xs
xsm
sm
md
lg

จุฬาฯ ชี้ตั้งกาสิโน หนุนฉ้อโกง-แก๊งทวงหนี้เฟื่องฟู!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


วิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสียของการจัดตั้งบ่อนกาสิโนในประเทศไทย ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาฯ ชี้ชัดๆ หลักฐานที่หน่วยงานพบ สะท้อนให้เห็นวิกฤตทางสังคมที่ได้ไม่คุ้มเสีย อุ้มกลุ่มแก๊งทวงหนี้เติบโต คดีฉ้อโกงจะสูงขึ้น ด้านครอบครัว เด็กและเยาวชน มีภาวะเสี่ยงสูง กระตุกพวกเสนอตั้งกาสิโน ควรทำ Project Feasibility study มายืนยัน มั่นใจกำไรตกกับบริษัทต่างชาติ ระบุเด็กติดพนันบอลอื้อ แจงทีมนักวิชาการเร่งศึกษาหาโมเดล สร้างภูมิคุ้มกันเด็กติดพนัน บรรจุเป็นหลักสูตรแทรกอยู่ในวิชาคณิตศาสตร์ สอนเด็ก ยึดหลักตรรกะ “คิด-วิเคราะห์” อย่างมีสติ เหมือนหลักสูตร “โตไปแล้วไม่โกง” กระทุ้ง “บิ๊กตู่” หากคิดจะตั้งจริงต้องมี Regulator ขึ้นมาดูแล!

ข่าวเรื่องการตั้ง “กาสิโนในประเทศไทย” กำลังเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ที่มีการนำเสนอในมุมมองที่ต่างกัน ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างมีเหตุผลมาสนับสนุนแนวคิดของฝ่ายตน และในเวลาเดียวกันสังคมก็อาจมีข้อสงสัย เหตุใด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้รักษากฎหมาย กลับออกมาสนับสนุนและพร้อมจะเป็นแกนนำสำคัญในการผลักดันให้มีการสร้างกาสิโน
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ขณะที่ข้อมูลการสำรวจ และวิจัยจากศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันของจุฬาฯ มีข้อมูลที่ชี้ชัดๆ ว่า แม้ว่ายังไม่มีการตั้งกาสิโนในไทยก็ตาม กลับพบว่าคนไทยที่เล่นการพนัน ประเมินว่าตัวเองติดการพนันร้อยละ 12 ซึ่งตัวเลขนี้ถือเป็นสถิติที่สูงกว่านานาชาติ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 10

อย่างไรก็ดีสิ่งที่น่าวิตกมากที่สุด คือ งานวิจัยปี 2556 เป็น National Survey ที่สำรวจความคิดเห็นของตัวแทนของประชากรไทยที่อายุ 15 ปีขึ้นไป พบว่าเคยเล่นการพนันเฉลี่ยประมาณ 30 ล้านคน และเมื่อถามว่าขณะนี้ยังเล่นหรือไม่ตัวเลขลดลงมาเล็กน้อยประมาณ 28-29 ล้านคน โดยในรายละเอียดประเภทการพนันพบว่า ซื้อล็อตเตอรี่กับเล่นหวยเป็นจำนวนที่มากสุด ประเภทไพ่ ไฮโล มีตัวเลขที่สูงคือ 10 ล้านคนขึ้นไป และพนันฟุตบอลประมาณ 3-4 ล้านคน

แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน “การพนันบอล” ถือว่าเป็นการพนันที่น่าเป็นห่วงในอันดับแรกของไทย เนื่องเพราะฟุตบอลเป็นกีฬาที่ใกล้ตัวเยาวชนมาก เห็นได้จากการสำรวจพฤติกรรมของเด็กมัธยมในช่วงบอลโลกครั้งที่ผ่านมา พบว่ากว่า 10% ที่มีการเล่นพนันบอลโลกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
ตั้งกาสิโนกำไรอยู่กับบริษัทต่างชาติ

ดังนั้น หากปล่อยให้มีการตั้งกาสิโนในประเทศไทย อาจจะได้ไม่คุ้มเสียก็เป็นได้ แต่ถ้ารัฐบาลต้องการให้มีกาสิโนจะต้องมีวิธีบริหารจัดการอย่างไรบ้างนั้น “รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์” ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน และผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า ในหลายครั้งที่มีผู้เสนอให้มีการเปิดบ่อนกาสิโนที่ถูกกฎหมายในประเทศไทย จะทำเหมือนเป็นการขายฝัน เพราะไม่มีการทำแผนที่ลงรายละเอียด ยิ่งไปกว่านั้นมักจะมองแต่มุมรายได้ที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นหลักการของนักลงทุนที่ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อปัญหาสังคมที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกมาก ดังนั้นหากรัฐบาลตกลงว่าจะเปิดบ่อนให้ถูกกฎหมาย จึงต้องมองในหลายมิติ

ในมิติแรก คือ ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาพรวม และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หากมีกาสิโนคือการสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจประเภทหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าต้องการคนเข้าไปทำงานในกาสิโน ด้านหนึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน และเศรษฐกิจก็อาจจะดีขึ้น เพราะมีการจ้างงานก็มีรายได้ มีเงินหมุนเวียน อย่างไรก็ดีมีข้อสังเกตว่า อัตราการว่างงานของไทยนั้นน้อยกว่า 1% มาเป็นเวลาหลายปีจนถึงปัจจุบัน แสดงว่าเราอยู่ในสภาวการณ์การจ้างงานของประเทศที่ตึงตัวมาก
รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน และผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
การที่เราไม่ได้อยู่ในสภาวะที่มีแรงงานเหลือเฟือ เพราะแรงงานในเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวที่อยู่ในสภาวะขาดแคลนสูง อีกทั้งยังต้องมีการจ้างแรงงานต่างชาติเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการสร้างกาสิโน อาจไปดึงแรงงานจากส่วนอื่นๆ เข้ามา และจะส่งผลกระทบทำให้ภาคเศรษฐกิจอื่นก็จะประสบปัญหาขาดแคลนอีกด้วย

มิติที่สอง คือ การสร้างกาสิโนขนาดใหญ่ จำเป็นต้องมีผู้ชำนาญการ นักลงทุน และคนที่มีภาพพจน์การทำกาสิโนที่น่าไว้ใจ น่าเชื่อถือ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว จึงต้องอาศัยบริษัทข้ามชาติเข้ามาบริหาร สุดท้ายแล้วกำไรก็จะอยู่กับบริษัทนั้น ภาพรวมหากประสบความสำเร็จ ตัวเลขจีดีพีอาจจะดี เพราะวัดเฉพาะผลผลิตที่เกิดขึ้นภายในประเทศ

แต่ไม่ได้บอกว่าใครเป็นเจ้าของ เพราะฉะนั้นไม่ได้หมายความว่าชีวิตความเป็นอยู่ หรือระดับรายได้โดยทั่วไปของคนในประเทศจะดีขึ้น เมื่อถึงเวลาเม็ดเงินก็จะไหลกลับไปที่ประเทศของบริษัทเหล่านั้น ไม่สามารถป้องกันการไหลออกของเงินได้ตามที่คาดการณ์กันไว้

ประเมินผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจ


นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการให้มีกาสิโน มักจะมองเพียงการเติบโตทางเศรษฐกิจ มองในเรื่องของรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ประเด็นคือเราอยากได้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นหลัก แต่ต้องถามว่าหากเปิดบ่อนแล้วเราจะได้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพจริงหรือไม่

เมื่อมองในแง่ผลบวกทางเศรษฐกิจ และเชื่อว่าถ้าเราเปิดกาสิโนจะทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ก็น่าจะมีผลให้นักท่องเที่ยวบางส่วนเข้ามา เพราะตลาดเอเชียเป็นตลาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เล่นหลักของตลาดเอเชียคือจีน

ซึ่งที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนโต คนก็มีรายได้สูงขึ้น ก็สามารถออกมาเล่นพนันได้มากขึ้น อย่างไรก็ดีระยะนี้มีภาวะที่ตกลงอยู่เช่นกัน (Decline) ทั้งในมาเก๊า และสิงคโปร์ มาเก๊าผู้เล่นหลักคือจีน ที่สิงคโปร์ก็มีสัดส่วนถึง 50% เศรษฐกิจของจีนตอนนี้ชะลอตัว และรัฐบาลเข้มงวดเรื่องการออกนอกประเทศมากขึ้น จำนวนผู้เล่นที่เข้ามาจึงน้อยลง แต่ก็ยังมีคนเชื่อว่าถ้าเปิดก็มีคนจีนส่วนอื่นที่อาจจะเข้ามา

หากเปิดในประเทศใกล้ๆ เช่น ไทย เวียดนาม ลาว ก็น่าจะไปดึงคนกลุ่มเดียวกันนั้นได้ สำหรับกรณีของลาวที่เปิด (King’s Roman) ที่อยู่เหนือไทยขึ้นไปนั้น ลาวใช้แรงงานอพยพจากจีนเข้ามาทำงานเพราะขาดแคลน ซึ่งจากการศึกษาในข้อเท็จจริงมีผู้เล่นจากจีนเข้ามาเล่นจริง แต่ในช่วงวันหยุดผู้เล่นของลาวเองจำนวนไม่น้อยก็เข้าไปเล่น จึงไม่สะท้อนให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนแท้จริง

เพราะจากสถิติคนสิงคโปร์ที่เข้าไปเล่นเองในกาสิโนยังมีถึง 1 ใน 3 เราไม่สามารถประเมินได้ว่ารายได้ที่รายงานว่ามหาศาลนั้น มาจากคนในประเทศเท่าไร การอ้างตัวเลขโตและมองว่าธุรกิจกาสิโนเติบโตนั้น ยังไม่สามารถสรุปได้เพราะตัวเลขที่เผยแพร่ออกมาเป็นตัวเลขโดยรวม นักท่องเที่ยวที่ไปสิงคโปร์ไม่ได้มุ่งตรงไปเล่นการพนันแต่เพียงอย่างเดียว เพราะสิงคโปร์มีสิ่งดึงดูดทางการท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมาก เช่นการรายงานรายได้ของ Marina Bay Port ปีที่ผ่านมาเป็นจำนวนแสนล้านบาท แต่รายได้ 25% ไม่ได้มาจากกาสิโน แต่มาจากบริการอื่นๆ เช่น โรงแรม อาหาร โรงละคร 2 แห่งที่นำการแสดงจากบรอดเวย์มาแสดง รวมทั้งพิพิธภัณฑ์

ดังนั้นธุรกิจกาสิโนไม่ใช่ธุรกิจที่มีผลกำไร (Productive) มากเท่าไร เพราะฉะนั้นจะมีความยั่งยืนได้อย่างไร โดยเฉพาะกับประเทศไทยซึ่งไม่ได้ร่ำรวยอะไร ถ้าเราทำโดยที่นักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นพนันอย่างเดียวเราอาจจะได้ประโยชน์ เพราะไม่ใช่ปัญหาของเรา แต่ถ้าเราทำแล้วคนในประเทศเราเล่น ปัญหาก็จะตกอยู่กับเรา และไทยไม่ใช่ประเทศที่ไม่มีทางเลือกอื่น ธุรกิจท่องเที่ยวปัจจุบันเราก็มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากและสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องมีกาสิโน
Marina Bay Port ประเทศสิงคโปร์ (ภาพจากอินเทอร์เน็ต)
ส่วนความคิดเรื่องการตั้งบ่อนกาสิโนเมืองท่องเที่ยว ที่จริงแล้วประเทศไทยมีปัจจัยอื่นที่เป็นจุดขายอยู่แล้ว ทั้งวัฒนธรรม ธรรมชาติ มองในแง่ความเป็นจริง การมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน เราก็ต้องแลกอยู่แล้วกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติที่ถูกทำลาย หรือเสื่อมโทรมไป ซึ่งวันนี้เราก็ยังปกป้องไม่ได้เท่าที่ควร หากเราจะตั้งบ่อนกาสิโนขึ้นมาโดยแลกกับปัญหาสังคม ต้องตั้งคำถามและหาคำตอบให้ชัดเจนเพราะประเทศไทยที่ผ่านมามีความอ่อนแอเรื่องกฎระเบียบ จึงไม่สามารถคาดเดาว่าเราจะอยู่ในสังคมแบบไหน ก็ให้เรียนรู้จากประเทศกัมพูชาที่มีการเปิดบ่อนมากที่สุด เพราะมีความคุ้นเคยจากที่อยู่ภายใต้การปกครองของประเทศตะวันตกมาในอดีต และจากเดิมที่กัมพูชามีการเปิดบ่อนในเมืองหลวง

แต่สุดท้ายก็มีนโยบายไล่ปิดบ่อนในเมืองหลวงไปเปิดที่ชายแดน เพื่อป้องกันคนในประเทศไม่ให้ไปเล่นการพนัน แต่มีกลุ่มเป้าหมาย คือ คนไทยและนักท่องเที่ยวมาเล่น ในความเป็นจริงบ่อนเหล่านั้นก็มักจะมีนักลงทุนไทยไปร่วมด้วย

สำหรับธุรกิจกาสิโนในความเป็นจริงมีวงจรการเกิดดับเช่นกัน มีบ่อนเปิดใหม่ คนย้ายไปเล่น บ่อนเก่าปิดกิจการ เรียกว่า ไม่ใช่ธุรกิจที่ทำเงินได้อย่างยั่งยืนตลอดไป
อยากตั้งกาสิโนต้องทำ Feasibility study

รศ.ดร.นวลน้อย บอกว่า ประเด็นสำคัญการจะตั้งกาสิโน รัฐบาลควรจะต้องกำหนดเป็นนโยบายสาธารณะที่สำคัญ เพราะมีผลกระทบกับผู้คนจำนวนมาก จึงต้องมีการทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (Project Feasibility study) เพราะจะมีผลกระทบในทางลบตามมา โดยเฉพาะปัญหาทางสังคม จึงไม่สามารถบอกว่าดีแล้วเริ่มเดินหน้าทำเลย ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับแผนการทำกาสิโนจะอนุญาตให้คนไทยเล่นหรือไม่ ถ้าไม่ให้เล่น หมายความว่าบ่อนเถื่อนจะยังคงมีอยู่ต่อไป จึงไม่ได้แก้ปัญหาที่คิดไว้

อีกประเด็นหนึ่ง ถ้ามีการอนุญาตให้คนไทยเข้าไปเล่นพนันในกาสิโนเหล่านี้จะสร้างเป็นรูปแบบศูนย์ความบันเทิง (Entertainment Complex) จะยิ่งดึงดูดให้คนเข้าไปเล่นการพนันเพิ่มขึ้น ซึ่งในมุมบวกของการทำธุรกิจกาสิโนอาจจะเติบโตทำรายได้มาก และรัฐบาลเก็บภาษีได้สูงขึ้น

“แต่ในมุมลบ ที่ไม่ควรมองข้ามคือ ปัญหาสังคมที่ตามมาจากผู้เล่นการพนันจะส่งผลกระทบไปถึงครอบครัวและสังคมที่อยู่รอบๆ ตัวเขา ปัญหาต่างๆ จะตามมา ทั้งการขาดรายได้ในการเลี้ยงดูครอบครัว ขาดเงินออมเพื่อการศึกษาบุตร หรือวางแผนอนาคตในวัยชรา”

นี่เป็นเพียงปัญหาพื้นฐาน ยังไม่รวมไปถึง “ปัญหาหนี้สิน” ถึงแม้กาสิโนจะมีกฎห้ามไม่ให้มีการกู้ยืมเงิน แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่ากฎเหล่านี้จะถูกบังคับใช้ได้อย่างจริงจัง ผลเสียหายที่ตามมาจะกระทบไปในวงกว้าง แม้กระทั่งปัญหา

แก๊งทวงหนี้ที่เคยมีความรุนแรงตามที่เป็นข่าว


นอกจากนั้นสิ่งที่น่าวิตกจากการที่ศูนย์ฯ ได้ไปสำรวจผู้เล่นการพนัน ซึ่งผู้ให้ข้อมูลตอบคำถามทำให้เรารู้สึกตกใจ โดยเหตุผลในการเล่นพนัน คืออยากได้เงิน ซึ่งน่าเป็นกังวล แต่หากเป็นคำตอบว่าอยากสนุกหรือท้าทาย ในมุมมองวิชาการยังมองว่าเขามีความระมัดระวังตัวเอง

“เราควรดูว่าผู้เล่นการพนันควบคุมตัวเองได้หรือไม่ หากควบคุมได้ก็ยังไม่น่าเป็นปัญหา เพราะเขารู้ว่าเมื่อไรควรเลิก เรามีคำถามว่าเคยหรือไม่ที่เล่นพนันเกินกว่าที่ตั้งใจไว้ ส่วนใหญ่เกิน 50% ตอบว่าเคย”

ข้อมูลเหล่านี้จึงสะท้อนให้เห็นว่าผู้เล่นการพนันควบคุมตนเองไม่ได้ และจะนำไปสู่ปัญหาที่รุนแรง โดยลักษณะของคนที่เริ่มติดการพนัน จะมีปัญหาทางการเงิน ติดหนี้สิน ขายทรัพย์สิน กระทบไปถึงครอบครัว เงินไม่พอค่าใช้จ่าย เกิดการทะเลาะ การใช้ความรุนแรง และมีปัญหาการถูกทำร้ายบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากแก๊งทวงหนี้ หรือการหาเงินมาชำระหนี้ก็นำไปสู่การลักขโมย ฉ้อโกง คนที่ทำงานในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ได้จับต้องเงิน ก็จะมีเรื่องฉ้อโกงและถูกจับดำเนินคดีตามมา

“สิ่งที่ตามมาจากการพนัน คือแก๊งทวงหนี้ คดีฉ้อโกง เพราะคนติดการพนันก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เงินมาเล่น กล้าที่จะฉ้อโกง เมื่อเป็นหนี้ก็ต้องถูกทวงหนี้ เราเห็นตามหน้าสื่อเป็นประจำ และถ้ามีกาสิโน เกิดขึ้น เหตุการณ์เหล่านี้จะตามมา ธุรกิจทวงหนี้จะเติบโต คดีฉ้อโกงก็ต้องมากขึ้น”

นี่คือตัวอย่างของปัญหา ที่ส่งผลกระทบกับคนในวงกว้างที่ไม่ใช่เฉพาะคนในครอบครัวตนเองซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประเทศไทยไม่มีการกำกับดูแลบ่อนพนันอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน ตลอดจนโปรแกรมดูแลเรื่องการให้คำปรึกษา และการบำบัดผู้ติดการพนันไม่ให้หลงเข้าไปอยู่ในวังวนนั้นอีก

กระทุ้งรัฐถ้าอยากตั้งกาสิโนต้องมี Regulator

รศ.ดร.นวลน้อย ย้ำว่าสิ่งที่สำคัญอันดับแรกสำหรับการเปิดกาสิโน คือ การกำกับดูแลที่เข้มแข็ง ซึ่งความเป็นไปได้ในการบริหารจัดการ หากประเทศไทยมีกาสิโนเกิดขึ้นนั้น คงทำได้ยาก ยกตัวอย่าง “ล็อตเตอรี่เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและไม่ซับซ้อน ยังแก้ปัญหาได้อย่างยากลำบาก มีมาเฟียกองสลากเกิดขึ้น ราคาสลากก็ถูกกำหนดให้แพงกว่าราคาที่ระบุไว้จากคนไม่กี่คน ขณะที่กาสิโนการกำกับดูแลซับซ้อนกว่ากัน และผลกระทบทางสังคมยิ่งมาก จึงต้องมีคณะกรรมการกำกับดูแล (Regulator) ที่เข้มแข็ง ขณะที่การบังคับใช้กฎหมายของไทยยังกระท่อนกระแท่นอยู่ เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเรากำกับดูแลได้

“ปัญหาล็อตเตอรี่ที่เป็นปัญหาง่ายที่สุดในบรรดาการพนันประเภทต่างๆ ก็ยังมีผู้มีอิทธิพลคุม รัฐพยายามแก้ไขปัญหามาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว ถึงคราวนี้รัฐบาลบิ๊กตู่ได้จัดการแต่จะจัดการได้จริงจัง เปลี่ยนแปลงได้ถึงรากถึงโคนหรือไม่ก็ต้องตามดู แล้วบ่อนจะเป็นอย่างไร ซึ่งอันตรายกว่า ผลกระทบแรงกว่าล็อตเตอรี่มาก”

โดยผู้ที่ต้องการจะลงทุนตั้งกาสิโนรัฐบาลควรต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ ต้องศึกษาทั้งในมิติเศรษฐกิจ มิติทางสังคม มิติด้านสาธารณสุข มิติทางกฎหมาย มิติด้านสิ่งแวดล้อม ฯลฯ โดยเฉพาะความสำคัญเรื่องกฎระเบียบ และกฎหมายต่างๆ เช่น การป้องกันเด็กและเยาวชน การห้ามโฆษณา การห้ามทำโปรแกรมส่งเสริมการขาย ที่เป็นการกระตุ้น การบำบัดเยียวยาผู้มีปัญหา การดูแลครอบครัว

“ต้องมีการประเมินจำนวนนักท่องเที่ยว จำนวนเท่าไรจะเข้าไปในบ่อน รายได้ที่จะได้เพิ่มขึ้น การจัดการกับปัญหาสังคม ต้นทุนการจัดการเท่าไร ไปจนถึงการทำโมเดลว่าจะไปตั้งอยู่พื้นที่ไหน ต้องไปถามคนในพื้นที่ เพราะชุมชนรอบข้างเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นด่านแรก การให้ประชาชนลงมติแบบไม่มีข้อมูลรอบด้าน ก็เหมือนเป็นการขายฝัน เมื่อมีปัญหาภายหลังแล้วนำประชามติมาอ้าง จึงเหมือนเป็นการไปลงโทษประชาชนซ้ำอีก”

ถึงวันนี้หากรัฐบาลจะเดินหน้าในเรื่องกาสิโน รัฐบาลต้องดำเนินการจัดตั้ง Regulator ที่มีอำนาจเด็ดขาดดูแล ไปจนถึงการบำบัดผู้ติดการพนันว่าเป็นหน้าที่ของใคร ถ้าจะให้เฉพาะนักท่องเที่ยวเราอาจจะละเลยปัญหานี้ไปได้

แต่ถ้าเปิดให้คนไทยเล่นได้ต้องคำนึงด้านนี้ เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องของรัฐบาลในการตั้งกติกา เพราะเป็นนโยบายสาธารณะ ถึงแม้จะเป็นการลงทุนของเอกชน การจะทำให้สมบูรณ์ต้องใช้เวลาในการศึกษามากพอสมควร แต่โดยส่วนตัวแล้ว ดร.นวลน้อย ไม่เชื่อว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะสนับสนุนให้มีการตั้งกาสิโน

สร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กไม่ติดพนัน แต่เล่นแบบมีสติ

รศ.ดร.นวลน้อย เล่าว่า การจัดระเบียบวินัยของรัฐบาลสิงคโปร์ในเรื่องกาสิโน มีการเก็บค่าเข้ากาสิโน และอนุญาตให้ครอบครัวใดที่ได้รับความเดือดร้อนจากคนในครอบครัว สามารถส่งจดหมายถึงคณะกรรมการที่กำกับดูแล ห้ามบุคคลนั้นไม่ให้เข้าบ่อน รวมทั้งมีการบำบัดผู้ติดการพนัน ซึ่งก็เป็นภาระของรัฐบาลในการบำบัด การบำบัดกำหนดว่าเมื่อรับการบำบัดแล้ว ห้ามไม่ให้คนนั้นเข้าไปเล่นการพนันในกาสิโนอีก นี่เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบ และทางแก้ปัญหาของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีระเบียบวินัยมาก

ส่วนในประเทศอื่นๆ ที่มีบ่อนการพนันที่ถูกกฎหมายนั้น มีมาตรการป้องกันเรื่องการพนันในเยาวชนตั้งแต่หลักสูตรการเรียนการสอน ให้ทราบว่าการพนันเป็นอย่างไร การเล่นทำอย่างไรก็แพ้ สอนตั้งแต่วิธีการคิดแบบตรรกะ เมื่อเด็กโตขึ้นต้องตัดสินใจเองว่าจะเล่นหรือไม่ บนพื้นฐานที่มีสติ เสมือนเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน และเมื่อโตขึ้นให้รับผิดชอบการเลือกใช้ชีวิตของตนเอง หลักสูตรประเภทนี้มีในแทบทุกประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา นิวซีแลนด์

สำหรับในไทย ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน เล็งเห็นถึงพิษภัยจากการพนันและจากข้อมูลการศึกษาในเรื่องการพนันทั้งที่ของศูนย์ฯและของหน่วยงานอื่น แสดงให้เห็นว่าเด็กและเยาวชนที่เป็นกำลังของประเทศได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการพนัน และเมื่อเด็กเหล่านี้เติบโตขึ้นก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากวิถีการพนันได้ จึงมีนักวิชาการหลายๆ ท่านคิดหาวิธีการป้องกันตั้งแต่ในวัยเด็กและถอดโมเดลของต่างประเทศมาพัฒนาต่อไป ซึ่งในเรื่องนี้ ดร.ธีรารัตน์ พันทวี วงศ์ธนะอเนก กำลังพัฒนาหลักสูตร “การป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนัน” เพื่อนำมาประยุกต์และทดลองใช้ให้เหมาะสมกับบทเรียนของเด็กไทย เพราะหลักสูตรเหล่านี้สามารถแทรกไปในวิชาคณิตศาสตร์ให้สนุกได้ ซึ่งเหมือนกับที่นักวิชาการสร้างหลักสูตร “โตไปแล้วไม่โกง” เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กเมื่อโตไปเป็นผู้ใหญ่แล้วก็จะไม่ไปคอร์รัปชันและทำให้ประเทศชาติเสียหายได้

“เราได้นำโมเดลการศึกษานี้ไปทดลองเป็นหลักสูตรในวิชาคณิตศาสตร์ กับโรงเรียนบางแห่ง และเราจะพัฒนาไปจนได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก็จะนำเสนอเป็นหลักสูตรให้ทางรัฐบาลอีกครั้ง เพราะนี่จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็ก คิด วิเคราะห์ แบบมีตรรกะได้ดีที่สุด”

ยกตัวอย่างเราจะเห็นว่าการเล่นพนันเป็นเรื่องของ “ความน่าจะเป็น” ต้องทำเป็นเกมมาให้ดู เช่น คุณจะแทงหวยสองตัว คุณก็ต้องคำนวณมาว่าตัวเลขที่มีโอกาสจะออกคือ 100 ตัว ดังนั้นโอกาสที่จะถูกตัวเลขหนึ่งคือ 1 ใน 100 ถ้าคุณลงไป 1 บาท คุณถูกคุณจะได้กลับมา 60 บาท ถ้าอยากจะแน่ใจว่าครั้งนี้คุณถูกแน่ๆ คุณก็ต้องแทงทุกตัว ก็ต้องลงไปทั้งหมด 100 บาท แต่คุณจะได้คืนกลับมาเพียง 60 บาท อย่างนี้คือตัวอย่างให้เด็กคิดตามในเชิงตรรกะ ในต่างประเทศจะเริ่มการสอนประมาณเทียบเท่าชั้นประถมศึกษา 3 และมีการปรับไปตามวัยและระดับการศึกษาที่สูงขึ้นของเด็ก

ดังนั้นแม้ล่าสุดรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะบอกเจตนาชัดเจนปฏิเสธการตั้งกาสิโนในไทย แต่เชื่อว่าความพยายามที่จะให้มีการตั้งคงไม่หยุดเพียงแค่นี้ รอเพียงโอกาสและจังหวะในรัฐบาลต่อไป ขณะที่นักวิชาการก็พยายามที่จะบ่มเพาะเด็กรุ่นใหม่ด้วยการสร้างหลักสูตรเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อให้เด็กเติบโตขึ้นมาและไม่เป็นเหยื่อของวงการพนันอีกต่อไป!

กำลังโหลดความคิดเห็น