รมต.สำนักนายกฯ แถลงศูนย์ข้อมูลโควิด-19 แนะ ปชช.ไปทำบุญที่วัดช่วงสงกรานต์ มีมาตรการรองรับ รมว.ท่องเที่ยว เชื่อ สถานการณ์ยุติได้ในเดือน มี.ค. เผย ญี่ปุ่นยังยืนยันจัดโอลิมปิก
วันนี้ (13 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ทำเนียบรัฐบาล นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า เรายังโชคดีที่ยังรักษาระดับการควบคุมได้เป็นอย่างดี ยังอยู่ในระยะที่สอง โดย 2 เดือนครึ่งที่ผ่านมา เรายังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และนายกรัฐมนตรีห่วงสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา จึงจัดตั้งศูนย์บริการสถานการณ์โควิด-19 เพื่อยกระดับการบริหารจัดการสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ให้อยู่ในวงจำกัด เป็นการเตรียมการล่วงหน้าในกรณีที่มีการแพร่ระบาด เผื่อสถานการณ์เพิ่มขึ้นเราจะต้องทำงานอย่างไร ซึ่งนายกฯห่วงว่าจะมีผลกระทบต่อการทำงานของทุกหน่วยงาน
นายเทวัญ กล่าวว่า ส่วนเทศกาลสงกรานต์นั้น อยากจะเชิญชวนทุกคนไปทำบุญที่วัด โดยปัจจุบันสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้มีนโยบายให้ทุกวัด โดยเฉพาะวัดที่มีนักท่องเที่ยวไปทำบุญจำนวนมากให้ทำความสะอาด และเตรียมความพร้อมเรื่องหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ เพื่อให้ปลอดจากไวรัสโควิด -19 นอกจากนี้ ทาง พศ.ได้รับประทานเงินจากสมเด็จพระสังฆราช เพื่อไปซื้อหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ ไปจัดเตรียมไว้ตามวัดต่างๆ สำหรับผู้ที่เดินทางไปทำบุญ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ปี 62 เรามีรายได้จากการท่องเที่ยวในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 1.96 ล้านล้านบาท มีปริมาณนักท่องเที่ยว 39.8 ล้านคน ส่วนในปี 63 ทิศทางการท่องเที่ยวก่อนที่จีนประกาศจะปิดอู่ฮั่น เรามีนักท่องเที่ยวในเดือน ม.ค. อัตราเพิ่ม 2.4% หรือ 3.81 ล้านคน แต่หลังจากจีนประกาศปิดอู่ฮั่นแล้ว ในเดือน ก.พ. นักท่องเที่ยวเริ่มน้อยลง มี 2.04 ล้านคน หายไปเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว 43.5% และเมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกภูมิภาคทั่วโลก ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1-11 มี.ค. เรามีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 5.5 แสนคน หรือหายไปประมาณ 57.26% ซึ่งเมื่อเทียบกับปีที่แล้วช่วงเดียวกัน หายไปประมาณ 66.74%
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ถ้าทำให้ยุติได้ในเดือน เม.ย. เราจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเต็มที่ โดยประมาณการว่า ไปถึงสิ้นปีน่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 36.9 ล้านคน มีรายได้ 1.78 ล้านล้านบาท หายไปแสนกว่าล้านบาท แต่ถ้าไวรัสโควิด-19 ยังไม่ยุติ มันจะเป็นเรื่องใหญ่ สมมติยุติเดือน มิ.ย. นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทย จะมีประมาณ 32.5 ล้านคน รายได้ของการท่องเที่ยว 1.58 ล้านล้านบาท จะหายไปสามแสนกว่าล้านบาท ดังนั้น หวังว่า ทุกสิ่งทุกอย่างจะจบให้ได้ภายในเดือน มี.ค. ซึ่งมาตรการของรัฐบาลที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกวีโอเอ ฟรีวีซ่า นั้นมั่นใจว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะถ้าไม่ประกาศ การคัดกรองจะทำได้ยาก เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะยุติได้ใน มี.ค.
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการในช่วงสงกรานต์ การจัดอีเวนต์ใหญ่ในปีนี้ ในส่วนที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีส่วนร่วมได้มีการยกเลิกหมดแล้ว แต่หากเอกชนจะจัดกันเอง ทางกระทรวงจะขอความร่วมมือว่า ในช่วงวิกฤตอย่างนี้หากทุกอย่างยังไม่สิ้นสุด และไม่จบในเดือน มี.ค. ขอให้เลื่อนหรือยกเลิกการจัดไปก่อน ส่วนเรื่องกีฬาที่เป็นรายการใหญ่ๆ เช่น การแข่งขันโมโตจีพี เลื่อนไปจัดวันที่ 2-4 ต.ค. ฟุตบอลไทยลีกจะกลับมาเตะอีกครั้งในวันที่ 18 เม.ย. หากวันดังกล่าวรัฐบาลมองว่ายังไม่พร้อม อาจจะแข่งขันแบบปิด ส่วนกอล์ฟ แอลพีจีเอ เลื่อนไปจัด 4 พ.ค. ถ้าทุกอย่างยังไม่เรียบร้อยจะเลื่อนไปอีก ส่วนกีฬาเยาวชนแห่งชาติ เลื่อนแบบไม่มีกำหนดจนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ขณะที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในเดือน ก.ค. ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้รับการยืนยันว่ายังไม่เลื่อน ยังจัดแข่งขันเหมือนเดิม
นายพิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า สำหรับการร้องเรียนเรื่องหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ ตั้งแต่ ม.ค.- มี.ค. มีการร้องเรียนมาทั้งสิ้น 331 ราย ส่วนใหญ่เป็นการร้องเรียนเรื่องราคาแพง สั่งซื้อแล้วไม่ได้สินค้า สินค้าไม่ได้มาตรฐาน และหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว ช่วงที่ผ่านมาได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดี 63 ราย ล่อซื้อในอินเตอร์เน็ตและดำเนินคดี 8 ราย ส่วนในต่างจังหวัดมีการตรวจสอบ 175 ราย ดำเนินคดีแล้ว 8 ราย
