เคลียร์เปิดทาง ‘ปู’ หลบหนี คนใน-นอกประเทศร่วมมือ!

เส้นทางหนี “ยิ่งลักษณ์” ปลายทางแรกเป็นเกาะกง ได้ทั้งทางรถยนต์ไปบ้านหาดเล็ก จังหวัดตราด
หรือออกจากแม่น้ำเจ้าพระยา รอขึ้นเครื่องที่เกาะกง “ทักษิณ” ใช้เครื่องบินส่วนตัวมารับไปตั้งหลักที่ดูไบ แต่เป้าหมายหลักของยิ่งลักษณ์หวังใช้ชีวิตในลอนดอน งานนี้พี่ชายเดินเรื่องให้ทั้งหมด เคลียร์ผู้ใหญ่ในไทยไม่สร้างความเดือดร้อนให้ คสช.

24 สิงหาคม 2560 เวลา 10.55 น. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ดิฉันขออนุญาตกล่าวถึงวันฟังคำพิพากษาคดีของดิฉันที่ศาลฎีกาฯ ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ดิฉันทราบความห่วงใยและความเมตตาของพี่น้องประชาชนที่รับรู้ถึงความทุกข์ร้อนและความยากลำบากที่ดิฉันประสบอยู่ แต่ดิฉันเห็นว่าการเดินทางมาศาลเพื่อให้กำลังใจดิฉันนั้นครั้งนี้เราจะไม่ได้พบปะ เห็นหน้า หรือสื่อความรู้สึกถึงกันได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ด้วยเหตุที่ฝ่ายความมั่นคงได้จัดระเบียบของผู้ที่จะเดินทางมาศาลผิดไปจากทุกครั้ง ทั้งที่เจตนาของพวกเราทุกคนเพียงต้องการมาให้กำลังใจซึ่งกันและกันเท่านั้น

ทั้งนี้ดิฉันมีความห่วงใยต่อทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องประชาชนหรือแฟนเพจ และไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายอันอาจเกิดจากมือที่สาม ดังเช่นที่ฝ่ายความมั่นคงให้เหตุผลมาโดยตลอด ดิฉันจึงขอให้ทุกท่านที่ห่วงใจ และต้องการให้กำลังใจดิฉัน ไม่ต้องเดินทางมาศาลฯ ในวันพรุ่งนี้ และขอให้ทุกท่านให้กำลังใจดิฉัน โดยการรับฟังข่าวสารอยู่ที่บ้าน เพื่อความไม่สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาอันไม่คาดคิดจากผู้ที่ไม่หวังดีต่อบ้านเมืองและต่อพวกเราทุกคน ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ

นั่นเป็นข้อความสุดท้ายที่นางสาวยิ่งลักษณ์โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว ก่อนที่จะมีคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวในวันที่ 25 สิงหาคม 2560

ประเมินแล้วเสี่ยงคุก-เผ่น

ที่ผ่านมานางสาวยิ่งลักษณ์ได้เดินทางมาศาลตามที่นัดทุกครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอไม่มาศาลซึ่งเป็นวันฟังคำพิพากษา โดยในวันเดียวกันนี้เป็นวันที่มีคำพิพากษาคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ และนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีในกระทรวงพาณิชย์จากพรรคเพื่อไทยถูกพิพากษาจำคุก 42 ปีและ 36 ปีตามลำดับ

ด้วยเหตุที่เป็นคดีที่มีความเกี่ยวโยงกันจึงนัดฟังคำพิพากษาวันเดียวกัน อีกทั้งองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 ท่านในคดีของนายบุญทรง มีถึง 5 ท่านที่เป็นองค์คณะเดียวกับคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ประกอบกับเส้นสายของคนในพรรคเพื่อไทยอาจมีการประเมินสถานการณ์แล้วว่า ผลของคดีนางสาวยิ่งลักษณ์น่าจะเป็นไปในทางลบ ยิ่งพิพากษาวันศุกร์โอกาสที่จะต้องถูกจำคุกอย่างน้อยในช่วงเสาร์-อาทิตย์มีความเป็นไปได้สูงก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการอุทธรณ์

เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ประกอบกับคนในตระกูลชินวัตร คงไม่ต้องการให้ยิ่งลักษณ์ติดคุก จึงไม่มาฟังคำพิพากษาในวันดังกล่าว

เป้าหมายที่เกาะกง

แม้ก่อนหน้านี้จะมีความพยายามจัดให้นางสาวยิ่งลักษณ์เดินสายทำบุญขอพรตามวัดต่าง ๆ เพื่อให้สาธารณชนทั่วไปเห็นว่าเธอยังคงอยู่ในประเทศไทย และพร้อมที่จะมาฟังคำตัดสินในวันที่ 25 สิงหาคม เห็นจากการตักบาตรพระสงฆ์ที่บ้านในช่วงเช้าของวันที่ 23 สิงหาคม และเดินทางไปทำบุญไหว้พระที่วัดระฆังโฆสิตารามในช่วงบ่าย และโพสต์ข้อความสุดท้ายในวันที่ 24 สิงหาคม 2560

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงประเมินเส้นทางการหลบหนีของนางสาวยิ่งลักษณ์ว่า เป็นไปได้ 2 แนวทางคือเส้นทางน้ำที่เริ่มจากวัดระฆังโฆสิตาราม

“เป็นไปได้ว่าคุณยิ่งลักษณ์เดินทางออกไปตั้งแต่บ่ายของวันที่ 23 สิงหาคม หลังทำบุญที่วัดระฆังเสร็จ มีเรือมารับเดินทางผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาและออกไปยังอ่าวไทยและมุ่งหน้าไปยังเกาะกงของประเทศกัมพูชา” แหล่งข่าวระดับสูงกล่าว

สาเหตุที่เลือกเส้นทางดังกล่าวเป็นเพราะหากเดินทางโดยรถยนต์หรือเครื่องบิน แน่นอนว่าคงต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของรัฐ จะทำให้รัฐบาลทราบเรื่องการเดินทางหลบหนีของเธอทันที และถ้าผ่านด่านเหล่านี้ไปได้ย่อมสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับรัฐบาลพลเอกประยุทธ์

เส้นทางทางน้ำไม่ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รัฐบาลไม่ถูกข้อครหาว่ารู้เห็นเป็นใจ แต่เส้นทางนี้จะผ่านเฉพาะตำรวจน้ำที่เฝ้าพื้นที่อยู่เท่านั้น ตรงนี้ผ่านไม่ยากเพราะกรณีของนางสาวยิ่งลักษณ์นี้มีการพูดคุยกันในระดับผู้ใหญ่กันไว้แล้ว

แต่เส้นทางน้ำจะใช้เวลาในการเดินทางนาน อีกแนวทางหนึ่งที่คิดว่าทีมของยิ่งลักษณ์เลือกแนวทางนี้คือการเดินทางโดยรถยนต์ไปที่จังหวัดตราด บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ในส่วนนี้จะไม่ติดปัญหาเรื่องการผ่านแดนเพราะทางผู้ใหญ่ได้ตกลงกันไว้แล้ว จากนั้นลงเรือผ่านแม่น้ำครางครืนด้วยเรือสปีดโบ๊ทเข้าสู่เกาะกง

ในฝ่ายของกัมพูชานั้นได้เตรียมพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้กับนางสาวยิ่งลักษณ์ อันเนื่องมาจากความสัมพันธ์ระหว่างทักษิณ ชินวัตรกับผู้นำกัมพูชา และที่เกาะกงยังมีนักธุรกิจใหญ่อย่างพัด สุภาภา ที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าวอยู่ ซึ่งเคยมีข่าวว่าทักษิณคิดจะร่วมลงทุนด้วยกัน

จากนั้นก็เครื่องบินส่วนตัวของทักษิณก็บินมารับนางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางต่อไปดูไบ

ประวิตรเสียงอ่อย

แม้เรื่องดังกล่าวจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับงานด้านความมั่นคง ที่นางสาวยิ่งลักษณ์หลบหนีคดีออกจากประเทศไทย แต่ดูเหมือนพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง จะแสดงความเห็นไม่ค่อยหนักแน่นในเรื่องนี้ “คุณยิ่งลักษณ์มีหลายบ้าน ติดตามลำบาก อีกทั้งยังมีรถยนต์หลายคัน ไม่ได้เป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ เราก็พยายามติดตามแต่คุณยิ่งลักษณ์เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ยังไม่แน่นอนว่าหลบหนีหรือไม่”

ดังนั้นการเดินทางไปยังเกาะกงจึงไม่ใช่เรื่องยาก และที่เกาะกงของกัมพูชามีสนามบินอยู่แล้ว นั่นคือจุดที่นางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางต่อ โดยมีเครื่องบินส่วนตัวของทักษิณ ชินวัตร บินจากสิงคโปร์มาแวะรับเธอแล้วเดินทางต่อไปยังดูไบ ที่มั่นของทักษิณ ชินวัตร

ส่วนการโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อ 24 สิงหาคมหลังจากที่ยิ่งลักษณ์เดินทางออกจากประเทศไทยไปแล้วนั้น เรื่องนี้จะโพสต์ที่ไหนก็ได้หรือใช้ทีมงานโพสต์ก็ได้ ในข้อความที่โพสต์นั้นตีความได้ทั้งการส่งสัญญาณบอกว่าเธอไม่อยู่หรือพร้อมที่จะไปฟังคำพิพากษาในวันรุ่งขึ้น

ทางออกที่ดีที่สุด

ในทางปฏิบัติแล้วการเดินทางของนางสาวยิ่งลักษณ์ ย่อมมีทีมงานของฝ่ายความมั่นคงคอยสังเกตการณ์เสมอ ถามว่าฝ่ายความมั่นคงพลาดหรือไม่ คำตอบคือไม่ได้พลาด แต่รู้กันว่าเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายคุยกันไว้แล้ว เรื่องแบบนี้ถ้าผู้ใหญ่ไม่สั่งไม่มีทางหลุดรอดไปได้

“ถ้ารัฐบาลต้องการให้ยิ่งลักษณ์เข้าคุก ต้องส่งคนเฝ้าตลอด การปล่อยให้หลบหนีต้องบอกว่า เป็นการปล่อยให้หนีแบบไม่เป็นทางการ เพราะถ้าไม่ปล่อยให้หนีป่านนี้ต้องตามจับกันแล้ว หรือถ้าวันนั้นยิ่งลักษณ์มาฟังคำพิพากษาแล้วต้องติดคุกในเย็นวันศุกร์ ประกันตัวไม่ได้ต้องติดคุก 2 วัน อะไรจะเกิดขึ้นรัฐบาลวุ่นแน่ และในทางปฏิบัติก็สามารถอ่านคำพิพากษาลับหลังได้”

สูตรนี้เคยมีการพูดกันในระดับผู้ใหญ่มาแล้วหลังจากที่มีการเข้ายึดอำนาจเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 แต่ฝ่ายของพรรคเพื่อไทยเลือกที่จะสู้ต่อ ด้วยประเมินว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) คงอยู่ไม่นานเหมือนกับเหตุการณ์ยึดอำนาจในปี 2549 ที่ใช้เวลาเพียง 1 ปี แล้วเปิดให้มีการเลือกตั้งและพรรคเพื่อไทยกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง แต่รอบนี้ คสช.ยึดอำนาจมา 3 ปีเศษและยังไม่เห็นสัญญาณการเลือกตั้ง

เมื่อคดีรับจำนำข้าวของนางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางมาถึงวันพิพากษาคดี และข้อมูลวงในที่มีความเป็นไปได้สูงที่นางสาวยิ่งลักษณ์อาจถูกพิพากษาจำคุก จึงเลือกที่จะหนีคดีเดินทางไปต่างประเทศ

ในทางการเมืองแล้วทางออกนี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะถ้านางสาวยิ่งลักษณ์ต้องติดคุก ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วพี่ชายอย่างทักษิณ ชินวัตร คงไม่มีทางยอมเหมือนกับกรณีของตัวเองที่ถูกพิพากษาจำคุก 2 ปี หรือหากฝ่ายที่กุมอำนาจสกัดยิ่งลักษณ์จนถูกดำเนินคดี โอกาสที่จะเกิดความไม่สงบภายในประเทศมีความเป็นไปได้สูง

หรือหากผลของคดีเป็นคุณกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ย่อมเป็นการทำลายความชอบธรรมของการยึดอำนาจเมื่อปี 2547 ในทันที

ทักษิณเคลียร์เปิดทาง

แผนทั้งหมดจะมีทักษิณพี่ชายนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นตัวช่วยทุกช่องทาง เพราะยิ่งลักษณ์เข้ามาสู่เส้นทางการเมืองเพราะทักษิณขอให้เข้ามาช่วย เมื่อเกิดเรื่องคับขันก็ต้องปกป้องน้องสาวเต็มที่ อย่างการบินมารับนางสาวยิ่งลักษณ์ที่กัมพูชา ก็เป็นที่รู้กันดีว่าทักษิณกับฮุนเซนนั้นสนิทสนมกันแค่ไหน จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องการอำนวยความสะดวกจากทางกัมพูชา

เมื่อหลุดออกจากกัมพูชาได้ก็บินไปตั้งหลักที่ดูไบ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่เป้าหมายของคุณยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่การปักหลักที่ดูไบเหมือนทักษิณ แต่ปลายทางของเธอคือที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในสถานะผู้ลี้ภัย ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับเธอ อีกทั้งสายสัมพันธ์ระหว่างทักษิณกับประเทศอังกฤษเป็นไปในทางบวก ตั้งแต่การเข้ามาซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีในระยะหนึ่ง เช่นเดียวกับที่นายใจ อึ๊งภากรณ์ ผู้ต้องหาหลบหนีคดีมาตรา 112 ก็เลือกลอนดอนเป็นสถานที่หลบภัย

เชื่อว่าคนในพรรคเพื่อไทยก็พอจะทราบถึงแนวทางนี้พอสมควร เพียงแต่โชว์นี้ต้องทำให้แนบเนียน แกนนำหลายคนก็ต้องเดินทางไปที่ศาลในวันที่ 25 สิงหาคมเพื่อความสมจริง