รมว.ท่องเที่ยวฯ เผยต่างชาติและครม.ชื่นชม สธ.รับมือเมอร์สได้ดี ยันไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันยืนยันกาสิโนไม่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น เพราะไทยมีจุดขายด้านศิลปวัฒนธรรม และธรรมชาติ รัฐบาลสั่งเดินหน้าท่องเที่ยววิถีไทยอย่างน้อยอีก 2 ปี
นางกอบกาญจน์ วัตนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานว่า นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข ได้รายงานถึงมาตรการกควบคุมเชื้อไวรัสเมอร์สในประเทศไทยต่อ ครม.ว่า ได้ดำเนินการเรื่องใดไปแล้วบ้าง โดยสถานการณ์ในประเทศไทยไม่ถือว่าเป็นการแพร่ระบาด ผู้ติดเชื้อยังมีรายเดียว ส่วนการป้องกันมีการเฝ้าระวังตั้งแต่สนามบินตลอดจนการดูแลรักษา ซึ่งได้รับคำชมจากต่างประเทศและจากที่ประชุม ครม.เอง
ขณะที่กระทรวงคมนาคมรายงานว่า ขณะนี้มีการดูแลในเรื่องการคมนาคมเช่นกัน โดยจะเน้นเรื่องความสะอาด การป้องกันการแพร่เชื้อ ไม่ว่าจะเป็นรถบัส รถไฟ และสายการบินภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตรกำชับว่ายังประมาทไม่ได้ ขอให้เข้มข้นในแง่ของการเฝ้าระวังต่อไป โดยนางกอบกาญจน์ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และไม่มีการยกเลิกการเดินทางมาประเทศไทย เนื่องจากนักท่องเที่ยวเชื่อมั่นในมาตรการสาธารณสุขของไทย ตั้งแต่การแพร่ระบาดของไข้หวัดนก การแพร่ระบาดของอีโบลา ไทยมีประวัติการทำงานที่ดีอยู่ในระดับนานาชาติ มีมาตรการที่เข้มข้นมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ในเดือนต่อเดือนจะมีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น
นางกอบกาญจน์ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการเสนอให้เปิดกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทยว่า เรื่องนี้มีสองมุมมอง แต่ไม่ใช่เรื่องซีเรียสมาก เพราะวันนี้การท่องเที่ยวอยู่ได้ในสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว คือ การท่องเที่ยวแบบวิถีไทย ดังนั้น หากไม่มีกาสิโนเราก็อยู่ได้ ที่ผ่านมาเรามีจุดขายด้านศิลปวัฒนธรรม และธรรมชาติต่างๆ คนต่างชาติไม่ได้มาประเทศไทยเพราะกาสิโน แต่มาเพราะความเป็นไทยของเรา ตรงนี้ยังเป็นจุดขายสำคัญและยังเป็นดีเอ็นเอที่แท้จริงของเรา ฉะนั้นเราคงไม่ต้องพึ่งกาสิโน แต่หากจะมีกาสิโนเพื่อไปตอบโจทย์การแก้ปัญหาอื่นๆ ของเราเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องดูภาพใหญ่ว่าประชาชนว่าอย่างไร
“การมีหรือไม่มีกาสิโนไม่มีผลว่าจะทำให้การท่องเที่ยวของเราจะตกหรือมากขึ้น เพราะเรามีจุดขายเยอะ บางประเทศเขาอาจจะมีกาสิโนเพราะว่าเขาไม่มีจุดขายอื่นๆ แต่เราไม่ต้องเลย เพราะเรามีของดั้งเดิมที่มีมาอยู่ช้านานแล้ว อีกทั้งตัวเลขการท่องเที่ยวของเราปีนี้อยู่ที่ 28.8 ล้านคน ซึ่งอยู่ในอันดับ 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวเข้ามา ฉะนั้น เราจึงไม่ได้มุ่งประเด็นเรื่องนี้ แต่จะมุ่งไปในสิ่งที่ดีที่เรามีอยู่มากกว่า จำเป็นต้องเป็นการท่องเที่ยวแบบวิถีไทย และตัดสินใจว่าจะคงอย่างนี้ไปอีก 2 ปีอย่างน้อย”
