COVID-19 พ่นพิษ วัดพระธรรมกายใช้ “อาคารบุญรักษา” เป็นสถานที่กักตัว-สังเกตอาการผู้ติดเชื้อ ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์สหคลินิกบุญรักษ์ ฝืนไม่ไหวยอมยกเลิกกิจกรรมบวชภาคฤดูร้อนเกลี้ยง ขณะที่สาขาทั่วโลกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง เกาหลีใต้หนัก “ปิดวัด” วัดภาวนาคย็องจูใกล้ศูนย์กลางแพร่ระบาด 30 กิโลเมตร ขอรับบริจาคค่าน้ำ-ไฟ และค่าเช่าวัด บอกบุญหาเจ้าภาพภัตตาหารรายวัน
สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ลามไปทั่วโลก ส่งผลกระทบไปยังทุกกิจกรรมในแต่ละประเทศต้องงดจัด หนึ่งในแนวทางการป้องกันคือ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก งานคอนเสิร์ต งานอีเวนต์ต่างๆ จึงต้องงดจัด หรือเลื่อนออกไป หรือกีฬาอย่างฟุตบอลในประเทศแถบยุโรปให้มีการแข่งขันแบบปิด โดยไม่มีผู้ชม เพื่อความปลอดภัยและป้องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสตัวนี้
สำหรับกิจกรรมทางด้านศาสนา ซึ่งเป็นที่รวมของคนจำนวนมากเช่นเดียวกัน วัดที่จัดบุญอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะนอกวันสำคัญทางพุทธศาสนา อย่างวัดพระธรรมกาย ที่เดิมสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกศิษย์ที่ต้องการมาร่วมบุญว่าทางวัดมีการจัดการเรื่องความสะอาดและป้องกัน COVID-19 เนื่องจากในช่วงปิดเทอมอย่างนี้ทางวัดมีกิจกรรมบวชภาคฤดูร้อนในทุกปี
ยกเลิกกิจกรรมบวชภาคฤดูร้อน
แต่สุดท้ายทางวัดพระธรรมกายได้แจ้งยกเลิกกิจกรรมดังกล่าว ด้วยการออกประกาศของสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย เมื่อ 7 มีนาคม 2563
ประกาศยกเลิกโครงการอบรมธรรมทายาทภาคฤดูร้อน 2563 เนื่องด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 วัดพระธรรมกายจึงขอยกเลิกโครงการอบรมธรรมทายาทภาคฤดูร้อนปี 2563 ภายในวัดพระธรรมกายทุกโครงการ ประกอบด้วย ยุว-มัชฌิมธรรมทายาท สามเณรหน่อแก้วเปรียญธรรม ธรรมทายาทพุทธศาสตร์สากล บูชาธรรมวันคุ้มครองโลกเฟส 1 และเฟส 2 ธรรมทายาทหญิง มัชฌิมฯ หญิง และการอบรมอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน
“เดิมวัดพระธรรมกายได้เดินหน้ากิจกรรมชวนบวชในช่วงปิดเทอม โดยมีผู้นำบุญออกไปเชิญผู้ที่มีคุณสมบัติในการบวชมาร่วมกิจกรรมตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งทางวัดเองพยายามสื่อสารต่อสาธารณะว่าได้ทำความสะอาดในทุกจุดเพื่อสร้างความมั่นใจ แต่เมื่อสถานการณ์ของ COVID-19 ขยายวงออกไปเรื่อย ทางวัดจึงเริ่มห้ามใช้ในบางพื้นที่ของวัด รวมไปถึงเรื่องการถวายอาหาร ที่ขอรับเป็นปัจจัยแทน จนมาถึงการยกเลิกกิจกรรมบวชทุกรายการ” ผู้สังเกตการณ์สถานการณ์วัดพระธรรมกาย กล่าว
กักตัวอาคารบุญรักษา
ก่อนหน้านี้ ทางวัดพระธรรมกาย แสดงความกังวลเกี่ยวกับ COVID-19 มาโดยตลอด ทั้งการเตือนศิษย์ที่เดินทางไปกลุ่มประเทศเสี่ยง รวมไปถึงการงดรับชาวต่างชาติและกลุ่มทัวร์เข้ามาเยี่ยมชมวัด โดยคณะทำงานควบคุมโรค COVID-19 วัดพระธรรมกาย ออกประกาศเมื่อ 4 มีนาคม 2563 ว่า
วัดพระธรรมกาย มีมติเห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับการเดินทางไปและกลับจากต่างประเทศของสมาชิกองค์กร เพื่อให้การสังเกตเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เป็นไปด้วยความมีประสิทธิภาพดังนี้
1.ให้สมาชิกองค์กรทุกท่าน งดเดินทางไปต่างประเทศทุกประเทศ และให้งดเดินทางกลับมาจากต่างประเทศในช่วงนี้ จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะหมดไป
2.หากมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางกลับประเทศไทย ให้ส่งข้อมูลการเดินทางกลับเข้าประเทศที่พระศิเวษฐ์ จารุธัมโม โดยส่งข้อมูลล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน ก่อนวันเดินทางกลับ เพื่อให้การบริหารจัดการพื้นที่สังเกตอาการมีประสิทธิภาพและสามารถรองรับสมาชิกได้
3.การเข้าพักในพื้นที่สังเกตอาการให้อยู่ในดุลพินิจร่วมกันระหว่างทีมงานแพทย์พยาบาลสหคลินิกบุญรักษ์ และสำนักต่างประเทศ ขอสงวนพื้นที่ไว้เพื่อรองรับผู้ที่เดินทางหรือเปลี่ยนเครื่องจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ตามประกาศจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเป็นหลักก่อน
4.เมื่อสมาชิกอยู่ในพื้นที่สังเกตอาการครบตามระยะเวลาและไม่ได้มีอาการทางโรคของไวรัส COVID-19 ทางสหคลินิกบุญรักษ์จะออกใบรับรองแพทย์ให้สมาชิก จึงขอความร่วมมือทุกท่านให้ความเอื้อเฟื้อและต้อนรับสมาชิกที่ดำเนินการดูแลตนเองตามมาตรการแล้ว กลับเข้าที่พัก อยู่ร่วมกันด้วยความผาสุกสืบต่อไป
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในช่วงนั้นยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องกิจกรรมที่ทางวัดกำลังดำเนินการหาผู้ที่จะเข้ามาร่วมบวชในโครงการ และยังแสดงความพร้อมในการรักษาความสะอาดของสถานที่ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 จึงคาดว่าโครงการบวชดังกล่าวน่าจะเดินหน้าต่อ
แพทย์สหคลินิกบุญรักษ์-ดูแล
สำหรับประกาศล่าสุดจากคณะทำงานควบคุมโรค COVID-19 วัดพระธรรมกาย เมื่อ 10 มีนาคม 2563 เรื่องการกักกันโรคผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในการกำหนดพื้นที่เขตติดโรคอันตราย ทำให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ คือผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจตามกฎหมายในการสั่งกักกันโรค และมีอำนาจในการกำหนดพื้นที่กักกันโรค
จึงขอประกาศให้สมาชิกองค์กรทุกท่านทราบว่า ท่านที่จะเดินทางมาจากประเทศจีน เกาหลีใต้ ฮ่องกง มาเก๊า อิหร่าน และอิตาลี ตั้งแต่ 11 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป จะต้องถูกส่งตัวไปกักกันสังเกตอาการโรค COVID-19 ในสถานที่ที่ทางผู้ว่าราชการปทุมธานีได้กำหนดไว้ เป็นระยะเวลา 14 วัน
ส่วนท่านใดที่เดินทางมาจากประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่เขตติดโรคอันตราย ยังคงสามารถใช้อาคารบุญรักษา เป็นที่สังเกตอาการต่อไป
หมายเหตุ ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ให้มีการแยก/กักกัน/คุมไว้สังเกต/รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ณ สถานที่และระยะเวลาที่กำหนด (มาตรา 40(3)) พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2538 อาจมีความผิดปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากประกาศของทางวัดพระธรรมกาย จะเห็นได้ว่าทางวัดพระธรรมกายได้จัดเตรียมอาคารบุญรักษาไว้เป็นสถานที่เฝ้าสังเกตอาการ COVID-19 ของบุคลากรที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ โดยมีทีมแพทย์จากสหคลินิกบุญรักษ์เป็นผู้ดูแล
“ที่จริงทางวัดใช้อาคารแห่งนี้เป็นพื้นที่สังเกตอาการของผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาดของเชื้อ COVID-19 มาก่อนที่ภาครัฐจะมีประกาศรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยง แต่ไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณชน แค่ทราบกันเป็นการภายในเท่านั้น”
อาคารบุญรักษาแห่งนี้ ทางวัดพระธรรมกายใช้เป็นสถานที่ดูแลพระสงฆ์ของวัดที่เจ็บป่วยหรือพักฟื้น แม้จะไม่ถึงระดับเป็นโรงพยาบาล แต่ก็มีแพทย์มาดูแลโดยตลอด
เหตุมีสาขาทั่วโลก
หากพิจารณาจากสาขาของวัดพระธรรมกายที่มีอยู่ทั่วโลก ทำให้มีโอกาสสูงพระและบุคลากรของวัด อยู่ในข่ายเฝ้าสังเกตอาการเป็นจำนวนไม่น้อยหากเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงกลับมาที่ประเทศไทย ทั้งนี้ ในประเทศที่เป็นพื้นที่เสี่ยงมีสาขาของวัดพระธรรมกายหลายแห่ง เช่น จีน (ฮ่องกง) มีวัดพระธรรมกายฮ่องกง และเกาลูน ศูนย์ปฏิบัติธรรมปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และคุนหมิง
ญี่ปุ่น มีสาขา 11 แห่ง วัดพระธรรมกายอิบาราชิ คานากาวา นางาโน โอซากา ไซตะมะ โตเกียว โทชิงิ ยามานาชิ ไอจิ กุมมะ และศูนย์ปฏิบัติธรรมญี่ปุ่น ไต้หวัน 4 แห่ง วัดพระธรรมกายไทเป เถาหยวน วัดภาวนาไถจง และศูนย์ปฏิบัติธรรมเกาสง เกาหลีใต้ วัดภาวนาโซล และวัดภาวนาคย็องจู ที่ประเทศอิตาลี มีวัดพระธรรมกายอิตาลี
ขณะนี้พบว่ามีการเชิญชวนให้ร่วมทำบุญกับสาขาของวัดพระธรรมกายที่ญี่ปุ่น “ร่วมบุญในยามยาก สู้ภัยไวรัส COVID-19 ณ ประเทศญี่ปุ่น 4 วัด วัดพระธรรมกายไอจิ ไซตะมะ คานากาว่ า และโอซากา”
เกาหลี-ปิดวัด-ขอบริจาค
ที่เกาหลีใต้น่าจะอยู่ในสถานการณ์หนักที่สุด อย่างวัดภาวนาโซล ได้โพสต์ขอเชิญร่วมบุญต่ออายุพระพุทธศาสนา ด้วยการถวายภัตตาหารแด่คณะพระภิกษุสงฆ์วัดภาวนาโซล กองบุญละ 30,000 วอน/มื้อ ด้วยบุญกุศลที่ถวายภัตตาหาร เพื่อเป็นเลือดเนื้อแด่ภิกษุวัดภาวนาโซล ขอให้ท่านทานบดีทั้งหลายจงมีแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีอายุขัยที่ยืนยาวนาน จะเดินทางใกล้ไกล ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัยในทุกสถานทุกประการเทอญ
วัดภาวนาคย็องจู สาขาอีกแห่งหนึ่งของวัดพระธรรมกายที่เกาหลีใต้ น่าจะอยู่ใกล้กับพื้นที่ระบาดของโรคมากที่สุด ได้เชิญร่วมบุญค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าวัด ในยามวิกฤต กองบุญละ 19,999 วอน (500 บาท) พร้อมข้อความ สั่งสมบุญในยามยาก จะมีอานิสงส์ใหญ่ เพราะเป็นที่ต้องการทั้งผู้ให้และผู้รับ จะส่งให้ท่านและครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข แคล้วคลาด ปราศจากทุกข์ ตราบนิจนิรันดร์
นอกจากนี้ ยังเชิญชวนร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารในแต่ละเดือนเช่นเดียวกับที่วัดภาวนาโซล โดยแจ้งผ่านเฟซบุ๊กของทางวัดที่โซลและคย็องจู รวมถึงเฟซบุ๊กข่าวบุญใจสว่างของวัดพระธรรมกาย เนื่องจากทั้ง 2 แห่งอยู่ในสถานะที่ต้องปิดวัด
ยามยาก-บุญเยอะ
พระนุกูล ธีรวโร เจ้าอาวาสวัดภาวนาคย็องจู เกาหลีใต้ กล่าวว่า ยามนี้ลำบากหนักหนา ปิดวัด วัดไทยคย็องจู ประเทศเกาหลี งดญาติโยมเข้าออกโดยไม่มีกำหนด ขอเชิญร่วมบุญในยามยาก ปัจจัยที่ส่งมาจะได้นำไปซื้อภัตตาหารมาเก็บไว้ประกอบในวันถัดๆ ไป ให้ทานในยามที่ผู้รับต้องการ ล้วนเป็นมหาทานใหญ่
บุญนี้มีผลานิสงส์มาก จะทำให้ทุกท่านและครอบครัว หมู่ญาติ และบริวารจะไปเกิดภพใด แห่งไหน คำว่าอดอยาก ยากจนไม่เจอ จะพรั่งพร้อมด้วยสมบัติทั้งสาม ตราบวันถึงที่สุดแห่งธรรม อนุโมทนาบุญกับพี่น้องนักสร้างบารมีที่ประเทศไทย ส่งปัจจัยมาเป็นค่าภัตตาหารในยามยากครับ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านจากก้นบึ้งของหัวใจ ยามทุกภิกขภัย ขออนุโมทนาบุญปลื้มใจในมหาทานครั้งนี้ พร้อมทั้งแจ้งว่า วัดภาวนาคย็องจูนั้นอยู่ห่างจากศูนย์กลางการระบาดของโรคราว 30 กิโลเมตร
ทั้งนี้ พบว่ามีผู้ร่วมบุญกับสาขาของวัดพระธรรมกายที่เกาหลีใต้ทั้ง 2 แห่งอย่างต่อเนื่อง ทั้งค่าใช้จ่ายเรื่องอาหาร ค่าน้ำ-ไฟฟ้า และยังขอรับบริจาคผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันเชื้อ เช่น หน้ากากอนามัย สบู่เหลว เจลแอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอื่นๆ
สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ลามไปทั่วโลก ส่งผลกระทบไปยังทุกกิจกรรมในแต่ละประเทศต้องงดจัด หนึ่งในแนวทางการป้องกันคือ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก งานคอนเสิร์ต งานอีเวนต์ต่างๆ จึงต้องงดจัด หรือเลื่อนออกไป หรือกีฬาอย่างฟุตบอลในประเทศแถบยุโรปให้มีการแข่งขันแบบปิด โดยไม่มีผู้ชม เพื่อความปลอดภัยและป้องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสตัวนี้
สำหรับกิจกรรมทางด้านศาสนา ซึ่งเป็นที่รวมของคนจำนวนมากเช่นเดียวกัน วัดที่จัดบุญอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะนอกวันสำคัญทางพุทธศาสนา อย่างวัดพระธรรมกาย ที่เดิมสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกศิษย์ที่ต้องการมาร่วมบุญว่าทางวัดมีการจัดการเรื่องความสะอาดและป้องกัน COVID-19 เนื่องจากในช่วงปิดเทอมอย่างนี้ทางวัดมีกิจกรรมบวชภาคฤดูร้อนในทุกปี
ยกเลิกกิจกรรมบวชภาคฤดูร้อน
แต่สุดท้ายทางวัดพระธรรมกายได้แจ้งยกเลิกกิจกรรมดังกล่าว ด้วยการออกประกาศของสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย เมื่อ 7 มีนาคม 2563
ประกาศยกเลิกโครงการอบรมธรรมทายาทภาคฤดูร้อน 2563 เนื่องด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 วัดพระธรรมกายจึงขอยกเลิกโครงการอบรมธรรมทายาทภาคฤดูร้อนปี 2563 ภายในวัดพระธรรมกายทุกโครงการ ประกอบด้วย ยุว-มัชฌิมธรรมทายาท สามเณรหน่อแก้วเปรียญธรรม ธรรมทายาทพุทธศาสตร์สากล บูชาธรรมวันคุ้มครองโลกเฟส 1 และเฟส 2 ธรรมทายาทหญิง มัชฌิมฯ หญิง และการอบรมอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน
“เดิมวัดพระธรรมกายได้เดินหน้ากิจกรรมชวนบวชในช่วงปิดเทอม โดยมีผู้นำบุญออกไปเชิญผู้ที่มีคุณสมบัติในการบวชมาร่วมกิจกรรมตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งทางวัดเองพยายามสื่อสารต่อสาธารณะว่าได้ทำความสะอาดในทุกจุดเพื่อสร้างความมั่นใจ แต่เมื่อสถานการณ์ของ COVID-19 ขยายวงออกไปเรื่อย ทางวัดจึงเริ่มห้ามใช้ในบางพื้นที่ของวัด รวมไปถึงเรื่องการถวายอาหาร ที่ขอรับเป็นปัจจัยแทน จนมาถึงการยกเลิกกิจกรรมบวชทุกรายการ” ผู้สังเกตการณ์สถานการณ์วัดพระธรรมกาย กล่าว
กักตัวอาคารบุญรักษา
ก่อนหน้านี้ ทางวัดพระธรรมกาย แสดงความกังวลเกี่ยวกับ COVID-19 มาโดยตลอด ทั้งการเตือนศิษย์ที่เดินทางไปกลุ่มประเทศเสี่ยง รวมไปถึงการงดรับชาวต่างชาติและกลุ่มทัวร์เข้ามาเยี่ยมชมวัด โดยคณะทำงานควบคุมโรค COVID-19 วัดพระธรรมกาย ออกประกาศเมื่อ 4 มีนาคม 2563 ว่า
วัดพระธรรมกาย มีมติเห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับการเดินทางไปและกลับจากต่างประเทศของสมาชิกองค์กร เพื่อให้การสังเกตเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เป็นไปด้วยความมีประสิทธิภาพดังนี้
1.ให้สมาชิกองค์กรทุกท่าน งดเดินทางไปต่างประเทศทุกประเทศ และให้งดเดินทางกลับมาจากต่างประเทศในช่วงนี้ จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะหมดไป
2.หากมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางกลับประเทศไทย ให้ส่งข้อมูลการเดินทางกลับเข้าประเทศที่พระศิเวษฐ์ จารุธัมโม โดยส่งข้อมูลล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน ก่อนวันเดินทางกลับ เพื่อให้การบริหารจัดการพื้นที่สังเกตอาการมีประสิทธิภาพและสามารถรองรับสมาชิกได้
3.การเข้าพักในพื้นที่สังเกตอาการให้อยู่ในดุลพินิจร่วมกันระหว่างทีมงานแพทย์พยาบาลสหคลินิกบุญรักษ์ และสำนักต่างประเทศ ขอสงวนพื้นที่ไว้เพื่อรองรับผู้ที่เดินทางหรือเปลี่ยนเครื่องจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ตามประกาศจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเป็นหลักก่อน
4.เมื่อสมาชิกอยู่ในพื้นที่สังเกตอาการครบตามระยะเวลาและไม่ได้มีอาการทางโรคของไวรัส COVID-19 ทางสหคลินิกบุญรักษ์จะออกใบรับรองแพทย์ให้สมาชิก จึงขอความร่วมมือทุกท่านให้ความเอื้อเฟื้อและต้อนรับสมาชิกที่ดำเนินการดูแลตนเองตามมาตรการแล้ว กลับเข้าที่พัก อยู่ร่วมกันด้วยความผาสุกสืบต่อไป
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในช่วงนั้นยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องกิจกรรมที่ทางวัดกำลังดำเนินการหาผู้ที่จะเข้ามาร่วมบวชในโครงการ และยังแสดงความพร้อมในการรักษาความสะอาดของสถานที่ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 จึงคาดว่าโครงการบวชดังกล่าวน่าจะเดินหน้าต่อ
แพทย์สหคลินิกบุญรักษ์-ดูแล
สำหรับประกาศล่าสุดจากคณะทำงานควบคุมโรค COVID-19 วัดพระธรรมกาย เมื่อ 10 มีนาคม 2563 เรื่องการกักกันโรคผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในการกำหนดพื้นที่เขตติดโรคอันตราย ทำให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ คือผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจตามกฎหมายในการสั่งกักกันโรค และมีอำนาจในการกำหนดพื้นที่กักกันโรค
จึงขอประกาศให้สมาชิกองค์กรทุกท่านทราบว่า ท่านที่จะเดินทางมาจากประเทศจีน เกาหลีใต้ ฮ่องกง มาเก๊า อิหร่าน และอิตาลี ตั้งแต่ 11 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป จะต้องถูกส่งตัวไปกักกันสังเกตอาการโรค COVID-19 ในสถานที่ที่ทางผู้ว่าราชการปทุมธานีได้กำหนดไว้ เป็นระยะเวลา 14 วัน
ส่วนท่านใดที่เดินทางมาจากประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่เขตติดโรคอันตราย ยังคงสามารถใช้อาคารบุญรักษา เป็นที่สังเกตอาการต่อไป
หมายเหตุ ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ให้มีการแยก/กักกัน/คุมไว้สังเกต/รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ณ สถานที่และระยะเวลาที่กำหนด (มาตรา 40(3)) พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2538 อาจมีความผิดปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากประกาศของทางวัดพระธรรมกาย จะเห็นได้ว่าทางวัดพระธรรมกายได้จัดเตรียมอาคารบุญรักษาไว้เป็นสถานที่เฝ้าสังเกตอาการ COVID-19 ของบุคลากรที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ โดยมีทีมแพทย์จากสหคลินิกบุญรักษ์เป็นผู้ดูแล
“ที่จริงทางวัดใช้อาคารแห่งนี้เป็นพื้นที่สังเกตอาการของผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาดของเชื้อ COVID-19 มาก่อนที่ภาครัฐจะมีประกาศรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยง แต่ไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณชน แค่ทราบกันเป็นการภายในเท่านั้น”
อาคารบุญรักษาแห่งนี้ ทางวัดพระธรรมกายใช้เป็นสถานที่ดูแลพระสงฆ์ของวัดที่เจ็บป่วยหรือพักฟื้น แม้จะไม่ถึงระดับเป็นโรงพยาบาล แต่ก็มีแพทย์มาดูแลโดยตลอด
เหตุมีสาขาทั่วโลก
หากพิจารณาจากสาขาของวัดพระธรรมกายที่มีอยู่ทั่วโลก ทำให้มีโอกาสสูงพระและบุคลากรของวัด อยู่ในข่ายเฝ้าสังเกตอาการเป็นจำนวนไม่น้อยหากเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงกลับมาที่ประเทศไทย ทั้งนี้ ในประเทศที่เป็นพื้นที่เสี่ยงมีสาขาของวัดพระธรรมกายหลายแห่ง เช่น จีน (ฮ่องกง) มีวัดพระธรรมกายฮ่องกง และเกาลูน ศูนย์ปฏิบัติธรรมปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และคุนหมิง
ญี่ปุ่น มีสาขา 11 แห่ง วัดพระธรรมกายอิบาราชิ คานากาวา นางาโน โอซากา ไซตะมะ โตเกียว โทชิงิ ยามานาชิ ไอจิ กุมมะ และศูนย์ปฏิบัติธรรมญี่ปุ่น ไต้หวัน 4 แห่ง วัดพระธรรมกายไทเป เถาหยวน วัดภาวนาไถจง และศูนย์ปฏิบัติธรรมเกาสง เกาหลีใต้ วัดภาวนาโซล และวัดภาวนาคย็องจู ที่ประเทศอิตาลี มีวัดพระธรรมกายอิตาลี
ขณะนี้พบว่ามีการเชิญชวนให้ร่วมทำบุญกับสาขาของวัดพระธรรมกายที่ญี่ปุ่น “ร่วมบุญในยามยาก สู้ภัยไวรัส COVID-19 ณ ประเทศญี่ปุ่น 4 วัด วัดพระธรรมกายไอจิ ไซตะมะ คานากาว่ า และโอซากา”
เกาหลี-ปิดวัด-ขอบริจาค
ที่เกาหลีใต้น่าจะอยู่ในสถานการณ์หนักที่สุด อย่างวัดภาวนาโซล ได้โพสต์ขอเชิญร่วมบุญต่ออายุพระพุทธศาสนา ด้วยการถวายภัตตาหารแด่คณะพระภิกษุสงฆ์วัดภาวนาโซล กองบุญละ 30,000 วอน/มื้อ ด้วยบุญกุศลที่ถวายภัตตาหาร เพื่อเป็นเลือดเนื้อแด่ภิกษุวัดภาวนาโซล ขอให้ท่านทานบดีทั้งหลายจงมีแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีอายุขัยที่ยืนยาวนาน จะเดินทางใกล้ไกล ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัยในทุกสถานทุกประการเทอญ
วัดภาวนาคย็องจู สาขาอีกแห่งหนึ่งของวัดพระธรรมกายที่เกาหลีใต้ น่าจะอยู่ใกล้กับพื้นที่ระบาดของโรคมากที่สุด ได้เชิญร่วมบุญค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าวัด ในยามวิกฤต กองบุญละ 19,999 วอน (500 บาท) พร้อมข้อความ สั่งสมบุญในยามยาก จะมีอานิสงส์ใหญ่ เพราะเป็นที่ต้องการทั้งผู้ให้และผู้รับ จะส่งให้ท่านและครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข แคล้วคลาด ปราศจากทุกข์ ตราบนิจนิรันดร์
นอกจากนี้ ยังเชิญชวนร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารในแต่ละเดือนเช่นเดียวกับที่วัดภาวนาโซล โดยแจ้งผ่านเฟซบุ๊กของทางวัดที่โซลและคย็องจู รวมถึงเฟซบุ๊กข่าวบุญใจสว่างของวัดพระธรรมกาย เนื่องจากทั้ง 2 แห่งอยู่ในสถานะที่ต้องปิดวัด
ยามยาก-บุญเยอะ
พระนุกูล ธีรวโร เจ้าอาวาสวัดภาวนาคย็องจู เกาหลีใต้ กล่าวว่า ยามนี้ลำบากหนักหนา ปิดวัด วัดไทยคย็องจู ประเทศเกาหลี งดญาติโยมเข้าออกโดยไม่มีกำหนด ขอเชิญร่วมบุญในยามยาก ปัจจัยที่ส่งมาจะได้นำไปซื้อภัตตาหารมาเก็บไว้ประกอบในวันถัดๆ ไป ให้ทานในยามที่ผู้รับต้องการ ล้วนเป็นมหาทานใหญ่
บุญนี้มีผลานิสงส์มาก จะทำให้ทุกท่านและครอบครัว หมู่ญาติ และบริวารจะไปเกิดภพใด แห่งไหน คำว่าอดอยาก ยากจนไม่เจอ จะพรั่งพร้อมด้วยสมบัติทั้งสาม ตราบวันถึงที่สุดแห่งธรรม อนุโมทนาบุญกับพี่น้องนักสร้างบารมีที่ประเทศไทย ส่งปัจจัยมาเป็นค่าภัตตาหารในยามยากครับ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านจากก้นบึ้งของหัวใจ ยามทุกภิกขภัย ขออนุโมทนาบุญปลื้มใจในมหาทานครั้งนี้ พร้อมทั้งแจ้งว่า วัดภาวนาคย็องจูนั้นอยู่ห่างจากศูนย์กลางการระบาดของโรคราว 30 กิโลเมตร
ทั้งนี้ พบว่ามีผู้ร่วมบุญกับสาขาของวัดพระธรรมกายที่เกาหลีใต้ทั้ง 2 แห่งอย่างต่อเนื่อง ทั้งค่าใช้จ่ายเรื่องอาหาร ค่าน้ำ-ไฟฟ้า และยังขอรับบริจาคผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันเชื้อ เช่น หน้ากากอนามัย สบู่เหลว เจลแอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอื่นๆ