“สนธิ” ย้ำเอเอสทีวีเป็นของประชาชนไปแล้ว ระบุการต่อสู้เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ต้องหัวใจแกร่งและทุ่มเท แบบพวก “ฮาร์ดคอร์” รักชาติแบบไม่มีเงื่อนไข อัดเศรษฐีเห็นแก่ตัวเห็นแต่กำไรไม่สนใจบ้านเมือง
วันนี้ (26 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยเริ่มกล่าวว่าในช่วงที่พันธมิตรฯ มีการชุมนุมอีกครั้งมีคนถามว่าจะสู้ไหวหรือ ตนเองจึงต้องตอบว่าไหวไม่ไหวก็ต้องสู้ แม้จะต้องขายทุกอย่างก็ต้องขาย แม้ถูกดูถูกเหยียดหยามสารพัดก็ต้องยอม
นายสนธิ ยังกล่าวถึงเจ้ของปูนยิ่งใหญ่รายหนึ่งสั่งตัดโฆษณาเอเอสทีวีแล้วไปสยบกับระบอบทักษิณ เพื่อแลกกับทรัพย์สินที่เขาจะคืนมาให้ และถามว่าทำไมเอเอสทีวียังอยู่ได้ ก็ต้องตอบว่ามีพี่น้องประชาชนที่รักในความยุติธรรมยังให้การสนับสนุนและช่วยกันบริจาคเข้ามาอย่างล้นหลาม โดยมียอดบริจาครวมทั้งสิ้นกว่า 39 ล้านบาท และค่าดาวเทียมอีกกว่า 8 ล้านบาท ทำให้เวลานี้พี่น้องประชาชนในที่นี้และที่อยู่ทางบ้านทั่วประเทศเป็นเจ้าของเอเอสทีวีไปแล้ว
นายสนธิ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ประชาชนให้การช่วยเหลือ จ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานเอเอสทีวี ทำให้ทุกคนน้ำตาคลอ หลายคนสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไรว่ามีโทรทัศน์เพียงแห่งเดียวที่มีการถ่ายทอดตลอด 24 ชั่วโมง ตลอด 34 วัน ด้วยค่าใช้จ่ายจากพี่น้องทั้งสิ้น
แกนนำพันธมิตรฯ ผู้นี้กล่าวว่า เวลานี้มีเศรษฐีมากมายที่มาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร แต่ไม่เคยสนใจว่าสถาบันพระมหากษัตริย์จะสั่นคลอนแค่ไหน สนใจอยู่อย่างเดียวขอให้ตัวเองมีกำไร
“บางคนร่ำรวยเป็นแสนล้านจากการขายเหล้าขายเบียร์ ไม่สนใจ แถมยังฝากถามมาว่าสนธิทำเพื่ออะไรเสียอีก” นายสนธิ กล่าว และว่าขออนุญาตเป็นตัวแทนของพนักงานเอเอสทีวีทุกคนขอกราบของพระคุณและซาบซึ้งในน้ำใจของพี่น้องและว่าแม้สำหรับตนเองถึงไม่ทำก็อยู่ได้ แต่เรื่องของชาติต้องมาก่อน ซึ่งการต่อสู้เพื่อชาติและขอให้สู้ครั้งสุดท้าย
นายสนธิ ย้ำว่า การต่อสู้ครั้งนี้ได้รู้เช่นเห็นชาติของคนหลายคน บางคนตอนแรกไม่เอาระบอบทักษิณ แต่พอระบอบทักษิณกลับมาอีกครั้งก็กลัวตัวสั่นกลับลำไปเลียเขา และว่าไม่เคยมีปรากฏการณ์ครั้งไหนจะยิ่งใหญ่เท่าครั้งนี้ และเป็นกลุ่มฮาร์ดคอร์ที่หัวใจแกร่งแบบไม่มีเงื่อนไข เหมือนกับการรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ โดยไม่มีเงื่อนไข
จากนั้น นายสนธิได้กล่าวถึงกรณีที่ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตผู้พิพากษาคนหนึ่งปัจจุบันนี้ทำหน้าที่เป็นโฆษกส่วนตัวให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ออกมาชี้แจงเรื่องสินบน 2 ล้านบาทที่ศาลฎีกาสั่งจำคุกไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ตนอย่างตั้งคำถามง่ายๆว่า ทนายทั้ง 3 คนซึ่งส่วนใหญ่คนอาชีพนี้จะใช้เงินของลูกความไม่มีทางจะควักเงินส่วนตัว 2 ล้านบาทให้กับเจ้าหน้าที่ศาล นอกจากนี้ยังมีข่าวระบุอีกว่ามีนายตำรวจยศพันตำรวจโทนายหนึ่งเป็นคนหิ้วเงินออกไป ซึ่งนายตำรวจคนนั้นเป็นคนติดตามคุณทักษิณ
นายสนธิ ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนความจริงให้เห็นว่าตั้งแต่คดีซุกหุ้นเป็นต้นมามีการใช้เงินทั้งสิ้น มีการซื้อศาล ซื้อ กกต.ซื้อทุกอย่าง แต่ก็ถูกพันธมิตรฯขัดขวาง
“ดังนั้น พวกเราต้องมาร่วมกันพลิกประวัติศาสตร์ แต่การต่อสู้ทุกครั้งต้องสู้อย่างทุ่มเท ใจเด็ดเดี่ยว และเปรียบเทียบกันได้ว่าคนที่สู้เพื่อ 7 หมื่น 3 พันล้านบาท กับสู้เพื่อชาติมันต่างกัน เพราะสู้เพื่อชาติต้องถึงไหนถึงกัน” นายสนธิ ระบุ