หลังร่วงตกรอบแรก ศึกเทนนิสรายการ ดูไบ แชมเปี้ยนชิปส์ ไปแบบเหนือความคาดหมาย เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ หวดหมายเลข 1 ของโลก ก็ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ฟอร์มการเล่นของ แอนดี้ เมอร์เรย์ หวดมือ 11 ของโลก ที่ยัดเหยียดความปราชัยเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีครึ่ง ว่า มีฟอร์มการเล่นที่ไม่พัฒนาขึ้นเลย
สำนักข่าวรอยเตอร์ประจำนครดูไบ รายงานว่า โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ หวดหมายเลข 1 ของโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ออกโรงวิพากษ์วิจารณ์คู่แข่ง แอนดี้ เมอร์เรย์ ที่เขี่ยเขาร่วงตกรอบแรก ศึกเทนนิสรายการ ดูไบ แชมเปี้ยนชิปส์ ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการตกรอบแรกในรอบ 3 ปีครึ่งว่า ไม่พัฒนาไปจากที่เคยพบกันเมื่อ 2 ปีครึ่งที่ผ่านมาเลย
โดยหลังเกมพ่ายตกรอบแรก ศึกเทนนิสดูไบ แชมเปี้ยนชิปส์ ด้วยน้ำมือ เมอร์เรย์ วัย 20 ปี 2-1 เซต 6-7, 6-3, 6-4 มือ 1 โลก วัย 26 ปี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์แบบเหน็บคู่แข่งเล็กๆ ว่า “ผมไม่คิดว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงเกมการเล่นไปมากมายอะไร นับตั้งแต่เจอกันครั้งล่าสุดในรอบชิงชนะเลิศ ศึกเทนนิสไทยแลนด์โอเพ่น”
“มันอาจไม่ใช่เรื่องที่น่าผิดหวังอะไร แต่ผมคิดว่าจริงๆแล้วเขาน่าจะเปลี่ยนแปลงเกมการแล่นไปในทางอื่นบ้าง” เฟดเอ็กซ์ เปิดฉากวิจารณ์คู่แข่งต่อ “เขาคงต้องทำงานหนักขึ้น หากต้องการรักษาระดับการเล่นให้อยู่ในระดับท็อป ซึ่งมันคงเป็นเรื่องยาก หากเขายังเล่นแบบนี้ต่อไป”
“เขายืนห่างจากท้ายคอร์ตมาก นั่นหมายความว่าจะต้องวิ่งมากขึ้น และดูเหมือนว่าเขาจะตั้งตารอจังหวะผิดพลาดของฝ่ายตรงข้ามมากกว่า ซึ่งผมก็ได้มอบสิ่งนั้นให้เขาไปในวันนี้ แต่จากประสบการณ์ 15 ปีในสนาม คุณจะต้องมองหาแต้มจากตัวเองมากกว่าที่จะมาจากคู่แข่ง (ซึ่งพลาดให้) ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จในหลายปีที่ผ่านมา แต่ใครจะรู้ว่า เขา (เมอร์เรย์) อาจจะเซอร์ไพร์สพวกเราและทำมันในอีก 20 ปี ข้างหน้าก็ได้” หวดชาวสวิส กล่าวตบท้าย
ขณะเดียว เมอร์เรย์ ซึ่งไม่ยอมโดนโจมตีฝ่ายเดียว ได้ออกมาตอบโต้คำวิจารณ์ของเฟดเอ็กซ์อย่างถึงพริกถึงขิงว่า “คุณจะเล่นต่างออกไปกับผู้เล่นอีกคน อย่างเกมกับ ราฟาเอล นาดาล ในการแข่งขันออสเตรเลียน โอเพ่น (2007) ผมยืนอยู่ใกล้กับเส้นท้ายคอร์ตมาก แม้มันจะเสี่ยง แต่ก็เป็นวิธีที่ถูกต้องในการรับมือกับผู้เล่นอย่าง นาดาล แต่กับเฟเดอเรอร์ ผมไม่คิดว่า นี่เป็นวิธีที่ถูก”
นอกจากนี้ หวดมือ 11 ของโลกชาวสกอตติช ยังกล่าวต่อไปว่า “ลูกเสิร์ฟของผมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังรู้สึกว่าตัวเองเร็วและแข็งแรงขึ้นอีกด้วย เช่นเดียวกับสภาพจิตใจที่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ แต่แน่นอนว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ผมต้องพัฒนาต่อไป และคิดว่ามันคงเริ่มขึ้นในปีนี้อย่างแน่นอน”