คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สมาคมฟุตบอลอังกฤษออกมาแถลงข่าวเรื่องการตกลงใจให้ทีมใน เพรอมิเอ ลีก ออกไปเตะนัดที่ 39 นอกเกาะอังกฤษ ซึ่งเล็งเอาไว้แถวๆเอเชียตะวันออก สหรัฐอเมริกา และ ออสเตรเลีย และเริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2010/2011 เป็นต้นไป
คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องนี้ก็คือ ริชาร์ด สกูเดอมอร์ ( Richard Scudamore ) ซีอีโอ หรือ หัวหน้าคณะผู้บริหารของ เพรอมิเอ ลีก นั่นเอง โดยเขาให้เหตุผลว่า มันจะเป็นการช่วยให้เกมฟุตบอลเป็นที่นิยมทั่วโลกมากยิ่งขึ้นไปอีก แต่ที่สำคัญ เงินทั้งนั้นที่จะหลั่งไหลเข้ามา และแต่ละทีมก็จะมีรายได้มากขึ้นด้วย เพราะลำพังตอนนี้ จากการถ่ายทอดไปเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก เพรอมิเอชิพของอังกฤษก็มีผู้ชมเกิน 1,000 ล้านคนแล้ว ความนิยมของแฟนบอลมากน้อยขนาดไหน ดูได้จากตอนที่ แมนเชสเตอร์ ยูนายเต็ด และ อาร์เซนอล ออกทัวร์เอเชีย ลิเวอร์พูล ตระเวนอเมริกาใต้ และ เชลซี ไปโชว์ฝีเท้าในรัสเซีย สนามแทบแตก ในขณะที่คนที่ไม่เห็นด้วยอย่างน้อยก็มี มิเชล ปลาตินี อดีตนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ UEFA และ เซพพ์ บลัทเทอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ FIFA
สกูเดอมอร์ มองอะไรไม่น่าพลาดหรอก เขาเป็นคนมีประสบการณ์ในธุรกิจมานาน ตั้งแต่เรียนจบกฎหมายจาก น็อตติงแฮม เขาก็ทำงานทางด้านการตลาด อยู่กับวางแผนงานทางธุรกิจให้ สมุดหน้าเหลือง ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งของ บริทิช เทเลคอม มาเกือบ 10 ปี แล้วเข้าสู่วงการสื่อสารมวลชน บริหารหนังสือพิมพ์อีก 10 ปี โดยเฉพาะ 3 ปีหลังนั่น ไปใหญ่ในสหรัฐฯ ดูแลกิจการหนังสือพิมพ์ของ ทอมสัน คอร์เพอเรชั่น ( The Thomson Corporation ) กว่าครึ่งประเทศ เขาได้รับแต่งตั้งเป็น ซีอีโอ ของ เพรอมิเอ ลีก ตั้งแต่ปี 1999 มีคนกล่าวว่า หมอนี่มีรายได้ปีหนึ่งเกิน 800,000 เพานด์ คิดเป็นเงินไทย ก็ตก 56 ล้านบาท ซึ่งหน้าที่รับผิดชอบหลักๆของเขาใน เพรอมิเอ ลีก ก็คือ เจรจาเรื่องการถ่ายทอดการแข่งขัน และทำสัญญาสิทธิประโยชน์กับสปอนเซอร์ อันมีมูลค่ากว่า 1,600 ล้านเพานด์ ถ้าเงินไทยก็เลย 1 แสนล้านบาทครับ
การแข่งขันฟุตบอล เพรอมิเอ ลีก สัญจร ของ สกูเดอมอร์ จะเริ่มในเดือนมกราคม 2011 ถูกกำหนดไว้ 5 เมือง โดยแต่ละเมืองได้จัด 2 แมตช์ ซึ่งบรรดาเมืองที่อยู่ในข่ายพิจารณาคือ ฮ่องกง นิวยอร์ค ลอสแอนเจลิส สิงคโปร์ ซิดนีย์ โจฮันเนสเบิร์ก และ เป่ยจิ๊ง ทั้งนี้ก็ต้องดูว่าเมืองไหนมีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด หรือเสนอผลประโยชน์ให้แค่ไหน เพราะความที่ฟุตบอลอังกฤษเป็นลีกยอดฮิต ตัวเขาเองก็คิดคำนวณเอาไว้ว่า ต้องเก็บค่าเข้าชมเจ้าแมตช์ที่ 39 ทุกแมตช์รวมกัน เพียงแค่ฤดูเดียวได้แถวๆ 100 ล้านเพานด์ หรือ 7,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน นี่เป็นเหตุผลที่พ่อลูก 5 อดีตผู้ตัดสินฟุตบอล คลาส วัน แถมยังเล่นกอล์ฟฝีมือเฉียบ อย่าง สกูเดอมอร์ ยกมาอ้าง จนทั้ง 20 สโมสรใน เพรอมิเอ ลีก ไม่มีใครเถียงซักคำ ต่างก็เห็นดีด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์ แม้ว่าจะเป็นห่วงอยู่บ้างเรื่องตารางการแข่งขันที่ค่อนข้างแน่นอยู่แล้ว และบางคนบ่นว่า เรื่องอย่างนี้ น่าจะให้เกียรติเชิญมาปรึกษากันก่อน
อย่างไรก็ตาม ทางมิเชล ปลาตินี ที่ยกมือมาแต่ไกล ขอไม่เห็นด้วย กล่าวอย่างเยาะเย้ยซะก่อนเลยว่า “โค้ชทีมชาติของพวกคุณก็ไม่ใช่คนอังกฤษ นักเตะอังกฤษเองก็บางตาเหลือเกิน แล้วนี่พรุ่งนี้ สโมสรฟุตบอลของอังกฤษก็จะไม่เล่นในประเทศของพวกคุณอีก ช่างหาเรื่องมาล้อเล่นได้ฮาจริงๆ” นโปเลองลูกหนังหวังว่า เซพพ์ บลัทเทอร์ ซึ่งก็ไม่เห็นด้วยกับแผนเพรอมิเอ ลีก สัญจรนี้อีกคน คงจะต้องทำอะไรบ้าง
สำหรับรัฐบาลอังกฤษเอง ก็วิตกอยู่เหมือนกันว่า การที่ ยูเอ็ฟฟ่า กับ ฟีฟ่า ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ อาจมีผลกระทบต่อการที่อังกฤษกำลังจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2018 ในขณะที่แฟนบอลหลายคนก็คงไม่ค่อยสบอารมณ์ ด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าไปแข่งกันไกลโพ้นขนาดนั้น ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางแพงกว่าแข่งในประเทศ แล้วจะตามไปเชียร์ยังไงกัน
ส่วนความเห็นของคนอเมริกัน 1 ในเจ้าของพื้นที่ที่บอลอังกฤษจะไปอวดโฉมให้ดูกันถึงถิ่นนั้น ซูนิล กูลาตี ( Sunil Gulati ) อดีตนายธนาคารเชื้อสายอินเดีย ซึ่งเป็นประธานสหพันธ์ฟุตบอลสหรัฐอเมริกา ( United States Soccer Federation - USSF ) คนปัจจุบัน บอกว่า ได้อ่านข้อเสนอแล้ว แต่ยังไม่เห็นมีคนจาก เพรอมิเอ ลีก เข้ามาชี้แจงเลย และทางเราก็ไม่ค่อยเต็มใจกับงานนี้นักหรอก เอาไว้รอฟังความเห็นจาก ฟีฟ่า ก็แล้วกัน ถ้า เพรอมิเอ ลีก ไม่เคารพ ฟีฟ่า เราก็จะไม่ยอมรับการแข่งขันเด็ดขาด
ริชาร์ด สกูเดอมอร์ คงเห็นว่า แผนการของเขาจะไม่มีทางสำเร็จได้ ถ้าถูกสกัดโดย ยูเอ็ฟฟ่า กับ ฟีฟ่า เขาจึงพูดเอาใจไว้ก่อนว่า ตนพร้อมจะจำกัดจำนวนนักเตะต่างชาติที่ลงเล่นใน เพรอมิเอ ลีก ซึ่งอันนี้ตรงกับแนวความคิด และสิ่งที่ มิเชล ปลาตินี ปรารถนามาตลอด แหม กับแค่เตะนอกประเทศ ทำสิ่งแปลกใหม่บ้าง ก็ต้องเป็นเรื่องวุ่นวาย ฝ่าหลายด่านเหลือเกิน ผมกำลังฝันอยู่ว่า เมืองไทยน่าจะได้ต้อนรับ เพรอมิเอ ลีก สัญจร สัก 1-2 แมตช์ ก็คงอดครับ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สมาคมฟุตบอลอังกฤษออกมาแถลงข่าวเรื่องการตกลงใจให้ทีมใน เพรอมิเอ ลีก ออกไปเตะนัดที่ 39 นอกเกาะอังกฤษ ซึ่งเล็งเอาไว้แถวๆเอเชียตะวันออก สหรัฐอเมริกา และ ออสเตรเลีย และเริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2010/2011 เป็นต้นไป
คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องนี้ก็คือ ริชาร์ด สกูเดอมอร์ ( Richard Scudamore ) ซีอีโอ หรือ หัวหน้าคณะผู้บริหารของ เพรอมิเอ ลีก นั่นเอง โดยเขาให้เหตุผลว่า มันจะเป็นการช่วยให้เกมฟุตบอลเป็นที่นิยมทั่วโลกมากยิ่งขึ้นไปอีก แต่ที่สำคัญ เงินทั้งนั้นที่จะหลั่งไหลเข้ามา และแต่ละทีมก็จะมีรายได้มากขึ้นด้วย เพราะลำพังตอนนี้ จากการถ่ายทอดไปเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก เพรอมิเอชิพของอังกฤษก็มีผู้ชมเกิน 1,000 ล้านคนแล้ว ความนิยมของแฟนบอลมากน้อยขนาดไหน ดูได้จากตอนที่ แมนเชสเตอร์ ยูนายเต็ด และ อาร์เซนอล ออกทัวร์เอเชีย ลิเวอร์พูล ตระเวนอเมริกาใต้ และ เชลซี ไปโชว์ฝีเท้าในรัสเซีย สนามแทบแตก ในขณะที่คนที่ไม่เห็นด้วยอย่างน้อยก็มี มิเชล ปลาตินี อดีตนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ UEFA และ เซพพ์ บลัทเทอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ FIFA
สกูเดอมอร์ มองอะไรไม่น่าพลาดหรอก เขาเป็นคนมีประสบการณ์ในธุรกิจมานาน ตั้งแต่เรียนจบกฎหมายจาก น็อตติงแฮม เขาก็ทำงานทางด้านการตลาด อยู่กับวางแผนงานทางธุรกิจให้ สมุดหน้าเหลือง ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งของ บริทิช เทเลคอม มาเกือบ 10 ปี แล้วเข้าสู่วงการสื่อสารมวลชน บริหารหนังสือพิมพ์อีก 10 ปี โดยเฉพาะ 3 ปีหลังนั่น ไปใหญ่ในสหรัฐฯ ดูแลกิจการหนังสือพิมพ์ของ ทอมสัน คอร์เพอเรชั่น ( The Thomson Corporation ) กว่าครึ่งประเทศ เขาได้รับแต่งตั้งเป็น ซีอีโอ ของ เพรอมิเอ ลีก ตั้งแต่ปี 1999 มีคนกล่าวว่า หมอนี่มีรายได้ปีหนึ่งเกิน 800,000 เพานด์ คิดเป็นเงินไทย ก็ตก 56 ล้านบาท ซึ่งหน้าที่รับผิดชอบหลักๆของเขาใน เพรอมิเอ ลีก ก็คือ เจรจาเรื่องการถ่ายทอดการแข่งขัน และทำสัญญาสิทธิประโยชน์กับสปอนเซอร์ อันมีมูลค่ากว่า 1,600 ล้านเพานด์ ถ้าเงินไทยก็เลย 1 แสนล้านบาทครับ
การแข่งขันฟุตบอล เพรอมิเอ ลีก สัญจร ของ สกูเดอมอร์ จะเริ่มในเดือนมกราคม 2011 ถูกกำหนดไว้ 5 เมือง โดยแต่ละเมืองได้จัด 2 แมตช์ ซึ่งบรรดาเมืองที่อยู่ในข่ายพิจารณาคือ ฮ่องกง นิวยอร์ค ลอสแอนเจลิส สิงคโปร์ ซิดนีย์ โจฮันเนสเบิร์ก และ เป่ยจิ๊ง ทั้งนี้ก็ต้องดูว่าเมืองไหนมีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด หรือเสนอผลประโยชน์ให้แค่ไหน เพราะความที่ฟุตบอลอังกฤษเป็นลีกยอดฮิต ตัวเขาเองก็คิดคำนวณเอาไว้ว่า ต้องเก็บค่าเข้าชมเจ้าแมตช์ที่ 39 ทุกแมตช์รวมกัน เพียงแค่ฤดูเดียวได้แถวๆ 100 ล้านเพานด์ หรือ 7,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน นี่เป็นเหตุผลที่พ่อลูก 5 อดีตผู้ตัดสินฟุตบอล คลาส วัน แถมยังเล่นกอล์ฟฝีมือเฉียบ อย่าง สกูเดอมอร์ ยกมาอ้าง จนทั้ง 20 สโมสรใน เพรอมิเอ ลีก ไม่มีใครเถียงซักคำ ต่างก็เห็นดีด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์ แม้ว่าจะเป็นห่วงอยู่บ้างเรื่องตารางการแข่งขันที่ค่อนข้างแน่นอยู่แล้ว และบางคนบ่นว่า เรื่องอย่างนี้ น่าจะให้เกียรติเชิญมาปรึกษากันก่อน
อย่างไรก็ตาม ทางมิเชล ปลาตินี ที่ยกมือมาแต่ไกล ขอไม่เห็นด้วย กล่าวอย่างเยาะเย้ยซะก่อนเลยว่า “โค้ชทีมชาติของพวกคุณก็ไม่ใช่คนอังกฤษ นักเตะอังกฤษเองก็บางตาเหลือเกิน แล้วนี่พรุ่งนี้ สโมสรฟุตบอลของอังกฤษก็จะไม่เล่นในประเทศของพวกคุณอีก ช่างหาเรื่องมาล้อเล่นได้ฮาจริงๆ” นโปเลองลูกหนังหวังว่า เซพพ์ บลัทเทอร์ ซึ่งก็ไม่เห็นด้วยกับแผนเพรอมิเอ ลีก สัญจรนี้อีกคน คงจะต้องทำอะไรบ้าง
สำหรับรัฐบาลอังกฤษเอง ก็วิตกอยู่เหมือนกันว่า การที่ ยูเอ็ฟฟ่า กับ ฟีฟ่า ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ อาจมีผลกระทบต่อการที่อังกฤษกำลังจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2018 ในขณะที่แฟนบอลหลายคนก็คงไม่ค่อยสบอารมณ์ ด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าไปแข่งกันไกลโพ้นขนาดนั้น ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางแพงกว่าแข่งในประเทศ แล้วจะตามไปเชียร์ยังไงกัน
ส่วนความเห็นของคนอเมริกัน 1 ในเจ้าของพื้นที่ที่บอลอังกฤษจะไปอวดโฉมให้ดูกันถึงถิ่นนั้น ซูนิล กูลาตี ( Sunil Gulati ) อดีตนายธนาคารเชื้อสายอินเดีย ซึ่งเป็นประธานสหพันธ์ฟุตบอลสหรัฐอเมริกา ( United States Soccer Federation - USSF ) คนปัจจุบัน บอกว่า ได้อ่านข้อเสนอแล้ว แต่ยังไม่เห็นมีคนจาก เพรอมิเอ ลีก เข้ามาชี้แจงเลย และทางเราก็ไม่ค่อยเต็มใจกับงานนี้นักหรอก เอาไว้รอฟังความเห็นจาก ฟีฟ่า ก็แล้วกัน ถ้า เพรอมิเอ ลีก ไม่เคารพ ฟีฟ่า เราก็จะไม่ยอมรับการแข่งขันเด็ดขาด
ริชาร์ด สกูเดอมอร์ คงเห็นว่า แผนการของเขาจะไม่มีทางสำเร็จได้ ถ้าถูกสกัดโดย ยูเอ็ฟฟ่า กับ ฟีฟ่า เขาจึงพูดเอาใจไว้ก่อนว่า ตนพร้อมจะจำกัดจำนวนนักเตะต่างชาติที่ลงเล่นใน เพรอมิเอ ลีก ซึ่งอันนี้ตรงกับแนวความคิด และสิ่งที่ มิเชล ปลาตินี ปรารถนามาตลอด แหม กับแค่เตะนอกประเทศ ทำสิ่งแปลกใหม่บ้าง ก็ต้องเป็นเรื่องวุ่นวาย ฝ่าหลายด่านเหลือเกิน ผมกำลังฝันอยู่ว่า เมืองไทยน่าจะได้ต้อนรับ เพรอมิเอ ลีก สัญจร สัก 1-2 แมตช์ ก็คงอดครับ