“โค้ชอุดม” อุดม เหลืองเพชราภรณ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมขนไก่ไทยเชื่อว่า สุดเขต ประภากมล กับ สราลีย์ ทุ่งทองคำ มีลุ้นพลิกล็อกล้ม โนวา วิเดียนโต และ ลิลิยานา คู่มือวางอันดับ 1 ของโลกจากอินโดนีเซีย หากเล่นตามแผนและยื้อเกมให้ถึงที่สุด
“เต่า-ส้ม” สุดเขต ประภากมล และ สราลีย์ ทุ่งทองคำ ความหวังที่เหลืออยู่ของแฟนๆ ขนไก่ไทยใน “ปักกิ่งเกมส์” ไม่ทำให้ผิดหวัง รอบ 16 ทีมสุดท้าย ประเดิมสนามด้วยการต้อนตือ ไมค์ เบเรส กับ วัล โลเกอร์ มือไวลด์การ์ดจาก แคนาดา 21-9 ทั้งสองเกม
ภายหลังการแข่งขัน “เจ้าเต๋า” สุดเขต ออกมาเปิดใจ “เกมก็ออกมาตามคาด เพราะเราเหนือกว่าค่อนข้างมาก ที่เสียแต้มไปบ้างเนื่องจากเราผ่อนเกมเพื่อไม่ได้เหนื่อยจนเกินไป ส่วนการเจอกับคู่มือ 1 อินโดนีเซีย เราไม่มีอะไรจะเสีย และผมก็บอกได้ว่าเกมการแข่งขันนั้นอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้”
ด้าน “ส้ม” สราลีย์ กล่าวเช่นกัน “การเจอกับมือไวลด์การ์ดจาก แคนาดา ถือว่าไม่หนัก แต่วันนี้อาจดูเนือยๆ ไปบ้าง เพราะตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า อีกทั้งนี้เป็นแมตช์แรกเครื่องจึงไม่ร้อนเท่าที่ควร ส่วนการเจอคู่อินโดนีเซีย เราก็พอมีโอกาส คงต้องยื้อให้เหนียว เล่นให้ช้าเข้าไว้ ซึ่งถ้าผ่านไปได้เราก็มีโอกาสไปได้อีกไกล”
ส่วน อาจารย์เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย พูดถึงโอกาสในรอบหน้าของคู่ผสมไทย “การเจอกับคู่มือ 1 ของอินโดนีเซีย แน่นอนว่าหนักมาก ล่าสุดเราก็เพิ่งแพ้ตอนเจอกันที่ สิงคโปร์ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และการเจอกันหลายคน เต่า-ส้ม รู้สึกชนะได้แค่ 3 ครั้งเท่านั้น แต่โอกาสผมมองว่า 50-50 และอยากให้ สุดเขต-สราลีย์ เร่งเครื่องมากกว่าแมตช์แรก”
ในส่วนของ “โค้ชอุดม” อุดม เหลืองเพชราภรณ์ พูดถึงแมตช์หน้า หลังจากได้ชมเกมที่ วิเดียนโต กับ ลิลิยานา เบียดชนะ ซางฮุน ฮาน กับ ยูมิ ฮวาง คู่ของเกาหลีใต้ 2-0 เกม 23-21, 21-19 “แมตช์พบกับ แคนาดา ถือเป็นการอุ่นเครื่องเท่านั้น การเจอกับคู่มือ 1 อินโดนีเซีย ถือว่าเราได้เจอของจริง ซึ่งผมคงเน้นให้ เต่า-ส้ม อดทนยื้อให้ถึงที่สุด คงเปิดเกมรุกใส่ไม่ได้เพราะจะโดนสวนกลับมาเร็ว จะเอาชนะคู่นี้ได้ต้องเล่นเกมยาวๆ ถึงมีโอกาส”
สำหรับ การดวลกันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของ สุดเขต-สราลีย์ กับ วิเดียนโต-ลิลิยานา จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 14 ส.ค. เวลาประมาณช่วงเที่ยง
“เต่า-ส้ม” สุดเขต ประภากมล และ สราลีย์ ทุ่งทองคำ ความหวังที่เหลืออยู่ของแฟนๆ ขนไก่ไทยใน “ปักกิ่งเกมส์” ไม่ทำให้ผิดหวัง รอบ 16 ทีมสุดท้าย ประเดิมสนามด้วยการต้อนตือ ไมค์ เบเรส กับ วัล โลเกอร์ มือไวลด์การ์ดจาก แคนาดา 21-9 ทั้งสองเกม
ภายหลังการแข่งขัน “เจ้าเต๋า” สุดเขต ออกมาเปิดใจ “เกมก็ออกมาตามคาด เพราะเราเหนือกว่าค่อนข้างมาก ที่เสียแต้มไปบ้างเนื่องจากเราผ่อนเกมเพื่อไม่ได้เหนื่อยจนเกินไป ส่วนการเจอกับคู่มือ 1 อินโดนีเซีย เราไม่มีอะไรจะเสีย และผมก็บอกได้ว่าเกมการแข่งขันนั้นอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้”
ด้าน “ส้ม” สราลีย์ กล่าวเช่นกัน “การเจอกับมือไวลด์การ์ดจาก แคนาดา ถือว่าไม่หนัก แต่วันนี้อาจดูเนือยๆ ไปบ้าง เพราะตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า อีกทั้งนี้เป็นแมตช์แรกเครื่องจึงไม่ร้อนเท่าที่ควร ส่วนการเจอคู่อินโดนีเซีย เราก็พอมีโอกาส คงต้องยื้อให้เหนียว เล่นให้ช้าเข้าไว้ ซึ่งถ้าผ่านไปได้เราก็มีโอกาสไปได้อีกไกล”
ส่วน อาจารย์เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย พูดถึงโอกาสในรอบหน้าของคู่ผสมไทย “การเจอกับคู่มือ 1 ของอินโดนีเซีย แน่นอนว่าหนักมาก ล่าสุดเราก็เพิ่งแพ้ตอนเจอกันที่ สิงคโปร์ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และการเจอกันหลายคน เต่า-ส้ม รู้สึกชนะได้แค่ 3 ครั้งเท่านั้น แต่โอกาสผมมองว่า 50-50 และอยากให้ สุดเขต-สราลีย์ เร่งเครื่องมากกว่าแมตช์แรก”
ในส่วนของ “โค้ชอุดม” อุดม เหลืองเพชราภรณ์ พูดถึงแมตช์หน้า หลังจากได้ชมเกมที่ วิเดียนโต กับ ลิลิยานา เบียดชนะ ซางฮุน ฮาน กับ ยูมิ ฮวาง คู่ของเกาหลีใต้ 2-0 เกม 23-21, 21-19 “แมตช์พบกับ แคนาดา ถือเป็นการอุ่นเครื่องเท่านั้น การเจอกับคู่มือ 1 อินโดนีเซีย ถือว่าเราได้เจอของจริง ซึ่งผมคงเน้นให้ เต่า-ส้ม อดทนยื้อให้ถึงที่สุด คงเปิดเกมรุกใส่ไม่ได้เพราะจะโดนสวนกลับมาเร็ว จะเอาชนะคู่นี้ได้ต้องเล่นเกมยาวๆ ถึงมีโอกาส”
สำหรับ การดวลกันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของ สุดเขต-สราลีย์ กับ วิเดียนโต-ลิลิยานา จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 14 ส.ค. เวลาประมาณช่วงเที่ยง