“โค้ชก๊อก” พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ กุนซือ “ฮัลโหล” ทีโอที สุดฉุนถูกยกเลิกเกมเตะกับ “จ่าฝูง” บีอีซี เทโรศาสน ทั้งที่ขายตั๋วหมดแล้ว พร้อมตั้งข้อสังเกต ผู้ควบคุมการแข่งขันมาช้ากว่ากำหนด แถมไม่เรียกทั้งสองทีมประชุมเพื่อแจ้งยกเลิก กร้าวเรื่องไม่จบง่ายๆ เตรียมทำรายงานเสนอคณะกรรมการบอลอาชีพและ กกท. พิจารณา
หลังจากเกิดเหตวุ่นวายการแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก 2008 คู่บิ๊กแมตซ์ระหว่าง ทีโอที เจ้าบ้านพบกับ “ยักษ์โขมด” บีอีซี เทโรศาสน เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา เมื่อ มร.ไบรอัน มาร์คา ประธานสโมสรบีอีซี ได้สั่งห้ามนักเตะลงแข่งขันและให้กลับไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว พร้อมกับเรียกกลับขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับโดยทันที เนื่องจากสนามน้ำแก้จนของทีมเจ้าถิ่นไม่ได้มาตรฐานโดยเฉพาะคานประประตูที่มีความสูงเพียง 2.20 เมตร ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ถึง 20 เซนติเมตร ก่อนที่ นายสุรศักดิ์ ทองสุวิมล ผู้ควบคุมการแข่งขัน จะมาประกาศยกเลิกการแข่งขันในภายหลัง ทำให้บรรดาแฟนบอลที่เข้ามาเชียร์จนแน่นสนามเกิดความไม่พอใจโห่ไล่ผู้ควบคุมการแข่งขัน
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว “โค้ชก๊อก” พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ กุนซือทีโอที กล่าวถึงการทำหน้าที่ของผู้ควบคุมการแข่งขันว่า “หากเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาจนไม่สามารถแข่งขันได้ทำไมไม่มาตรวจก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพราะตั๋วก็ขายไปหมดแล้วคนดูก็แน่นใครจะไปแก้ไขทัน เวลาก็ผ่านไปจนถึง 4 โมงครึ่ง นอกจากนี้ เมื่อยังไม่ประกาศยกเลิกการแข่งขันทำไมผู้เล่นบีอีซี เทโรศาสน ถึงเปลี่ยนชุด อันที่จริงแล้วหากจะยกเลิกผู้ควบคุมต้องเชิญผู้จัดการทีมทั้งสองฝ่ายมาบอก นี่ไม่รู้ว่าผู้จัดการทีมของบีอีซีฯหายไปไหน นักกีฬาก็ไม่สนใจเดินออกจากสนามกันหมด”
โค้ชก็อก ยังกล่าวต่อไปว่า “ผมอยากจะตั้งข้อสังเกตุและคำถาม 3 ข้อว่า 1. ผู้ควบคุมการแข่งขันทำไมมาช้ามาตอนใกล้จะ 4 โมงเย็นแล้วถ้ามาก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมงแล้วมาตรวจเราจะได้ไม่ขายตั๋ว 2. จะยกเลิกการแข่งขันทำไมไม่เรียกผู้จัดการทีมทั้งสองฝ่ายมาประชุม และ 3. ทำไมนักเตะบีอีซี เทโรศาสน เปลี่ยนชุดทั้งๆที่ยังไม่ประกาศยกเลิกการแข่งขัน บอกตรงๆ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นถึงขั้นที่แฟนบอลโห่ไล่ทำให้เสียภาพโดยเฉพาะสมาคมฟุตบอลฯ กับ บีอีซี เทโรศาสน”
“อย่างที่บอกผู้ควบคุมการแข่งขันต้องมาถึงสนามก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมงไม่ใช่มาตอนที่กำลังจะแข่งขันหรือถ้าจะให้ถูกมาตรฐานต้องมีการประชุมผู้จัดการทีมกันก่อนในช่วงเช้า และผมบอกได้เลยว่าสนามแห่งนี้ผ่านการตรวจมาทุกครั้งซึ่งเรื่องนี้ไม่จบแน่ ผมจะทำรายงานตามความเป็นจริงไปให้กับทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพของประเทศไทยและ กกท.พิจารณา ในวันที่ 29 เม.ย.นี้”