ความสำเร็จของ “แทมมี่” แทมมารีน ธนสุกาญจน์ บนสนามหญ้าวิมเบิลดันแกรนด์สแลมรายการที่สามของปีนับเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของวงการเทนนิสหญิงไทยเพราะก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีใครสามารถผ่านการแข่งขันระดับเมเจอร์ของวงการลูกสักหลาดเข้าไปถึงรอบ 8 คนสุดท้ายได้ มีเพียง “แทมมารีน” เพียงผู้เดียวที่เคยสัมผัสใกล้สุดกับรอบที่สี่ของการแข่งขันถึงหกสมัยโดยห้าครั้งของสถิติดังกล่าวเป็นการผ่านเข้าสู่สัปดาห์ที่สองในวิมเบิลดันได้ติดต่อกันตั้งแต่ปี 1998-2002 ก่อนจะกลับมาทำได้อีกครั้งในปี 2004
สำหรับการแข่งขันปี 2008 แทมมี่ ยืนระยะในสัปดาห์ที่สองของแกรนด์สแลมรายการเก่าแก่ที่สุดในโลกด้วยชัยชนะเหนือมือวางอันดับที่สามอย่าง “เยเลน่า แยนโควิช” ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศทำให้การแข่งขันต่อจากนี้ถือได้ว่าเป็นกำไรในชีวิตนักเทนนิสอาชีพของ “แทมมี่” ที่โลดแล่นมากว่า 14 ปีและจนถึงเวลานี้สาวไทยรายเดียวในออลอิงแลนด์เทนนิสคลับมีเงินรางวัลในกระเป๋าแน่นอนแล้ว 93,750 ปอนด์ (ประมาณ 6.09ล้านบาท)
หากมองย้อนกลับไปที่ประวัติการแข่งขันของนักเทนนิสสาวไทยรายนี้ในวิมเบิลดันจะเห็นว่าผลงานที่เธอทำได้เหนือกว่ามือวางอันดับที่สามอย่าง “เยเลน่า” นั้นมิได้เกินความคาดหมายแต่อย่างใดเพราะในปี 2001 “แทมมี่” เคยโค่นมืออันดับหกของรายการชาวฝรั่งเศสอย่าง “อเมลี โมเรสโม่” ก่อนจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายนับเป็นการโชว์ฝีมือในวัย 24 ปีที่เรียกความสนใจจนสื่อในอังกฤษต้องหันกลับมามอง
ในเวลานั้นดับเบิ้ลยูทีเอทัวร์จัดให้นักเทนนิสสาวไทยอยู่ในอันดับที่ 31 ของโลกและ “แทมมี่”ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีอังกฤษว่า คอร์ตหญ้าเป็นสนามที่เธอถนัดและทำผลงานได้ดีที่สุดส่วนหนึ่งเป็นเพราะการฝึกฝนบนฮาร์ตคอร์ตในเมืองไทยที่ลูกจะวิ่งเร็วกว่าปกติช่วยให้ฉันสามารถควบคุมลูกบนพื้นหญ้าที่วิมเบิลดันได้เป็นอย่างดี"
ถึงเวลานี้หลังจากชื่อนักเทนนิสสาวไทยมิได้ปรากฏในสัปดาห์ที่สองในวิมเบิลดันมาถึง 4 ปีที่สุดแล้ว แทมมารีน ก็กู้ชื่อเสียงของตนเองกลับคืนมาได้สำเร็จอีกครั้งในวัย 31 ปี โดยภายหลังการแข่งขันสื่อมวลชนในอังกฤษที่กำลังจับตาสาวไทย และ สาวจีนอย่าง เจิ้ง จี้ ที่หวดโค่นมือวางอันดับหนึ่งของรายการอย่าง อนา อิวาโนวิช จนร่วงตกรอบไปแล้วได้ถามความคิดเห็นของ “แทมมี่” กับช่วงขาขึ้นของนักเทนนิสจากเอเชียว่า
“มันยิ่งใหญ่มากสำหรับวงการเทนนิสเอเชียไม่ว่าจะเป็น เจิ้ง จี้ หรือ ตัวฉันเองเพราะเราทั้งคู่สามารถผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายได้ด้วยผลงานเช่นนี้น่าจะแสดงให้เยาวชนนักเทนนิสในประเทศของเราได้เห็นว่าใครก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จในการเล่นเทนนิสได้ขอให้มีความตั้งใจ อดทนและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค"
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ถาม “แทมมี่” ถึงอารมณ์แห่งชัยชนะที่ทำให้เธอต้องหลั่งน้ำตาหลังผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายได้สำเร็จ ซึ่งนักเทนนิสสาวไทยได้กล่าวถึงการแสดงอารมณ์ของตนเองว่า "ชัยชนะที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องน่ายินดีจนทำให้ฉันกลั้นน้ำตาไม่อยู่เพราะทุกปีที่ลงทำการแข่งขันในวิมเบิลดัน ฉันวางเป้าหมายของตนเองไว้ทุกครั้งและในปีนี้ต้องเรียกว่าประสบความสำเร็จเกินคาด มันคือครั้งแรกในรอบหลายปีที่รอคอยหลังจากต้องยืนดูผู้ชนะในรอบ 16 คนสุดท้ายแต่สำหรับปีนี้ฉันผ่านเข้ามาถึงรอบ 8 คนสุดท้ายได้สำเร็จ"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงแรงกระตุ้นที่ทำให้เธอมาได้ไกลถึงขนาดนี้ “แทมมี่” กล่าวว่า "ส่วนหนึ่งที่ทำให้ฉันมายืนบนจุดนี้ได้เป็นเพราะสมาธิที่มุ่งไปแต่ที่เกมเพียงอย่างเดียวโดยไม่สนใจว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร และฉันว่ามันคือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ได้ยืนอยู่ต่อในสัปดาห์ที่สองของการแข่งขันนี่คือเรื่องที่น่ายินดีมากที่สุดในปีนี้เลยทีเดียว"
ในช่วงสุดท้ายของการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถามแทมมี่ ถึงช่วงเวลาสองสามปีที่ผ่านมาซึ่งอันดับโลกของเธอร่วงไปจากท้อป 100ของตารางและการกลับมาครั้งนี้เธอได้วางแผนอะไรเอาไว้บ้าง
"ต้องยอมรับว่าช่วงก่อนหน้านี้อันดับโลกของฉันไม่ดีนักแม้ว่าจะพยายามอย่างหนักเพื่อให้ตนเองกลับคืนสู่ฟอร์มเดิมมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่สุดท้ายด้วยความอดทน และคำแนะนำที่ดีของโค้ชรวมไปถึงการรักษาร่างกายทำให้อาการบาดเจ็บไม่มารบกวนก็ทำให้ทุกอย่างลงตัว อันที่จริงแล้วฉันไม่ได้วางแผนอะไรล่วงหน้าขอเพียงแต่ทำผลงานแต่ละแมทช์ให้ดีที่สุด และหลังจากนี้ฉันก็ยังคงเล่นเทนนิสต่อไปเพราะนี่คือสิ่งที่ฉันทำได้ดีที่สุดและรักมากที่สุด"
