็มร้อยทุกครั้งเพื่อประเทศอันเป็นที่รักและในครั้งนี้ก็เช่นกัน จึงไม่น่าแปลกใจว่ากิจการในปัจจุบันของฮีโร่6เหรียญรางวัลโอลิมปิก จะประสบความสำเร็จชนิดทัดหน้าเทียมตาแบรนด์ยักษ์จากต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นไนกี้ หรือ อาดิดาส

ความโดดเด่น ในแบรนด์ผลิตภัณฑ์กีฬา หลี หนิง นั้นนอกจากเป็นสินค้าภายใต้ชื่อของนักกีฬาดังขวัญใจคนทั้งประเทศแล้ว คุณภาพของผลิตภัณฑ์ก็ไม่ได้น้อยหน้าแบรนด์ดัง ทั้งนี้จากการสำรวจของทีมข่าวกีฬาผู้จัดการรายวันภายในร้านอันเป็นสำนักงานใหญ่ของผลิตภัณฑ์ “หลี หนิง” ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณ “หวัง ฝู่ จิง” หรือที่รู้จักกันในนาม “ถนนคนเดิน” ภายในอาคารสูงสี่ชั้นมีสโลแกนหน้าร้านว่า “Anything is Possible”

ท่ามกลางบรรยากาศอันคึกคักของร้านดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับพนักงานขายที่ทำงานให้กับแบรนด์หลี หนิง มาแล้วหลายปีโดย “ฟาน ซัน” ได้เผยถึงยอดขายหลังจากเจ้าของแบรนด์กลายเป็นฮีโร่จุดคบเพลิงโอลิมปิกว่า “การที่ หลี่ หนิง ได้ขึ้นไปจุดคบเพลิงในพิธีเปิดโอลิมปิก ก็น่าจะมีผลช่วยให้แบรนด์ของเขาได้รับความสนใจมากขึ้น ซึ่งช่วงนี้นอกจากชาวจีนที่แวะเวียนเข้ามาตามปกติ ยังมีชาวต่างชาติเดินทางมาชมผลิตภัณฑ์ของเราที่ร้านมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บางทีก็เป็นกลุ่มนักกีฬาและสตาฟฟ์มากันกลุ่มใหญ่”

นอกจากนี้ “ฟาน ซัน” ยังทำหน้าที่พนักงานที่ดีด้วยการโฆษณาสรรพคุณสินค้าภายใต้แบรนด์ “หลี หนิง” ว่า “แบรนด์ หลี่ หนิง ได้ชื่อว่าเป็นสินค้าคุณภาพสูงและเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของจีนอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม เราคงไม่คิดไปเบียดกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง ไนกี้ หรือ อาดิดาส (อีกหนึ่งในสปอนเซอร์หลักของปักกิ่งเกมส์) ทว่าเราก็มีกลุ่มลูกค้าของเราส่วนหนึ่ง”

สำหรับผลิตภัณฑ์กีฬาของ "หลี หนิง" นั้นแม้จะไม่ได้อิงกับนักกีฬาชื่อดัง หากแต่จุดขายของแบรนด์นี้คือผลิตภัณฑ์ที่ดูแล้วมีแบบทันสมัยไม่แพ้ใคร รวมไปถึงความได้เปรียบในฐานะที่เป็นแบรนด์ของประเทศเจ้าภาพโอลิมปิกทำให้นักท่องเที่ยวและนักกีฬาต่างพากันจับจ่ายซื้อหาเสื้อผ้ากีฬายี่ห้อ "หลี หนิง" ซึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเวลานี้คือเสื้อวอร์มของนักกีฬาทีมชาติจีนในสนนราคาตัวละประมาณ 1,700 บาท

ถ้ามองลึกลงไปในความสำเร็จของแบรนด์ “หลี หนิง” นั้นแม้ว่าส่วนหนึ่งจะแจ้งเกิดได้เพราะเจ้าของเป็นนักกีฬาชื่อดัง แต่ด้วยคุณภาพและการตลาดที่ดี ทำให้ผลิตภัณฑ์กีฬายี่ห้อนี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและภายใต้แนวคิด “Anything is possioble” เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ “หลี หนิง” และผลิตภัณฑ์ของเขาคือตัวแทนของชาวจีนอย่างแทนจริง





กำลังโหลดความคิดเห็น