วัดพระธรรมกายแผ่อาณาจักรต่างแดน เปิดรับบริจาค “ดูดทรัพย์” ทั่วโลก ไหลกลับมาที่ธัมมชโย ด้าน ดร.มโน แจง “ธรรมกาย” จะเลือกคนที่ไว้ใจเท่านั้นไปประจำ เจาะที่ฐานคนไทยก่อน ชี้ที่อินโดฯ ตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย เหตุถูกมองว่าคนอิสลามเปลี่ยนเป็นพุทธ ประเมินปีหนึ่งโกยเงินบริจาคไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน สาวก 9 ล้านคน เน้นสร้างกิจกรรมให้คนบริจาคตลอดทั้งปี ซ้ำร้ายมีสหกรณ์ให้กู้ทำบุญดอกเบี้ยร้อยละ 12 ต่อปี
ตลอดระยะเวลา 45 ปีของวัดพระธรรมกายที่เติบโตมาจนถึงวันนี้ พลังแห่งศรัทธา พลังบุญและพลังอำนาจจากสานุศิษย์ต่างๆ ที่มีพระเทพญาณมหามุนี หรือพระไชยบูลย์ ธัมมชโย เป็นเจ้าอาวาส ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นอาณาจักรอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ศาสนจักรที่มีอยู่ในปัจจุบัน และยังมีการผสานเป็นส่วนหนึ่งของภาคการเมืองไปในตัว
แม้ที่ผ่านมาจะมีข้อครหาต่างๆ หรือคดีความต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับวัดแห่งนี้ แต่ทุกอย่างจบลงได้ด้วยการไร้ความผิด มหาเถรสมาคมในฐานะผู้บังคับบัญชาของสงฆ์ล้วนแล้วแต่ลงความเห็นไปในทางเดียวกันคือให้คดีความของวัดพระธรรมกายพ้นผิด แม้ว่าหลักคำสอนของวัดแห่งนี้จะผิดเพี้ยนไปจากแก่นหลักของพระพุทธศาสนาอยู่มากก็ตาม
ด้วยแนวคิดซื้อบุญและการนำเอาหลักทางการตลาดยุคใหม่มาปรับใช้กับวัด ทำให้วัดแห่งนี้มีเงินมหาศาลที่จะขยายสาขาของวัดพระธรรมกายออกไปได้ทั่วประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การเติบโตของวัดธรรมกายตามที่พระทัตตะชิโว รองเจ้าอาวาสวัดธรรมกายได้กล่าวไว้
“พวกคาทอลิกเขามีวาติกัน มุลสิมก็มีเมกกะ เราชาวพุทธจึงจะต้องมีศูนย์กลางธรรมกายแห่งโลก”
ซึ่งตรงนั้นคือเป้าหมายที่วัดพระธรรมกายต้องการขยายตัวในระดับสากล!
ดังนั้นโครงการต่างๆ ก็เริ่มเป็นรูปธรรมตามมา โดยเฉพาะพื้นที่ของวัดพระธรรมกายที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ปัจจุบันมีเนื้อที่กว่า 2,500 ไร่ พร้อมทั้งยังมีการขยายวัดศูนย์สาขาและศูนย์ปฏิบัติธรรมไปทั่วประเทศกว่า 51 แห่ง และขยายไปต่างประเทศอีกกว่า 80 แห่ง ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย โอเชียเนีย ตะวันออกกลางและแอฟริกา
นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยธรรมกายแคลิฟอร์เนียที่สหรัฐ (DOU - Dhammakaya Open University) โดยเป็นมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เปิดสอนระบบทางไกล ด้วยภาษาไทย อังกฤษ และจีน ปัจจุบันมี 3 หลักสูตร คือ ประกาศนียบัตร หลักสูตร Pre-Degree และสัมฤทธิบัตร ปริญญาตรี หลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ.) เรียน 4 ปี และปริญญาโท หลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต (พธ.ม.) เรียน 2 ปี
นับเป็นความกว้างไกลของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ได้กระจายแนวคิดของวัดแห่งนี้ไปยังทุกพื้นที่ทั่วโลก
ขยายต่างประเทศ-เป้าหมายครองโลก
“ปัจจุบันทั้งวัดศูนย์สาขาและศูนย์ปฏิบัติธรรมทั้งในและต่างประเทศน่าจะเกิน 200 แห่งไปแล้ว” จากการประเมินของ ดร.นพ.มโน เลาหวนิช หรืออดีตพระเมตตานันโท อดีตกรรมการบริหารอาวุโสและมูลนิธิวัดพระธรรมกาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา
ทั้งนี้เป็นเพราะความต้องการของธัมมชโยที่อยากครองโลกโดยใช้วิชาธรรมกาย อดีตศิษย์ธรรมกายรายนี้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทั้งหมดสอดคล้องคำพูดของธัมมชโยที่เขาจำได้ดีว่า อาตมาไม่ต้องการเป็นสังฆราช แต่ต้องการแค่ครองโลก ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้เป็นแนวคิดของฮิตเลอร์ที่เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายยึดถือเป็นแบบอย่าง
ธัมมชโยให้ความสนใจเรื่องของกลยุทธ์ (strategy) มาก เห็นได้จากกลไกของวัดพระธรรมกายจะมีการดึงกลุ่มคนให้เข้ามาศรัทธาตั้งแต่ระดับนักเรียน นักศึกษามหาวิทยาลัย นักธุรกิจ ข้าราชการและคนชนชั้นสูง
พระที่คุมต้อง “ธัมมชโย” ไว้ใจ
การขยายสาขาของวัดพระธรรมกายไปทั่วประเทศและหลายประเทศทั่วโลกนั้น วิธีการจะเป็นอย่างไรท่านไม่สนใจ ท่านสนใจแต่ผลลัพธ์เท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติแล้วคนที่จะไปเป็นเจ้าอาวาสหรือหัวหน้าศูนย์ในพื้นที่ต่างๆ ได้นั้นจะต้องเป็นพระที่ธัมมชโยไว้วางใจ
พระของวัดพระธรรมกายที่จะได้ไปดูแลตามศูนย์ต่างๆ มีทั้งพระที่เคยได้รับการสนับสนุนทางด้านทุนการศึกษาจากธัมมชโย และที่ไม่ได้รับทุน แต่จะต้องเป็นพระที่ศรัทธาในตัวธัมมชโย ซึ่งทุนที่สนับสนุนพระในวัดพระธรรมกายมีทั้งทุนจากวัดพระธรรมกายเองและทุนจากที่อื่นตามประเทศต่างๆ ที่เสนอมา
ในส่วนนี้ทางวัดพระธรรมกายจะมีการจัดตั้งเป็นแผนกขึ้นมา มีบุคลากรที่ดูแลเรื่องเงินทุน การให้การสนับสนุนต่างๆ มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบและการตลาดที่ล้ำยุค
โมเดลของการขยายสาขาไปในต่างประเทศนั้นจะยึดต้นแบบจากประเทศไทยเป็นหลัก โดยเริ่มที่ชุมชนคนไทยในต่างประเทศเป็นจุดเริ่มต้น แรกๆ อาจจะยังไม่ถึงขนาดเป็นวัด เป็นเพียงศูนย์ปฏิบัติธรรมหรืออื่นๆ เพื่อดึงให้คนไทยในประเทศเหล่านั้นเข้ามาก่อน เมื่อมีศักยภาพพอก็จะยกระดับเป็นวัด
ทั้งนี้คนไทยในต่างประเทศส่วนหนึ่งคือคนที่แต่งงานกับชาวต่างชาติ ก็จะทำให้คนต่างชาติจำนวนหนึ่งเริ่มหันมาสนใจในพระพุทธศาสนามากขึ้น ขณะเดียวกันการมีศูนย์ตามประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ในด้านบวกให้กับวัดพระธรรมกาย
“หากจะมองว่าการกระจายสาขาไปยังทั่วโลก เป็นการดูดทรัพย์จากคนทั่วโลกก็ได้ เพราะทุกที่จะมีการรับบริจาค และทุกอย่างจะรวมศูนย์กลับมาที่ธัมมชโยที่วางระบบเอาไว้ที่ยอดพีระมิดขององค์กรนี้”
อย่างไรก็ตาม สาขาตามประเทศต่างๆ ก็ใช่ว่าจะดำเนินการไปได้ด้วยดี อย่างเช่นในประเทศอินโดนีเซีย ที่ศูนย์ของธรรมกายกลายเป็นเป้าหมายหลักของการมุ่งก่อเหตุโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย เนื่องจากมองกันว่าศูนย์แห่งนี้จะเป็นการเข้าไปเปลี่ยนให้คนศาสนาอิสลามหันมานับถือศาสนาพุทธ ซึ่งรัฐบาลของอินโดนีเซียก็ห่วงศูนย์แห่งนี้ อย่างที่ฟิลิปปินส์ธรรมกายก็ต้องหันไปร่วมกิจกรรมกับกลุ่มคาทอลิก
บุญปีละหมื่นล้าน
ดร.มโน ประเมินว่า คนที่ศรัทธาในธรรมกายน่าจะมีประมาณ 9 ล้านคน แต่มีแกนหลักจริงๆ ประมาณ 6 แสนคน ดังนั้นในแต่ละปีนั้นมีผู้ที่ศรัทธาในวัดพระธรรมกายทำบุญให้กับวัดแห่งนี้ เกินกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาทขึ้นไป แค่กฐินก็ 5 พันล้านบาทแล้ว อย่างคุณบุญชัย เบญจรงคกุล ทำบุญแต่ละครั้งก็ 50 ล้านบาทแล้ว และกว่า 70-80% ของเงินบริจาคนี้จะมอบให้เจ้าอาวาสด้วยความเสน่หา ซึ่งธุรกิจของธัมมชโยมีทั้งที่เปิดเผยและธุรกิจลับ
หากจะกล่าวว่าธรรมกายเป็นศูนย์กลางการค้าบุญระดับโลกนั้น อดีตศิษย์วัดพระธรรมกายรายนี้กล่าวว่า ตอนนี้ก็เป็นแล้ว ถือเป็นยักษ์ตัวใหญ่ ยิ่งช่วงที่รัฐบาลทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์จากพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศก็ดำเนินการหลายอย่างที่ประมาทคิดว่าไม่มีใครดำเนินการได้ ซึ่งต้องฝากความหวังไว้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ
แม่เจ้า!!เงินไม่พอ “กู้ทำบุญ” ได้
ขณะที่ช่วงปลายปี 2557 ทางวัดพระธรรมกายมีการเชิญชวนให้ร่วมบริจาคร่วมทำบุญในงานทอดกฐิน 161 วัด และศูนย์ฯ ของวัดพระธรรมกายทั้งในและต่างประเทศ ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม 2557 ถึงวันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน 2557
ด้วยความที่วัดพระธรรมกายมีศูนย์ปฏิบัติธรรมและวัดสาขาอยู่ทั่วทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากที่สาขาต่างๆ จะรับบริจาคเองแล้ว ในส่วนกลางอย่างวัดพระธรรมกายที่ถือว่าเป็นสำนักงานใหญ่จะมีการจัดกิจกรรมทำบุญต่างๆ หลายโครงการ ตลอดเวลา เพราะสาขาเหล่านี้จะอยู่ได้ต้องใช้เงินเข้าไปหล่อเลี้ยง
ดังนั้นแนวคำสอนของธรรมกายจึงเน้นไปที่เงินทำบุญ บริจาคมากได้บุญมาก เพื่อใช้เงินจากการบริจาคเหล่านี้ไปหล่อเลี้ยงวัดและศูนย์ปฏิบัติธรรมต่างๆ
ไม่เพียงแค่เรื่องการรับบริจาคหรือจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่ศรัทธาในวัดพระธรรมกายมาบริจาคตามโครงการต่างๆ เท่านั้น ยังมีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐีที่ตั้งในวัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นสหกรณ์ที่มีความเกี่ยวพันกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยมีอดีตผู้บริหารและผู้ก่อตั้งสหกรณ์ทั้ง 2 แห่ง เป็นคนเดียวกัน คือ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ซึ่งปัจจุบันถูกตั้งข้อกล่าวหายักยอกทรัพย์ ฉ้อโกงประชาชนในกรณีสหกรณ์ฯ คลองจั่นกว่า 10,000 ล้านบาท
วัตถุประสงค์ ปล่อยสินเชื่อเพื่อการกุศล จ่ายปันผลสำหรับหุ้นถึง 8% และจ่ายดอกเบี้ยออมทรัพย์พิเศษสำหรับเงินฝากถึง 3.5-5.25% และปล่อยกู้ให้กับผู้ที่ต้องการจะกู้เงินเพื่อทำบุญกับวัดพระธรรมกายโดยคิดดอกเบี้ย 12% ต่อปี
สูตรนักการเมืองโลกล้อมประเทศ
สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับวัดพระธรรมกาย ที่ส่งเรื่องให้มหาเถรสมาคมดำเนินการกับพระธัมมชโย โดยคณะกรรมการปฏิรูปฯ พระพุทธศาสนา ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นอกจากมีคณะสงฆ์จำนวนหนึ่งที่ออกมาคัดค้านแล้วยังมีเครือข่ายพระธรรมทูตไทย กลุ่มชาวพุทธในยุโรปและสหราชอาณาจักร ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีไทย สั่งยุบคณะกรรมการปฏิรูปฯ พระพุทธศาสนาของ สปช. และสั่งให้ยุติการข่มขู่คุกคามสถาบันพระศาสนา และมหาเถรสมาคมโดยทันที
นอกจากนี้ยังมีสถาบันพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย 2 แห่ง ประกอบด้วย Government Of Uttrakhand Minority Commission และ International Buddha Education Institute แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์พระพุทธศาสนาในประเทศไทย ผ่านทางพระธรรมทูตที่ปฏิบัติศาสนกิจในอินเดีย-เนปาล ถึงนายกรัฐมนตรีไทยและประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ
นับเป็นประโยชน์ของการมีเครือข่ายในต่างประเทศของวัดพระธรรมกาย นอกจากจะเป็นแขนขาในการรับบริจาคจากผู้คนทั่วโลกแล้ว เมื่อเกิดเหตุกับทางวัดต้นสังกัด วัดเหล่านี้ก็ใช้เครือข่ายในต่างประเทศเข้ามากดดันคณะทำงานที่จะปฏิรูปพระพุทธศานา
“วิธีการลักษณะนี้ไม่ต่างอะไรกับวิธีการที่นักการเมืองใช้กัน เอาโลกมาล้อมประเทศไทย ฟ้องต่อชาวโลกว่าถูกให้ร้าย ถูกดำเนินการที่ไม่เป็นธรรม ในรูปของการแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย” นักสังเกตการณ์รายหนึ่งกล่าว
นี่คืออันตรายที่ปล่อยให้นิกายนี้เติบโตจนครอบงำคนที่มีอำนาจทั้งในวงการพุทธศาสนาและวงการข้าราชการและนักการเมืองไทย ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะศรัทธาด้วยความจริงใจหรือศรัทธาเพราะผลประโยชน์ที่จะตามมา เพราะด้วยสาวกของวัดแห่งนี้ย่อมมีผลให้นักการเมืองและพรรคการเมืองแพ้หรือชนะต่อการเลือกตั้งได้เช่นกัน
ตลอดระยะเวลา 45 ปีของวัดพระธรรมกายที่เติบโตมาจนถึงวันนี้ พลังแห่งศรัทธา พลังบุญและพลังอำนาจจากสานุศิษย์ต่างๆ ที่มีพระเทพญาณมหามุนี หรือพระไชยบูลย์ ธัมมชโย เป็นเจ้าอาวาส ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นอาณาจักรอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ศาสนจักรที่มีอยู่ในปัจจุบัน และยังมีการผสานเป็นส่วนหนึ่งของภาคการเมืองไปในตัว
แม้ที่ผ่านมาจะมีข้อครหาต่างๆ หรือคดีความต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับวัดแห่งนี้ แต่ทุกอย่างจบลงได้ด้วยการไร้ความผิด มหาเถรสมาคมในฐานะผู้บังคับบัญชาของสงฆ์ล้วนแล้วแต่ลงความเห็นไปในทางเดียวกันคือให้คดีความของวัดพระธรรมกายพ้นผิด แม้ว่าหลักคำสอนของวัดแห่งนี้จะผิดเพี้ยนไปจากแก่นหลักของพระพุทธศาสนาอยู่มากก็ตาม
ด้วยแนวคิดซื้อบุญและการนำเอาหลักทางการตลาดยุคใหม่มาปรับใช้กับวัด ทำให้วัดแห่งนี้มีเงินมหาศาลที่จะขยายสาขาของวัดพระธรรมกายออกไปได้ทั่วประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การเติบโตของวัดธรรมกายตามที่พระทัตตะชิโว รองเจ้าอาวาสวัดธรรมกายได้กล่าวไว้
“พวกคาทอลิกเขามีวาติกัน มุลสิมก็มีเมกกะ เราชาวพุทธจึงจะต้องมีศูนย์กลางธรรมกายแห่งโลก”
ซึ่งตรงนั้นคือเป้าหมายที่วัดพระธรรมกายต้องการขยายตัวในระดับสากล!
ดังนั้นโครงการต่างๆ ก็เริ่มเป็นรูปธรรมตามมา โดยเฉพาะพื้นที่ของวัดพระธรรมกายที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ปัจจุบันมีเนื้อที่กว่า 2,500 ไร่ พร้อมทั้งยังมีการขยายวัดศูนย์สาขาและศูนย์ปฏิบัติธรรมไปทั่วประเทศกว่า 51 แห่ง และขยายไปต่างประเทศอีกกว่า 80 แห่ง ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย โอเชียเนีย ตะวันออกกลางและแอฟริกา
นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยธรรมกายแคลิฟอร์เนียที่สหรัฐ (DOU - Dhammakaya Open University) โดยเป็นมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เปิดสอนระบบทางไกล ด้วยภาษาไทย อังกฤษ และจีน ปัจจุบันมี 3 หลักสูตร คือ ประกาศนียบัตร หลักสูตร Pre-Degree และสัมฤทธิบัตร ปริญญาตรี หลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ.) เรียน 4 ปี และปริญญาโท หลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต (พธ.ม.) เรียน 2 ปี
นับเป็นความกว้างไกลของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ได้กระจายแนวคิดของวัดแห่งนี้ไปยังทุกพื้นที่ทั่วโลก
ขยายต่างประเทศ-เป้าหมายครองโลก
“ปัจจุบันทั้งวัดศูนย์สาขาและศูนย์ปฏิบัติธรรมทั้งในและต่างประเทศน่าจะเกิน 200 แห่งไปแล้ว” จากการประเมินของ ดร.นพ.มโน เลาหวนิช หรืออดีตพระเมตตานันโท อดีตกรรมการบริหารอาวุโสและมูลนิธิวัดพระธรรมกาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา
ทั้งนี้เป็นเพราะความต้องการของธัมมชโยที่อยากครองโลกโดยใช้วิชาธรรมกาย อดีตศิษย์ธรรมกายรายนี้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทั้งหมดสอดคล้องคำพูดของธัมมชโยที่เขาจำได้ดีว่า อาตมาไม่ต้องการเป็นสังฆราช แต่ต้องการแค่ครองโลก ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้เป็นแนวคิดของฮิตเลอร์ที่เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายยึดถือเป็นแบบอย่าง
ธัมมชโยให้ความสนใจเรื่องของกลยุทธ์ (strategy) มาก เห็นได้จากกลไกของวัดพระธรรมกายจะมีการดึงกลุ่มคนให้เข้ามาศรัทธาตั้งแต่ระดับนักเรียน นักศึกษามหาวิทยาลัย นักธุรกิจ ข้าราชการและคนชนชั้นสูง
พระที่คุมต้อง “ธัมมชโย” ไว้ใจ
การขยายสาขาของวัดพระธรรมกายไปทั่วประเทศและหลายประเทศทั่วโลกนั้น วิธีการจะเป็นอย่างไรท่านไม่สนใจ ท่านสนใจแต่ผลลัพธ์เท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติแล้วคนที่จะไปเป็นเจ้าอาวาสหรือหัวหน้าศูนย์ในพื้นที่ต่างๆ ได้นั้นจะต้องเป็นพระที่ธัมมชโยไว้วางใจ
พระของวัดพระธรรมกายที่จะได้ไปดูแลตามศูนย์ต่างๆ มีทั้งพระที่เคยได้รับการสนับสนุนทางด้านทุนการศึกษาจากธัมมชโย และที่ไม่ได้รับทุน แต่จะต้องเป็นพระที่ศรัทธาในตัวธัมมชโย ซึ่งทุนที่สนับสนุนพระในวัดพระธรรมกายมีทั้งทุนจากวัดพระธรรมกายเองและทุนจากที่อื่นตามประเทศต่างๆ ที่เสนอมา
ในส่วนนี้ทางวัดพระธรรมกายจะมีการจัดตั้งเป็นแผนกขึ้นมา มีบุคลากรที่ดูแลเรื่องเงินทุน การให้การสนับสนุนต่างๆ มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบและการตลาดที่ล้ำยุค
โมเดลของการขยายสาขาไปในต่างประเทศนั้นจะยึดต้นแบบจากประเทศไทยเป็นหลัก โดยเริ่มที่ชุมชนคนไทยในต่างประเทศเป็นจุดเริ่มต้น แรกๆ อาจจะยังไม่ถึงขนาดเป็นวัด เป็นเพียงศูนย์ปฏิบัติธรรมหรืออื่นๆ เพื่อดึงให้คนไทยในประเทศเหล่านั้นเข้ามาก่อน เมื่อมีศักยภาพพอก็จะยกระดับเป็นวัด
ทั้งนี้คนไทยในต่างประเทศส่วนหนึ่งคือคนที่แต่งงานกับชาวต่างชาติ ก็จะทำให้คนต่างชาติจำนวนหนึ่งเริ่มหันมาสนใจในพระพุทธศาสนามากขึ้น ขณะเดียวกันการมีศูนย์ตามประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ในด้านบวกให้กับวัดพระธรรมกาย
“หากจะมองว่าการกระจายสาขาไปยังทั่วโลก เป็นการดูดทรัพย์จากคนทั่วโลกก็ได้ เพราะทุกที่จะมีการรับบริจาค และทุกอย่างจะรวมศูนย์กลับมาที่ธัมมชโยที่วางระบบเอาไว้ที่ยอดพีระมิดขององค์กรนี้”
อย่างไรก็ตาม สาขาตามประเทศต่างๆ ก็ใช่ว่าจะดำเนินการไปได้ด้วยดี อย่างเช่นในประเทศอินโดนีเซีย ที่ศูนย์ของธรรมกายกลายเป็นเป้าหมายหลักของการมุ่งก่อเหตุโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย เนื่องจากมองกันว่าศูนย์แห่งนี้จะเป็นการเข้าไปเปลี่ยนให้คนศาสนาอิสลามหันมานับถือศาสนาพุทธ ซึ่งรัฐบาลของอินโดนีเซียก็ห่วงศูนย์แห่งนี้ อย่างที่ฟิลิปปินส์ธรรมกายก็ต้องหันไปร่วมกิจกรรมกับกลุ่มคาทอลิก
บุญปีละหมื่นล้าน
ดร.มโน ประเมินว่า คนที่ศรัทธาในธรรมกายน่าจะมีประมาณ 9 ล้านคน แต่มีแกนหลักจริงๆ ประมาณ 6 แสนคน ดังนั้นในแต่ละปีนั้นมีผู้ที่ศรัทธาในวัดพระธรรมกายทำบุญให้กับวัดแห่งนี้ เกินกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาทขึ้นไป แค่กฐินก็ 5 พันล้านบาทแล้ว อย่างคุณบุญชัย เบญจรงคกุล ทำบุญแต่ละครั้งก็ 50 ล้านบาทแล้ว และกว่า 70-80% ของเงินบริจาคนี้จะมอบให้เจ้าอาวาสด้วยความเสน่หา ซึ่งธุรกิจของธัมมชโยมีทั้งที่เปิดเผยและธุรกิจลับ
หากจะกล่าวว่าธรรมกายเป็นศูนย์กลางการค้าบุญระดับโลกนั้น อดีตศิษย์วัดพระธรรมกายรายนี้กล่าวว่า ตอนนี้ก็เป็นแล้ว ถือเป็นยักษ์ตัวใหญ่ ยิ่งช่วงที่รัฐบาลทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์จากพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศก็ดำเนินการหลายอย่างที่ประมาทคิดว่าไม่มีใครดำเนินการได้ ซึ่งต้องฝากความหวังไว้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ
แม่เจ้า!!เงินไม่พอ “กู้ทำบุญ” ได้
ขณะที่ช่วงปลายปี 2557 ทางวัดพระธรรมกายมีการเชิญชวนให้ร่วมบริจาคร่วมทำบุญในงานทอดกฐิน 161 วัด และศูนย์ฯ ของวัดพระธรรมกายทั้งในและต่างประเทศ ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม 2557 ถึงวันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน 2557
ด้วยความที่วัดพระธรรมกายมีศูนย์ปฏิบัติธรรมและวัดสาขาอยู่ทั่วทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากที่สาขาต่างๆ จะรับบริจาคเองแล้ว ในส่วนกลางอย่างวัดพระธรรมกายที่ถือว่าเป็นสำนักงานใหญ่จะมีการจัดกิจกรรมทำบุญต่างๆ หลายโครงการ ตลอดเวลา เพราะสาขาเหล่านี้จะอยู่ได้ต้องใช้เงินเข้าไปหล่อเลี้ยง
ดังนั้นแนวคำสอนของธรรมกายจึงเน้นไปที่เงินทำบุญ บริจาคมากได้บุญมาก เพื่อใช้เงินจากการบริจาคเหล่านี้ไปหล่อเลี้ยงวัดและศูนย์ปฏิบัติธรรมต่างๆ
ไม่เพียงแค่เรื่องการรับบริจาคหรือจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่ศรัทธาในวัดพระธรรมกายมาบริจาคตามโครงการต่างๆ เท่านั้น ยังมีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐีที่ตั้งในวัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นสหกรณ์ที่มีความเกี่ยวพันกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยมีอดีตผู้บริหารและผู้ก่อตั้งสหกรณ์ทั้ง 2 แห่ง เป็นคนเดียวกัน คือ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ซึ่งปัจจุบันถูกตั้งข้อกล่าวหายักยอกทรัพย์ ฉ้อโกงประชาชนในกรณีสหกรณ์ฯ คลองจั่นกว่า 10,000 ล้านบาท
วัตถุประสงค์ ปล่อยสินเชื่อเพื่อการกุศล จ่ายปันผลสำหรับหุ้นถึง 8% และจ่ายดอกเบี้ยออมทรัพย์พิเศษสำหรับเงินฝากถึง 3.5-5.25% และปล่อยกู้ให้กับผู้ที่ต้องการจะกู้เงินเพื่อทำบุญกับวัดพระธรรมกายโดยคิดดอกเบี้ย 12% ต่อปี
สูตรนักการเมืองโลกล้อมประเทศ
สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับวัดพระธรรมกาย ที่ส่งเรื่องให้มหาเถรสมาคมดำเนินการกับพระธัมมชโย โดยคณะกรรมการปฏิรูปฯ พระพุทธศาสนา ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นอกจากมีคณะสงฆ์จำนวนหนึ่งที่ออกมาคัดค้านแล้วยังมีเครือข่ายพระธรรมทูตไทย กลุ่มชาวพุทธในยุโรปและสหราชอาณาจักร ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีไทย สั่งยุบคณะกรรมการปฏิรูปฯ พระพุทธศาสนาของ สปช. และสั่งให้ยุติการข่มขู่คุกคามสถาบันพระศาสนา และมหาเถรสมาคมโดยทันที
นอกจากนี้ยังมีสถาบันพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย 2 แห่ง ประกอบด้วย Government Of Uttrakhand Minority Commission และ International Buddha Education Institute แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์พระพุทธศาสนาในประเทศไทย ผ่านทางพระธรรมทูตที่ปฏิบัติศาสนกิจในอินเดีย-เนปาล ถึงนายกรัฐมนตรีไทยและประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ
นับเป็นประโยชน์ของการมีเครือข่ายในต่างประเทศของวัดพระธรรมกาย นอกจากจะเป็นแขนขาในการรับบริจาคจากผู้คนทั่วโลกแล้ว เมื่อเกิดเหตุกับทางวัดต้นสังกัด วัดเหล่านี้ก็ใช้เครือข่ายในต่างประเทศเข้ามากดดันคณะทำงานที่จะปฏิรูปพระพุทธศานา
“วิธีการลักษณะนี้ไม่ต่างอะไรกับวิธีการที่นักการเมืองใช้กัน เอาโลกมาล้อมประเทศไทย ฟ้องต่อชาวโลกว่าถูกให้ร้าย ถูกดำเนินการที่ไม่เป็นธรรม ในรูปของการแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย” นักสังเกตการณ์รายหนึ่งกล่าว
นี่คืออันตรายที่ปล่อยให้นิกายนี้เติบโตจนครอบงำคนที่มีอำนาจทั้งในวงการพุทธศาสนาและวงการข้าราชการและนักการเมืองไทย ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะศรัทธาด้วยความจริงใจหรือศรัทธาเพราะผลประโยชน์ที่จะตามมา เพราะด้วยสาวกของวัดแห่งนี้ย่อมมีผลให้นักการเมืองและพรรคการเมืองแพ้หรือชนะต่อการเลือกตั้งได้เช่นกัน