อันเดรส อิเนสตา มิดฟิลด์ผู้กล้าปฏิเสธชุดขาว

ทีมชาติ สเปน
หมายเลขในทีมชาติ 6
ตำแหน่ง กองกลาง
เกิด 11 พฤษภาคม 1984
ส่วนสูง 170 เซนติเมตร
น้ำหนัก 65 กิโลกรัม
สโมสร บาร์เซโลนา

หากย้อนเวลากลับไปเมื่อปี 2002 ในถิ่นแคมป์นู ของสโมสรบาร์เซโลนา ยุคที่ หลุยส์ ฟาน กัล นั่งแท่นในตำแหน่งกุนซือ ได้จับนักเตะดาวรุ่งวัยเพียง 18 ปี นาม อันเดรส อิเนสตา ที่เกิดในอัลบาเซเต เซ็นสัญญาค้าแข้งกับทีมดังแห่งลาลีกาสเปน

ซึ่งสำหรับแฟนของ "บาร์ซา" แล้ว อิเนสตา ไม่ใช่ดาวเตะโนเนมในวันเซ็นสัญญาแต่อย่างใด หากแต่ชื่อเสียงของดาวเด่นรายนี้ได้รับการพูดถึงมาตั้งแต่เมื่อย่างก้าวเข้าสู่แคมป์นักเตะเยาวชนเมื่อครั้งวัยเพียง 12 ปีแล้ว และได้รับการจับตามองมาโดยตลอดในฐานะดาวรุ่งแห่งวงการลูกหนังแดนกระทิงดุ

ช่วง 2 ฤดูกาลแรกหลังเซ็นสัญญา ดาวเตะแห่งอนาคตจำต้องรอคอยโอกาสอยู่บนม้านั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ ทว่า โอกาสก็มาถึงในฤดูกาล 2004-05 เมื่อได้ลงเล่นถึง 37 นัด จาก 38 เกมให้ต้นสังกัด และการได้ร่วมทีมเดียวกับดาวดังอย่าง ซามูเอล เอโต และ โรนัลดินโญ ย่อมสร้างสมประสบการณ์ให้กับดาวเตะหน้าอ่อนรายนี้ให้เพิ่มพูน รวมทั้งการลงประสานงานกับ ซาบี เฮอร์นานเดซ คู่หูแดนกลางอย่างรู้ใจ ส่งผลให้ อิเนสตา คว้าเกียรติยศยิ่งใหญ่อย่างดับเบิลแชมป์ในฤดูกาล 2005 - 06 (ลาลีกา และ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก) ร่วมกับทีม

โดยจุดเด่นของยอดกองกลางดาวรุ่งรายนี้คือการผ่านบอลที่เฉียบคม รวมทั้งยังสามารถสอดขึ้นไปยิงประตูได้อย่างสม่ำเสมอ กระทั่งมีรายงานจากสื่อมวลชนสเปนว่า "ราชันชุดขาว" รีล มาดริด ต้องการทุ่มเงินเป็นจำนวน 60 ล้านยูโร เพื่อคว้าตัวเด็กสร้างของ บาร์เซโลนา ไปขับเคลื่อนเกมให้

ทว่า อิเนสตา ได้ออกมาปฏิเสธทีมชุดขาวอย่างไร้เยื่อใยว่า "ผมต้องการที่จะอยู่กับ บาร์เซโลนา ไปจนถึงวันที่ผมเลิกเล่นฟุตบอล ด้วยความจริงจากหัวใจ" และผลจากการบอกปัดในครั้งนั้นส่งผลให้ดาวเตะรายนี้ได้รับสมญาจากสื่อมวลชนในบ้านเกิดว่า "เอล แอนติ กาแลคติกโก" แถมเข้าให้ด้วย

ด้วยความเก่งกาจกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่คับโลกอย่าง บาร์เซโลนา จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่ หลุยส์ อราโกเนส กุนซือทีมชาติสเปน มองเห็นความสามารถจนเรียกไปติดทีมชาติสเปน ลุยศึกฟุตบอลยูโร 2008 บนแผ่นดินเจ้าภาพร่วมอย่าง ออสเตรีย - สวิตเซอร์แลนด์

ที่สำคัญ อิเนสตา เป็น 1 ในขุนพลหลักของทีมชาติสเปน ที่ลบคำสบประมาทว่าเป็น "หมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม" หลังพาทัพนักเตะกระทิงดุผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศศึกยูโรป 2008 กับทีมชาติเยอรมนีได้อีกด้วย...