xs
xsm
sm
md
lg

บีบวงแคบเหตุบึ้มราชประสงค์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ควานหาเหตุบึ้มแยกราชประสงค์ แม้เป็นไปได้หลายสาเหตุ เริ่มตัดวงแคบ ให้น้ำหนักการเมืองในประเทศมากที่สุด หลังรัฐบาลเดินเครื่องถอดยศ พบความต่อเนื่องในการเคลื่อนไหวตั้งแต่นายใหญ่ยันลูกหาบออกโรงถล่มรัฐธรรมนูญใหม่ แถมเครือข่ายโพสต์บนโลกออนไลน์เตือนล่วงหน้า จนเกิดเหตุการณ์จริง จงใจเลือกเป้าใจกลางธุรกิจหวังทุบท่องเที่ยวรายได้หลักที่เหลืออยู่ในเวลานี้ งานนี้วัดฝีมือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่

เหตุระเบิดที่ศาลพระพรหม สี่แยกราชประสงค์เมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 สิงหาคม 2558 นับเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด นับตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติเข้ายึดอำนาจเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 20 รายและบาดเจ็บกว่าร้อยราย โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติเชื้อสายจีนที่นิยมมาไหว้พระพรหมในบริเวณดังกล่าว

จากการตรวจพิสูจน์ของหน่วยกู้วัตถุระเบิดระบุว่าวงจรที่ใช้ในการประกอบไม่ค่อยพบในเมืองไทย แต่มักพบในต่างประเทศ ประกอบกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่พบชายต้องสงสัย ที่มีลักษณะท่าทางคล้ายคนต่างชาติ ทำให้การหาสาเหตุในการวางระเบิดครั้งนี้เทน้ำหนักไปที่ขบวนการจากต่างประเทศ

ประกอบกับเป้าหมายหลักเลือกที่ศาลพระพรหม ซึ่งผู้ที่มากราบไหว้สักการะส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อชาติจีน และงานนี้เป้าหมายไม่ใช่แค่เพียงขู่เหมือนครั้งก่อน แต่หวังผลให้เกิดการเสียชีวิต จึงสันนิษฐานในเบื้องต้นว่าอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องชาวอุยกูร์ที่รัฐบาลไทยส่งชาวอุยกูร์ที่หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยกลับไปที่จีน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการประท้วงทำลายที่ทำการสถานกงสุลไทยในประเทศตุรกี

นั่นเป็นเพียงแต่ข้อสันนิษฐานหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายเหตุผลที่อาจเป็นแรงจูงใจให้เกิดการวางระเบิดในพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะปัจจัยภายในประเทศ

ช่วงผลัดเปลี่ยน-เร่งถอดยศ

ทั้งนี้รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่าอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านในหลายด้าน โดยเฉพาะตัวบุคคลที่จะเข้ามารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแทนพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เมื่อ 14 สิงหาคม 2558 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เสนอชื่อพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อาวุโสลำดับ 5 ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่

ขณะที่ในฟากฝั่งทหารที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ตำแหน่งสำคัญอย่างผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ที่จะต้องรับหน้าที่ต่อจากพลเอกอุดมเดช สีตบุตร ชื่อที่มาแรงที่สุดคือพลเอกปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก น้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

“ทั้ง 2 ตำแหน่งถือว่ามีความสำคัญต่อเรื่องความมั่นคงภายในประเทศเป็นอย่างมาก แม้ว่าชื่อของผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งสำคัญนี้จะข้ามเรื่องของระบบอาวุโสไป แต่เชื่อว่าเรื่องคลื่นใต้น้ำที่ไม่พอใจจนนำไปสู่การก่อเหตุในวันที่ 17 นั้นคงไม่ถึงขนาดนั้น เพราะในทางสายการบังคับบัญชาแล้วทั้งทหารและตำรวจส่วนใหญ่ยอมรับการตัดสินใจของผู้บังคับบัญชา” แหล่งข่าวจากวงการทหารกล่าว

หากข้ามในเรื่องนี้ไป ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องของสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเสนอเรื่องถอดยศพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลายรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการได้ แม้จะเป็นอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการพิจารณา แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ไม่มั่นใจจนต้องส่งเรื่องไปกระทรวงยุติธรรม และได้ข้อสรุปออกมาพร้อมกับการรับปากของพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อ 17 สิงหาคม 2558 ที่กล่าวว่าเรื่องการถอดยศพันตำรวจโททักษิณจะดำเนินการให้เสร็จก่อนที่ตัวเองจะเกษียณ ตกค่ำก็เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่สี่แยกราชประสงค์
ความเสียหายที่เกิดจากเหตุระเบิดบริเวณศาลพระพรหม ราชประสงค์
ฝ่ายต้านเดินเครื่อง

ขณะที่การเข้ามาบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งอยู่ระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เนื้อหาหลายส่วนสร้างความไม่พอใจให้กับอดีตนักการเมืองจากพรรคเพื่อไทย แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เห็นด้วยกับบางเรื่อง

ศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2558 พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ได้กล่าวแสดงความไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวในงานเลี้ยงของคนเสื้อแดงที่ประเทศฟินแลนด์ จันทร์ที่ 17 สิงหาคม นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวและอดีตนายกรัฐมนตรีได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว

ตามมาด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายจาตุรนต์ ฉายแสง ที่ไม่เห็นด้วยในเรื่องคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อปฏิรูปและปรองดองแห่งชาติ ที่คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญกำหนดไว้และให้มีอำนาจพิเศษหากเกิดวิกฤตความขัดแย้งและรัฐบาลไม่สามารถแก้สถานการณ์ได้ ในระยะเวลา 5 ปี และการมีวุฒิสภาแบบสรรหา และค่ำวันนั้นก็เกิดเหตุระเบิดขึ้น

นอกจากนี้ยังพบว่าในเฟซบุ๊กของคนเสื้อแดง “สื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตย - People Post” ได้โพสต์ข้อความ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม เวลา 22.07 น. “ด่วนๆ ด่วนโว้ยๆ 14 - 18 นี้ ระวังใน กทม. ให้ดี บอกแค่ข่าวนี้ 86% บอกแค่นี้ย้ำๆ” และโพสต์ภาพผู้บาดเจ็บหลังเกิดเหตุระเบิด พร้อมข้อความ “บอกแล้วให้ระวัง เป็นไง เชื่อบ้างไหมละ มันเกิดแล้ว ก็เกิดไป เช็กสิ มีคนของเราโดนลูกหลงไหม”

นับเป็นครั้งที่ 2 ที่เพจของคนเสื้อแดงได้โพสต์ข้อความ “คืนนี้จัดหนักที่สุราษฎร์ ใครจะร่วมกับกูบ้าง เอามันให้ฉิบหายไปเลย” และก็เกิดเหตุระเบิดที่ลานจอดรถเซ็นทรัล เกาะสมุย พร้อมด้วยเหตุการณ์ไฟไหม้ที่สหกรณ์สุราษฎร์ธานี ในวันที่ 10 เมษายน 2558 พื้นที่ดังกล่าวถือว่าเป็นฐานสำคัญของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. แกนนำคนสำคัญที่ขับไล่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนเกิดการยึดอำนาจเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557
คสช.แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ กรณีเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
เป็นไปได้ทุกกรณีมากหรือน้อย

“ตอนนี้ยังยากที่จะบอกว่ากลุ่มใดเป็นผู้ลงมือ เพราะมีความเป็นไปได้ในหลายเหตุการณ์ เรื่องการแต่งตั้ง ผบ.ตร.กับ ผบ.ทบ. ถือว่ามีน้ำหนักน้อย เพราะการแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญนี้ในรัฐบาลก่อนๆ ก็มีเรื่องการข้ามระบบอาวุโสไปเช่นกัน” แหล่งข่าวด้านความมั่นคงกล่าว

ประการต่อมาข้อสังเกตว่าเป็นการลงมือเองของผู้ที่อยู่ในอำนาจ หรือระเบิดอีกลูกที่โยนลงมาจากสะพานสาทรเมื่อ 18 สิงหาคม 2558 ด้วยโครงสร้างแบบเดียวกับในช่วงชุมนุมของคนเสื้อแดง หากรัฐบาลนี้จะทำเพื่อหวังที่จะอยู่ในอำนาจต่อนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะยิ่งอยู่นานยิ่งเสียในเรื่องความเชื่อมั่นจากนานาชาติ และระเบิดที่ราชประสงค์ในครั้งนี้ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลพลเอกประยุทธ์

ส่วนหลักฐานที่มีอยู่ในเวลานี้อาจมองว่าเป็นกลุ่มต่างชาติที่เข้ามาลงมือนั้น อย่างกลุ่มอุยกูร์ที่เข้ามาก่อเหตุเพื่อตอบโต้รัฐบาลไทย แม้ว่าจะดูเหมือนมีน้ำหนักทั้งในเรื่องการประกอบวงจรระเบิด ชนิดระเบิด หรือพุ่งเป้าไปที่คนเชื้อสายจีน แต่การเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทยนั้นไม่ง่าย อีกทั้งกลุ่มทัวร์จีนส่วนใหญ่มักจะไม่ได้พักแถวสี่แยกราชประสงค์ ส่วนใหญ่อยู่โรงแรมแถวชานเมืองเพื่อลดต้นทุนเรื่องค่าใช้จ่าย คนเชื้อสายจีนที่พักในย่านดังกล่าวมักเป็นชาวฮ่องกง ไต้หวัน ที่มีกำลังทรัพย์สูง
เฟซบุ๊ก สื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตย-People Post ของกลุ่มคนเสื้อแดงที่โพสต์ข้อความเตือน
ให้น้ำหนักการเมืองในประเทศ

แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า เรายังให้น้ำหนักไปที่การเมืองภายในประเทศ แม้ว่าผู้ลงมือในครั้งนี้อาจไม่ใช่คนไทย เพราะในทางปฏิบัติแล้วทั่วโลกมีกลุ่มรับจ้างก่อเหตุ ที่ได้รับการสนับสนุนในการจัดหาอุปกรณ์จากคนภายในประเทศ อีกทั้งการเข้ามายึดอำนาจในครั้งนี้ ประเทศมหาอำนาจบางรายก็ไม่พอใจการกระทำในครั้งนี้ อีกทั้งสายสัมพันธ์ของอดีตผู้นำไทยก็แนบแน่นกับประเทศมหาอำนาจ

การจะเลือกใช้ใครเป็นคนลงมือเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ทั้งจากคนภายในและต่างประเทศ หรือจะใช้การพรางตัวเข้ามาก่อเหตุ รวมไปถึงอานุภาพของระเบิดที่ครั้งนี้มุ่งไปที่การสังหารชีวิต แตกต่างจากครั้งก่อนที่เน้นไปที่การสร้างความตื่นกลัว ทั้งนี้เพื่อเบี่ยงเบนการตรวจสอบและตามหาหลักฐาน

“ไม่ว่าจะเป็นฝีมือของใครก็ตาม ผลที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลลบกับรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ทันที ทั้งในเรื่องความเชื่อมั่นจากนานาชาติ ที่สำคัญเป็นการเล็งเป้าไปที่ภาคการท่องเที่ยวที่ถือเป็นรายได้หลักของประเทศในเวลานี้ หลังจากที่รายได้จากการส่งออกลดลงไปมาก จนต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรีโดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ และเลือกพื้นที่ราชประสงค์แหล่งชอปปิ้งสำคัญเป็นสัญลักษณ์”

ประการต่อมาหลังจากเกิดเหตุระเบิดมีขบวนการปล่อยข่าวลือออกมาเรื่องสถาบันการเงิน โรงเรียนต่างๆ หยุดทำการ รวมไปถึงพื้นที่อันตรายอื่นๆ เพื่อให้เกิดความตระหนกกับประชาชน ตรงนี้เสมือนเป็นการเตรียมการที่ทำไว้แล้ว โดยใช้สื่อออนไลน์เป็นช่องทางในการกระจายข่าว

ส่วนตัวแล้วน้ำหนักไปในทางการเมืองบ้านเรา แต่กรรมวิธีอาจมีความซับซ้อนอยู่บ้าง แต่เป้าหมายของผู้ลงมือคือต้องการดิสเครดิตรัฐบาลชุดนี้ ด้านหนึ่งต้องการแสดงให้คนทั่วไปเห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ อีกด้านเป็นการตัดช่องทางในการสร้างรายได้ของประเทศจากการท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลต่อตัวเลขเศรษฐกิจในอนาคต และจะกลายเป็นข้ออ้างว่ารัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจนั้นไม่สามารถทำให้ชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นได้

อย่างไรก็ตามไม่ว่าเหตุผลในการวางระเบิดครั้งนี้จะมาจากสาเหตุใด เชื่อว่าฝ่ายความมั่นคงคงติดตามข้อมูลเรื่องนี้และน่าจะรู้เบาะแสของการกระทำในครั้งนี้อยู่พอสมควร เพียงแต่จะดำเนินการติดตามจับกุมคนร้ายมาได้หรือไม่ตรงนี้คงต้องวัดฝีมือของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ว่าจะทำได้ดีเพียงใด

กำลังโหลดความคิดเห็น