ลูกา โทนี เหมาสองประตูสำคัญในช่วงต่อเวลาพิเศษช่วยให้ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค บุกไปยันเสมอ เคตาเฟ 3-3 ได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศศึกฟุตบอล ยูฟ่า คัพ ด้วยกฎประตูทีมเยือนหลังเสมอกันสองนัด 4-4
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง
เคตาเฟ (สเปน) 1-1 บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี)
(หลังต่อเวลาพิเศษเสมอกัน 3-3 รวมผลสองนัด บาเยิร์นฯ เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน 4-4)
อ็อตมาร์ ฮิทซ์เฟลด์ นำพลพรรค “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค มาเยือนถิ่นกระทิงดุปะทะเกือก เคตาเฟ ในศึกยุโรปถ้วยใบเล็ก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดชี้ชะตา หลังจากที่นัดแรกยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีทำได้แค่เสมอในถิ่น 1-1 โดยทีมเยือนจัดทัพชุดใหญ่ลงสนามนำโดย ฟรองค์ ริเบรี และลูกา โทนี ขณะที่ ไมเคิล เลาดรูป ไม่มีปัญหาในการจัดทีมชุดที่ดีที่สุด เกมนี้ความหวังของเจ้าบ้านอยู่ที่ รูเบน เดอ ลา เรด และอิเกชุควู อูเช กองหน้าชาวไนจีเรียน
เริ่มเกมการแข่งขันไม่ถึงนาที ความผิดพลาดในแผงรับ เคตาเฟ เกือบส่งของขวัญแก่ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อ มิโรสลาฟ โคลเซ ฉกบอลได้ก่อนเปิดจากสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายเข้ากลางให้ ฟรองค์ ริเบรี แปเน้นๆ ด้วยขวาแต่บอลดันพุ่งไปโดนขา ลูกา โทนี เพื่อนร่วมทีมกระเด้งออกมาอย่างโชคร้าย แต่เจ้าบ้านสวนกลับขึ้นไปทันควัน คอสมิน คอนทรา เติมเกมรุกขึ้นมาอัดด้วยขวาส่งบอลเฉียดคานไปแบบได้ลุ้น
อย่างไรก็ตาม ผ่านไปแค่ 7 นาทีเริ่มมีจุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้นเมื่อเจ้าบ้านเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน รูเบน เดอ ลา เรด ไปฉุดรั้ง โคลเซ ในจังหวะจะหลุดเดี่ยวเข้ากรอบโทษทำให้ มัสซิโม บูซัคกา เชิ้ตดำชาวสวิสควักใบแดงไล่กองกลาง เคตาเฟ ออกไปทันที และจากลูกฟรีคิกบริเวณหัวกะโหลก ริเบรี ซัดบอลพุ่งไปชนเสากระดอนมาให้ โทนี ซ้ำเข้าไป ทว่า “เสือใต้” ไม่ได้ประตูนำเนื่องจากหัวหอกทีมชาติอิตาลีใช้แขนพักบอลก่อนยิง
เข้าสู่ครึ่งทางของครึ่งแรก เคตาเฟ โชคไม่เข้าข้างอีกครั้งเมื่อ อิเกชุควู อูเช หัวหอกตัวความหวังบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวาจนเล่นต่อไม่ไหวจากการพยายามสปีดไปเอาบอลก่อนแตะหลบ ฟิลิป ลาห์ม ทำให้ ไมเคิล เลาดรูป ต้องแก้เกมด้วยการส่ง ดาวิด เบเลนเกร์ ซึ่งเป็นผู้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟมาเติมเกมรับ และก็ปรับแท็คติกให้ มานูเอล มานู ดันสูงไปยืนเป็นหน้าเป้า
แม้จะเหลือผู้เล่นน้อยกว่าแต่ เคตาเฟ ยังเล่นเกมได้แน่นอนยันไม่ให้ บาเยิร์นฯ เติมเกมรุกได้ถนัด แต่ทีมเยือนพลาดโอกาสได้ประตูนำในนาทีที่ 34 เมื่อ โรแบร์โต อับบอนดานเซียรี ออกมาตัด พลาดหลุดไปให้ คริสเตียน เลลล์ ได้ยิงแต่ดันลื่นทำให้อัดบอลหลุดกรอบไป ก่อนหมดครึ่งแรกแค่นาทีเดียวเจ้าถิ่นอาศัยจังหวะสวนกลับขึ้นนำ 1-0 เมื่อ คอนทรา ลากหลุดขึ้นมาก่อนตัดเข้าเขตโทษยิงด้วยขวาส่งบอลพุ่งแสกหน้า โอลิเวอร์ คาห์น เข้าไปอย่างสวยงาม
ลงมาลุยต่อในครึ่งหลัง ฮิทซ์เฟลด์ มีการแก้เกมให้ทีมเยือนส่ง มาร์เซล แยนเซน ลงมาเล่นแทนและก็ปรับแท็คติกให้ ฟิลิป ลาห์ม โยกมายืนเป็นแบ็กขวา นาทีที่ 48 แฟนๆ “เสือใต้” เฮเก้ออีกครั้งเมื่อ ฟาน บอมเบล หยอดฟรีคิกให้ โทนี โหม่งตุงตาข่ายแต่ผู้ตัดสินเป่าฟาล์วเมื่อเห็นศูนย์หน้าร่างใหญ่ไปเบียดเอา ดาวิด เบเลนเกร์ ล้มลงไป แต่ บาเยิร์นฯ ก็เริ่มโหมใส่เป็นชุด แยนเซน เติมขึ้นมาเปิดบอลทางกราบซ้ายกะให้ ชไวน์สไตเกอร์ เข้าชาร์จแต่ก็โดนแผงหลังเจ้าถิ่นแหย่เท้าสกัดออกไป
เคตาเฟ ตั้งรับเสียเป็นส่วนใหญ่แต่จังหวะสวนเมื่อถึงหนึ่งชั่วโมงพอดีเกือบเป็นผล ไฮเม กาบิลัน จ่ายให้ ฟรานซิสโก คาสเกโร ได้ยิงเหน่งๆ บริเวณกรอบโทษแต่บอลกวาดหลุดกรอบไป บาเยิร์นฯ โต้ตอบกลับไป เซ โรแบร์โต เปิดบอลให้ โคลเซ พักอกก่อนตะบันด้วยขวาข้ามคาน นาทีที่ 67 เจ้าบ้านทิ้งโอกาสฝังชัยเมื่อ โนเบรกา เบราลิโอ กองหน้าสำรองหลุดเข้าเขตโทษแตะหลบ คาห์น ไปแล้วแต่ตัวเองดันลื่นล้มพลาดโอกาสยิงประตูไปอย่างน่าเสียดาย
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย บาเยิร์นฯ ต้องให้ ลูคัส โพดอลสกี ลงมาเติมเกมบุกแบบเต็มสูบปรับมาเล่นหน้าสามคนและก็ถอด เซ โรแบร์โต ออกมา แต่เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูตอกฝาโรงเมื่อ กาบิลัน ปั๊มบอลแตะหลุด คาห์น ก่อนตอกส้นหวังให้ เบราลิโอ เข้ามาแปเน้นๆ ทว่า ลาห์ม สไลด์บอลออกไปได้หวุดหวิด เมื่อทำไม่ได้กลายเป็นทีมเยือนตามเสมอ 1-1 ก่อนหมดเวลาแค่นาทีเดียว โทนี โหม่งตั้งในกรอบโทษ ดาวิด กอร์เตส เคลียร์ไม่ขาดมาเข้าทางให้ ริเบรี กระทุ้งเข้าไป ครบ 90 นาทีสกอร์รวมเสมอกัน 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
เปิดฉากช่วงต่อเวลาไปแค่นาทีเดียว เคตาเฟ ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 เมื่อ คาสเกโร ได้ซัดเต็มๆ ด้วยขวาส่งลูกหนังกระแทกเสาเข้าไปตุงตาข่าย และอีกสองนาทีถัดมาแฟนๆ ทีมเยือนต้องช็อกอีกครั้งเมื่อปล่อยให้เจ้าถิ่นทิ้งไปเป็น 3-1 จากการสกัดไม่ขาดของ ลูซิโอ ทำให้ เบราลิโอ ได้กระหน่ำจ่อๆ อย่างไรก็ตาม “เสือใต้” จะไล่มา 2-3 จากความผิดพลาดของ อับบอนดานเซียรี ที่รับบอลหลุดทำให้ โทนี จิ้มจ่อๆ เข้าไป ก่อนที่นาทีสุดท้ายปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น โทนี ทำประตูที่สองของตัวเองช่วยให้ทีมเยือนตามเจ๊า 3-3 ครบ 120 นาที บาเยิร์นฯ เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือนหลังสองนัดเสมอกันไป 4-4 ได้ไปตัดเชือกกับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สโมสรจากรัสเซียต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เคตาเฟ : โรแบร์โต อับบอนดานเซียรี , คอสมิน คอนทรา , ดาวิด กอร์เตส , มานูเอล เตนา , ลูคัส ลิชท์ , ฟาบิโอ เซเลสตินี , ฟรานซิสโก คาสเกโร , รูเบน เดอ ลา เรด , ไฮเม กาบิลัน , มานูเอล มานู , อิเกชุควู อูเช
บาเยิร์นฯ : โอลิเวอร์ คาห์น , คริสเตียน เลลล์ , ลูซิโอ , มาร์ติน เดมิเชลิส , ฟิลิป ลาห์ม , ฟรองค์ ริเบรี , มาร์ค ฟาน บอมเมล , เซ โรแบร์โต , บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ , มิโรสลาฟ โคลเซ , ลูกา โทนี
ผลฟุตบอล ยูฟ่า คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง
เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) 0-1 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (เยอรมนี)
[0-1 : ดิมิทรี บูลิคิน (น.18)]
(รวมผลสองนัด เซนิต เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-2)
เคตาเฟ (สเปน) 1-1 บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี)
[1-0 : คอสมิน คอนทรา (น.44) , 1-1 : ฟรองค์ ริเบรี (น.89) , 2-1 : ฟรานซิสโก คาสเกโร (น.91) , 3-1 : โนเบรกา เบราลิโอ (น.93) , 3-2 : ลูกา โทนี (น.115) , 3-3 ลูกา โทนี (น.120)]
(รวมผลสองนัดหลังต่อเวลาพิเศษเสมอ 3-3 บาเยิร์นฯ เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน 4-4)
พีเอสวี ไอนด์โอเฟน (ฮอลแลนด์) 0-2 ฟิออเรนตินา (อิตาลี)
[0-1 : อาเดรียน มูตู (น.37) , 0-2 : อาเดรียน มูตู (น.53)]
(รวมผลสองนัด ฟิออเรนตินา เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)
สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส) 0-2 กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์)
[0-1 : ฌอง-โคลด ดาร์เชอวิลล์ (น.60) , 0-2 : สตีเวน วิทเทคเกอร์ (น.90)]
(รวมผลสองนัด เรนเจอร์ส เข้ารอบด้วยประตูรวม 2-0)
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง
เคตาเฟ (สเปน) 1-1 บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี)
(หลังต่อเวลาพิเศษเสมอกัน 3-3 รวมผลสองนัด บาเยิร์นฯ เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน 4-4)
อ็อตมาร์ ฮิทซ์เฟลด์ นำพลพรรค “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค มาเยือนถิ่นกระทิงดุปะทะเกือก เคตาเฟ ในศึกยุโรปถ้วยใบเล็ก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดชี้ชะตา หลังจากที่นัดแรกยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีทำได้แค่เสมอในถิ่น 1-1 โดยทีมเยือนจัดทัพชุดใหญ่ลงสนามนำโดย ฟรองค์ ริเบรี และลูกา โทนี ขณะที่ ไมเคิล เลาดรูป ไม่มีปัญหาในการจัดทีมชุดที่ดีที่สุด เกมนี้ความหวังของเจ้าบ้านอยู่ที่ รูเบน เดอ ลา เรด และอิเกชุควู อูเช กองหน้าชาวไนจีเรียน
เริ่มเกมการแข่งขันไม่ถึงนาที ความผิดพลาดในแผงรับ เคตาเฟ เกือบส่งของขวัญแก่ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อ มิโรสลาฟ โคลเซ ฉกบอลได้ก่อนเปิดจากสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายเข้ากลางให้ ฟรองค์ ริเบรี แปเน้นๆ ด้วยขวาแต่บอลดันพุ่งไปโดนขา ลูกา โทนี เพื่อนร่วมทีมกระเด้งออกมาอย่างโชคร้าย แต่เจ้าบ้านสวนกลับขึ้นไปทันควัน คอสมิน คอนทรา เติมเกมรุกขึ้นมาอัดด้วยขวาส่งบอลเฉียดคานไปแบบได้ลุ้น
อย่างไรก็ตาม ผ่านไปแค่ 7 นาทีเริ่มมีจุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้นเมื่อเจ้าบ้านเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน รูเบน เดอ ลา เรด ไปฉุดรั้ง โคลเซ ในจังหวะจะหลุดเดี่ยวเข้ากรอบโทษทำให้ มัสซิโม บูซัคกา เชิ้ตดำชาวสวิสควักใบแดงไล่กองกลาง เคตาเฟ ออกไปทันที และจากลูกฟรีคิกบริเวณหัวกะโหลก ริเบรี ซัดบอลพุ่งไปชนเสากระดอนมาให้ โทนี ซ้ำเข้าไป ทว่า “เสือใต้” ไม่ได้ประตูนำเนื่องจากหัวหอกทีมชาติอิตาลีใช้แขนพักบอลก่อนยิง
เข้าสู่ครึ่งทางของครึ่งแรก เคตาเฟ โชคไม่เข้าข้างอีกครั้งเมื่อ อิเกชุควู อูเช หัวหอกตัวความหวังบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวาจนเล่นต่อไม่ไหวจากการพยายามสปีดไปเอาบอลก่อนแตะหลบ ฟิลิป ลาห์ม ทำให้ ไมเคิล เลาดรูป ต้องแก้เกมด้วยการส่ง ดาวิด เบเลนเกร์ ซึ่งเป็นผู้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟมาเติมเกมรับ และก็ปรับแท็คติกให้ มานูเอล มานู ดันสูงไปยืนเป็นหน้าเป้า
แม้จะเหลือผู้เล่นน้อยกว่าแต่ เคตาเฟ ยังเล่นเกมได้แน่นอนยันไม่ให้ บาเยิร์นฯ เติมเกมรุกได้ถนัด แต่ทีมเยือนพลาดโอกาสได้ประตูนำในนาทีที่ 34 เมื่อ โรแบร์โต อับบอนดานเซียรี ออกมาตัด พลาดหลุดไปให้ คริสเตียน เลลล์ ได้ยิงแต่ดันลื่นทำให้อัดบอลหลุดกรอบไป ก่อนหมดครึ่งแรกแค่นาทีเดียวเจ้าถิ่นอาศัยจังหวะสวนกลับขึ้นนำ 1-0 เมื่อ คอนทรา ลากหลุดขึ้นมาก่อนตัดเข้าเขตโทษยิงด้วยขวาส่งบอลพุ่งแสกหน้า โอลิเวอร์ คาห์น เข้าไปอย่างสวยงาม
ลงมาลุยต่อในครึ่งหลัง ฮิทซ์เฟลด์ มีการแก้เกมให้ทีมเยือนส่ง มาร์เซล แยนเซน ลงมาเล่นแทนและก็ปรับแท็คติกให้ ฟิลิป ลาห์ม โยกมายืนเป็นแบ็กขวา นาทีที่ 48 แฟนๆ “เสือใต้” เฮเก้ออีกครั้งเมื่อ ฟาน บอมเบล หยอดฟรีคิกให้ โทนี โหม่งตุงตาข่ายแต่ผู้ตัดสินเป่าฟาล์วเมื่อเห็นศูนย์หน้าร่างใหญ่ไปเบียดเอา ดาวิด เบเลนเกร์ ล้มลงไป แต่ บาเยิร์นฯ ก็เริ่มโหมใส่เป็นชุด แยนเซน เติมขึ้นมาเปิดบอลทางกราบซ้ายกะให้ ชไวน์สไตเกอร์ เข้าชาร์จแต่ก็โดนแผงหลังเจ้าถิ่นแหย่เท้าสกัดออกไป
เคตาเฟ ตั้งรับเสียเป็นส่วนใหญ่แต่จังหวะสวนเมื่อถึงหนึ่งชั่วโมงพอดีเกือบเป็นผล ไฮเม กาบิลัน จ่ายให้ ฟรานซิสโก คาสเกโร ได้ยิงเหน่งๆ บริเวณกรอบโทษแต่บอลกวาดหลุดกรอบไป บาเยิร์นฯ โต้ตอบกลับไป เซ โรแบร์โต เปิดบอลให้ โคลเซ พักอกก่อนตะบันด้วยขวาข้ามคาน นาทีที่ 67 เจ้าบ้านทิ้งโอกาสฝังชัยเมื่อ โนเบรกา เบราลิโอ กองหน้าสำรองหลุดเข้าเขตโทษแตะหลบ คาห์น ไปแล้วแต่ตัวเองดันลื่นล้มพลาดโอกาสยิงประตูไปอย่างน่าเสียดาย
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย บาเยิร์นฯ ต้องให้ ลูคัส โพดอลสกี ลงมาเติมเกมบุกแบบเต็มสูบปรับมาเล่นหน้าสามคนและก็ถอด เซ โรแบร์โต ออกมา แต่เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูตอกฝาโรงเมื่อ กาบิลัน ปั๊มบอลแตะหลุด คาห์น ก่อนตอกส้นหวังให้ เบราลิโอ เข้ามาแปเน้นๆ ทว่า ลาห์ม สไลด์บอลออกไปได้หวุดหวิด เมื่อทำไม่ได้กลายเป็นทีมเยือนตามเสมอ 1-1 ก่อนหมดเวลาแค่นาทีเดียว โทนี โหม่งตั้งในกรอบโทษ ดาวิด กอร์เตส เคลียร์ไม่ขาดมาเข้าทางให้ ริเบรี กระทุ้งเข้าไป ครบ 90 นาทีสกอร์รวมเสมอกัน 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
เปิดฉากช่วงต่อเวลาไปแค่นาทีเดียว เคตาเฟ ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 เมื่อ คาสเกโร ได้ซัดเต็มๆ ด้วยขวาส่งลูกหนังกระแทกเสาเข้าไปตุงตาข่าย และอีกสองนาทีถัดมาแฟนๆ ทีมเยือนต้องช็อกอีกครั้งเมื่อปล่อยให้เจ้าถิ่นทิ้งไปเป็น 3-1 จากการสกัดไม่ขาดของ ลูซิโอ ทำให้ เบราลิโอ ได้กระหน่ำจ่อๆ อย่างไรก็ตาม “เสือใต้” จะไล่มา 2-3 จากความผิดพลาดของ อับบอนดานเซียรี ที่รับบอลหลุดทำให้ โทนี จิ้มจ่อๆ เข้าไป ก่อนที่นาทีสุดท้ายปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น โทนี ทำประตูที่สองของตัวเองช่วยให้ทีมเยือนตามเจ๊า 3-3 ครบ 120 นาที บาเยิร์นฯ เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือนหลังสองนัดเสมอกันไป 4-4 ได้ไปตัดเชือกกับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สโมสรจากรัสเซียต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เคตาเฟ : โรแบร์โต อับบอนดานเซียรี , คอสมิน คอนทรา , ดาวิด กอร์เตส , มานูเอล เตนา , ลูคัส ลิชท์ , ฟาบิโอ เซเลสตินี , ฟรานซิสโก คาสเกโร , รูเบน เดอ ลา เรด , ไฮเม กาบิลัน , มานูเอล มานู , อิเกชุควู อูเช
บาเยิร์นฯ : โอลิเวอร์ คาห์น , คริสเตียน เลลล์ , ลูซิโอ , มาร์ติน เดมิเชลิส , ฟิลิป ลาห์ม , ฟรองค์ ริเบรี , มาร์ค ฟาน บอมเมล , เซ โรแบร์โต , บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ , มิโรสลาฟ โคลเซ , ลูกา โทนี
ผลฟุตบอล ยูฟ่า คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง
เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) 0-1 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (เยอรมนี)
[0-1 : ดิมิทรี บูลิคิน (น.18)]
(รวมผลสองนัด เซนิต เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-2)
เคตาเฟ (สเปน) 1-1 บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี)
[1-0 : คอสมิน คอนทรา (น.44) , 1-1 : ฟรองค์ ริเบรี (น.89) , 2-1 : ฟรานซิสโก คาสเกโร (น.91) , 3-1 : โนเบรกา เบราลิโอ (น.93) , 3-2 : ลูกา โทนี (น.115) , 3-3 ลูกา โทนี (น.120)]
(รวมผลสองนัดหลังต่อเวลาพิเศษเสมอ 3-3 บาเยิร์นฯ เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน 4-4)
พีเอสวี ไอนด์โอเฟน (ฮอลแลนด์) 0-2 ฟิออเรนตินา (อิตาลี)
[0-1 : อาเดรียน มูตู (น.37) , 0-2 : อาเดรียน มูตู (น.53)]
(รวมผลสองนัด ฟิออเรนตินา เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)
สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส) 0-2 กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์)
[0-1 : ฌอง-โคลด ดาร์เชอวิลล์ (น.60) , 0-2 : สตีเวน วิทเทคเกอร์ (น.90)]
(รวมผลสองนัด เรนเจอร์ส เข้ารอบด้วยประตูรวม 2-0)
