ทำเอาคนในวงการรถสูตรหนึ่งส่ายหน้าไปตามๆกัน หลังจากแม็กซ์ มอสลีย์ ประธานเอฟไอเอผู้อื้อฉาว ได้รับการโหวตจากมวลสมาชิกให้อยู่ในตำแหน่งต่อไป โดยหลายฝ่ายมองว่าจะเป็นผลเสียต่อวงการรถแข่งในอนาคต
นายใหญ่แห่งสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ(เอฟไอเอ) ได้รับคะแนนโหวตจากประชุมใหญ่สมาชิกสภาบริหารเอฟไอเอแบบท่วมท้น 103 ต่อ 55 ให้อยู่ในตำแหน่งต่อไป แม้จะตกเป็นข่าวฉาวโฉ่ถูก จากการแฉภาพรสนิยมการมีเซ็กส์แบบรุนแรง ของแม็กซ์ กับหญิงสาวบริการถึง 5 ราย จนมีกระแสเรียกร้องให้ลงจากตำแหน่ง
หลังจากผลการลงมติดังกล่าวออกมา ทำให้คนในวงการรถสูตรหนึ่งถึงกับผิดหวังตามๆกัน โดยเบอร์นีย์ เอ็คเคิลสโตน เจ้าพ่อลิขสิทธิ์เอฟวัน กังวลถึงเรื่องธุรกิจในศึกฟอร์มูลา วันในอนาคต
"เรื่องของธุรกิจในเอฟวันยังคงต้องดำเนินต่อ ซึ่งมันจะเป็นปัญหาของผมเต็มๆ ผมหวังว่าสปอร์นเซอร์และทีมแข่งต่างๆจะยังคงเดินหน้าร่วมกับเราได้ต่อไป แม้ผลการโหวตจะขัดความรู้สึกของทุกคน" เอ็คเคิลสโตน เผย
ขณะที่เอ็ดดี จอร์แดน อดีตเจ้าของทีมจอร์แดนกรังด์ปรีซ์ เผยว่า "ความหวังของผมคือเขาน่าจะคิดถึงผลเสียหายที่ตามมาบ้าง มันเป็นเรื่องของศีลธรรม จากนี้ไปความน่าเชื่อถือของเขาในการทำงานกับคนอื่นๆคงลดลงไปแล้ว ความดีงามที่เขาทำมาน่าจะเพียงพอแล้วและเขาควรยืดอกลาออกไปด้วยตัวเองจะดีกว่า"
ส่วนพอล สต็อกดาร์ต อดีตเจ้าของทีมมินาดี ก็มองในลักษณะเดียวกัน "นี่เป็นเรื่องน่าเศร้าของวงการมอเตอร์สปอร์ต มันอาจจะเป็นจุดจบของเอฟไอเอ ไม่มีทางที่คุณจะย้อนกลับไปแก้ไขความเสียหายทีเกิดขึ้น และเราก็ต้องรอดูกันว่าเอฟไอเอจะถึงคราวล่มสลายหรือไม่"
นายใหญ่แห่งสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ(เอฟไอเอ) ได้รับคะแนนโหวตจากประชุมใหญ่สมาชิกสภาบริหารเอฟไอเอแบบท่วมท้น 103 ต่อ 55 ให้อยู่ในตำแหน่งต่อไป แม้จะตกเป็นข่าวฉาวโฉ่ถูก จากการแฉภาพรสนิยมการมีเซ็กส์แบบรุนแรง ของแม็กซ์ กับหญิงสาวบริการถึง 5 ราย จนมีกระแสเรียกร้องให้ลงจากตำแหน่ง
หลังจากผลการลงมติดังกล่าวออกมา ทำให้คนในวงการรถสูตรหนึ่งถึงกับผิดหวังตามๆกัน โดยเบอร์นีย์ เอ็คเคิลสโตน เจ้าพ่อลิขสิทธิ์เอฟวัน กังวลถึงเรื่องธุรกิจในศึกฟอร์มูลา วันในอนาคต
"เรื่องของธุรกิจในเอฟวันยังคงต้องดำเนินต่อ ซึ่งมันจะเป็นปัญหาของผมเต็มๆ ผมหวังว่าสปอร์นเซอร์และทีมแข่งต่างๆจะยังคงเดินหน้าร่วมกับเราได้ต่อไป แม้ผลการโหวตจะขัดความรู้สึกของทุกคน" เอ็คเคิลสโตน เผย
ขณะที่เอ็ดดี จอร์แดน อดีตเจ้าของทีมจอร์แดนกรังด์ปรีซ์ เผยว่า "ความหวังของผมคือเขาน่าจะคิดถึงผลเสียหายที่ตามมาบ้าง มันเป็นเรื่องของศีลธรรม จากนี้ไปความน่าเชื่อถือของเขาในการทำงานกับคนอื่นๆคงลดลงไปแล้ว ความดีงามที่เขาทำมาน่าจะเพียงพอแล้วและเขาควรยืดอกลาออกไปด้วยตัวเองจะดีกว่า"
ส่วนพอล สต็อกดาร์ต อดีตเจ้าของทีมมินาดี ก็มองในลักษณะเดียวกัน "นี่เป็นเรื่องน่าเศร้าของวงการมอเตอร์สปอร์ต มันอาจจะเป็นจุดจบของเอฟไอเอ ไม่มีทางที่คุณจะย้อนกลับไปแก้ไขความเสียหายทีเกิดขึ้น และเราก็ต้องรอดูกันว่าเอฟไอเอจะถึงคราวล่มสลายหรือไม่"