xs
xsm
sm
md
lg

3 วัดดังออกของขลังสกัด COVID-19 ทั้งแจกฟรี-เปิดบูชา

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้คนวิตกกังวลเกรงติดเชื้อ COVID-19 พบ 3 วัดดังมีของขลัง หัวนะโม เชื่อกันว่าป้องกันโรคห่าในอดีต คนแห่บูชาเกลี้ยง จนต้องออกรุ่นใหม่ปลายเดือน ส่วนหลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม ออกหน้ากากผ้าลงยันต์ “นะ ปัดตลอด” บูชาชิ้นละ 59 บาท ด้านวัดเถรพลาย แจกฟรีสติกเกอร์ยันต์เกราะเพชร แจกหมดจนต้องพิมพ์ใหม่ คนในวงการศาสนาชี้ทั้งหมดเป็นเพียงการสร้างกำลังใจให้ประชาชนในยามวิกฤต แนะดูแลตัวเองดีที่สุด

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่คร่าชีวิตของคนทั่วโลกไปแล้วนับหมื่นราย ขณะที่ในประเทศไทย แม้ในระยะแรกจะคุมสถานการณ์มาได้ระยะหนึ่ง แต่ขณะนี้พบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสูงกว่าร้อยรายต่อวัน จนมีผู้ติดเชื้อสะสมสูงกว่า 1,000 รายแล้ว มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย ขณะที่วิธีการป้องกันตัวเองของภาคประชาชน อุปกรณ์ อย่างหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์และแอลกอฮอล์ กลายเป็นสินค้าหายากและมีราคาสูงขึ้นหลายเท่าตัว จนภาครัฐต้องมีมาตรการควบคุมและดำเนินการจับกุมผู้ที่ขายสินค้าเกินราคา และรณรงค์ให้ผู้ที่ไม่ป่วยใช้หน้ากากผ้าแทน ทำให้สถานการณ์การหาอุปกรณ์ป้องกันตัวเองของประชาชนเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังไม่อยู่ในภาวะที่หาซื้อได้เหมือนปกติ

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังให้คำแนะนำในการรับประทานอาหารว่าไม่ควรใช้ช้อนร่วมกัน รักษาระยะห่างระหว่างกัน ไม่ควรไปในสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก และหากจำเป็นควรสวมหน้ากากอนามัย รวมไปถึงควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอบกอฮอล์ พร้อมทั้งแนะนำให้อยู่แต่ในบ้านหรือทำงานที่บ้าน

มีแนวโน้มว่าจำนวนผู้ติดเชื้ออาจพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังผู้ติดเชื้อที่อาจไม่ทราบว่าตัวเองเป็นพาหะได้ไปตามสถานที่ต่างๆ จนต้องมีการกักตัวบุคคลใกล้ชิดเพื่อสังเกตอาการและร้านค้าหลายแห่งต้องปิดทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและกักตัวพนักงานสังเกตอาการด้วยเช่นกัน

ท่ามกลางการระบาดที่ขยายวงกว้าง หลายประเทศมีการปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด สำหรับประเทศไทยเริ่มมีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 26 มีนาคม 2563 เพื่อควบคุมและลดโอกาสในการแพร่กระจายเชื้อระหว่างประชาชน

สวดบทรัตนสูตร

การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ยังไม่มียารักษา โดยเฉพาะมีบุคคลที่มีชื่อเสียงติดเชื้อดังกล่าว และด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกมีจำนวนมาก สภาพจิตใจของประชาชนเกิดความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชนที่กำลังเผชิญกับภัยจากโรคอุบัติใหม่ตัวนี้

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เสนอเรื่องผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไปยังมหาเถรสมาคมขอให้มีมติให้พระสงฆ์ทุกวัดในประเทศไทยร่วมสวดมนต์ บทรัตนสูตร ทุกวันในการทำวัตรเย็น เนื่องจากตามโบราณมีการสวดมนต์บทสวดรัตนสูตร เมื่อเกิดโรคห่าระบาด เชื่อกันว่าบทสวดนี้จะทำให้ปัดเป่าสิ่งไม่ดี โรคภัยไข้เจ็บให้พ้นจากประเทศไทย และเริ่มสวดตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 โดยมีพระสังฆราชเป็นองค์ประธาน

นับเป็นความพยายามในการเยียวยาสภาพจิตใจให้แก่ประชาชน เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคล และขวัญกำลังใจให้ทุกคนมีสติในการดำรงชีวิต


หัวนะโม-วัดเขาพระทอง นครศรีฯ

ก่อนหน้านี้ ได้มีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปบูชาหัวนะโมและแหวนนะโม ที่วัดเขาพระทอง อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง กล่าวว่า แหวนหัวนะโม และหัวนะโม ทางวัดจัดสร้างขึ้นเป็นรุ่นแรก เพื่อต้องการนำรายได้สมทบทุนสร้างโบสถ์หลังใหม่ของวัด มีขั้นตอนการจัดสร้าง รวมทั้งการประกอบปลุกเสกตามพิธีโบราณทุกประการ ส่วนที่ชาวบ้านเชื่อว่าป้องกันไวรัสโควิด-19 นั้น ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล

ทั้งนี้ วัดเขาพระทอง ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกหัวนะโม เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2562 เพื่อแจกจ่ายแก่พุทธศาสนิกชนที่เดินทางไปทอดกฐิน ณ วัดเขาพระทอง ในวันที่ 27 ตุลาคม 2562

ตามประวัติแล้ว หัวนะโม สร้างขึ้นหลังจากเกิดโรคอหิวาต์ระบาดหรือโรคห่า พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรตามพรลิงค์จึงทรงทำพิธีปลุกเสกหัวนะโมขึ้นด้วยพิธีกรรมแบบพราหมณ์ โดยอัญเชิญเทพเจ้าทั้งสามคือ พระศิวะ พระวิษณุ และพระพรหม มาสถิตในหัวนะโม เป็นอักขระแทนองค์เทพเจ้าทั้งสามองค์ แล้วนำหัวนะโมไปหว่านไว้รอบเมือง และหว่านสถานที่เกิดโรคระบาด ปรากฏว่าโรคห่าได้หายไปจากอาณาจักรนครศรีธรรมราช

ในรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เกิดโรคห่าระบาดขึ้นในเมืองนครศรีธรรมราช พระองค์จึงมีรับสั่งให้สร้างหัวนะโมขึ้น แล้วประจุผงพระพุทธคุณอันวิเศษที่สำเร็จขึ้นจากพระอาจารย์ผู้มีกฤตยาคมสูงลงในหัวนะโมนั้น แล้วทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำหัวนะโมไปหว่านโปรยรอบเมืองนครศรีธรรมชาติ ต่อมาโรคห่าก็หาย

เมื่อผลตอบรับหัวนะโม และแหวนหัวนะโม ที่ทางวัดจัดสร้างรุ่นแรกหมดไป จากความเชื่อว่าจะช่วยป้องกันโรคระบาดได้เหมือนในอดีต ทางวัดเขาพระทองจึงจัดทำอีกครั้ง “รุ่นพิเศษบารมีโภคทรัพย์สร้างโบสถ์” กำหนดพิธีปลุกเสกหัวนะโม และแหวนหัวนะโมอีกครั้ง ในวันที่ 31 มีนาคม 2563 จำนวน 5,000 ชิ้น ให้ญาติโยมที่เข้าร่วมพิธีนำไปบูชาเป็นเครื่องรางของขลัง สร้างขวัญกำลังใจให้ผ่านพ้นวิกฤตการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยกำหนดพิธีกรรมตามประเพณีโบราณทุกประการ

“จากการสอบถาม พบว่า บูชาหัวนะโมเม็ดละ 159 บาท แหวนหัวนะโม 399 บาท (ลงทะเบียน 25 บาท) กรณีแหวนหัวนะโมแจ้งขนาดของรอบนิ้วเป็นเซนติเมตรให้แก่ทางวัด สามารถสั่งจองได้และชำระเงินตามบัญชีของทางวัดและมีบริการจัดส่งทางไปรษณีย์”


หน้ากากผ้าลงยันต์-วัดไผ่ล้อม

อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความฮือฮาในการช่วยเหลือทางด้านจิตใจของประชาชน เปิดตัวเมื่อ 19 มีนาคม 2563 นั่นคือ หน้ากากอนามัยผ้ามัสลิน “นะปัดตลอด” ออกแบบจัดสร้างโดย หลวงพี่น้ำฝน หรือพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม จัดทำขึ้นเพื่อทดแทนหน้ากากอนามัย

ด้านนอกของหน้ากากมีการพิมพ์ยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า ยันต์พระเจ้า 5 พระองค์ ยันต์หัวใจพระรัตนตรัย (อิ สวา สุ) ยันต์ครูหลวงพ่อพูล (ยันต์เมตตา) ยันต์ นะ อดทน ยันต์ นะ ปัดตลอด ยันต์หัวใจธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ท้าวเวสสุวรรณ พุทธ โธ เพื่อเป็นกำลังใจในการต่อสู้กับสภาวะในช่วงการแพร่ระบาดโดยเป็นหน้ากากที่สามารถนำไปซักได้หลายครั้ง

คณะสงฆ์วัดไผ่ล้อม โดย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ ได้จัดให้มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์มงคลรัตนสูตร คาถาป้องกัน 10 ทิศ ธรรมจักรกัปวัตนสูตร เจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน โดยอาศัยอานุภาพแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหลักชัย ในวันที่ 28 มีนาคม 2563 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ 5 มหามงคล โดยงดศรัทธาญาติโยมผู้ที่จะเข้าร่วมพิธี เว้นแต่พระสงฆ์ที่จะเข้าสวดพระพุทธมนต์ในวิหารพระพุทธเมตตา

โดยจะนำออกมาให้บูชาในวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 มีบัญชีธนาคารสำหรับการโอนเงิน รายได้เพื่อสมทบกองทุนหลวงพ่อพูล เพื่อสาธารณสงเคราะห์

หน้ากากผ้านะปัดตลอดของวัดไผ่ล้อมมี 4 แบบ ผ้าสีราชนิยม ยันต์สีดำ ผ้าสีเหลือง ยันต์สีน้ำเงิน ผ้าสีกากี ยันต์สีแดงเลือดหมู และผ้าสีดำ ยันต์สีทอง ร่วมบูชา 59 บาทต่อชิ้น มีบริการจัดส่งทางไปรษณีย์ แบบลงทะเบียนค่าส่งชิ้นแรก 30 บาท ชิ้นถัดไปชิ้นละ 10 บาท หรือแบบด่วนพิเศษส่งชิ้นแรก 50 บาท ชิ้นถัดไป ชิ้นละ 10 บาท หากคละแบบ จำนวน 20 ชิ้นขึ้นไป เหมาจ่าย 200 บาท

ล่าสุด ทางวัดไผ่ล้อมได้แจ้งว่า “ขออภัยในความล่าช้า ทุกท่านได้รับของแน่นอน” เนื่องจากมีผู้ให้ความสนใจหน้ากากผ้ามัสลิน ยันต์นะปัดตลอดเป็นจำนวนมาก จึงส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตอบกลับข้อความมีความล่าช้าเกิดขึ้น ทางวัดไผ่ล้อมจะเร่งดำเนินการตอบกลับทุกข้อความที่เข้ามาอย่างเต็มที่ เพื่อให้เข้าถึงทุกท่านอย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มจัดส่ง 30 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ทางวัดยังได้เปิดให้ขอพร หนุมานเชิญธงทรงพลัง ให้ทุกท่านปลอดภัย พัดโบก ปัดเป่า Covid19 โคโรนาไว้รัสออกไป


ยันต์เกราะเพชร-วัดเถรพลาย

นอกจากนี้ ยังพบว่าวัดเถรพลาย อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ได้แจกสติกเกอร์ยันต์เกราะเพชร ป้องกันเชื้อโควิด-19 เจ้าอาวาสวัดเถรพลาย กล่าวว่า ชาวบ้านมีความวิตกกังวล เครียด จิตตก เพราะกลัวจะติดเชื้อโควิด-19 ทางวัดจึงจัดทำสติกเกอร์ยันต์กันโควิดหลวงพ่อสีชมพู เพื่อมอบให้แก่ผู้ที่มาไหว้พระ เพื่อเตือนสติ ไม่ให้ตื่นตระหนกจนเกินเหตุ เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ชาวบ้านที่ต้องประสบกับสถานการณ์ในช่วงนี้ ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี 

ตัวสติกเกอร์ขนาด 9x9 เซนติเมตร ประกอบด้วย ยันต์ตรีนิสิงเห 4 มุม 4 ทิศ ลงอักขระคาถาสำคัญ ใช้ป้องกันภัยอันตรายและโรคภัยไข้เจ็บ มีท้าวเวสสุวรรณ เทพเจ้าแห่งยักษ์ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ และยันต์เกราะเพชร ใช้ป้องกันสิ่งอัปมงคลเข้าตัว โดยมีการสวดเจริญพระพุทธมนต์บทรัตนสูตร ซึ่งเป็นบทสวดมนต์ที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศใช้เพื่อไล่โรคภัยมาแต่ครั้งพุทธกาล

เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ

แหล่งข่าวจากวงการพระพุทธศาสนา กล่าวว่า ของขลัง 3 วัดมีความแตกต่างกันไป อย่างหัวนะโม วัดเขาพระทอง นครศรีธรรมราช มีการจัดทำมาตั้งแต่ตุลาคม 2562 ก่อนที่จะมีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่อู่ฮั่น วัตถุประสงค์ของทางวัดเพื่อนำรายได้สมทบทุนสร้างโบสถ์หลังใหม่ของวัด เมื่อมีคนมาบูชาจนหมด จึงจัดทำรุ่นใหม่ขึ้นมา โดยทางวัดไม่ได้ระบุว่าป้องกัน COVID-19 แต่เป็นความเชื่อของประชาชนที่ทราบถึงประวัติของหัวนะโมในอดีตที่เคยใช้ในการปัดเป่าโรคอหิวาตกโรคในอดีตกาล

ขณะที่ยันต์เกราะเพชร วัดเถรพลาย สุพรรณบุรี ทางวัดแจกให้สำหรับผู้ที่เข้ามากราบหลวงพ่อสีชมพู ตัวสติกเกอร์ระบุชัดเจนว่า “ยันต์คุ้มภัยโรคโควิด-19” ซึ่งแจกหมดไปแล้ว และทางวัดได้จัดพิมพ์สติกเกอร์ขึ้นมาใหม่แจกให้แก้ประชาชนเหมือนเดิม

ส่วนหน้ากากผ้า “นะปัดตลอด” ของหลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม นับว่าเข้ากับสถานการณ์เป็นอย่างมาก ด้านหนึ่งสามารถใช้ทดแทนหน้ากากอนามัย ใช้ผ้ามัสลินที่ได้รับการยอมรับจากกระทรวงสาธารณสุข มียันต์สกรีนที่ด้านหน้าหน้ากาก รายได้สมทบกองทุนหลวงพ่อพูล เพื่อสาธารณสงเคราะห์

ทั้งหมดคือเพียงเครื่องมือในการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชน ในภาวะที่เกิดการระบาดของเชื้อ COVID-19 ทั่วโลก แต่การป้องกันตัวเองนับว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ปฏิบัติตามคำแนะนำของภาครัฐ เพื่อร่วมมือกันช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในประเทศไทย



กำลังโหลดความคิดเห็น