ทีมจอมพลังไทยยังเดินหน้ากวาดเหรียญไม่หยุด คว้าเพิ่มอีก 1 ทองแดงจาก ไกรสอน ดัดถุยาวัฒน จากท่าคลีแอนด์เจิร์คในรุ่น 77 กิโลกรัมชาย รวม 4 วันกวาด 1 ทอง 1 เงิน 4 ทองแดง
การแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งเอเซียประจำปี 2551 ที่เมืองคานาซาว่า ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 26 เม.ย.- 2 พ.ค. ซึ่งกำลังทำการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น โดยในวันที่ 29 เม.ย.มีจอมพลังของไทยลงทำศึกด้วย 2 คนคือ วณิชชากรณ์ นุ่มนวล ในรุ่น 69 กก.หญิง และไกรสอน ดัดถุยาวัฒน ในรุ่น 77 กก.ชาย เริ่มการแข่งขันในเวลา 16.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น
โดย "น้องแป้ง" วณิชชากรณ์ นุ่มนวล ทำได้ดีที่สุดคืออันดับที่ 8 ยกในท่าสแน็ตช์ได้ 86 กก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์ค 105 กก. และน้ำหนักรวม 191 กก. ส่วนเหรียญทองเป็นของ ลิ่วชุนหง ของจีนทั้ง 3 ท่า โดยสแน็ตช์อยู่ที่ 117 กก. คลีนแอนด์เจิร์ค 145 กก. และน้ำหนักรวม 262 กก. เหรียญเงินท่าสแน็ตช์ได้แก่ ลาอิชราม เทวี ของอินเดีย ทำได้ 100 กก. เหรียญทองแดง เกาหยาชุน จากไทเป 98 กก. เหรียญเงินท่าคลีนแอนด์เจิร์ค เกาหยาชุนของไทเป 124 กก. เหรียญทองแดง ลาอิชราม เทวี ของอินเดีย 122 กก. น้ำหนักรวม เหรียญเงิน เกาหยาชุน 222 กก. เหรียญทองแดง ลาอิชราม เทวี 222 กก.
ส่วนไกรสอน ดัดถุยาวัฒ ลงประลองในรุ่นต่อมา โดยในท่าสแน็ตช์นั้น ไกรสอน ทำให้กองเชียร์ไทยต้องฝันสลาย เมื่อไม่สามารถยกผ่านได้ทั้ง 3 ครั้ง แม้จะพยายามแล้ว แต่ก็ไม่สามารถดันขาให้ลุกขึ้นได้ หมดโอกาสลุ้นเหรียญในท่านี้ไป ทำให้เหรียญทองตกเป็นของลู่เซี่ยวจุน ของจีน ยกได้ 158 กก. เหรียญเงิน ลู่จางเหลียง ของจีนเช่นกัน ทำได้ 152 กก. และเหรียญทองแดง ซอห์ราบ โมราดี จากอิหร่าน 146 กก.
สำหรับท่าคลีนแอนด์เจิร์คซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายที่มีสิทธิ์ลุ้นเหรียญกลับบ้าน โดยไกรสอน เริ่มต้นที่ 180 กก. และยกผ่านไปได้ด้วยดี แต่ในอีกสองครั้งต่อมาที่น้ำหนัก 185 และ 190 กก.นั้นไกรสอนไม่สามารถทำได้และต้องลมหงายท้องไปทั้งสองครั้ง แต่จอมพลังจากอิหร่านเรียกน้ำหนักครั้งสุดท้ายที่ 179 กก. ถึงแม้จะยกผ่านแต่น้ำหนักเหล็กก็น้อยกว่าจอมพลังหนุ่มของไทย ทำให้ไกรสอนคว้าเหรียญทองแดงไปทันที โดยในท่าคลีนแอนด์เจิร์คนี้ เหรียญทองเป็นของ ลู่จางเหลียงของจีน ด้วยน้ำหนัก 195 กก. เหรียญเงิน ลู่เซี่ยวจุน ของจีนเช่นกัน ยกได้ 188 กก. และเหรียญทองแดง ไกรสอน ดัดถุยาวัฒ ของไทย ที่ 180 กก.
ด้าน ไกรสอน ที่สร้างความใจหายใจคว่ำให้แก่กองเชียร์ไทยกล่าวว่า "ในท่าสแน็ตช์นั้นรู้ตัวว่าเป็นรองเขาอยู่แล้ว เพราะไม่ใช่ท่าถนัด ต้องรอลุ้นในท่าเจิร์ค เพราะคิดว่าคงสู้เอาเหรียญทองแดงได้ ส่วนเหรียญทองเราคงต้องยกให้จีนเขา น้ำหนักที่ยกได้วันนี้ก็เป็นน้ำหนักที่เคยซ้อมมา แต่ในสองครั้งหลังพยายามจะทำให้ได้มากกว่าที่เคยทำ แต่เห็นว่าไม่ไหวก็เลยปล่อยเหล็กให้หล่นไป ไม่อยากฝืน กลัวบาดเจ็บ และดีใจมากที่ยังสร้างสถิติให้ทีมไทยมีเหรียญกลับบ้านได้ทุกวัน"
ส่วนในวันที่ 30 เม.ย.นั้น จะเป็นวันที่ทีมจอมพลังไทยมีคิวลงทำการแข่งขันมากที่สุด โดยเริ่มที่ พิทยา ตีบนอก รุ่น 85 กก.ชายกลุ่มบี, วัชราวดี รัตนช่วง รุ่น 75 กก.หญิง, ขวัญชัย นุชพุ่ม และสุธิพร วัฒนากสิกรรม รุ่น 94 กก.ชาย และปิดท้ายด้วย แอนนิภา มูลธาร์ กับเมติยา ซื่อสัตย์ ในรุ่น บวก 75 กก.หญิง เริ่มการแข่งขันตั้งแต่เวลา 09.00 น.ตามเวลาในประเทศญี่ปุ่น
การแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งเอเซียประจำปี 2551 ที่เมืองคานาซาว่า ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 26 เม.ย.- 2 พ.ค. ซึ่งกำลังทำการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น โดยในวันที่ 29 เม.ย.มีจอมพลังของไทยลงทำศึกด้วย 2 คนคือ วณิชชากรณ์ นุ่มนวล ในรุ่น 69 กก.หญิง และไกรสอน ดัดถุยาวัฒน ในรุ่น 77 กก.ชาย เริ่มการแข่งขันในเวลา 16.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น
โดย "น้องแป้ง" วณิชชากรณ์ นุ่มนวล ทำได้ดีที่สุดคืออันดับที่ 8 ยกในท่าสแน็ตช์ได้ 86 กก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์ค 105 กก. และน้ำหนักรวม 191 กก. ส่วนเหรียญทองเป็นของ ลิ่วชุนหง ของจีนทั้ง 3 ท่า โดยสแน็ตช์อยู่ที่ 117 กก. คลีนแอนด์เจิร์ค 145 กก. และน้ำหนักรวม 262 กก. เหรียญเงินท่าสแน็ตช์ได้แก่ ลาอิชราม เทวี ของอินเดีย ทำได้ 100 กก. เหรียญทองแดง เกาหยาชุน จากไทเป 98 กก. เหรียญเงินท่าคลีนแอนด์เจิร์ค เกาหยาชุนของไทเป 124 กก. เหรียญทองแดง ลาอิชราม เทวี ของอินเดีย 122 กก. น้ำหนักรวม เหรียญเงิน เกาหยาชุน 222 กก. เหรียญทองแดง ลาอิชราม เทวี 222 กก.
ส่วนไกรสอน ดัดถุยาวัฒ ลงประลองในรุ่นต่อมา โดยในท่าสแน็ตช์นั้น ไกรสอน ทำให้กองเชียร์ไทยต้องฝันสลาย เมื่อไม่สามารถยกผ่านได้ทั้ง 3 ครั้ง แม้จะพยายามแล้ว แต่ก็ไม่สามารถดันขาให้ลุกขึ้นได้ หมดโอกาสลุ้นเหรียญในท่านี้ไป ทำให้เหรียญทองตกเป็นของลู่เซี่ยวจุน ของจีน ยกได้ 158 กก. เหรียญเงิน ลู่จางเหลียง ของจีนเช่นกัน ทำได้ 152 กก. และเหรียญทองแดง ซอห์ราบ โมราดี จากอิหร่าน 146 กก.
สำหรับท่าคลีนแอนด์เจิร์คซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายที่มีสิทธิ์ลุ้นเหรียญกลับบ้าน โดยไกรสอน เริ่มต้นที่ 180 กก. และยกผ่านไปได้ด้วยดี แต่ในอีกสองครั้งต่อมาที่น้ำหนัก 185 และ 190 กก.นั้นไกรสอนไม่สามารถทำได้และต้องลมหงายท้องไปทั้งสองครั้ง แต่จอมพลังจากอิหร่านเรียกน้ำหนักครั้งสุดท้ายที่ 179 กก. ถึงแม้จะยกผ่านแต่น้ำหนักเหล็กก็น้อยกว่าจอมพลังหนุ่มของไทย ทำให้ไกรสอนคว้าเหรียญทองแดงไปทันที โดยในท่าคลีนแอนด์เจิร์คนี้ เหรียญทองเป็นของ ลู่จางเหลียงของจีน ด้วยน้ำหนัก 195 กก. เหรียญเงิน ลู่เซี่ยวจุน ของจีนเช่นกัน ยกได้ 188 กก. และเหรียญทองแดง ไกรสอน ดัดถุยาวัฒ ของไทย ที่ 180 กก.
ด้าน ไกรสอน ที่สร้างความใจหายใจคว่ำให้แก่กองเชียร์ไทยกล่าวว่า "ในท่าสแน็ตช์นั้นรู้ตัวว่าเป็นรองเขาอยู่แล้ว เพราะไม่ใช่ท่าถนัด ต้องรอลุ้นในท่าเจิร์ค เพราะคิดว่าคงสู้เอาเหรียญทองแดงได้ ส่วนเหรียญทองเราคงต้องยกให้จีนเขา น้ำหนักที่ยกได้วันนี้ก็เป็นน้ำหนักที่เคยซ้อมมา แต่ในสองครั้งหลังพยายามจะทำให้ได้มากกว่าที่เคยทำ แต่เห็นว่าไม่ไหวก็เลยปล่อยเหล็กให้หล่นไป ไม่อยากฝืน กลัวบาดเจ็บ และดีใจมากที่ยังสร้างสถิติให้ทีมไทยมีเหรียญกลับบ้านได้ทุกวัน"
ส่วนในวันที่ 30 เม.ย.นั้น จะเป็นวันที่ทีมจอมพลังไทยมีคิวลงทำการแข่งขันมากที่สุด โดยเริ่มที่ พิทยา ตีบนอก รุ่น 85 กก.ชายกลุ่มบี, วัชราวดี รัตนช่วง รุ่น 75 กก.หญิง, ขวัญชัย นุชพุ่ม และสุธิพร วัฒนากสิกรรม รุ่น 94 กก.ชาย และปิดท้ายด้วย แอนนิภา มูลธาร์ กับเมติยา ซื่อสัตย์ ในรุ่น บวก 75 กก.หญิง เริ่มการแข่งขันตั้งแต่เวลา 09.00 น.ตามเวลาในประเทศญี่ปุ่น