“ก.พลังงาน” แนะวิธีดูโอลิมปิกแบบประหยัดไฟ

พลโทหญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน โชว์กึ๋นครั้งใหญ่ไอเดียสุดกระฉูด แนะคนไทยปฏิบัติ 4 วิธีช่วยลดค่าไฟฟ้า ช่วงกีฬาโอลิมปิก 2008

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จะเปิดฉากในระหว่างวันที่ 8-24 สิงหาคม 2551 ซึ่ง พลโทหญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ออกมาแสดงความกังวลถึงช่วงเวลาดังกล่าวว่าอาจจะมีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เหมือนเช่นช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2008 ที่ผ่านมา

“ช่วงฟุตบอลยูโร 2008 ซึ่งมีการถ่ายทอดสดกีฬาทางโทรทัศน์ ตอนนี้มีการใช้กำลังไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 300 เมกะวัตต์ คิดเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 0.6 ล้านหน่วยต่อวัน โดยสาเหตุหลักก็เกิดจากการเปิดเครื่องรับโทรทัศน์เพิ่มขึ้น และยังมีการเปิดแอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เพิ่มระหว่างการแข่งขันด้วย”

“อยากให้แฟนกีฬาชาวไทยได้ชมการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆในโอลิมปิก 2008 อย่างสนุก และประหยัดพลังงาน เราจึงมีคำแนะนำง่ายๆ 4 ข้อสำหรับนำไปใช้กัน”

สำหรับมาตรการ 4 วิธีปฏิบัติเพื่อประหยัดไฟฟ้า ของกระทรวงพลังงาน ประกอบด้วย

1.ตั้งเวลาปิด
ไม่ควรเปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้ ควรเลือกดูเฉพาะกีฬาที่ชื่นชอบ หรือเชียร์ในรอบที่มีนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขัน ควรตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อเตือนความจำ และหากโทรทัศน์สามารถตั้งเวลาปิดได้ควรตั้งเวลาปิดอัตโนมัติ เพราะหากเปิดทิ้งไว้โดยไม่มีคนดูวันละ 1 ชั่วโมงพร้อมกัน 1 ล้านเครื่อง (โทรทัศน์ขนาด 21 นิ้ว 110 วัตต์) จะสิ้นเปลืองค่าไฟฟ้าเดือนละ 9.9 ล้านบาท

2.ปิดโทรทัศน์ที่ตัวเครื่อง
ไม่ควรปิดโทรทัศน์โดยใช้รีโมทคอนโทรลอย่างเดียว ควรฝึกนิสัยการปิดที่เครื่องโดยตรง เพราะหากโทรทัศน์ขนาด 21 นิ้ว 110 วัตต์ เปิดดูวันละ 4 ชั่วโมง แต่ปิดด้วยรีโมตคอนโทรลและยังเสียบปลั๊กอยู่ตลอดเวลาทั้งวันจะเปลืองไฟฟ้า 5.4 หน่วยต่อเดือน สิ้นเปลืองเงินจำนวน 16.20 บาทต่อเดือน

3.ถอดปลั๊กหลังใช้
อย่าเสียบปลั๊กทิ้งไว้ เพราะโทรทัศน์จะมีไฟฟ้าหล่อเลี้ยงระบบภายในอยู่ตลอดเวลา ทำให้เสิ้นเปลืองไฟฟ้า และอาจก่อให้เกิดอันตรายขณะเกิดฝนฟ้าคะนองได้

4.เครื่องเดียวกัน ดูด้วยกัน
เลิกเปิดโทรทัศน์พร้อมกันคนละเครื่อง แนะนำให้พ่อแม่ชวนลูกมาดูพร้อมกันเครื่องเดียว เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า แถมยังได้แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกันด้วย โดยหากครึ่งหนึ่งของคนไทย 14 ล้านครัวเรือน ดูโทรทัศน์เครื่องเดียวกันภายในครอบครัว จะช่วยกันประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 1.3 ล้านหน่วย หรือคิดเป็น 4 ล้านบาทต่อปี