หลังจากพลาดโอกาสทำสถิติคว้าแชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น 3 สมัยติดต่อกัน เมื่อพ่ายให้กับ “โนวัค ยอโควิช” นักหวดดาวรุ่งจากเซอร์เบีย ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ แกรนด์ สแลมแรกของปี ที่เมืองจิงโจ้ พลันบังเกิดให้มีคำถามผุดขึ้นมาว่า “ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ “โรเจอร์ เฟเดอเรอร์” ควรจะมีโค้ชคนใหม่?”
ก่อนหน้าที่จะลงสนามประเดิมศึกแรกของฤดูกาล 2008 ในออสเตรเลีย เฟดเอ็กซ์ เจ้าของสถิติ 12 แชมป์แกรนด์ สแลม ได้เอ่ยด้วยความมั่นใจเอาไว้ว่า “โดยปกติแล้ว ผมมักจะมีสมาธิอยู่ในเกมของตัวเองอยู่เสมอ และจะเป็นมากในช่วงที่ยังหนุ่ม จนถึงทุกวันนี้ มันได้กลายเป็นเรื่องอัตโนมัติไปแล้ว ดังนั้นผมจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเกมของตัวเองทั้งหมด”
ประโยคดังกล่าวอาจผ่านเลยไปโดยไม่มีใครใส่ใจ หากหวดมือ 1 ของโลกจากสวิส สามารถคว้าแชมป์แกรนด์ สแลม เมืองจิงโจ้มาประดับฝาบ้านได้เป็นคำรบที่ 4 และเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน (เฟดเอ็กซ์ เคยครองแชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น เมื่อปี 2004, 2006 และ 2007) ทว่าเรื่องกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อนักเทนนิสที่ขึ้นชื่อว่า เล่นได้ครบเครื่องที่สุดในยุคนี้ ถูกเขี่ยพ้นโทรฟี่แชมป์ด้วยน้ำมือของดาวรุ่งพุ่งแรงจากเซอร์เบีย หมดโอกาสเก็บชัยและทำสถิติไล่หลังแชมป์แกรนด์ สแลม 14 ครั้ง อย่าง “พีท แซมพราส” ไปแบบน่าเสียดาย
การพลาดแชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น อาจไม่ใช่เรื่องร้ายแรงถึงขั้นคอขาดบาดตายสำหรับมือหนึ่งโลก ทว่ามันอาจเป็นสัญญาณเตือนอันตรายให้กับ เฟดเอ็กซ์ ได้เป็นอย่างดีว่า จะนิ่งเฉยต่อไปไม่ได้แล้ว เนื่องจากเกมเทนนิสนั้นมีการพัฒนาและเพิ่มมาตรฐานขึ้นทุกวัน อย่างที่ “อังเดร อากัสซี่” อดีตมือ 1 ชาวสหรัฐฯ เคยกล่าวเอาไว้เมื่อปีที่แล้วว่า “ในทุกๆ ปี นักเทนนิสมีการพัฒนาเกมการเล่นของตัวเองมากขึ้น ดังนั้นคุณจะต้องก้าวตามให้ทัน มิเช่นนั้นแล้ว คุณนั่นแหละที่เป็นฝ่ายถูกทิ้ง”
คำพูดดังกล่าวเหมือนจะย้อนกลับมาที่ “เฟเดอเรอร์” หลังจากที่เขาประกาศแยกทาง กับ “โทนี่ โรช” โค้ชคู่ใจที่เคยคว้าแชมป์แกรนด์ สแลม ร่วมกันมาถึง 3 ครั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อนด้วยเหตุผลที่ยังคลุมเครือว่า แท้จริงแล้วเกิดจากปัญหาเรื่องการเดินทาง ซึ่ง โรช ไม่ต้องการเดินทางไปกับเฟดเอ็กซ์ในทุกทัวร์นาเมนต์ หรือว่า เป็นเพราะความไม่ลงรอยกันในเรื่องส่วนตัวระหว่างทั้งคู่กันแน่
อย่างไรก็ตาม หลังปราชัยในศึกออสเตรเลียน โอเพ่น ยอดนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งของโลกซึ่งเป็นผู้ที่รู้คำตอบดีที่สุดว่า เขาต้องการมีโค้ช หรือไม่ ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ และกล่าวยอมรับว่า “ผมไม่คิดว่า ตัวเองจะสามารถเปลี่ยนแปลงเกมได้อย่างมากมาย ผมต้องการมีเกมที่หลากหลาย ทุกวันนี้เกมเทนนิสมีรายละเอียดมากมาย และนั่นคือเหตุผลที่ผมต้องมองหาคนมาช่วยในเรื่องนี้”
“โค้ช” อาจถูกมองว่า มีความสำคัญน้อยสำหรับนักเทนนิสฝีมือขั้นเทพ อย่าง เฟดเอ็กซ์ แต่ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เนื่องจากโค้ชจะเป็นผู้คอยกระตุ้นและแนะนำ เบสิคต่างๆ ให้กับนักกีฬา ซึ่งเทคนิคขั้นพื้นฐานเหล่านี้ช่วยให้นักกีฬาประสบความสำเร็จได้ นอกเหนือจากความสามารถเฉพาะตัวของพวกเขา ดั่งที่ “พอล อะนาโคน” อดีตโค้ชของ “สวีตพีท”เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ผมมักคอยเตือนพีท (แซมพราส) ในเรื่องง่ายๆ ซึ่งเรื่องพื้นฐานเหล่านี้แหละ ที่ช่วยให้เขาประสบความสบความสำเร็จ”
หากแชมป์เปรียบเหมือนการไปให้ถึงจุดหมายโค้ชก็คือแมสเซนเจอร์ ดีๆ นี่เอง และถ้าอยากประสบความสำเร็จ นักกีฬาก็ควรจะหาแมสเซนเจอร์ เก่งๆ มาไว้ข้างกายกับเขาสักคน ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไปว่า ใครจะก้าวเข้ามาเป็นแมสเซนเจอร์คนใหม่ของแร็กเก็ตเทพที่มีนามว่า “โรเจอร์ เฟเดอเรอร์”