“สิงโตคำราม” อังกฤษ ประเดิมกุนซือคนใหม่ ฟาบิโอ คาเปลโล ด้วยการเปิดบ้านเฉือน สวิตเซอร์แลนด์ 2-1 ขณะที่ “แชมป์โลก” อิตาลี “กังหันสีส้ม” ฮอลแลนด์ และ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ต่างคว้าชัยเกมอุ่นเกือกได้อย่างสวยงาม
ฟุตบอลอุ่นเครื่องทีมชาติ
อังกฤษ 2-1 สวิตเซอร์แลนด์
ฟาบิโอ คาเปลโล ประเดิมงานคุมทัพ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ในเกมเปิดสนามเวมบลีย์ อุ่นเกือก สวิตเซอร์แลนด์ เจ้าภาพร่วมฟุตบอลยูโร 2008 โดยกุนซือชาวอิตาเลียนดร็อป ไมเคิล โอเวน ไว้ข้างสนามและก็ปรับแทกติกมาเล่นแบบ 4-4-1-1 มี โจ โคล ยืนปั้นเกมอยู่หลัง เวย์น รูนีย์ ส่วนแนวรับให้โอกาส แม็ทธิว อัพสัน ขณะที่แดนกลาง เจอร์เมน จีนัส ลงมาโลดแล่น ด้าน ยาคอบ คูห์น เตรียมความพร้อมสำหรับทีมจากแดนนาฬิกา โดยมี ฟิลิปป์ เซนเดอรอส และเกลสัน เฟอร์นานเดส สองแข้งในพรีเมียร์ชิปคอยค้ำทีม
เริ่มเกมการแข่งขัน อังกฤษ ยังไม่สามารถครองเกมได้เป็นทาง สวิตเซอร์แลนด์ ที่ดูจะวูบวาบกว่า นาทีที่ 6 ทีมเยือนมีงานให้ เดวิด เจมส์ ได้ออกแรงเล็กๆ เมื่อ เกลสัน เฟอร์นานเดส อาศัยความขยันแย่งบอลหน้ากรอบโทษเจ้าบ้านก่อนไหลให้ ทรานควิลโล บาร์เนตตา ได้ยิงเรียดแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับนายทวารจอมเก๋า แต่อีกสี่นาทีถัดมา “สิงโตคำราม” เกือบได้เฮเมื่อ เวย์น รูนีย์ หลุดขึ้นไปยิงแต่ก็โดน ดีเอโก เบนากลิโอ เซฟไว้ได้หวุดหวิด
ผ่าน 20 นาทีแรก อังกฤษ เริ่มเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่า แอชลีย์ โคล เติมเกมบุกขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดมาที่เสาแรก รูนีย์ ใช้ลวดลายดีดส้นแต่บอลพุ่งเข้าแค่ข้างตาข่าย ถัดมาทีมจากแดนนาฬิกามีโอกาสเช่นกัน บาร์เนตตา ลองยิงไกลด้วยขวาบอลพุ่งเฉียดเสาออกไป เจ็ดนาทีถัดมา สวิตเซอร์แลนด์ ได้ลูกฟรีคิกเยื้องไปทางขวา ฮาคาน ยาคิน ปั่นเข้ามาให้ ฟิลิปป์ เซนเดอรอส โหม่งต่อให้ มาริโอ เอ็กกิมันน์ ขวิดต่อแต่บอลหลุดกรอบไปแบบได้ลุ้น
เกมยังค่อนข้างสูสีแต่เจ้าถิ่นมีโอกาสสองหนซ้อนๆ ช่วงท้ายครึ่งแรก สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีม (ชั่วคราว) มีโอกาสสะบัดเกือกจากนอกกรอบแต่บอลเรียดเข้าซอง เบนากลิโอ ด้าน เดวิด เบนท์ลีย์ ที่ได้ประจำการเกมบุกทางฝั่งขวาพยายามลักไก่ยิงไกลเช่นกันแต่ก็เหินออกไป แต่ถึงนาทีที่ 41 “สิงโตคำราม” ตะปบนำ 1-0 จนได้ โจ โคล อาศัยความสามารถลากเลื้อยไปสุดเส้นหลังก่อนผ่านเข้ากลางให้ เจอร์เมน จีนัส ปาดด้วยซ้ายส่งลูกหนังตุงตาข่ายและก็จบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้
เปิดฉากครึ่งหลัง สวิตเซอร์แลนด์ เปลี่ยนรวดเดียว 3 คน ให้โอกาส โยฮัน โฟนลันเตน, อีเรน เดอร์ดิยอค และ วาลอน เบห์รามี ลงมาแก้เกมแต่สองนาทีเศษเท่านั้น อังกฤษ เกือบทิ้งห่างเมื่อ เบนท์ลีย์ หยอดเข้ากรอบโทษให้ รูนีย์ แตะบอลเรียดเฉียดเสาไปนิดเดียวเท่านั้น โอกาสของเจ้าบ้านเริ่มมาเรื่อยๆ รูนีย์ ได้ฮาล์ฟวอลเลย์บอลแฉลบหลัง เซนเดอรอส ออกหลังไป นาทีที่ 54 “สิงโตคำราม” น่าได้อีกหนึ่งประตูเป็นที่สุดเมื่อ จีนัส ดีดด้วยซ้ายร้อนถึง เบนากลิโอ ต้องปัดปลายมือออกไป
นาทีที่ 57 ฟาบิโอ คาเปลโล ขยับเปลี่ยนตัวบ้างส่ง ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ และ ปีเตอร์ เคราช์ ลงมาเล่นแทน จีนัส รวมถึง โจ โคล แต่ให้หลังอีกแค่นาทีเดียว สวิตเซอร์แลนด์ กลับตีเสมอสำเร็จเป็น 1-1 เมื่อ บาร์เนตตา จ่ายบอลให้ เดอร์ดิยอค ตวัดยิงเร็วด้วยซ้ายส่งลูกหนังผ่านมือ เจมส์ เข้าไปซุกก้นตาข่ายอย่างสวยงาม อย่างไรก็ตาม ถึงนาทีที่ 62 อังกฤษ ได้ประตูนำอีกครั้งเป็น 2-1 เจอร์ราร์ด หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดให้ ไรท์-ฟิลลิปส์ ตัวสำรองทีเด็ดแปบอลเข้าไปง่ายๆ
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย คาเปลโล ให้โอกาส เวย์น บริดจ์ และ โอเวน ฮาร์กรีฟส์ ลงมาสัมผัสเกมแทน แอชลีย์ โคล และ แกเร็ธ แบร์รี แต่เป็นทางทีมเยือนที่บุกกดันหวังทวงประตูคืนแต่ อังกฤษ ก็สวนกลับได้น่ากลัว เคราช์ จ่ายให้ “สตีวี่ จี” ซัดบอลข้ามคานออกไป ท้ายเกม “สิงโตคำราม” ตั้งรับเอาไว้ได้หมดเวลาการแข่งขันจึงเบียดเอาชนะ สวิตเซอร์แลนด์ ไปได้เป็นการประเดิมชัยให้กุนซือคนใหม่
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อังกฤษ : เดวิด เจมส์ , เวส บราวน์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , แม็ทธิว อัพสัน , แอชลีย์ โคล , เดวิด เบนท์ลีย์ , สตีเวน เจอร์ราร์ด , เจอร์เมน จีนัส , แกเร็ธ แบร์รี , โจ โคล , เวย์น รูนีย์
สวิตเซอร์แลนด์ : ดีเอโก เบนากลิโอ , สเตฟาน ลิชสไตเนอร์ , ฟิลิปป์ เซนเดอรอส , มาริโอ เอ็กกิมันน์ , คริสตอฟ สปีเชอร์ , ทรานควิลโล บาร์เนตตา , เกลสัน เฟอร์นานเดส , ก็อดฮาน อินเลอร์ , ดาเนียล ชีกักซ์ , ฮาคาน ยาคิน , แบลส เอ็นคูโฟ
ผลฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ ประจำคืนวันพุธ
จอร์เจีย แพ้ ลัตเวีย 1-3
มอลโดวา ชนะ คาซัคสถาน 1-0
ไซปรัส เสมอ ยูเครน 1-1
มาซิโดเนีย เสมอ เซอร์เบีย 1-1
อาร์เมเนีย แพ้ ไอซ์แลนด์ 0-2
ฮังการี เสมอ สโลวาเกีย 1-1
ตุรกี เสมอ สวีเดน 0-0
อิสราเอล ชนะ โรมาเนีย 1-0
มอลตา แพ้ เบลารุส 0-1
สโลวีเนีย แพ้ เดนมาร์ก 1-2
กรีซ ชนะ ฟินแลนด์ 2-1
โครเอเชีย แพ้ ฮอลแลนด์ 0-3
โปแลนด์ ชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-0
ออสเตรีย แพ้ เยอรมนี 0-3
ไอร์แลนด์เหนือ แพ้ บัลแกเรีย 0-1
เวลส์ ชนะ นอร์เวย์ 3-0
ไอร์แลนด์ แพ้ บราซิล 0-1
อิตาลี ชนะ โปรตุเกส 3-1
อังกฤษ ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 2-1
สเปน ชนะ ฝรั่งเศส 1-0
ฟุตบอลอุ่นเครื่องทีมชาติ
อังกฤษ 2-1 สวิตเซอร์แลนด์
ฟาบิโอ คาเปลโล ประเดิมงานคุมทัพ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ในเกมเปิดสนามเวมบลีย์ อุ่นเกือก สวิตเซอร์แลนด์ เจ้าภาพร่วมฟุตบอลยูโร 2008 โดยกุนซือชาวอิตาเลียนดร็อป ไมเคิล โอเวน ไว้ข้างสนามและก็ปรับแทกติกมาเล่นแบบ 4-4-1-1 มี โจ โคล ยืนปั้นเกมอยู่หลัง เวย์น รูนีย์ ส่วนแนวรับให้โอกาส แม็ทธิว อัพสัน ขณะที่แดนกลาง เจอร์เมน จีนัส ลงมาโลดแล่น ด้าน ยาคอบ คูห์น เตรียมความพร้อมสำหรับทีมจากแดนนาฬิกา โดยมี ฟิลิปป์ เซนเดอรอส และเกลสัน เฟอร์นานเดส สองแข้งในพรีเมียร์ชิปคอยค้ำทีม
เริ่มเกมการแข่งขัน อังกฤษ ยังไม่สามารถครองเกมได้เป็นทาง สวิตเซอร์แลนด์ ที่ดูจะวูบวาบกว่า นาทีที่ 6 ทีมเยือนมีงานให้ เดวิด เจมส์ ได้ออกแรงเล็กๆ เมื่อ เกลสัน เฟอร์นานเดส อาศัยความขยันแย่งบอลหน้ากรอบโทษเจ้าบ้านก่อนไหลให้ ทรานควิลโล บาร์เนตตา ได้ยิงเรียดแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับนายทวารจอมเก๋า แต่อีกสี่นาทีถัดมา “สิงโตคำราม” เกือบได้เฮเมื่อ เวย์น รูนีย์ หลุดขึ้นไปยิงแต่ก็โดน ดีเอโก เบนากลิโอ เซฟไว้ได้หวุดหวิด
ผ่าน 20 นาทีแรก อังกฤษ เริ่มเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่า แอชลีย์ โคล เติมเกมบุกขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดมาที่เสาแรก รูนีย์ ใช้ลวดลายดีดส้นแต่บอลพุ่งเข้าแค่ข้างตาข่าย ถัดมาทีมจากแดนนาฬิกามีโอกาสเช่นกัน บาร์เนตตา ลองยิงไกลด้วยขวาบอลพุ่งเฉียดเสาออกไป เจ็ดนาทีถัดมา สวิตเซอร์แลนด์ ได้ลูกฟรีคิกเยื้องไปทางขวา ฮาคาน ยาคิน ปั่นเข้ามาให้ ฟิลิปป์ เซนเดอรอส โหม่งต่อให้ มาริโอ เอ็กกิมันน์ ขวิดต่อแต่บอลหลุดกรอบไปแบบได้ลุ้น
เกมยังค่อนข้างสูสีแต่เจ้าถิ่นมีโอกาสสองหนซ้อนๆ ช่วงท้ายครึ่งแรก สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีม (ชั่วคราว) มีโอกาสสะบัดเกือกจากนอกกรอบแต่บอลเรียดเข้าซอง เบนากลิโอ ด้าน เดวิด เบนท์ลีย์ ที่ได้ประจำการเกมบุกทางฝั่งขวาพยายามลักไก่ยิงไกลเช่นกันแต่ก็เหินออกไป แต่ถึงนาทีที่ 41 “สิงโตคำราม” ตะปบนำ 1-0 จนได้ โจ โคล อาศัยความสามารถลากเลื้อยไปสุดเส้นหลังก่อนผ่านเข้ากลางให้ เจอร์เมน จีนัส ปาดด้วยซ้ายส่งลูกหนังตุงตาข่ายและก็จบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้
เปิดฉากครึ่งหลัง สวิตเซอร์แลนด์ เปลี่ยนรวดเดียว 3 คน ให้โอกาส โยฮัน โฟนลันเตน, อีเรน เดอร์ดิยอค และ วาลอน เบห์รามี ลงมาแก้เกมแต่สองนาทีเศษเท่านั้น อังกฤษ เกือบทิ้งห่างเมื่อ เบนท์ลีย์ หยอดเข้ากรอบโทษให้ รูนีย์ แตะบอลเรียดเฉียดเสาไปนิดเดียวเท่านั้น โอกาสของเจ้าบ้านเริ่มมาเรื่อยๆ รูนีย์ ได้ฮาล์ฟวอลเลย์บอลแฉลบหลัง เซนเดอรอส ออกหลังไป นาทีที่ 54 “สิงโตคำราม” น่าได้อีกหนึ่งประตูเป็นที่สุดเมื่อ จีนัส ดีดด้วยซ้ายร้อนถึง เบนากลิโอ ต้องปัดปลายมือออกไป
นาทีที่ 57 ฟาบิโอ คาเปลโล ขยับเปลี่ยนตัวบ้างส่ง ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ และ ปีเตอร์ เคราช์ ลงมาเล่นแทน จีนัส รวมถึง โจ โคล แต่ให้หลังอีกแค่นาทีเดียว สวิตเซอร์แลนด์ กลับตีเสมอสำเร็จเป็น 1-1 เมื่อ บาร์เนตตา จ่ายบอลให้ เดอร์ดิยอค ตวัดยิงเร็วด้วยซ้ายส่งลูกหนังผ่านมือ เจมส์ เข้าไปซุกก้นตาข่ายอย่างสวยงาม อย่างไรก็ตาม ถึงนาทีที่ 62 อังกฤษ ได้ประตูนำอีกครั้งเป็น 2-1 เจอร์ราร์ด หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดให้ ไรท์-ฟิลลิปส์ ตัวสำรองทีเด็ดแปบอลเข้าไปง่ายๆ
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย คาเปลโล ให้โอกาส เวย์น บริดจ์ และ โอเวน ฮาร์กรีฟส์ ลงมาสัมผัสเกมแทน แอชลีย์ โคล และ แกเร็ธ แบร์รี แต่เป็นทางทีมเยือนที่บุกกดันหวังทวงประตูคืนแต่ อังกฤษ ก็สวนกลับได้น่ากลัว เคราช์ จ่ายให้ “สตีวี่ จี” ซัดบอลข้ามคานออกไป ท้ายเกม “สิงโตคำราม” ตั้งรับเอาไว้ได้หมดเวลาการแข่งขันจึงเบียดเอาชนะ สวิตเซอร์แลนด์ ไปได้เป็นการประเดิมชัยให้กุนซือคนใหม่
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อังกฤษ : เดวิด เจมส์ , เวส บราวน์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , แม็ทธิว อัพสัน , แอชลีย์ โคล , เดวิด เบนท์ลีย์ , สตีเวน เจอร์ราร์ด , เจอร์เมน จีนัส , แกเร็ธ แบร์รี , โจ โคล , เวย์น รูนีย์
สวิตเซอร์แลนด์ : ดีเอโก เบนากลิโอ , สเตฟาน ลิชสไตเนอร์ , ฟิลิปป์ เซนเดอรอส , มาริโอ เอ็กกิมันน์ , คริสตอฟ สปีเชอร์ , ทรานควิลโล บาร์เนตตา , เกลสัน เฟอร์นานเดส , ก็อดฮาน อินเลอร์ , ดาเนียล ชีกักซ์ , ฮาคาน ยาคิน , แบลส เอ็นคูโฟ
ผลฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ ประจำคืนวันพุธ
จอร์เจีย แพ้ ลัตเวีย 1-3
มอลโดวา ชนะ คาซัคสถาน 1-0
ไซปรัส เสมอ ยูเครน 1-1
มาซิโดเนีย เสมอ เซอร์เบีย 1-1
อาร์เมเนีย แพ้ ไอซ์แลนด์ 0-2
ฮังการี เสมอ สโลวาเกีย 1-1
ตุรกี เสมอ สวีเดน 0-0
อิสราเอล ชนะ โรมาเนีย 1-0
มอลตา แพ้ เบลารุส 0-1
สโลวีเนีย แพ้ เดนมาร์ก 1-2
กรีซ ชนะ ฟินแลนด์ 2-1
โครเอเชีย แพ้ ฮอลแลนด์ 0-3
โปแลนด์ ชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-0
ออสเตรีย แพ้ เยอรมนี 0-3
ไอร์แลนด์เหนือ แพ้ บัลแกเรีย 0-1
เวลส์ ชนะ นอร์เวย์ 3-0
ไอร์แลนด์ แพ้ บราซิล 0-1
อิตาลี ชนะ โปรตุเกส 3-1
อังกฤษ ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 2-1
สเปน ชนะ ฝรั่งเศส 1-0