หลังจากเปิดฉากออกสตาร์ทฤดูกาล 2008 ไปได้ไม่กี่เดือน ชื่อของ “อเมลี มัวเรสโม่” สาวหล่อแห่งวงการลูกสักหลาดชาวฝรั่งเศส ที่เคยขึ้นถึงมือหนึ่งของโลกมาแล้ว เรียกได้ว่าแทบเลือนหายไปจากคอร์ตเทนนิส ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลงานรวมถึงฟอร์มการเล่นในปีที่ผ่านมานั้นไม่สามารถหยิบแชมป์หรือเข้ารอบลึกในรายการสำคัญได้สำเร็จ อีกประการเห็นจะเป็นความร้อนแรงของคลื่นลูกใหม่ที่พากันกลบรัศมีอดีตคนเคยฮอตที่ปัจจุบันอยู่ในวัยใกล้เกษียณของวงการเทนนิสอาชีพ
ย้อนกลับไปดูผลงานของ มัวเรสโม่ จะเห็นได้ว่าฟอร์มของเธอเริ่มสะดุดหลังถอนตัวจากการแข่งขันรายการโซนี่ อีริคส์สัน โอเพ่น ที่ไมอามี่ เมื่อเดือนมีนาคม ปีที่แล้วอันเนื่องมาจากอาการไส้ติ่งอักเสบ เป็นผลให้เธอร้างสนามไปนานกว่า 2 เดือน ก่อนที่จะกลับมาลงสนามใหม่อีกครั้งในทัวร์นาเมนต์ กาต้าร์ เทเลคอม เยอรมัน โอเพ่น ที่เบอร์ลิน ซึ่งสาวหล่อ ร่วงตกรอบสาม หลังพ่ายให้กับ “จูเลีย วาคูเลนโก้” จากยูเครน แต่นั่นยังไม่น่าเจ็บใจเท่ากับการปราชัยต่อ “ซาแมนธา สโตเซอร์” มือรองบ่อนจากออสเตรเลีย ในการแข่งขันรอบสอง ศึกเทนนิส Internazionali d'Italia ที่กรุงโรม ซึ่งมัวเรสโม่ นำถึง 5-3 เกม ในเซตที่สาม แถมยังได้แมทช์พอยต์สอีกด้วย
เมื่อทัวร์นาเม้นท์แกรนด์สแลมบนคอร์ตหญ้า “วิมเบิลดัน” เวียนมาถึง มัวเรสโม่ ในฐานะ ก็มิอาจเดินหน้าเข้าไปป้องกันแชมป์ในรอบลึกๆได้แถมกระเด็นตกรอบสี่ ด้วยน้ำมือของ “นิโคล ไวดิโซว่า” ดาวรุ่งจากสาธารณรัฐเช็ก และจากความพ่ายแพ้ในครั้งนี้เองที่ดีดเธอให้ร่วงลงจากอันดับท็อป 5 ของโลกเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2003
ถึงเวลานี้ฤดูกาลใหม่ผ่านมาได้เกือบสามเดือน แข่งแกรนด์สแลมไปแล้วหนึ่งรายการ มัวเรสโม่ ยังคงควานหาฟอร์มเก่งไม่เจอ เธอลงแข่งทั้งสิ้น 5 รายการ แพ้ 8 ชนะ 5 ผลงานที่ดีที่สุด คือ ทะลุรอบ 8 คนสุดท้าย ศึกเทนนิสรายการ โอเพ่น กาซ เดอ ฟรองซ์ และ ดูไบ แชมเปี้ยนชิปส์ อันดับโลกหล่นมาอยู่ที่ 27 ของโลกซึ่งภายหลังจากพ่ายพลิกล็อกต่อ “แทมมี่” แทมมารีน ธนสุกาญจน์ นักเทนนิสสาวขวัญใจชาวไทย ในการแข่งขันรอบสอง ศึกเทนนิสรายการ กาต้าร์ โอเพ่น เมื่อเดือนที่แล้ว มัวเรสโม่ ก็ได้ออกมายอมรับว่า ด้วยฟอร์มการเล่นที่คว้าชัยได้เพียง 8 นัด ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว เธอกำลังคิดถึงการแขวนแรกเก็ตโดยกล่าวกับหนังสือพิมพ์ “เล กิบ” ของฝรั่งเศสว่า “บางครั้งฉันถามตัวเองว่า นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่ มันจะดีกว่าไหม ถ้าเลิกเล่นตอนนี้”
เพียงประโยคเดียวจากการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวทำให้เกิดคำถามขึ้นทั่ววงการลูกสักหลาดฝรั่งเศส หากมัวเรสโม่ วางมือใครจะมาแทนที่มาตรฐานที่เธอวางไว้ได้เมื่อสแกนสำรวจที่ดูจะเข้าตาเห็นจะมีด้วยกันสองราย คนแรก คือ “มาริยง บาร์โตลี่” วัย 23 ปี ส่วนอีกคน คือ “ตาเตียน่า โกโลแวง” วัย 20 ปี ทั้งสองถือเป็นนักเทนนิสสายเลือดใหม่ของวงการลูกสักหลาดฝรั่งเศส โดยผลงานชิ้นโบว์แดงของบาร์โตลี่ มืออันดับ 9 ของโลก คือ การทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ศึกเทนนิสวิมเบิลดัน เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ โกโลแวง ผลงานที่ดีที่สุดของเธอ คือ การผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายในการแข่งขันยูเอส โอเพ่น เมื่อปี 2006 ซึ่งตอนนี้เธอรั้งอันดับที่ 13 ของโลกอยู่
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางกระแสข่าวการแขวนแรกเก็ตของมัวเรสโม่ มีแฟนเทนนิสอยู่อีกหลายคนที่มีความเห็นว่ายังไม่น่าถึงเวลาที่สาวหล่อจะโบกมืออำลาวงการ เพราะพวกเขาเชื่อว่า มัวเรสโม่ ซึ่งคว้าแชมป์ครั้งสุดท้าย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ในรายการ พร็อกซิมัส ไดมอนด์ เกมส์ ที่เบลเยี่ยม จะสามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้สำเร็จ เหมือนอย่างที่ “ลินด์เซย์ ดาเวนพอร์ต” หวดแม่ลูกอ่อนที่กลับมาโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมหลังคลอดลูกคนแรก ได้เพียงไม่กี่เดือน
แต่ท้ายที่สุดหากสาวหล่อถอดใจและยุติเส้นทางเทนนิสอาชีพของตัวเองลงจริงๆ ก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรสำหรับวงการแรกเก็ตหญิง ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว ก็เพิ่งจะเสีย 2 นักหวดสาวมือดี หลังจาก “คิม ไคลจ์สเตอร์ส” วัย 24 ปี และ “มาร์ติน่า ฮินกิส” วัย 27 ปี ตัดสินใจประกาศแขวนแรกเก็ตไปแบบสายฟ้าแล่บ
ขณะที่ยังไม่มีบทสรุปอนาคตที่ชัดเจนของมัวเรสโม่ แต่นักกีฬาเมื่อก้าวมาถึงในวัยที่อยู่ในช่วงปลายอายุ 20 โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักกีฬาหญิงนั้นถือว่าเป็นโค้งสุดท้ายของการยืนระยะว่าจะจบแบบตำนานหรือเป็นบันไดให้นักเทนนิสรุ่นน้องได้ก้าวข้าม
หากคำกล่าวที่ว่า ‘งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา’ ยังคงใช้ได้ดีกับกราฟชีวิตที่ขึ้นลงของนักกีฬาอาชีพ คำตอบที่แฟนเทนนิสรอคอยจากสาวหล่อว่าเมื่อใดเธอจะปิดประตูงานเลี้ยงนั้น เวลาและผลงานที่จะเกิดขึ้นในฤดูกาลนี้น่าจะเป็นตัวตัดสินที่ชัดเจนมากที่สุด
