ทีม"เสือใต้"บาเยิร์น มิวนิค โชว์ฟอร์มสุดโหดเมื่อไล่ถล่ม อเบอร์ดีนจากสก็อตแลนด์ ไปถึง 5-1 ในขณะที่"ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน"เอฟเวอร์ตันไม่น้อยหน้าไล่อัดบรานน์จากนอร์เวย์ไป 6-1 ส่วนสเปอร์สทำได้แค่เสมอกับสลาเวีย ปรากจากเช็ค 1-1 แต่อย่างไรก็ดีทั้ง 3 ทีมต่างกันจูงมือกันเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่าคัพได้สำเร็จ
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2
บาเยิร์น (เยอรมนี) 5-1 อเบอร์ดีน (สก็อตแลนด์)
(รวมผล 2 นัด บาเยิร์นผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 7-3)
เกมยูฟ่า คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 ประจำคืนวันพฤหัสบดีทีม"เสือใต้"บาเยิร์น มิวนิค จากเยอรมนี เปิดสนาม อัลลิแอนส์ อารีน่า รับการมาเยือนของอเบอร์ดีนทีมดังจากสก็อตแลนด์ โดยเกมในนัดแรกทั้งคู่เสมอกันมา 2-2 ในนัดนี้ อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ กุนซือของ"เสือใต้"หมดสิทธิ์ใช้งาน ฟร้องค์ ริเบรี่ เพลย์เมคเกอร์ของทีมเนื่องจากยังมีอาการบาดเจ็บ นอกจากนั้น ฮิตซ์เฟลด์ ยังดร็อป มิโลสลาฟ โคลเซ่ หัวหอกทีมชาติเยอรมนีไว้ที่ข้างสนาม และวางให้ ลูก้า โทนี่ หัวหอกอิตาเลี่ยนเป็นกองหน้าคู่กับ ลูคัส โพดอลสกี้
เริ่มเกมมาได้ 7 นาที ลูคัส โพดอลสกี้ หัวหอกของบาเยิร์นได้โอกาสยิงก่อน แต่บอลเบาไป เจมี่ แลงฟิลด์ นายทวารของอเบอร์ดีนล้มตัวรับไว้ได้ ถัดจากนั้น อเบอร์ดีน มีโอกาสได้ยิงเป็นครั้งแรกของเกมบ้าง แต่ สก็อตต์ เซเวริน กดด้วยขวาจากระยะ 30 หลาข้ามคานไปไกล
เข้าสู่นาทีที่ 10 ก็มีใบเหลืองแรกของเกมจากจังหวะที่ อลัน เมย์บิวรี่ กองหลังทีมเยือนไปดึง โทนี่ ครูส กองกลางของบาเยิร์นทางด้านหลังในจังหวะที่จะหลุดเข้าไปทำประตู และจากลูกฟรีคิกเจ้าบ้านก็มาได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ ลูซิโอ วิ่งเข้ามายิงจากระยะประมาณ 25 หลาส่งบอลพุ่งแสกหน้า แลงฟิลด์ เข้าไป บาเยิร์นขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 17 บาเยิร์น พลาดโอกาสได้ประตูที่ 2 เมื่อกองหลังของอเบอร์ดีนส่งบอลกันพลาดในแดนตัวเองบอลหลุดมาถึง โพดอลสกี้ ก่อนที่หัวหอกเยอรมนีจะไหลบอลให้ ฮามิต อัลตินท็อป วิ่งเข้ามายิงเต็มๆในเขตโทษด้วยขวา แต่บอลไม่ผ่านมือของ แลงฟิลด์ ที่ยังเซฟไว้ได้
จากนั้น อเบอร์ดีน มีโอกาสได้ลุ้นประตูบ้างจากลูกโยนยาวมาหน้าประตู และดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น โหม่งสกัดไม่ถึง ทำให้บอลหลุดมาถึง ดาร์เรน แมคกี้ ที่ควบบอลเข้าไปซัดแต่บอลหลุดเสาสองออกไป ให้หลังจากนั้นนาทีเดียว บาเยิร์นทำเกมโต้กลับมา ลูก้า โทนี่ ได้บอลบริเวณกลางสนามก่อนแตะหลบกองหลังของทีมเยือนและควบเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษ แต่ แลงฟิลด์ ยังเซฟไว้ได้ด้วยเท้า
นาทีที่ 39 บาเยิร์นที่เปิดเกมรุกอยู่ข้างเดียวก็มาทำประตูที่ 2 ได้สำเร็จ เมื่อได้ลูกฟรีคิกบริเวณกรอบเขตโทษทางด้านซ้าย และเป็น โครส ที่หยอดเข้าไปให้กับ ฟาน บุยเต็น ขึ้นโขกเช็ดส่งบอลผ่านมือ แลงฟิลด์ เข้าไป บาเยิร์นนำห่าง 2-0
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ลูซิโอ ได้โอกาสบวกประตูที่ 3 ให้กับทีม"เสือใต้"แต่ลูกซ้ำจากการยิงไกลของ อันเดรียส ออตเติล ของเขานั้นไปจนเสาอย่างจัง จบครึ่งแรกบาเยิร์นยังนำ อเบอร์ดีน อยู่แค่ 2-0
เริ่มเกมครึ่งหลังมาบาเยิร์นยังคงเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง แต่อเบอร์ดีน ก็มาส่งบอลเข้าประตูได้เหมือนกันจากการเข้าชาร์ทของ ดาเรน แม็คกี้ แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูเนื่องจากมีการล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
นาทีที่ 65 อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ กุนซือ"เสือใต้"เปลี่ยนเอา มิโลสลาฟ โคลเซ่ ลงสนามมาแทน ลูก้า โทนี่ ที่ไม่มีส่วนร่วมกับเกมในครึ่งหลังออก หลังจากนั้นนาทีเดียว โคลเซ่ ก็เกือบมีส่วนช่วยให้ทีมขึ้นนำเมื่อเขาผ่านบอลมาให้กับ มาร์ค ฟาน บอมเมล เติมขึ้นมาแปในกรอบเขตโทษด้วยขวาแต่บอลเบาเกินไปเข้ามือ แลงฟิลด์
อีก 5 นาทีหลังจากนั้น บาเยิร์นก็มาได้ประตูที่ 3 เมื่อ โคลเซ่ ได้โอกาสซัดในกรอบเขตโทษบอลไปติดมือของ แลงฟิลด์ ปัดออกมา แต่ยังไม่พ้นอันตรายไปเข้าทาง โพดอลสกี้ แปด้วยซ้ายง่ายๆเข้าไป "เสือใต้"นำโด่ง 3-0
บาเยิร์นนำห่าง 3 ประตูแล้วยังไม่หนำใจมายิงประตูที่ 4 ได้อีก จากลูกเตะมุมทางด้านขวาที่ บาสเตียน ชไวสไตน์เกอร์ ตัวสำรองเปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษลูกมาเข้าหัว โพลดอลสกี้ ขึ้นโขกเต็มๆเข้าไป บาเยิร์นนำห่าง 4-0 สำหรับประตูนี้เป็นประตูที่ 2 ของโพดอลสกี้ ในเกมนี้แล้วด้วย
อย่างไรก็ตามอเบอร์ดีนยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆมาทำประตูไล่มาเป็น 1-4 ได้สำเร็จในนาทีที่ 83 จากลูกฟรีคิกที่ เจฟฟรี่ย์ เดอ วิสส์เชอร์ ตัวสำรองเปิดมาให้กับ สตีฟ โลเวลล์ กองหน้าตัวสำรองเช่นกันทะยานโขกผ่านมือโอลิเวอร์ คาห์นเข้าไป
แต่หลังจากที่อเบอร์ดีนทำประตูได้แค่ 2 นาที บาเยิร์น ก็มายิงประตูที่ 5 เพิ่มได้อีก โดย ออตเติล ได้บอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษทางด้านซ้ายก่อนไหลมาให้กับ ฟาน บอมเมล ที่วิ่งเติมเข้ามาอัดด้วยขวาบอลพุ่งเรียดผ่านมือ ลองฟิลด์ เข้าไปอีก "เสือใต้"นำ 5-1 และครบ 90 นาทีไปด้วยสกอร์นี้ ส่งผลให้บาเยิร์น มิวนิค ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยประตูรวม 2 นัด 7-3 โดยทีม"เสือใต้"จะเข้าไปพบกับอันเดอร์เลชท์จากเบลเยี่ยมที่เอาชนะบอร์กโดซ์ทีมจากฝรั่งเศสมาได้ในรอบ 32 มาได้เช่นกัน
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
บาเยิร์น : โอลิเวอร์ คาห์น, วิลลี่ ซาญอล, ลูซิโอ, ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น, มาร์เซลล์ ยานเซ่น, ฮามิต อัลตินท็อป, อันเดรียส์ อ็อตเติ้ล, มาร์ค ฟาน บอมเมล, โทนี่ โครส, ลูก้า โทนี่, ลูคัส โพดอลสกี้
อเบอร์ดีน : เจมี่ แลงฟิลด์, อลัน เมย์บิวรี่, อเล็กซานเดอร์ เดียมอนด์, แอนดรูว์ คอนซิดีน, ริชาร์ด ฟอสเตอร์, แบร์รี่ นิโคลสัน, โอมาทโซน อลูโก้ , สก็อตต์ เซเวริน, จอร์ช วอล์คเกอร์, ดาร์เรน แม็คกี, ลี มิลเลอร์
สรุปผลยูฟ่า คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้ายประจำวันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์
ฮัมบูร์ก (เยอรมนี) เสมอ เอฟซี ซูริก (สวิตเซอร์แลนด์) 0-0
(รวมสองนัด ฮัมบูร์ก เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)
เลเวอร์คูเซ่น (เยอรมนี) ชนะ กาลาตาซาราย (ตุรกี) 5-1
(รวมสองนัด เลเวอร์คูเซ่น เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-1)
สปาร์ตัก มอสโก (รัสเซีย) ชนะ มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) 2-0
(รวมสองนัด มาร์กเซย ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2)
พานาธิไนกอส (กรีซ) เสมอ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) 1-1
(รวมสองนัดเสมอ 1-1 เรนเจอร์ส เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน)
บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี) ชนะ อเบอร์ดีน (สกอตแลนด์) 5-1
(รวมผลสองนัด บาเยิร์น เข้ารอบด้วยประตูรวม7-3)
เคตาเฟ่ (สเปน) ชนะ เออีเค เอเธนส์ (กรีซ) 3-0
(รวมผลสองนัด เคตาเฟ่ เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-1)
แอตเลติโก มาดริด (สเปน) เสมอ โบลตัน (อังกฤษ) 0-0
(รวมผลสองนัด โบลตัน เข้ารอบด้วยประตูรวม 1-0)
บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส) เสมอ อันเดอร์เลชท์ (เบลเยียม) 1-1
(รวมผลสองนัด อันเดอร์เลชท์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2)
ฟิออเรนติน่า (อิตาลี) ชนะ โรเซนบอร์ก (นอร์เวย์) 2-1
(รวมผลสองนัด ฟิออเรนติน่า เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)
เฮลซิงบอร์ก (สวีเดน) แพ้ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (เนเธอร์แลนด์) 1-2
(รวมผลสองนัด พีเอสวี เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-1)
สเปอร์ส (อังกฤษ) เสมอ สลาเวีย ปราก (เช็ก) 1-1
(รวมผลสองนัด สเปอร์ส เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2)
บียาร์เรอัล (สเปน) ชนะ เซนิต (รัสเซีย) 2-1
(รวมสองนัดเสมอ 2-2 เซนิต เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน)
บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์) แพ้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส) 0-3
(รวมสองนัด สปอร์ติ้ง ลิสบอน เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-0)
เอฟเวอร์ตัน (อังกฤษ) ชนะ บรานน์ (นอร์เวย์) 6-1
(รวมสองนัด เอฟเวอร์ตัน เข้ารอบด้วยประตูรวม 8-1)
เนิร์นแบร์ก (เยอรมัน) เสมอ เบนฟิก้า (โปรตุเกส) 2-2
(รวมสองนัด เบนฟิก้า เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2)
บราก้า (โปรตุเกส) แพ้ เบรเมน (เยอรมนี) 0-1
(รวมผลสองนัด เบรเมน เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-0)
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2
บาเยิร์น (เยอรมนี) 5-1 อเบอร์ดีน (สก็อตแลนด์)
(รวมผล 2 นัด บาเยิร์นผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 7-3)
เกมยูฟ่า คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 ประจำคืนวันพฤหัสบดีทีม"เสือใต้"บาเยิร์น มิวนิค จากเยอรมนี เปิดสนาม อัลลิแอนส์ อารีน่า รับการมาเยือนของอเบอร์ดีนทีมดังจากสก็อตแลนด์ โดยเกมในนัดแรกทั้งคู่เสมอกันมา 2-2 ในนัดนี้ อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ กุนซือของ"เสือใต้"หมดสิทธิ์ใช้งาน ฟร้องค์ ริเบรี่ เพลย์เมคเกอร์ของทีมเนื่องจากยังมีอาการบาดเจ็บ นอกจากนั้น ฮิตซ์เฟลด์ ยังดร็อป มิโลสลาฟ โคลเซ่ หัวหอกทีมชาติเยอรมนีไว้ที่ข้างสนาม และวางให้ ลูก้า โทนี่ หัวหอกอิตาเลี่ยนเป็นกองหน้าคู่กับ ลูคัส โพดอลสกี้
เริ่มเกมมาได้ 7 นาที ลูคัส โพดอลสกี้ หัวหอกของบาเยิร์นได้โอกาสยิงก่อน แต่บอลเบาไป เจมี่ แลงฟิลด์ นายทวารของอเบอร์ดีนล้มตัวรับไว้ได้ ถัดจากนั้น อเบอร์ดีน มีโอกาสได้ยิงเป็นครั้งแรกของเกมบ้าง แต่ สก็อตต์ เซเวริน กดด้วยขวาจากระยะ 30 หลาข้ามคานไปไกล
เข้าสู่นาทีที่ 10 ก็มีใบเหลืองแรกของเกมจากจังหวะที่ อลัน เมย์บิวรี่ กองหลังทีมเยือนไปดึง โทนี่ ครูส กองกลางของบาเยิร์นทางด้านหลังในจังหวะที่จะหลุดเข้าไปทำประตู และจากลูกฟรีคิกเจ้าบ้านก็มาได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ ลูซิโอ วิ่งเข้ามายิงจากระยะประมาณ 25 หลาส่งบอลพุ่งแสกหน้า แลงฟิลด์ เข้าไป บาเยิร์นขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 17 บาเยิร์น พลาดโอกาสได้ประตูที่ 2 เมื่อกองหลังของอเบอร์ดีนส่งบอลกันพลาดในแดนตัวเองบอลหลุดมาถึง โพดอลสกี้ ก่อนที่หัวหอกเยอรมนีจะไหลบอลให้ ฮามิต อัลตินท็อป วิ่งเข้ามายิงเต็มๆในเขตโทษด้วยขวา แต่บอลไม่ผ่านมือของ แลงฟิลด์ ที่ยังเซฟไว้ได้
จากนั้น อเบอร์ดีน มีโอกาสได้ลุ้นประตูบ้างจากลูกโยนยาวมาหน้าประตู และดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น โหม่งสกัดไม่ถึง ทำให้บอลหลุดมาถึง ดาร์เรน แมคกี้ ที่ควบบอลเข้าไปซัดแต่บอลหลุดเสาสองออกไป ให้หลังจากนั้นนาทีเดียว บาเยิร์นทำเกมโต้กลับมา ลูก้า โทนี่ ได้บอลบริเวณกลางสนามก่อนแตะหลบกองหลังของทีมเยือนและควบเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษ แต่ แลงฟิลด์ ยังเซฟไว้ได้ด้วยเท้า
นาทีที่ 39 บาเยิร์นที่เปิดเกมรุกอยู่ข้างเดียวก็มาทำประตูที่ 2 ได้สำเร็จ เมื่อได้ลูกฟรีคิกบริเวณกรอบเขตโทษทางด้านซ้าย และเป็น โครส ที่หยอดเข้าไปให้กับ ฟาน บุยเต็น ขึ้นโขกเช็ดส่งบอลผ่านมือ แลงฟิลด์ เข้าไป บาเยิร์นนำห่าง 2-0
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ลูซิโอ ได้โอกาสบวกประตูที่ 3 ให้กับทีม"เสือใต้"แต่ลูกซ้ำจากการยิงไกลของ อันเดรียส ออตเติล ของเขานั้นไปจนเสาอย่างจัง จบครึ่งแรกบาเยิร์นยังนำ อเบอร์ดีน อยู่แค่ 2-0
เริ่มเกมครึ่งหลังมาบาเยิร์นยังคงเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง แต่อเบอร์ดีน ก็มาส่งบอลเข้าประตูได้เหมือนกันจากการเข้าชาร์ทของ ดาเรน แม็คกี้ แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูเนื่องจากมีการล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
นาทีที่ 65 อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ กุนซือ"เสือใต้"เปลี่ยนเอา มิโลสลาฟ โคลเซ่ ลงสนามมาแทน ลูก้า โทนี่ ที่ไม่มีส่วนร่วมกับเกมในครึ่งหลังออก หลังจากนั้นนาทีเดียว โคลเซ่ ก็เกือบมีส่วนช่วยให้ทีมขึ้นนำเมื่อเขาผ่านบอลมาให้กับ มาร์ค ฟาน บอมเมล เติมขึ้นมาแปในกรอบเขตโทษด้วยขวาแต่บอลเบาเกินไปเข้ามือ แลงฟิลด์
อีก 5 นาทีหลังจากนั้น บาเยิร์นก็มาได้ประตูที่ 3 เมื่อ โคลเซ่ ได้โอกาสซัดในกรอบเขตโทษบอลไปติดมือของ แลงฟิลด์ ปัดออกมา แต่ยังไม่พ้นอันตรายไปเข้าทาง โพดอลสกี้ แปด้วยซ้ายง่ายๆเข้าไป "เสือใต้"นำโด่ง 3-0
บาเยิร์นนำห่าง 3 ประตูแล้วยังไม่หนำใจมายิงประตูที่ 4 ได้อีก จากลูกเตะมุมทางด้านขวาที่ บาสเตียน ชไวสไตน์เกอร์ ตัวสำรองเปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษลูกมาเข้าหัว โพลดอลสกี้ ขึ้นโขกเต็มๆเข้าไป บาเยิร์นนำห่าง 4-0 สำหรับประตูนี้เป็นประตูที่ 2 ของโพดอลสกี้ ในเกมนี้แล้วด้วย
อย่างไรก็ตามอเบอร์ดีนยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆมาทำประตูไล่มาเป็น 1-4 ได้สำเร็จในนาทีที่ 83 จากลูกฟรีคิกที่ เจฟฟรี่ย์ เดอ วิสส์เชอร์ ตัวสำรองเปิดมาให้กับ สตีฟ โลเวลล์ กองหน้าตัวสำรองเช่นกันทะยานโขกผ่านมือโอลิเวอร์ คาห์นเข้าไป
แต่หลังจากที่อเบอร์ดีนทำประตูได้แค่ 2 นาที บาเยิร์น ก็มายิงประตูที่ 5 เพิ่มได้อีก โดย ออตเติล ได้บอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษทางด้านซ้ายก่อนไหลมาให้กับ ฟาน บอมเมล ที่วิ่งเติมเข้ามาอัดด้วยขวาบอลพุ่งเรียดผ่านมือ ลองฟิลด์ เข้าไปอีก "เสือใต้"นำ 5-1 และครบ 90 นาทีไปด้วยสกอร์นี้ ส่งผลให้บาเยิร์น มิวนิค ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยประตูรวม 2 นัด 7-3 โดยทีม"เสือใต้"จะเข้าไปพบกับอันเดอร์เลชท์จากเบลเยี่ยมที่เอาชนะบอร์กโดซ์ทีมจากฝรั่งเศสมาได้ในรอบ 32 มาได้เช่นกัน
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
บาเยิร์น : โอลิเวอร์ คาห์น, วิลลี่ ซาญอล, ลูซิโอ, ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น, มาร์เซลล์ ยานเซ่น, ฮามิต อัลตินท็อป, อันเดรียส์ อ็อตเติ้ล, มาร์ค ฟาน บอมเมล, โทนี่ โครส, ลูก้า โทนี่, ลูคัส โพดอลสกี้
อเบอร์ดีน : เจมี่ แลงฟิลด์, อลัน เมย์บิวรี่, อเล็กซานเดอร์ เดียมอนด์, แอนดรูว์ คอนซิดีน, ริชาร์ด ฟอสเตอร์, แบร์รี่ นิโคลสัน, โอมาทโซน อลูโก้ , สก็อตต์ เซเวริน, จอร์ช วอล์คเกอร์, ดาร์เรน แม็คกี, ลี มิลเลอร์
สรุปผลยูฟ่า คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้ายประจำวันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์
ฮัมบูร์ก (เยอรมนี) เสมอ เอฟซี ซูริก (สวิตเซอร์แลนด์) 0-0
(รวมสองนัด ฮัมบูร์ก เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)
เลเวอร์คูเซ่น (เยอรมนี) ชนะ กาลาตาซาราย (ตุรกี) 5-1
(รวมสองนัด เลเวอร์คูเซ่น เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-1)
สปาร์ตัก มอสโก (รัสเซีย) ชนะ มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) 2-0
(รวมสองนัด มาร์กเซย ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2)
พานาธิไนกอส (กรีซ) เสมอ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) 1-1
(รวมสองนัดเสมอ 1-1 เรนเจอร์ส เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน)
บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี) ชนะ อเบอร์ดีน (สกอตแลนด์) 5-1
(รวมผลสองนัด บาเยิร์น เข้ารอบด้วยประตูรวม7-3)
เคตาเฟ่ (สเปน) ชนะ เออีเค เอเธนส์ (กรีซ) 3-0
(รวมผลสองนัด เคตาเฟ่ เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-1)
แอตเลติโก มาดริด (สเปน) เสมอ โบลตัน (อังกฤษ) 0-0
(รวมผลสองนัด โบลตัน เข้ารอบด้วยประตูรวม 1-0)
บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส) เสมอ อันเดอร์เลชท์ (เบลเยียม) 1-1
(รวมผลสองนัด อันเดอร์เลชท์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2)
ฟิออเรนติน่า (อิตาลี) ชนะ โรเซนบอร์ก (นอร์เวย์) 2-1
(รวมผลสองนัด ฟิออเรนติน่า เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)
เฮลซิงบอร์ก (สวีเดน) แพ้ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (เนเธอร์แลนด์) 1-2
(รวมผลสองนัด พีเอสวี เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-1)
สเปอร์ส (อังกฤษ) เสมอ สลาเวีย ปราก (เช็ก) 1-1
(รวมผลสองนัด สเปอร์ส เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2)
บียาร์เรอัล (สเปน) ชนะ เซนิต (รัสเซีย) 2-1
(รวมสองนัดเสมอ 2-2 เซนิต เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน)
บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์) แพ้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส) 0-3
(รวมสองนัด สปอร์ติ้ง ลิสบอน เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-0)
เอฟเวอร์ตัน (อังกฤษ) ชนะ บรานน์ (นอร์เวย์) 6-1
(รวมสองนัด เอฟเวอร์ตัน เข้ารอบด้วยประตูรวม 8-1)
เนิร์นแบร์ก (เยอรมัน) เสมอ เบนฟิก้า (โปรตุเกส) 2-2
(รวมสองนัด เบนฟิก้า เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2)
บราก้า (โปรตุเกส) แพ้ เบรเมน (เยอรมนี) 0-1
(รวมผลสองนัด เบรเมน เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-0)