ปอร์ทสมัธ ลอยลำเข้าสู่รอบ 4 ของศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ หลังบุกไปเฉือน อิปสวิช ทาวน์ แบบหวุดหวิด 1-0 ขณะที่ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส พลิกล็อกปราชัยต่อ โคเวนทรี ซิตี้ คารังแบบยับเยิน 1-4 ส่วน เชลซี เข้ารอบแบบหืดจับด้วยชัยชนะเหนือ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส เพียง 1-0
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3 วันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2551
อิปสวิช ทาวน์ 0 – 1 ปอร์ทสมัธ
ที่สนามปอร์ทแมน โร้ด “ม้าขาว” อิปสวิช ทาวน์ ทีมในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิป เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ปอร์ทสมัธ จากพรีเมียร์ชิป เกมนี้ จิม มาจิลตัน กุนซือเจ้าถิ่นส่ง ปาโบล กูนยาโก้ ดาวเตะชาวสเปนซึ่งเป็นดาวยิงสูงสุดของสโมสรในเวลานี้ลงจับคู่ล่าตาข่ายร่วมกับ บิลลี่ คลาร์ก ขณะที่ แฮร์รี่ เรดแนป์ ผู้จัดการทีมปอมปีย์ส่ง เอ็นวานโก้ คานู ลงเป็นกองหน้าตัวเป้าแทนที่ของ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี โดยมี จอห์น อูตาก้า เป็นตัวฟรี
หลังเขี่ยลูกเริ่มเล่นเป็นฝั่ง ปอร์ทสมัธ ที่ทำได้ดีกว่าก่อนจะมาได้ลุ้นแบบจะแจ้งในนาทีที่ 10 จากการพาบอลทะลุทะลวงเข้าไปของ เกล็น จอห์นสัน ที่แหวกกองหลัง อิปสวิช 3 คนเข้าไปซัดด้วยขวาในเขตโทษ แต่ นีล อเล็กซานเดอร์ ยังเซฟไว้ได้ที่เสาแรก ก่อนที่ อูตาก้า จะหยอดเข้าไปให้ ปาปา บูบา ดิย็อป ได้โหม่ง แต่ก็ยังไม่ผ่านมือนายด่านเจ้าถิ่น
นาทีที่ 12 ม้าขาวอาศัยจังหวะฉาบฉวยคุกคามแนวรับทีมเยือนก่อนได้โอกาสจาก บิลลี่ คลาร์ก ถึง 2 ครั้งโดยหนแรกถูกเบียดในจังหวะยิงในเขตโทษลูกจึงตรงตัว เดวิด เจมส์ ส่วนหนที่ 2 ซึ่งฉกบอลจากการเตะสกัดของ ซิลแว็ง ดิสแต็ง ได้ก็หวังลักไก่ข้ามหัว เจมส์ แต่รีบร้อนเกินไปจึงยังไม่เข้าเป้า
เข้าสู่นาทีที่ 24 อิปสวิชก็ต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ เลียม ทร็อตเตอร์ พุ่งเข้ามาสไลด์ เปโดร เมนเดส จนตัวลอยซึ่งผู้ตัดสิน มาร์ค ฮัลซีย์ ควักใบแดงออกมาจากกระเป๋าไล่ ทร็อตเตอร์ ออกไปแบบไม่ลังเล ทำให้เจ้าถิ่นต้องเสียเปรียบเรื่องจำนวนผู้เล่นตั้งแต่ช่วงกลางครึ่งแรก
อย่างไรก็ตาม ม้าขาวที่เหลือนักเตะในสนามอยู่เพียง 10 คน ก็สามารถบุกกดดันปอมปีย์ได้ในช่วงก่อนหมด 45 นาทีแรก และเกือบได้ประตูจากจังหวะที่ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายซึ่งเปิดยัดเข้ามาที่เสาแรก กูนยาโก้ ข้ามหลอกหวังให้ คลาร์ก เข้าชาร์จที่หน้าประตู แต่ เกล็น จอห์นสัน ตามาหวดทิ้งออกไปได้ทันเวลา จบครึ่งแรกจึงเสมอที่ 0-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้ไม่ถึง 3 นาที อิปสวิช ก็เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ แดนนี เฮย์นส พาบอลขึ้นมาทางด้านขวาก่อนซัดเรียดจากนอกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้าหาเสาไกลแต่ เดวิด เจมส์ ยังไม่พลาดล้มตัวปัดออกหลังได้อย่างหวุดหวิด
กระนั้น ปอร์ทสมัธ ก็กลับเป็นฝ่ายขยับสกอร์บอร์ดให้เป็น 1-0 ได้ก่อนในนาทีที่ 51 จากจังหวะโยนยาวจากแดนหลังของ โซล แคมป์เบลล์ บอลลอยมาถึง เดวิด นูเจนท์ หัวหอกที่เพิ่งลงมาเล่นในครึ่งหลังแตะบอลเข้าเขตโทษแล้วยิงสวนตัว นีล อเล็กซานเดอร์ เข้าไปตุงตาข่ายแบบนิ่มๆ
ผ่านมาถึงนาทีที่ 63 นูเจนท์ ก็เกือบใส่สกอร์ที่ 2 ของเกมได้อีกครั้ง เมื่อได้บอลจากการเปิดมาให้ทางด้านขวาของ อูตากา แล้วเอี้ยวตัววอลเลย์แต่ลูกไปชนคานออกหลังอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ อเล็กซานเดอร์ ได้แต่ชายตามองแล้ว
จากนั้น ปอมปีย์ ก็สามารถครองเกมได้ดีกว่าและได้ลุ้นทำประตูอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 75 บูบา ดิย็อป ได้โขกเหน่งๆ จากลูกโยนทางด้านขวาของ จอห์นสัน แต่ไปเข้ามือของ อเล็กซานเดอร์ ก่อนที่ 2 นาทีต่อมา ครันชาร์ จะตวัดมาหน้าประตูให้ อูตาก้า ชาร์จโล่งๆ แต่แปโดนไม่เต็มเท้าทำให้ลูกผ่านหน้าประตูไปแบบน่าเจ็บใจ
ช่วงท้ายเกม เดวิด เจมส์ ช่วยให้ทีมเยือนไม่ถูกตีเสมอถึง 2 ครั้งจากการซูเปอร์เซฟลูกโหม่งของ อลัน ลี ตัวสำรองเจ้าถิ่น และลูกยิงของ แดนนี่ เฮย์นส ทำให้จบเกม ปอร์ทสมัธ บุกมาเอาชนะ อิปสวิช ถึงถิ่น 1-0 ลอยลำเข้าสู่รอบ 4 ได้สำเร็จ ขณะที่ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส กลายเป็นทีมจากพรีเมียร์ลีกที่หลุดวงโคจรตั้งแต่รอบ 3 หลังถูก โคเวนทรี ซิตี้ บุกมาโค่นถึง 4-1 ส่วน เชลซี กรุยทางเข้ารอบต่อไปหลังเฉือน ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส แบบหวุดหวิด 1-0
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อิปสวิช ทาวน์ – นีล อเล็กซานเดอร์, ฟาเบียน วิลนิส, อเล็กซ์ บรูซ, หลุยส์ คาสโตร ซิโต้, เดวิด ไรท์, โอเว่น การ์แวน, แดนนี่ เฮย์นส, เลียม ทร็อตเตอร์, เกวิน วิลเลียมส์, บิลลี่ คลาร์ก, ปาโบล กูนยาโก้
ปอร์ทสมัธ – เดวิด เจมส์, เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน, เปโดร เมนเดส, อาร์โนลด์ เอ็มวูเอ็มบ้า, ปาปา บูบา ดิย็อป, นิโก้ ครันชาร์, จอห์น อูตาก้า, เอ็นวานโก้ คานู
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3
เชสทาวน์ แพ้ คาร์ดิฟฟ์ 1-3
วอลซอลล์ เสมอ มิลล์วอลล์ 0-0
วูล์ฟแฮมป์ตัน ชนะ เคมบริดจ์ ยูไนเต็ด 2-1
บาร์นสลีย์ ชนะ แบล็กพูล 2-1
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส แพ้ โคเวนทรี ซิตี้ 1-4
โบลตัน วันเดอเรอร์ส แพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 0-1
ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน แพ้ แมนสฟิลด์ ทาวน์ 1-2
บริสตอล ซิตี้ แพ้ มิดเดิลสโบรช์ 1-2
ชาร์ลตัน แอธเลติก เสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 1-1
เชลซี ชนะ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส 1-0
โคลเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ ปีเตอร์โบโร่ 1-3
ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 2-1
อิปสวิช ทาวน์ แพ้ ปอร์ทสมัธ 0-1
นอริช ซิตี้ เสมอ บิวรี่ 1-1
พลีมัธ อาร์ไกล์ ชนะ ฮัลล์ ซิตี้ 3-2
เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ชนะ สคันธอร์ป 1-0
เซาธ์แฮมป์ตัน ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0
เซาธ์เอนด์ ยูไนเต็ด ชนะ ดาเกแนม แอนด์ เรด บริดจ์ 5-2
ซันเดอร์แลนด์ แพ้ วีแกน แอธเลติก 0-3
สวอนซี เสมอ ฮาแวนต์ แอนด์ วอเตอร์ลูวิลล์ 1-1
สวินดอน เสมอ บาร์เน็ต 1-1
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เสมอ เรดดิ้ง 2-2
ทรานเมียร์ โรเวอร์ส เสมอ เฮเรฟอร์ด 2-2
วัตฟอร์ด ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0
เอฟเวอร์ตัน แพ้ โอลด์แฮม แอธเลติก 0-1
แอสตัน วิลล่า แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3 วันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2551
อิปสวิช ทาวน์ 0 – 1 ปอร์ทสมัธ
ที่สนามปอร์ทแมน โร้ด “ม้าขาว” อิปสวิช ทาวน์ ทีมในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิป เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ปอร์ทสมัธ จากพรีเมียร์ชิป เกมนี้ จิม มาจิลตัน กุนซือเจ้าถิ่นส่ง ปาโบล กูนยาโก้ ดาวเตะชาวสเปนซึ่งเป็นดาวยิงสูงสุดของสโมสรในเวลานี้ลงจับคู่ล่าตาข่ายร่วมกับ บิลลี่ คลาร์ก ขณะที่ แฮร์รี่ เรดแนป์ ผู้จัดการทีมปอมปีย์ส่ง เอ็นวานโก้ คานู ลงเป็นกองหน้าตัวเป้าแทนที่ของ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี โดยมี จอห์น อูตาก้า เป็นตัวฟรี
หลังเขี่ยลูกเริ่มเล่นเป็นฝั่ง ปอร์ทสมัธ ที่ทำได้ดีกว่าก่อนจะมาได้ลุ้นแบบจะแจ้งในนาทีที่ 10 จากการพาบอลทะลุทะลวงเข้าไปของ เกล็น จอห์นสัน ที่แหวกกองหลัง อิปสวิช 3 คนเข้าไปซัดด้วยขวาในเขตโทษ แต่ นีล อเล็กซานเดอร์ ยังเซฟไว้ได้ที่เสาแรก ก่อนที่ อูตาก้า จะหยอดเข้าไปให้ ปาปา บูบา ดิย็อป ได้โหม่ง แต่ก็ยังไม่ผ่านมือนายด่านเจ้าถิ่น
นาทีที่ 12 ม้าขาวอาศัยจังหวะฉาบฉวยคุกคามแนวรับทีมเยือนก่อนได้โอกาสจาก บิลลี่ คลาร์ก ถึง 2 ครั้งโดยหนแรกถูกเบียดในจังหวะยิงในเขตโทษลูกจึงตรงตัว เดวิด เจมส์ ส่วนหนที่ 2 ซึ่งฉกบอลจากการเตะสกัดของ ซิลแว็ง ดิสแต็ง ได้ก็หวังลักไก่ข้ามหัว เจมส์ แต่รีบร้อนเกินไปจึงยังไม่เข้าเป้า
เข้าสู่นาทีที่ 24 อิปสวิชก็ต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ เลียม ทร็อตเตอร์ พุ่งเข้ามาสไลด์ เปโดร เมนเดส จนตัวลอยซึ่งผู้ตัดสิน มาร์ค ฮัลซีย์ ควักใบแดงออกมาจากกระเป๋าไล่ ทร็อตเตอร์ ออกไปแบบไม่ลังเล ทำให้เจ้าถิ่นต้องเสียเปรียบเรื่องจำนวนผู้เล่นตั้งแต่ช่วงกลางครึ่งแรก
อย่างไรก็ตาม ม้าขาวที่เหลือนักเตะในสนามอยู่เพียง 10 คน ก็สามารถบุกกดดันปอมปีย์ได้ในช่วงก่อนหมด 45 นาทีแรก และเกือบได้ประตูจากจังหวะที่ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายซึ่งเปิดยัดเข้ามาที่เสาแรก กูนยาโก้ ข้ามหลอกหวังให้ คลาร์ก เข้าชาร์จที่หน้าประตู แต่ เกล็น จอห์นสัน ตามาหวดทิ้งออกไปได้ทันเวลา จบครึ่งแรกจึงเสมอที่ 0-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้ไม่ถึง 3 นาที อิปสวิช ก็เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ แดนนี เฮย์นส พาบอลขึ้นมาทางด้านขวาก่อนซัดเรียดจากนอกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้าหาเสาไกลแต่ เดวิด เจมส์ ยังไม่พลาดล้มตัวปัดออกหลังได้อย่างหวุดหวิด
กระนั้น ปอร์ทสมัธ ก็กลับเป็นฝ่ายขยับสกอร์บอร์ดให้เป็น 1-0 ได้ก่อนในนาทีที่ 51 จากจังหวะโยนยาวจากแดนหลังของ โซล แคมป์เบลล์ บอลลอยมาถึง เดวิด นูเจนท์ หัวหอกที่เพิ่งลงมาเล่นในครึ่งหลังแตะบอลเข้าเขตโทษแล้วยิงสวนตัว นีล อเล็กซานเดอร์ เข้าไปตุงตาข่ายแบบนิ่มๆ
ผ่านมาถึงนาทีที่ 63 นูเจนท์ ก็เกือบใส่สกอร์ที่ 2 ของเกมได้อีกครั้ง เมื่อได้บอลจากการเปิดมาให้ทางด้านขวาของ อูตากา แล้วเอี้ยวตัววอลเลย์แต่ลูกไปชนคานออกหลังอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ อเล็กซานเดอร์ ได้แต่ชายตามองแล้ว
จากนั้น ปอมปีย์ ก็สามารถครองเกมได้ดีกว่าและได้ลุ้นทำประตูอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 75 บูบา ดิย็อป ได้โขกเหน่งๆ จากลูกโยนทางด้านขวาของ จอห์นสัน แต่ไปเข้ามือของ อเล็กซานเดอร์ ก่อนที่ 2 นาทีต่อมา ครันชาร์ จะตวัดมาหน้าประตูให้ อูตาก้า ชาร์จโล่งๆ แต่แปโดนไม่เต็มเท้าทำให้ลูกผ่านหน้าประตูไปแบบน่าเจ็บใจ
ช่วงท้ายเกม เดวิด เจมส์ ช่วยให้ทีมเยือนไม่ถูกตีเสมอถึง 2 ครั้งจากการซูเปอร์เซฟลูกโหม่งของ อลัน ลี ตัวสำรองเจ้าถิ่น และลูกยิงของ แดนนี่ เฮย์นส ทำให้จบเกม ปอร์ทสมัธ บุกมาเอาชนะ อิปสวิช ถึงถิ่น 1-0 ลอยลำเข้าสู่รอบ 4 ได้สำเร็จ ขณะที่ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส กลายเป็นทีมจากพรีเมียร์ลีกที่หลุดวงโคจรตั้งแต่รอบ 3 หลังถูก โคเวนทรี ซิตี้ บุกมาโค่นถึง 4-1 ส่วน เชลซี กรุยทางเข้ารอบต่อไปหลังเฉือน ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส แบบหวุดหวิด 1-0
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อิปสวิช ทาวน์ – นีล อเล็กซานเดอร์, ฟาเบียน วิลนิส, อเล็กซ์ บรูซ, หลุยส์ คาสโตร ซิโต้, เดวิด ไรท์, โอเว่น การ์แวน, แดนนี่ เฮย์นส, เลียม ทร็อตเตอร์, เกวิน วิลเลียมส์, บิลลี่ คลาร์ก, ปาโบล กูนยาโก้
ปอร์ทสมัธ – เดวิด เจมส์, เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน, เปโดร เมนเดส, อาร์โนลด์ เอ็มวูเอ็มบ้า, ปาปา บูบา ดิย็อป, นิโก้ ครันชาร์, จอห์น อูตาก้า, เอ็นวานโก้ คานู
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3
เชสทาวน์ แพ้ คาร์ดิฟฟ์ 1-3
วอลซอลล์ เสมอ มิลล์วอลล์ 0-0
วูล์ฟแฮมป์ตัน ชนะ เคมบริดจ์ ยูไนเต็ด 2-1
บาร์นสลีย์ ชนะ แบล็กพูล 2-1
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส แพ้ โคเวนทรี ซิตี้ 1-4
โบลตัน วันเดอเรอร์ส แพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 0-1
ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน แพ้ แมนสฟิลด์ ทาวน์ 1-2
บริสตอล ซิตี้ แพ้ มิดเดิลสโบรช์ 1-2
ชาร์ลตัน แอธเลติก เสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 1-1
เชลซี ชนะ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส 1-0
โคลเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ ปีเตอร์โบโร่ 1-3
ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 2-1
อิปสวิช ทาวน์ แพ้ ปอร์ทสมัธ 0-1
นอริช ซิตี้ เสมอ บิวรี่ 1-1
พลีมัธ อาร์ไกล์ ชนะ ฮัลล์ ซิตี้ 3-2
เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ชนะ สคันธอร์ป 1-0
เซาธ์แฮมป์ตัน ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0
เซาธ์เอนด์ ยูไนเต็ด ชนะ ดาเกแนม แอนด์ เรด บริดจ์ 5-2
ซันเดอร์แลนด์ แพ้ วีแกน แอธเลติก 0-3
สวอนซี เสมอ ฮาแวนต์ แอนด์ วอเตอร์ลูวิลล์ 1-1
สวินดอน เสมอ บาร์เน็ต 1-1
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เสมอ เรดดิ้ง 2-2
ทรานเมียร์ โรเวอร์ส เสมอ เฮเรฟอร์ด 2-2
วัตฟอร์ด ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0
เอฟเวอร์ตัน แพ้ โอลด์แฮม แอธเลติก 0-1
แอสตัน วิลล่า แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2