อาร์เซนอล แสดงให้เห็นถึงทีเด็ดทีขาดในแนวรุกโดยสามารถบุกไปยัดเยียดความปราชัยในบ้านตัวเองครั้งแรกของฤดูกาลนี้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้สำเร็จ 3-1 โดยที่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ดาวยิงทีมชาติโตโกของปืนใหญ่เหมาซัดคนเดียว 2 ลูก
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2551
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 – 3 อาร์เซนอล
ศึกลูกหนังลีกสูงสุดเมืองผู้ดีคู่แรกประจำวันเสาร์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ รับการมาเยือนของ อาร์เซนอล เกมนี้ สเวน โกรัน อีริคส์สัน นายใหญ่เจ้าถิ่นให้โอกาส ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าดาวรุ่งที่ทำผลงานช่วงหลังได้ดีลงเป็นตัวจริงโดยมี เอลาโน่ บลูแมร์ กับ มาร์ติน เปตรอฟ เป็นตัวขับเคลื่อนเกมรุก
ขณะที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือทีมเยือนไม่สามารถใช้งาน มานูเอล อัลมูเนีย นายทวารมือ 1 ได้ ทำให้ เยนส์ เลห์มันน์ ได้ลงเฝ้าเสาแทน ส่วน อาบู ดิยาบี้ ยังได้ประจำการในแผงมิดฟิลด์แทน โทมัส โรซิคกี้ ต่อไป โดย เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ จับคู่ล่าตาข่ายกับ เอดูอาร์โด ดา ซิลวา
เริ่มเกมมาได้เพียง 9 นาที ปืนใหญ่เป็นฝ่ายเบิกสกอร์แรกของเกมได้ก่อนจากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ คเล็บ จ่ายทะลุช่องให้ บาการี่ ซาญ่า หลุดไปถึงเส้นหลังด้านขวาแล้วหักกลับเข้ามาให้ อเดบายอร์ แปด้วยขวาระยะ 6 หลา บอลแฉลบก่อนลอยข้ามตัว โจ ฮาร์ท หลุดเข้าไปปะทะตาข่ายเป็นอันว่าอาคันตุกะจากลอนดอนขึ้นนำ 1-0
เดอะ กันเนอร์ส อาศัยการประสานงานที่ลงตัวเป็นใบเบิกทางไปสู่ประตูขึ้นนำ 2-0 ในนาทีที่ 26 จากการต่อเกมขึ้นมาจากแดนตัวเองแล้วถ่ายออกไปกรอบเขตโทษด้านซ้ายให้ กาแอล กลิชี่ ตักโด่งไปที่เสาสอง อเดบายอร์ โหม่งย้อนกลับมาตรงกลางให้ เอดูอาร์โด ที่ยืนอยู่ในตำแหน่งก้ำกึ่งว่าจะล้ำหน้า แต่ไม่มีธงยกจากไลน์แมน หัวหอกโครแอตจึงอาศัยทักษะพักอกก่อนเอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยซ้ายเสียบมุมอย่างเหนือชั้น
ทว่าเพียงแค่ 2 นาทีให้หลัง แมนฯ ซิตี้ ก็มาตีไข่แตกเป็น 1-2 ได้อย่างทันควัน จากความผิดพลาดของ กลิชี่ ที่บังบอลแถวเส้นหลัง ไม่สกัดให้เด็ดขาดจนถูก เวดราน คอร์ลูก้า เข้ามาฉกจากด้านหลังแล้วตบเรียดเข้ากลางให้ แกลซง แฟร์นองเดส สังหารตุงตาข่ายไม่เหลือ
เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรกของเกม อาร์เซนอล เกือบเจาะตาข่ายได้อีกครั้งจากลูกโขกบริเวณจุดโทษของ อเดบายอร์ แต่ โจ ฮาร์ท ยังปฏิกิริยาไวล้มตัวปัดไว้ได้ก่อนที่บอลจะเสียบเสาแล้วตามมาตะครุบอยู่มือในจังหวะสอง จากนั้นนาทีที่ 39 วิลเลียม กัลลาส ดันสูงขึ้นมาเล่นในจังหวะได้ลูกเตะมุมก่อนจะได้กดเน้นๆ เชส ฟาเบรกาส พยายามโถมเข้าโหม่งแต่ไม่โดน ขณะที่ ฮาร์ท บินไม่ถึงแล้ว ทว่าบอลพุ่งผ่านหน้าประตูไปแบบน่าหวาดเสียว
ท้ายครึ่งแรก เรือใบสีฟ้าพลาดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดายจากลูกที่ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ แตะคืนให้ เปตรอฟ สอดเข้ามาเข่นด้วยซ้ายข้างถนัดแถวเส้นเขตโทษ แต่ยิงบดเกินไป ลูกจึงหลุดข้างเสาอย่างน่าเสียดาย จบ 45 นาทีแรก อาร์เซนอล ยังคงนำอยู่ 2-1
เข้าสู่ครึ่งหลัง เดอะ กันเนอร์ส ยังคงหาโอกาสเข้าทำได้มากกว่าเจ้าบ้าน นาทีที่ 58 คเล็บ หลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนผ่านเรียดให้ อเดบายอร์ พลิกบอลในเขตโทษแล้วไหลคืนให้ ฟาเบรกาส กดด้วยขวาผ่านบล็อกของกองหลังแมนฯ ซิตี้ แต่ลูกลอยโด่งออกหลังไป
เรือใบสีฟ้าพยายามทวงประตูตีเสมอให้ได้ แต่ยังไม่ทีท่าว่าจะทำสำเร็จ แถมยังเกือบเสียประตูที่ 3 ให้ปืนใหญ่อีกในนาทีที่ 82 เมื่อ คอร์ลูก้า สกัดบอลจากเท้า เอดูอาร์โด หลุดไปเข้าทาง ฟาเบรกาส พักอกก่อนฮาล์ฟวอลเลย์จากนอกเขตโทษส่งบอลพุ่งผ่านเสาแรกแบบได้ลุ้น ก่อนที่ อาร์เซนอล จะมาได้ประตูย้ำชัยชนะอย่างเด็ดขาด 3-1 ในนาทที่ 88 จากจังหวะที่ตัดบอลได้ตรงกลางสนามแล้วสวนกลับเร็ว ซึ่ง อเดบายอร์ จัดการกดลูกที่ 2 ของตัวเองในเกมนี้ไม่พลาด ส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ ปราชัยในบ้านเป็นครั้งแรกในซีซันนี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – โจ ฮาร์ท, เวดราน คอร์ลูก้า, ไมกาห์ ริชาร์ดส, ริชาร์ด ดันน์, ไมเคิล บอลล์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ดีทมาร์ ฮามันน์, แกลซง แฟร์นองเดส, มาร์ติน เปตรอฟ, เอลาโน่ บลูแมร์, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์
อาร์เซนอล – เยนส์ เลห์มันน์, บาการี่ ซาญ่า, วิลเลียม กัลลาส, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, กาแอล กลิชี่, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ, เชส ฟาเบรกาส, มาติเยอ ฟลามินี่, อาบู ดิยาบี้, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, เอดูอาร์โด ดา ซิลวา
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ อาร์เซนอล 1-3 (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 0-1 นาที 9), (เอดูอาร์โด ดา ซิลวา 0-2 นาที 26), (แกลซง แฟร์นองเดส 1-2 นาที 28), (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 1-3 นาที 88)
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เสมอ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 1-1 (เซบาสเตียน ลาร์สสัน 1-0 นาที 68), (เอ็มมานูเอล บีญ่า 1-1 นาที 89)
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0
ปอร์ทสมัธ เสมอ เชลซี 1-1 (นิโกลาส์ อเนลก้า 0-1 นาที 55), (เจอร์เมน เดโฟ 1-1 นาที 64)
เรดดิ้ง แพ้ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-2 (เควิน โนแลน 0-1 นาที 33)
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 1-0 นาที 20), (คาร์ลอส เตเบซ 1-1 นาที 90)
วีแกน แอธเลติก ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-0 (เควิน คิลบาน 1-0 นาที 45)
ลิเวอร์พูล ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0 (ปีเตอร์ เคราช์ 1-0 นาที 57), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 2-0 นาที 69), (สตีเว่น เจอร์ราร์ด 3-0 จุดโทษ นาที 89)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2551
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 – 3 อาร์เซนอล
ศึกลูกหนังลีกสูงสุดเมืองผู้ดีคู่แรกประจำวันเสาร์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ รับการมาเยือนของ อาร์เซนอล เกมนี้ สเวน โกรัน อีริคส์สัน นายใหญ่เจ้าถิ่นให้โอกาส ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าดาวรุ่งที่ทำผลงานช่วงหลังได้ดีลงเป็นตัวจริงโดยมี เอลาโน่ บลูแมร์ กับ มาร์ติน เปตรอฟ เป็นตัวขับเคลื่อนเกมรุก
ขณะที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือทีมเยือนไม่สามารถใช้งาน มานูเอล อัลมูเนีย นายทวารมือ 1 ได้ ทำให้ เยนส์ เลห์มันน์ ได้ลงเฝ้าเสาแทน ส่วน อาบู ดิยาบี้ ยังได้ประจำการในแผงมิดฟิลด์แทน โทมัส โรซิคกี้ ต่อไป โดย เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ จับคู่ล่าตาข่ายกับ เอดูอาร์โด ดา ซิลวา
เริ่มเกมมาได้เพียง 9 นาที ปืนใหญ่เป็นฝ่ายเบิกสกอร์แรกของเกมได้ก่อนจากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ คเล็บ จ่ายทะลุช่องให้ บาการี่ ซาญ่า หลุดไปถึงเส้นหลังด้านขวาแล้วหักกลับเข้ามาให้ อเดบายอร์ แปด้วยขวาระยะ 6 หลา บอลแฉลบก่อนลอยข้ามตัว โจ ฮาร์ท หลุดเข้าไปปะทะตาข่ายเป็นอันว่าอาคันตุกะจากลอนดอนขึ้นนำ 1-0
เดอะ กันเนอร์ส อาศัยการประสานงานที่ลงตัวเป็นใบเบิกทางไปสู่ประตูขึ้นนำ 2-0 ในนาทีที่ 26 จากการต่อเกมขึ้นมาจากแดนตัวเองแล้วถ่ายออกไปกรอบเขตโทษด้านซ้ายให้ กาแอล กลิชี่ ตักโด่งไปที่เสาสอง อเดบายอร์ โหม่งย้อนกลับมาตรงกลางให้ เอดูอาร์โด ที่ยืนอยู่ในตำแหน่งก้ำกึ่งว่าจะล้ำหน้า แต่ไม่มีธงยกจากไลน์แมน หัวหอกโครแอตจึงอาศัยทักษะพักอกก่อนเอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยซ้ายเสียบมุมอย่างเหนือชั้น
ทว่าเพียงแค่ 2 นาทีให้หลัง แมนฯ ซิตี้ ก็มาตีไข่แตกเป็น 1-2 ได้อย่างทันควัน จากความผิดพลาดของ กลิชี่ ที่บังบอลแถวเส้นหลัง ไม่สกัดให้เด็ดขาดจนถูก เวดราน คอร์ลูก้า เข้ามาฉกจากด้านหลังแล้วตบเรียดเข้ากลางให้ แกลซง แฟร์นองเดส สังหารตุงตาข่ายไม่เหลือ
เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรกของเกม อาร์เซนอล เกือบเจาะตาข่ายได้อีกครั้งจากลูกโขกบริเวณจุดโทษของ อเดบายอร์ แต่ โจ ฮาร์ท ยังปฏิกิริยาไวล้มตัวปัดไว้ได้ก่อนที่บอลจะเสียบเสาแล้วตามมาตะครุบอยู่มือในจังหวะสอง จากนั้นนาทีที่ 39 วิลเลียม กัลลาส ดันสูงขึ้นมาเล่นในจังหวะได้ลูกเตะมุมก่อนจะได้กดเน้นๆ เชส ฟาเบรกาส พยายามโถมเข้าโหม่งแต่ไม่โดน ขณะที่ ฮาร์ท บินไม่ถึงแล้ว ทว่าบอลพุ่งผ่านหน้าประตูไปแบบน่าหวาดเสียว
ท้ายครึ่งแรก เรือใบสีฟ้าพลาดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดายจากลูกที่ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ แตะคืนให้ เปตรอฟ สอดเข้ามาเข่นด้วยซ้ายข้างถนัดแถวเส้นเขตโทษ แต่ยิงบดเกินไป ลูกจึงหลุดข้างเสาอย่างน่าเสียดาย จบ 45 นาทีแรก อาร์เซนอล ยังคงนำอยู่ 2-1
เข้าสู่ครึ่งหลัง เดอะ กันเนอร์ส ยังคงหาโอกาสเข้าทำได้มากกว่าเจ้าบ้าน นาทีที่ 58 คเล็บ หลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนผ่านเรียดให้ อเดบายอร์ พลิกบอลในเขตโทษแล้วไหลคืนให้ ฟาเบรกาส กดด้วยขวาผ่านบล็อกของกองหลังแมนฯ ซิตี้ แต่ลูกลอยโด่งออกหลังไป
เรือใบสีฟ้าพยายามทวงประตูตีเสมอให้ได้ แต่ยังไม่ทีท่าว่าจะทำสำเร็จ แถมยังเกือบเสียประตูที่ 3 ให้ปืนใหญ่อีกในนาทีที่ 82 เมื่อ คอร์ลูก้า สกัดบอลจากเท้า เอดูอาร์โด หลุดไปเข้าทาง ฟาเบรกาส พักอกก่อนฮาล์ฟวอลเลย์จากนอกเขตโทษส่งบอลพุ่งผ่านเสาแรกแบบได้ลุ้น ก่อนที่ อาร์เซนอล จะมาได้ประตูย้ำชัยชนะอย่างเด็ดขาด 3-1 ในนาทที่ 88 จากจังหวะที่ตัดบอลได้ตรงกลางสนามแล้วสวนกลับเร็ว ซึ่ง อเดบายอร์ จัดการกดลูกที่ 2 ของตัวเองในเกมนี้ไม่พลาด ส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ ปราชัยในบ้านเป็นครั้งแรกในซีซันนี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – โจ ฮาร์ท, เวดราน คอร์ลูก้า, ไมกาห์ ริชาร์ดส, ริชาร์ด ดันน์, ไมเคิล บอลล์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ดีทมาร์ ฮามันน์, แกลซง แฟร์นองเดส, มาร์ติน เปตรอฟ, เอลาโน่ บลูแมร์, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์
อาร์เซนอล – เยนส์ เลห์มันน์, บาการี่ ซาญ่า, วิลเลียม กัลลาส, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, กาแอล กลิชี่, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ, เชส ฟาเบรกาส, มาติเยอ ฟลามินี่, อาบู ดิยาบี้, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, เอดูอาร์โด ดา ซิลวา
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ อาร์เซนอล 1-3 (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 0-1 นาที 9), (เอดูอาร์โด ดา ซิลวา 0-2 นาที 26), (แกลซง แฟร์นองเดส 1-2 นาที 28), (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 1-3 นาที 88)
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เสมอ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 1-1 (เซบาสเตียน ลาร์สสัน 1-0 นาที 68), (เอ็มมานูเอล บีญ่า 1-1 นาที 89)
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0
ปอร์ทสมัธ เสมอ เชลซี 1-1 (นิโกลาส์ อเนลก้า 0-1 นาที 55), (เจอร์เมน เดโฟ 1-1 นาที 64)
เรดดิ้ง แพ้ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-2 (เควิน โนแลน 0-1 นาที 33)
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 1-0 นาที 20), (คาร์ลอส เตเบซ 1-1 นาที 90)
วีแกน แอธเลติก ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-0 (เควิน คิลบาน 1-0 นาที 45)
ลิเวอร์พูล ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0 (ปีเตอร์ เคราช์ 1-0 นาที 57), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 2-0 นาที 69), (สตีเว่น เจอร์ราร์ด 3-0 จุดโทษ นาที 89)
