xs
xsm
sm
md
lg

0ne World One Dream / ภู่ หว่า เฮง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “ผจญภัยแดนมังกร” โดย “ภู่ หว่า เฮง”


อลังการงานสร้างกันเลยทีเดียวสำหรับพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ประจำปี 2008 เชื่อว่าคอกีฬาและไม่ใช่คอกีฬาชาวไทยคงได้ติดตามชมการถ่ายทอดสด ซึ่งก็คงมีความชื่นชมเพื่อนบ้านของเราไม่มากก็น้อยในการรังสรรค์สร้างการแสดง แสง สี เสียง อันวิจิตรการตา

สำหรับทีมงาน MGR Sport / Chinese เริ่มเกาะกระแสพิธีเปิดการแข่งขัน “ปักกิ่งเกมส์” ตั้งแต่ช่วงบ่ายของเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากไปฝากท้องกับร้านหน้าปากซอย ภู่ หว่า เฮง, เฮียยุทธ และ น้องตุ้ม จับรถไฟใต้ดิน (Subway) ซึ่งการเดินทางหลักของพวกเราในการไปยังสถานที่ต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกได้อย่างรวดเร็ว แม้มีการเปลี่ยนสาย (Line) ทำเอาผมงงไปบ้าง แต่วันนี้เรามี น้องตุ้ม ยอดนักอ่านแผนที่ประจำทริปพาเราไปถึงที่หมายได้แบบไม่มีหลงทาง

โดยความตั้งใจแรกเริ่ม เราทั้งสามวางแผนไปเก็บบรรยายกาศบริเวณจัตุรัส “เทียนอันเหมิน” ทว่าช่วงเช้า “เจ๊โอ๋” ที่ดิ่งตรงไปตามผลการจับสลากประกบคู่มวยสากลสมัครเล่น กริ๊งกร๊างเข้ามาบอกว่า “ไชน่า เดลีย์” สื่อฉบับภาษาอังกฤษในแดนมังกร ลงสกู๊ปน่าสนใจเกี่ยวกับ 10 สถานที่น่าไปร่วมชมพิธีเปิด เราที่ไม่มีโอกาสไปสัมผัสบรรยากาศจริงในสนามรังนก (Bird’s Nest) จึงปรับแผนด้วยการเลือกลุย China Millennium Monument, Chaoyang Park, Beijing International Sculpture ก่อนไปตบท้ายที่ The Place

บริเวณอนุสาวรีย์อันเลื่องชื่อของจีน ซึ่งเป็นที่แรกที่เราเยือนก็สัมผัสได้ถึงความตื่นตัวที่ประชาชนมีต่อพิธีเปิดการแข่งขัน หลายคนออกมาประกาศศักดาในความรักชาติ ใส่เสื้อแดง หรืออะไรก็ตามที่มีสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความเป็นจีนออกมาเดินตามท้องถนน เมื่อเดินไปรอบๆ เราได้เห็นชาวจีนต่อแถวเหมือนซื้อตั๋วอะไรสักอย่าง เฮียยุทธ จึงตรงเข้าไปถามได้ความว่าพวกเขาต้องการเข้าไปชมการแสดงนิทรรศการใน Military Museum เลยมาต่อคิวนำบัตรประชาชนแลกตั๋วชมฟรี เผลอแว๊บเดียว น้องตุ้ม กระโดดเข้าแถวใช้หนังสือเดินทางแลกมาได้ 3 ใบ

บรรยากาศแม้ยังไม่คึกคักถึงขีดสุดเนื่องยังเป็นช่วงเวลาทำงาน แต่เราก็ได้เห็นภาพอันน่าประทับใจพ่อ-แม่จูง “สามใบเถ้า” ตัวเล็กๆ ถือธงจีนโบกสะบัดมาชักภาพกันในบริเวณงานนิทรรศการโอลิมปิก ได้โอกาสพูดคุยเล็กน้อยทราบมาว่าทั้งครอบครัววางแผนไปใกล้ Bird’s Nest ให้มากที่สุดเพื่อได้เห็นพลุอันสวยงามและก็อยากให้ลูกๆ มีความทรงจำดีๆ แบบนี้เอาไว้

หลังเสร็จการสำรวจบริเวณอนุสาวรีย์ก็นั่ง Subway ไปต่อที่ Beijing International Sculpture ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่มีการเตรียมงานและจอยักษ์ไว้ถ่ายทอดสดพิธีเปิดให้แฟนๆ ได้มาร่วมชมกันเหมือนที่แรก แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวประกอบกับผู้คนน้อยทำให้ น้องตุ้ม ตัดสินใจเรียกแผนสำรองพาเราไปยัง “หวัง ฝู จิ่ง” หรือ ถนนคนเดิน

คราวนี้เราได้ขนลุกไปกับกระแสรักชาติของชาวจีน หลายคนแต่งองค์ทรงเครื่องแบบมาครบสูตร สาววัยทีนโชว์ความขาวเปิดไหล่เปิดหลังทำให้เราหันหลังขวับมองตาละห้อยเป็นระยะ สุดท้ายได้คุยกับ น้าหลิว เหมย ผิง ที่ขอปล่อยแก่ออกมาโบกธงแดงห้าดาวก่อนกลับไปดูพิธีเปิดที่บ้าน เนื่องจากหวั่นใจกับความปลอดภัย เพราะช่วงบ่ายสี่โมงเย็นมีคนมายังสถานที่ดังกล่าวหลักหมื่นคนแล้ว ร้านรวงก็พากันปิดก่อนเวลาเนื่องจากจะให้พนักงานกลับไปชมพิธีเปิดแห่งประวัติศาสตร์

จากนั้น น้องตุ้ม ขอกลับไป Monitor ข่าวที่ห้องพัก ผมกับเฮียยุทธ เลยจับรถไฟใต้ดินไปยัง The Place ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นห้างสรรพสินค้าประมาณ “เวิลด์เทรด” บ้านเรา มีทั้งชาวต่างชาติและชาวจีนมาจับจ้องที่นั่งตรงน้ำพุ รวมถึง ร้านขายเบียร์ น้ำผลไม้ อาหาร เพื่อนั่งชมพิธีเปิด ส่วนเราอยู่ในชะตาเดียวกันกันพวกเขาที่เข้าไปดูในส่วนจัดงานไม่ได้ เนื่องจากตั๋วฟรีจากการแลก ID และพาสปอร์ต เหมือนตอนที่เราไปเยือนอนุสาวรีย์หมดไปตั้งแต่เช้าแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผมและเฮียยุทธ ก็ได้ลิ้มรสความรักชาติของชาวจีนที่เปล่งเสียงร้องเพลง ตะโกน ปรบมือเชียร์ให้กำลังใจเพื่อนร่วมชาติที่ทำการแสดงในพิธีเปิดอยู่แทบจะตลอดเวลา สำหรับเรานอกจากทึ่งในจิตวิญญาณตรงนี้ เราขอให้เครดิตกับ จาง อี้ โหมว ยอดผู้กำกับระดับฮอลลีวูด และทีมงานที่รังสรรค์สร้างการแสดงอันน่าประทับใจสู่สายตาชาวโลก ที่สำคัญสโลแกน “One World One Dream” ถูกจุดมาใช้ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา วัฒนธรรมของชาวตะวันออกคงซึมซับเข้าสู่มวลมนุษยชาติที่มารวมกัน ณ จุดนี้ (โอลิมปิก) ได้ไม่มากก็น้อย
ออกมาร่วมกิจกรรมเชียร์จีนในพิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ 2008




กำลังโหลดความคิดเห็น