เชิญแฟนๆ พบกับ สะสม พบประเสริฐ อดีตนักฟุตบอลชื่อดังทีมชาติไทย ในคอลัมน์ใหม่ของ MGR/Sport ที่ชื่อว่า "เสือเตี้ยสับไก" ที่จะมาวิเคราะห์-วิจารณ์พร้อมฟันธง ศึก พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ฤดูกาลใหม่ 2008-09 เป็นประจำทุกสัปดาห์ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
อาร์เซนอล – เวสต์ บรอมวิช
อาร์เซน่อล น่าจะออกสตาร์ทได้ดีเหมือนกับเมื่อปีที่แล้ว แม้ว่ายังขาด โทมัส โรซิคกี ก็ตาม แต่คุณภาพทีมและนักเตะกลุ่มใหญ่ยังอยู่ครบ ลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ พอที่จะเอาตัวรอดได้ ถ้าไม่ใช้โอกาสเปลืองจะชนะ เวสต์ บรอมวิช ที่มาวันนี้ขอแค่ 1 คะแนนเท่านั้น สกอร์น่าจะจบลงที่ 2-0
แอสตัน วิลลา – แมนฯซิตี
วิลลา ทีเด็ดในเกมรุกที่มีทั้ง อักบอนลาฮอร์, แอชลีย์ ยัง และ ยอห์น คาริว เป็นตัวความหวัง แต่ผู้มาเยือนอย่าง "เรือใบสีฟ้า" ของ มาร์ค ฮิวจ์ส มีปัญหายามเล่นนอกบ้าน แถมตอนนี้มีเรื่องยุ่งในสโมสรอีก วิลลา น่าจะเฉือนชนะ แมนฯซิตี ไป 2-1
โบลตัน – สโต๊ค ซิตี
ลูกทีมของ แกรี เม็กสัน ต้องเร่งสปีดเก็บแต้มจากทีมในระดับใกล้เคียงให้มากที่สุด ถ้าไม่อยากหนีตกชั้นเหมือนฤดูกาลที่แล้ว เกมของ โบลตัน เน้นที่บอลยาวและลูกเซตเพลย์เท่านั้น แต่ด้วยความเก๋าและเล่นได้เล่นในบ้าน จะเบียดเอาชนะ สโต๊ค ซิตี มีดีกรีถึงรองแชมป์ในศึก เดอะแชมป์เปียนชิป ไป 1-0
เอฟเวอร์ตัน – แบล็คเบิร์น
"ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ปีนี้มาเงียบมากยังไม่มีการซื้อใครมาเสริมทีม แถมยังเสียตัวรุกอย่าง "เอเจ" แอนดี จอห์นสันไป แล้วต้องลุ้น ทิม เคฮิลล์ จะลงสนามได้หรือเปล่า ในขณะที่ "กุหลาบไฟ" ได้กุนซือใหม่อย่าง พอล อินซ์ แต่ต้องเสีย เดวิด เบนท์ลีย์ ให้ สเปอร์ส และ แบรด ฟรีเดล จอมหนึบให้ แอสตัน วิลลา คู่นี้คงจะแบ่งแต้มกันไป ผลเสมอ 0-0
ฮัลล์ ซิตี – ฟูแลม
ทีมสุดท้ายจากศึก เดอะแชมป์เปียนชิป มีการเสริมตัวเก๋าอย่าง จอร์จ บัวเต็ง และ แอนโธนีย์ การ์ดเนอร์ ต้องอาศัยเกมวิ่งสู้ฟัดและเสียงเชียร์ น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ ทีมของ ฟิล บราวน์ มีคะแนนสัก 1 แต้ม เพราะฟอร์มการเล่นของ ฟูแลม ในเกมนอกบ้านเอาแน่เอานอนไม่ได้ เสมอกันไป 1-1
มิดเดิลสโบรช์ – สเปอร์ส
"ไก่เดือยทอง" ยุคปรับโฉมของ กุนซือ ฆวนเด รามอส เติมเข้ามาเต็มทุกขุมกำลังโดยเฉพาะเกมรุก ถ้าไม่เสีย ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ไปเสียก่อน นอกจากนั้นยังมี ลูกา โมดริช, เดวิด เบนท์ลีย์ และ โจวานนี โดส ซานโต๊ส ต่างจาก "โบโร" ที่การเปลี่ยนแปลงน้อยมาก เกมรุกของ สเปอร์ส คงจะบุกไปเอาชนะ มิดเดิลสโบรช์ไป 2-0
เวสต์ แฮม – วีแกน
ทีมเกรดใกล้เคียงกัน "ขุนค้อน" เติมผู้เล่นไม่เยอะ เด่นหน่อยเป็น วาลอน เบห์รามี จากลาซิโอ เท่านั้น ส่วน วีแกน นักเตะหลักๆ ของทีมยังอยู่กันครบมีมาเสริมเกมรุก โอลิวิเยร์ กาโป โอกาสแบ่งแต็มมีสูง สกอร์อยู่ที่ 1-1
ซันเดอร์แลนด์ – ลิเวอร์พูล
ทีมของ รอย คีน เสริมนักเตะใหม่แต่เก๋าจาก สเปอร์ส เพื่อเพิ่มมาตรฐานให้ทีม แต่ยังไม่เพียงพอที่จะต่อสู้ทีมอย่าง ลิเวอร์พูล ที่ได้ ร็อบบี คีน มาช่วย เฟอร์นานโด ตอร์เรส ในเกมรุก แต่แฟนต้องลุ้นให้มี สตีเวน เจอร์ราด ลงสนามด้วย ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0
เชลซี – ปอร์ทสมัธ
รองแชมป์เก่า ปีนี้ต้องการทวงบัลลังค์คืน ได้กุนซือดีกรีแชมป์โลก หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี มาคุมทีม ยังหนีบ เดโก และ โบซิงวา 2 นักเตะทีมชาติโปรตุเกส ในขณะที่ ปอร์ทสมัธ มั่นใจมากขึ้นหลังจากได้แชมป์ เอฟเอ คัพ แต่ก็ยังมีปัญหาในเกมรับ จะโดน เชลซี เฉือนชนะไป 1-0
แมนฯยูไนเต็ด – นิวคาสเซิล
นักเตะ "ปีศาจแดง" ชุดแชมป์ยังอยู่กันครบ ขาดเพียง คริสเตียโน โรนัลโด ที่บาดเจ็บ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังมี เวย์น รูนีย์ และ คาร์ลอส เตเบซ เป็นทีเด็ด ส่วน นิวคาสเซิล ที่ยังไม่มีการเสริมเกมรับทั้งที่เป็นจุดอ่อน ยิ่งมาเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทีไรเป็นยับทุกครั้ง เกมนี้แมนยูฯ ยิง 3-1
อาร์เซนอล – เวสต์ บรอมวิช
อาร์เซน่อล น่าจะออกสตาร์ทได้ดีเหมือนกับเมื่อปีที่แล้ว แม้ว่ายังขาด โทมัส โรซิคกี ก็ตาม แต่คุณภาพทีมและนักเตะกลุ่มใหญ่ยังอยู่ครบ ลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ พอที่จะเอาตัวรอดได้ ถ้าไม่ใช้โอกาสเปลืองจะชนะ เวสต์ บรอมวิช ที่มาวันนี้ขอแค่ 1 คะแนนเท่านั้น สกอร์น่าจะจบลงที่ 2-0
แอสตัน วิลลา – แมนฯซิตี
วิลลา ทีเด็ดในเกมรุกที่มีทั้ง อักบอนลาฮอร์, แอชลีย์ ยัง และ ยอห์น คาริว เป็นตัวความหวัง แต่ผู้มาเยือนอย่าง "เรือใบสีฟ้า" ของ มาร์ค ฮิวจ์ส มีปัญหายามเล่นนอกบ้าน แถมตอนนี้มีเรื่องยุ่งในสโมสรอีก วิลลา น่าจะเฉือนชนะ แมนฯซิตี ไป 2-1
โบลตัน – สโต๊ค ซิตี
ลูกทีมของ แกรี เม็กสัน ต้องเร่งสปีดเก็บแต้มจากทีมในระดับใกล้เคียงให้มากที่สุด ถ้าไม่อยากหนีตกชั้นเหมือนฤดูกาลที่แล้ว เกมของ โบลตัน เน้นที่บอลยาวและลูกเซตเพลย์เท่านั้น แต่ด้วยความเก๋าและเล่นได้เล่นในบ้าน จะเบียดเอาชนะ สโต๊ค ซิตี มีดีกรีถึงรองแชมป์ในศึก เดอะแชมป์เปียนชิป ไป 1-0
เอฟเวอร์ตัน – แบล็คเบิร์น
"ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ปีนี้มาเงียบมากยังไม่มีการซื้อใครมาเสริมทีม แถมยังเสียตัวรุกอย่าง "เอเจ" แอนดี จอห์นสันไป แล้วต้องลุ้น ทิม เคฮิลล์ จะลงสนามได้หรือเปล่า ในขณะที่ "กุหลาบไฟ" ได้กุนซือใหม่อย่าง พอล อินซ์ แต่ต้องเสีย เดวิด เบนท์ลีย์ ให้ สเปอร์ส และ แบรด ฟรีเดล จอมหนึบให้ แอสตัน วิลลา คู่นี้คงจะแบ่งแต้มกันไป ผลเสมอ 0-0
ฮัลล์ ซิตี – ฟูแลม
ทีมสุดท้ายจากศึก เดอะแชมป์เปียนชิป มีการเสริมตัวเก๋าอย่าง จอร์จ บัวเต็ง และ แอนโธนีย์ การ์ดเนอร์ ต้องอาศัยเกมวิ่งสู้ฟัดและเสียงเชียร์ น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ ทีมของ ฟิล บราวน์ มีคะแนนสัก 1 แต้ม เพราะฟอร์มการเล่นของ ฟูแลม ในเกมนอกบ้านเอาแน่เอานอนไม่ได้ เสมอกันไป 1-1
มิดเดิลสโบรช์ – สเปอร์ส
"ไก่เดือยทอง" ยุคปรับโฉมของ กุนซือ ฆวนเด รามอส เติมเข้ามาเต็มทุกขุมกำลังโดยเฉพาะเกมรุก ถ้าไม่เสีย ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ไปเสียก่อน นอกจากนั้นยังมี ลูกา โมดริช, เดวิด เบนท์ลีย์ และ โจวานนี โดส ซานโต๊ส ต่างจาก "โบโร" ที่การเปลี่ยนแปลงน้อยมาก เกมรุกของ สเปอร์ส คงจะบุกไปเอาชนะ มิดเดิลสโบรช์ไป 2-0
เวสต์ แฮม – วีแกน
ทีมเกรดใกล้เคียงกัน "ขุนค้อน" เติมผู้เล่นไม่เยอะ เด่นหน่อยเป็น วาลอน เบห์รามี จากลาซิโอ เท่านั้น ส่วน วีแกน นักเตะหลักๆ ของทีมยังอยู่กันครบมีมาเสริมเกมรุก โอลิวิเยร์ กาโป โอกาสแบ่งแต็มมีสูง สกอร์อยู่ที่ 1-1
ซันเดอร์แลนด์ – ลิเวอร์พูล
ทีมของ รอย คีน เสริมนักเตะใหม่แต่เก๋าจาก สเปอร์ส เพื่อเพิ่มมาตรฐานให้ทีม แต่ยังไม่เพียงพอที่จะต่อสู้ทีมอย่าง ลิเวอร์พูล ที่ได้ ร็อบบี คีน มาช่วย เฟอร์นานโด ตอร์เรส ในเกมรุก แต่แฟนต้องลุ้นให้มี สตีเวน เจอร์ราด ลงสนามด้วย ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0
เชลซี – ปอร์ทสมัธ
รองแชมป์เก่า ปีนี้ต้องการทวงบัลลังค์คืน ได้กุนซือดีกรีแชมป์โลก หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี มาคุมทีม ยังหนีบ เดโก และ โบซิงวา 2 นักเตะทีมชาติโปรตุเกส ในขณะที่ ปอร์ทสมัธ มั่นใจมากขึ้นหลังจากได้แชมป์ เอฟเอ คัพ แต่ก็ยังมีปัญหาในเกมรับ จะโดน เชลซี เฉือนชนะไป 1-0
แมนฯยูไนเต็ด – นิวคาสเซิล
นักเตะ "ปีศาจแดง" ชุดแชมป์ยังอยู่กันครบ ขาดเพียง คริสเตียโน โรนัลโด ที่บาดเจ็บ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังมี เวย์น รูนีย์ และ คาร์ลอส เตเบซ เป็นทีเด็ด ส่วน นิวคาสเซิล ที่ยังไม่มีการเสริมเกมรับทั้งที่เป็นจุดอ่อน ยิ่งมาเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทีไรเป็นยับทุกครั้ง เกมนี้แมนยูฯ ยิง 3-1