“แม้ว” นั่งไม่ติดหลังสังคมเริ่มตาสว่างเรื่อง “ขบวนการสาธารณรัฐ” ฮึ่มขู่ฟ้องอาญา-แพ่ง “สนธิ-สมเกียรติ-ประพันธ์” ศุกร์นี้ อ้างทำให้คนเกลียดชัง เรียกค่าเสียหายคนละ 100 ล้าน ส่วนเรื่อง “ทีมทนายเหลี่ยม” ถูกจำคุกคดีสินบนขนม 2 ล้านทำป่วนปิดปากกันเงียบ
วันนี้ (25 มิ.ย.) นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล เลขาธิการมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย เปิดเผยว่า จะมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยอ้างว่ามีการพาดพิงใส่ความทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เสียชื่อเสียง และถูกเกลียดชัง โดยเฉพาะกับแกนนำพันธมิตรฯ บางคนได้กล่าวก้าวล่วงไปถึงกรณีที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีแนวคิดเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไทยจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไปเป็นระบอบประธานาธิบดี ซึ่งมันเป็นไม่ได้ ซึ่งในกรณีนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้สั่งให้ดูแลเป็นพิเศษ ให้มีการแจ้งความดำเนินคดีทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้ได้ดำเนินการรวบรวมหลักฐานอยู่
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการถอดเทปรวบรวมหลักฐาน รวบรวมประเด็น ที่พาดพิงทำให้ท่านเสียหายต้องดำเนินคดี เราต้องขอศาลเป็นที่พึ่ง ซึ่งได้มีการดำเนินฟ้องร้องไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของแถลงการณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯ ฉบับที่ 1, 2, 3 ,4, 5 และ 6 และจะกำลังจะฟ้องต่อไปอีก ทั้งที่การจัดเวทีที่ธรรมศาสตร์ ซึ่งมีถ้อยคำบางคำที่ทำให้ท่านเสียหาย หมิ่นประมาทใส่ความ ตรงนี้กำลังจะไล่ฟ้องร้องอยู่ เป็นเรื่องที่ท่านเสียใจมากในการที่ไปกล่าวหาพาดพิงว่าท่านไม่จงรักภักดี และจะไปเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไปเป็นระบอบประธานาธิบดีอันนี้ท่านรับไม่ได้” นายวิชิต กล่าว
นายวิชิต เปิดเผยต่อว่า วันศุกร์นี้จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีทางแพ่งเรียกค่าเสียหายเป็นรายบุคคล คนละ 100 ล้านบาท รวมทั้งแกนนำและไม่ใช่แกนนำที่กล่าวหาพาดพิงท่าน ประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายประพันธ์ คูณมี
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาดำเนินคดี 3 ทนาย พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องจ่ายเงินสินบน 2 ล้านบาทให้แก่เจ้าหน้าที่ศาลว่า ทางทีมทนาย พ.ต.ท.ทักษิณจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป นายวิชิต กล่าวว่า ยังไม่ทรายรายละเอียดข้อเท็จจริงยังตอบไม่ได้ให้ เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม เมื่อถามต่อว่า เมื่อเกิดกรณีนี้ขึ้นมาจะส่งผลต่อคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างไรบ้าง นายวิชิต กล่าวว่า ในส่วนของการพิจารณาคดีก็ทำไป การพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคงต้องการความเป็นจริงมากกว่าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกกล่าวหาได้กระทำผิดจริงหรือไม่ และเชื่อว่าศาลจะพิจารณาไปด้วยความเป็นธรรม ไปตามพยานหลักฐานที่เป็นจริง
เมื่อถามว่า การต้องเปลี่ยนม้ากลางศึกจะส่งผลกระทบต่อคดีหรือไม่ นายวิชิต กล่าวว่า ถ้าพูดถึงเรื่องคดีคงไม่เกี่ยวกัน เพราะศาลคงให้ความยุติธรรมต่อการสู้คดีอยู่แล้ว เมื่อถามต่อว่า การพิจารณาเปลี่ยนทีมทนายจะเป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พิจารณาเองหรือทีมทนายพิจารณากันเอง นายวิชิต กล่าวว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องในส่วนนั้น ตอบไม่ได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาสั่งจำคุก 3 ทนายประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเวลา 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ได้มีการแจ้งมายังผู้สื่อข่าวว่า นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ จะแถลงข่าวเรื่องดังกล่าวที่มูลนิธิ 111 ไทยรักไทย นางเลิ้ง แต่ปรากฏว่าเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงได้สวนทางกับนายพงศ์เทพที่กำลังขึ้นรถออกจากที่ทำการ ทำให้ผู้สื่อข่าวพากันแปลกใจที่ไม่ได้มีการแถลงตามที่ได้มีการแจ้งไปยังผู้สื่อข่าว ขณะที่นายวิชิตปฏิเสธไม่ทราบเรื่องที่นายพงศ์เทพจะแถลงข่าว
วันนี้ (25 มิ.ย.) นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล เลขาธิการมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย เปิดเผยว่า จะมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยอ้างว่ามีการพาดพิงใส่ความทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เสียชื่อเสียง และถูกเกลียดชัง โดยเฉพาะกับแกนนำพันธมิตรฯ บางคนได้กล่าวก้าวล่วงไปถึงกรณีที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีแนวคิดเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไทยจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไปเป็นระบอบประธานาธิบดี ซึ่งมันเป็นไม่ได้ ซึ่งในกรณีนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้สั่งให้ดูแลเป็นพิเศษ ให้มีการแจ้งความดำเนินคดีทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้ได้ดำเนินการรวบรวมหลักฐานอยู่
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการถอดเทปรวบรวมหลักฐาน รวบรวมประเด็น ที่พาดพิงทำให้ท่านเสียหายต้องดำเนินคดี เราต้องขอศาลเป็นที่พึ่ง ซึ่งได้มีการดำเนินฟ้องร้องไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของแถลงการณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯ ฉบับที่ 1, 2, 3 ,4, 5 และ 6 และจะกำลังจะฟ้องต่อไปอีก ทั้งที่การจัดเวทีที่ธรรมศาสตร์ ซึ่งมีถ้อยคำบางคำที่ทำให้ท่านเสียหาย หมิ่นประมาทใส่ความ ตรงนี้กำลังจะไล่ฟ้องร้องอยู่ เป็นเรื่องที่ท่านเสียใจมากในการที่ไปกล่าวหาพาดพิงว่าท่านไม่จงรักภักดี และจะไปเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไปเป็นระบอบประธานาธิบดีอันนี้ท่านรับไม่ได้” นายวิชิต กล่าว
นายวิชิต เปิดเผยต่อว่า วันศุกร์นี้จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีทางแพ่งเรียกค่าเสียหายเป็นรายบุคคล คนละ 100 ล้านบาท รวมทั้งแกนนำและไม่ใช่แกนนำที่กล่าวหาพาดพิงท่าน ประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายประพันธ์ คูณมี
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาดำเนินคดี 3 ทนาย พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องจ่ายเงินสินบน 2 ล้านบาทให้แก่เจ้าหน้าที่ศาลว่า ทางทีมทนาย พ.ต.ท.ทักษิณจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป นายวิชิต กล่าวว่า ยังไม่ทรายรายละเอียดข้อเท็จจริงยังตอบไม่ได้ให้ เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม เมื่อถามต่อว่า เมื่อเกิดกรณีนี้ขึ้นมาจะส่งผลต่อคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างไรบ้าง นายวิชิต กล่าวว่า ในส่วนของการพิจารณาคดีก็ทำไป การพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคงต้องการความเป็นจริงมากกว่าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกกล่าวหาได้กระทำผิดจริงหรือไม่ และเชื่อว่าศาลจะพิจารณาไปด้วยความเป็นธรรม ไปตามพยานหลักฐานที่เป็นจริง
เมื่อถามว่า การต้องเปลี่ยนม้ากลางศึกจะส่งผลกระทบต่อคดีหรือไม่ นายวิชิต กล่าวว่า ถ้าพูดถึงเรื่องคดีคงไม่เกี่ยวกัน เพราะศาลคงให้ความยุติธรรมต่อการสู้คดีอยู่แล้ว เมื่อถามต่อว่า การพิจารณาเปลี่ยนทีมทนายจะเป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พิจารณาเองหรือทีมทนายพิจารณากันเอง นายวิชิต กล่าวว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องในส่วนนั้น ตอบไม่ได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาสั่งจำคุก 3 ทนายประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเวลา 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ได้มีการแจ้งมายังผู้สื่อข่าวว่า นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ จะแถลงข่าวเรื่องดังกล่าวที่มูลนิธิ 111 ไทยรักไทย นางเลิ้ง แต่ปรากฏว่าเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงได้สวนทางกับนายพงศ์เทพที่กำลังขึ้นรถออกจากที่ทำการ ทำให้ผู้สื่อข่าวพากันแปลกใจที่ไม่ได้มีการแถลงตามที่ได้มีการแจ้งไปยังผู้สื่อข่าว ขณะที่นายวิชิตปฏิเสธไม่ทราบเรื่องที่นายพงศ์เทพจะแถลงข่าว
