xs
xsm
sm
md
lg

"Beautiful Games" หลังวันเจ้าภาพตกรอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คนท้องถิ่นบางตาทำให้บรรยากาศเงียบเหงาไม่น้อย
สรเดช เพชรแสงใสกุล
รายงานพิเศษจาก ซูริค, สวิตเซอร์แลนด์

เข้าสู่ช่วงปลายสัปดาห์ที่สองของศึกฟุตบอลยูโร 2008 อันเป็นรอยต่อระหว่างรอบแรกและรอบสอง ซึ่งเกมในสนามนั้นได้เห็นผลกันแล้วว่าใครอยู่ใครไป แต่ที่ชัดที่สุดคือเจ้าภาพร่วมทั้งสองประเทศต่างจับมือกันตกรอบแบบไม่พลิกโผ ส่วนความคึกคักนอกสนามที่สองประเทศเจ้าภาพได้จัดให้มี Fan Zone เพื่อต้อนรับแฟนบอลจากทั่วโลกนั้นบรรยากาศดูจะไม่คึกคักอย่างที่คาดการณ์ไว้

ส่วนหนึ่งเพราะสวิตเซอร์แลนด์ และ ออสเตรีย นั้นเป็นประเทศที่สวยงามเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณ นอกจากนี้ยังเป็นสังคมที่แสนสงบจนติดอันดับต้นๆ ของโลกในฐานะประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุด แต่สำหรับเกมลูกหนังแล้วในฐานะเจ้าภาพมือใหม่นอกจากความพยายามให้ ยูโร 2008 เป็น Beautiful Game แต่ดูเหมือนว่าความตื่นตัวของประชากรของทั้งสองประเทศกับเกมลูกหนังระดับนี้ยังแตกต่างจากเมื่อครั้งที่ ฮอลแลนด์ และ เบลเยียม เป็นเจ้าภาพร่วมในปี 2000

ก่อนหน้าที่ยูโร 2008 จะเริ่มต้นขึ้นบรรดาเกจิริมขอบสนามต่างมองว่า ยูโร หนนี้อาจจะแป้กไม่เป็นท่าเพราะทั้งสองประเทศไม่ได้มีชื่อชั้นในเชิงลูกหนังระดับโลก ขนาดที่แฟนบอลออสเตรียบางส่วนยังออกมาขอร้องไม่ให้ทีมของตนเองลงสนาม เพราะรู้ดีว่าฝีเท้านักเตะของตนเองคงสู้ทีมคู่แข่งได้ยาก ที่สำคัญนี่คือการจับงานลูกหนังระดับยุโรปเป็นครั้งแรกของทั้งสองประเทศ อาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องความพร้อมของสนามหรือระบบรักษาความปลอดภัย แต่ทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป ก็พร้อมเสี่ยงเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองประเทศได้โชว์ฝีมืออันเป็นนิสัยของประธานยูฟ่า มิเชล พลาตินี ที่ชอบเปิดโอกาสให้กับทีมเล็กๆ แบบนี้อยู่แล้ว

แฟนบอล โปรตุเกส กลุ่มหนึ่งที่มาปักหลักอยู่ที่แฟนโซน บริเวณเมืองซูริค เพื่อรอชมเกมที่แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 0-2 ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มบอกกับทีมข่าวกีฬาของ MGR Sport ถึงเรื่องนี้ว่า "การจะนำฟุตบอลมาใช้ประโยชน์เป็นเครื่องโปรโมตประเทศก็ถือเป็นการดี รูปการจัดการแข่งขันก็อยู่ในระดับมาตรฐานแต่ถึงกระนั้นความที่เจ้าภาพมีประชากรที่เป็นคนสูงอายุมากเกินไปทำให้ไม่คึกคักและตื่นตัวเท่าที่ควร ส่วนช่วงคนทำงานก็อยู่กับครอบครัวและวัยรุ่นก็มีโลกส่วนตัวต่างหาก ทำให้คนท้องถิ่นแทบไม่สนใจเกมลูกหนังเลย"

ด้วยประชากรเพียงราว 6.9 ล้านคน การจะปลุกกระแสฟุตบอลให้ฟีเวอร์ใน สวิตเซอร์แลนด์ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายด้วยความที่วิถีท้องถิ่นนั้นเรียบง่ายและทีมลูกหนังของตนเองก็เรียกได้ว่ายังอยู่ในระดับผ่านรอบแรกก็หืดจับแล้ว แต่ข้อดีประการหนึ่งที่ทีมข่าว MGR SPORT มองว่าเป็นข้อได้เปรียบของการให้ประเทศเล็กๆเป็นเจ้าภาพคือเรื่องระบบขนส่งสาธารณะ ที่สวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการยอมรับว่ามีการวางระบบที่ดีที่สุดเจ้าหนึ่งของยุโรและยิ่งดีขึ้นไปอีกเมื่อมีการปรับปรุงบางส่วนเพื่อต้อนรับ ยูโร การเดินทางภายในประเทศของแฟนบอลยูโรครั้งนี้ใช้ตั๋วเพียงใบเดียวคุณสามารถเดินทางได้ตลอด 24 ชั่วโมงแถมยังครอบคลุมใช้ได้หมดทั้ง เรือ, รถไฟ, รถไฟใต้ดิน และ รถราง ที่สำคัญทุกรูปแบบการเดินทางมีใจกลางสำคัญที่เชื่อมต่อกันได้หมด โดยแทบจะไม่ต้องเรียกแท็กซี่เลย ที่สำคัญราคาค่าโดยสารนั้นไม่แพงมากและไม่แออัดเนื่องจากมีรอบให้บริการทุกครึ่งชั่วโมงและออกตรงเวลา ทำให้กำหนดการเดินทางล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ

ถึงเวลานี้ ยูโร 2008 กำลังจะเดินทางเข้าสู่รอบที่สอง แม้ว่าก่อนหน้าประเทศเจ้าภาพอยากจะให้การแข่งขันช่วยสร้างความคึกคักให้กับย่านธุรกิจการค้า แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะปัจจัยเรื่องความจุของสนามดังที่สวิตเซอร์แลนด์สนามทั้งสี่แห่งนั้นจุแฟนบอลได้ไม่มากนักอย่างเซนต์ จาค็อบ พาร์ค รับแฟนบอลได้ 42,000 คนและน้อยสุดคือ เลทซิกรุนด์ และ สต๊าด เดอ เจนีฟ ที่จุได้แค่ 30,000 คนเท่านั้น

นอกจากจำนวนที่นั่งในสนามจะรองรับแฟนบอลได้น้อยแล้ว เรื่องของค่าครองชีพที่สูงติดอันดับโลกทำให้การจับจ่ายแต่ละยูโรของแฟนบอลไม่ได้เป็นไปอย่างคล่องมือนักห็นได้ชัดจากการซื้อของที่ระลึกร้านต่างๆ ไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควร โดยเฉพาะสินค้าถูกลิขสิทธิ ที่หลายคนเมินและคอลูกหนังหลายรายหันไปใช้บริการของซุ้มขายของบริการแฟนโซนมากกว่า เนื่องจากราคาถูกแถมมีสินค้าให้เลือกมากมาย

ในส่วนสีสันของเกมลูกหนังของทีมเจ้าภาพที่แค่ชื่อชั้นก็พอรู้ว่าจะอยู่ถึงรอบไหน ก็ดูจะกร่อยลงไปอีกเมื่อพวกเขากอดคอกันตกรอบแรก แต่ถึงกระนั้นแฟนบอล สวิตเซอร์แลนด์ คู่หนึ่งบอกกับทีมข่าวMGR SPORT ว่า "แม้ว่าทีมจะตกรอบแรกก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะถือว่าน่าพอใจและพวกเราก็สนุกกับการได้เชียร์ฟุตบอลบนแผ่นดินเกิด" เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะพวกเขาทำใจเอาไว้ก่อนแข่งแล้วว่าศักยภาพของทีมคงจะทำได้แค่นี้เท่านั้น และไม่ได้หวังสูงอะไรมากมายเป้าหมายสุดเซอร์ไพรส์คือรอบ 8 ทีม ไม่เหมือนกับ เยอรมนี, อังกฤษ และ อิตาลี ที่ฟุตบอลเป็นเหมือนชีวิตจิตใจจะแพ้ไม่ได้

ดูเหมือนว่าการเปิดโอกาสของ ยูฟ่า ให้กับสองประเทศเล็กอันแสนสงบเป็นเจ้าภาพจะไม่คึกคักอย่างที่คาดการณ์ เมื่อภาพที่ออกมาตั้งแต่ต้นจนถึงเวลานี้ สีสันนอกสนามที่เจ้าภาพสู้อุตสาห์ประชาสัมพันธ์ให้การแข่งขันครั้งนี้เป็น "Beautiful Games" แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สนุกเท่ากับเกมลูกหนังในสเตเดี้ยม ผลลัพธ์เช่นนี้คงทำให้สหพันธ์ฟุตบอลยุโรปต้องคิดทบทวนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าจะเลือกแบบไหนระหว่างมอบหน้าเสื่อให้ประเทศมหาอำนาจลูกหนัง หรือเปิดโอกาสให้กับชาติเล็กๆต่อไป เพราะไม่แน่ว่าความเงียบเหงานอกสนามในยูโร 2008 อาจจะถูกฉายซ้ำอีกครั้งที่ยูเครน และ โปแลนด์ ในฐานะเจ้าภาพศึกยูโร 2012 ก็เป็นได้
กลุ่มแฟนบอล โปรตุเกส
สองหนุ่มแฟนบอล สวิตเซอร์แลนด์
สถานีรถไฟหลัก
เส้นทางรถราง
ความคึกคักไปรวมตัวอยู่ในสนามแข่งขัน

กำลังโหลดความคิดเห็น