เบร็ตต์ ฟาร์ฟ ตำนานควอเตอร์แบ็กแห่งศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) กล่าวเชิงวอนให้ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ยอมปล่อยตัวเขาไปร่วมทีมอื่น เพราะนั่นจะส่งผลดีกับทุกๆ ฝ่าย
หลังปล่อยให้สื่อประโคมข่าวคัมแบ็กสู่ศึกคนชนคนอยู่พักใหญ่ ล่าสุด เบร็ตต์ ฟาร์ฟ จอมทัพวัย 38 ปี ออกมาเปิดปากด้วยตนเองแล้วผ่านสถานีโทรทัศน์ของ ฟ็อกซ์ นิวส์ “ผมยอมรับผิดที่ประกาศรีไทร์เร็วเกินไป มีหลายประเด็นทั้ง ทำไมผมถึงเลิกเล่น? ผมถามไถ่ถึงการปล่อยตัวเพราะไม่อยากเล่นให้กรีนเบย์ (แพ็คเกอร์ส) นั่นไม่จริงเลย ผมหวังว่าทุกคนจะได้ยินและก็พูดว่าโอเค เข้าใจแล้ว”
“เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผมเดินขึ้นโพเดียม ถ้าถามว่าผมยังอยากเล่น (อเมริกัน) ฟุตบอลอีกหรือไม่? ใช่ผมอยาก แต่ถ้าถามว่าผมอยากทำมันทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์หรือเปล่า? ผมบอกได้เลยว่าไม่จริงๆ แต่ตอนนี้ผมรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ผมไม่ได้แค่คันไม้คันมือถึงอยากกลับมา แต่ผมพร้อมใส่มันลงไปทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์” ผู้เล่นที่ลุยให้แพ็คเกอร์สมา 16 ฤดูกาลกล่าวต่อ
อย่างไรก็ตาม ถ้า ฟาร์ฟ กลับมาลงแข่งขันก็ยังถือเป็นผู้เล่น “แพ็คส์แมน” แต่คงไม่ได้การันตีตำแหน่งตัวจริง เนื่องจากทั้ง เท็ด ธอมป์สัน ผู้จัดการทั่วไป และหัวหน้าโค้ช ไมค์ แม็คคาร์ธีย์ วางให้ อารอน โรเจอร์ส ซึ่งเรียนรู้งานจาก ฟาร์ฟ เป็นเวลา 3 ปีเต็ม เตรียมขึ้นมารับตำแหน่งจอมทัพในฤดูกาลหน้า (2008/09)
ซึ่ง ฟาร์ฟ ดูเหมือนเข้าใจตรงนี้ดี “ผมรักเพื่อนร่วมทีม ผมสนุกมากับพวกเขา ทีมทำเรื่องเหลือเชื่อเมื่อปีก่อน เรายังคงพูดคุยกันอยู่ ผมอยากให้พวกเขาไปให้ถึงจุดสุดยอด ผมไม่อยากทำให้อะไรมันแย่ไปกว่านี้ สำหรับ อารอน (ร็อดเจอร์ส) ผมรู้สึกว่าทำให้เขาแย่ทั้งๆ ที่เด็กคนนี้ทำงานได้เยี่ยม เราจ่ายเงินไปตั้ง 12 ล้านเหรียญสหรัฐ คงไม่ต้องการให้เขามาถือคลิปบอร์ด ขว้างบอลอยู่ข้างสนามหรอก”
“ดังนั้นมันคงเป็นการดีหากพวกเขา (ผู้หลักผู้ใหญ่ใน กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส) ยอมปล่อยให้ผมไปที่ไหนสักแห่ง ให้ผมได้กลับมาเล่น ส่วนเรื่องความเป็นมรดกตกทอดนั้น คุณไม่ต้องมากังวลกับเรื่องนี้ และก็พูดได้เลยว่าผมเคยเป็นแพ็คเกอร์สอย่างไร ผมก็ยังเป็นแพ็คเกอร์สอยู่อย่างนั้น ส่วนผมจะได้ไปอยู่ที่ไหนนั้นเราคงต้องรอดูกัน” ตำนานแห่ง แลมโบว์ ฟิลด์ ทิ้งท้าย
หลังปล่อยให้สื่อประโคมข่าวคัมแบ็กสู่ศึกคนชนคนอยู่พักใหญ่ ล่าสุด เบร็ตต์ ฟาร์ฟ จอมทัพวัย 38 ปี ออกมาเปิดปากด้วยตนเองแล้วผ่านสถานีโทรทัศน์ของ ฟ็อกซ์ นิวส์ “ผมยอมรับผิดที่ประกาศรีไทร์เร็วเกินไป มีหลายประเด็นทั้ง ทำไมผมถึงเลิกเล่น? ผมถามไถ่ถึงการปล่อยตัวเพราะไม่อยากเล่นให้กรีนเบย์ (แพ็คเกอร์ส) นั่นไม่จริงเลย ผมหวังว่าทุกคนจะได้ยินและก็พูดว่าโอเค เข้าใจแล้ว”
“เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผมเดินขึ้นโพเดียม ถ้าถามว่าผมยังอยากเล่น (อเมริกัน) ฟุตบอลอีกหรือไม่? ใช่ผมอยาก แต่ถ้าถามว่าผมอยากทำมันทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์หรือเปล่า? ผมบอกได้เลยว่าไม่จริงๆ แต่ตอนนี้ผมรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ผมไม่ได้แค่คันไม้คันมือถึงอยากกลับมา แต่ผมพร้อมใส่มันลงไปทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์” ผู้เล่นที่ลุยให้แพ็คเกอร์สมา 16 ฤดูกาลกล่าวต่อ
อย่างไรก็ตาม ถ้า ฟาร์ฟ กลับมาลงแข่งขันก็ยังถือเป็นผู้เล่น “แพ็คส์แมน” แต่คงไม่ได้การันตีตำแหน่งตัวจริง เนื่องจากทั้ง เท็ด ธอมป์สัน ผู้จัดการทั่วไป และหัวหน้าโค้ช ไมค์ แม็คคาร์ธีย์ วางให้ อารอน โรเจอร์ส ซึ่งเรียนรู้งานจาก ฟาร์ฟ เป็นเวลา 3 ปีเต็ม เตรียมขึ้นมารับตำแหน่งจอมทัพในฤดูกาลหน้า (2008/09)
ซึ่ง ฟาร์ฟ ดูเหมือนเข้าใจตรงนี้ดี “ผมรักเพื่อนร่วมทีม ผมสนุกมากับพวกเขา ทีมทำเรื่องเหลือเชื่อเมื่อปีก่อน เรายังคงพูดคุยกันอยู่ ผมอยากให้พวกเขาไปให้ถึงจุดสุดยอด ผมไม่อยากทำให้อะไรมันแย่ไปกว่านี้ สำหรับ อารอน (ร็อดเจอร์ส) ผมรู้สึกว่าทำให้เขาแย่ทั้งๆ ที่เด็กคนนี้ทำงานได้เยี่ยม เราจ่ายเงินไปตั้ง 12 ล้านเหรียญสหรัฐ คงไม่ต้องการให้เขามาถือคลิปบอร์ด ขว้างบอลอยู่ข้างสนามหรอก”
“ดังนั้นมันคงเป็นการดีหากพวกเขา (ผู้หลักผู้ใหญ่ใน กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส) ยอมปล่อยให้ผมไปที่ไหนสักแห่ง ให้ผมได้กลับมาเล่น ส่วนเรื่องความเป็นมรดกตกทอดนั้น คุณไม่ต้องมากังวลกับเรื่องนี้ และก็พูดได้เลยว่าผมเคยเป็นแพ็คเกอร์สอย่างไร ผมก็ยังเป็นแพ็คเกอร์สอยู่อย่างนั้น ส่วนผมจะได้ไปอยู่ที่ไหนนั้นเราคงต้องรอดูกัน” ตำนานแห่ง แลมโบว์ ฟิลด์ ทิ้งท้าย