คนจำนวนไม่น้อยที่มองการดูดวงเป็นเรื่องของความงมงายหรือเป็นเรื่องของคนที่ขาดความเชื่อมั่น แต่ในความเป็นจริงแล้วดวงชะตาชีวิตของคน ของประเทศ ล้วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของดวงดาวสำคัญในทางโหราศาสตร์ทั้ง 3 ดวง ได้แก่ ดาวพฤหัส ดาวพระราหู และดาวเสาร์ ดังนั้นการเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง หรือการทำนายทายทักของนักโหราศาสตร์ จึงเปรียบเสมือนเข็มทิศบอกทางให้กับเราได้เลือกเดินในเส้นทางที่มีอุปสรรคและขวากหนามน้อยที่สุด เจ็บตัวน้อยสุด ส่วนใครที่ดีแล้วก็ยิ่งมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นไป
ดังนั้นการทำนายทายทักของหมอดู จึงเป็นสิ่งสำคัญ ดั่งที่ “หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา” บอกไว้ว่า โหราศาสตร์จะบอกจุดจบ บอกช่วงเวลา และให้ความหวังกับทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับดวงชะตานั้นๆ
และโหราศาสตร์อีกนั่นแหละที่พยายามจะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต หากเรารู้ว่าปัญหาอยู่ที่ตรงไหน ทางแก้เป็นอย่างไร ก็ย่อมทำให้ “ผลกรรมที่เคยทำไว้อาจมาไม่ถึงเราในวันนี้ย่อมเป็นไปได้”
ปี 2559 เจอวิฤตครั้งใหญ่
“หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา” บอกกับทีม Special scoop เกี่ยวกับดวงเมืองที่จะมีผลต่อการเมืองและเศรษฐกิจในบ้านเรา ว่าดาวเสาร์กำลังจะเคลื่อนตัวออกจากดวงเมืองในช่วงปลายปีนี้ และช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่หนักและเหนื่อย จะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นตลอด ซึ่งถือว่ายังไม่พ้นเคราะห์ ที่สำคัญในช่วง 26 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ จะเป็นช่วงที่รุนแรง อาจมีเหตุการณ์สำคัญในบ้านเมือง เพราะเป็นช่วงที่ดาวเสาร์จะเปลี่ยนราศี
“จะเริ่มส่งสัญญาณตั้งแต่ตุลาฯ แต่ดาวเสาร์จะถีบออกจากดวงเมืองจะเป็นช่วง 26 พฤศจิกายน จะต้องระวังภัยธรรมชาติให้มาก เพราะดาวเสาร์เป็นดาวที่อยู่ในธาตุดิน เวลาขยับราศีที แผ่นดินจะสะเทือนให้ระวังอย่าประมาท อาจเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรง เสียหาย อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้”
ขณะที่ปี 2558 จะเป็นปีที่มีการลงตัวของดวงเมืองซึ่งจะทำให้ปี 2558 เป็นปีที่มีทุกอย่าง มีความสบายๆ แต่พอเข้าปี 2559 ก็จะเกิดปัญหาหนักมากอีกครั้งหนึ่ง
โดยในปี 2559 จะเป็นปีที่ดวงดาวหลายดวงจะมีการเปลี่ยนย้ายราศีเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะดาวพระราหู ดาวมฤตยู และยังมีดาวอื่นๆ อีก ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และทำให้ดวงเมืองเกิดความพลิกผันเนื่องเพราะจะมีการจัดระบบระเบียบใหม่ของดวงเมืองในช่วงนั้นเช่นกัน
“อยากแนะนำทุกคนว่า ในปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่ดวงดาวนิ่ง ต้องรีบทำมาหากินเก็บเงินเก็บทองให้มากที่สุด เพราะเมื่อเข้าปี 59 การเมือง และเศรษฐกิจอาจมีปัญหาจากวิกฤตของดวงเมือง”
ไหว้พระเสริมดวงเรื่องคู่
ส่วนในเรื่องของความรักและคนที่อยากมีคู่นั้น การไปไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นการเสริมกำลังใจ แต่จุดสำคัญที่สุดของคนที่จะมีคู่นั้น จะอยู่ที่พื้นของดวง เพราะถ้าดวงไม่ให้หรือเป็นช่วงที่ไม่เหมาะหากไปขอพร บางทีได้คู่มาก็จะเป็นคู่ที่ไม่ค่อยดี หรือบางทีอยู่ได้ไม่นาน ดังนั้นคนที่คิดจะไปขอพรเรื่องคู่ครองจึงต้องดูพื้นของดวงตัวเองในเวลานั้น เป็นช่วงที่เหมาะจะมีหรือไม่
“จริงๆ ทุกคนมีดวงที่จะมีคู่และเนื้อคู่ จะเจอได้ทุกวัน แต่ขึ้นอยู่กับจังหวะ ถ้ามีช่วงเวลาที่ผิดจังหวะ ก็จะกลายเป็นคู่กรรมมากกว่า เพราะอยู่ไปแล้วจะมีปัญหา ทะเลาะเบาะแว้ง ถูกทำร้ายร่างกาย แต่ถ้าดวงชะตาเราพร้อม ฟ้าเปิด ก็จะกลายเป็นคู่แท้ เป็นคู่เสริมบารมี ชีวิตก็จะเจริญก้าวหน้า เป็นผลดีในระยะยาวมากกว่า แต่บางคนดวงเป็นพระ เป็นแม่ชี อาจมีคู่ยาก เพราะชีวิตเกิดมาเพื่อการให้ เพื่อสังคมก็เป็นได้”
ดังนั้นการที่คนเชื่อในโหราศาสตร์ด้วยการไปดูดวงนั้น ก็จะช่วยในการคัดกรองว่าดวงในช่วงนี้เป็นอย่างไร จะมีปัญหา อุปสรรค อะไรในชีวิตคู่บ้าง และจะรู้ว่าตามดวงนั้นปัญหาและอุปสรรคจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ เพื่อให้คนทั้งคู่ได้เข้าใจและปรับตัวกันทั้ง 2 ฝ่าย หากต้องการจะใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน
“การดูดวงจะเป็นตัวช่วยบอกว่า ความเข้ากันได้ จุดดี จุดด้อย แต่ละฝ่ายมีอะไร เพื่อเอาไปเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ และข้อมูลในการปรับตัวเข้าหากันในอนาคต”
หมอช้างบอกว่า การที่จะไปดูดวงเรื่องคู่ครองนั้น อยากให้ไปพร้อมกันทั้ง 2 คน เพราะดวงจะบอกได้ว่าชะตาชีวิตของคนนั้นจะเป็นอย่างไรและเราพร้อมหรือไม่ที่จะปรับตัว ตัวอย่างเช่น ผู้ชายมีดวงที่จะต้องเดินทางต่างถิ่นตลอดเวลา และดวงเป็นคนจู้จี้ขี้บ่น
ขณะที่ผู้หญิงบอกว่าถ้าแต่งงานกันแล้ว ผู้ชายต้องกลับบ้านทุกวันเพราะอยู่คนเดียวไม่ได้ ดังนั้นเงื่อนไขของดวงที่เกิดขึ้นไม่ตรงกันแล้ว ถ้าหากต้องการจะอยู่ด้วยกันก็ต้องปรับตัวเข้าหากันจึงจะทำให้ชีวิตคู่ราบรื่นได้ หรือบางคนดวงของฝ่ายชายมีพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก การงานและการเงินจะไม่ราบรื่น โหราศาสตร์ก็จะบอกได้ว่า ปัญหาต่างๆ จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ และฝ่ายหญิงจะอดทนรอได้หรือไม่
“บางทีเรารู้ว่าดวงเป็นเช่นนี้ เราก็สามารถใช้พลังแห่งความรักเข้าแก้ไข ซึ่งพลังแห่งความรักสามารถมีพลังเหนือดวงก็ได้”
คนที่มีดวงพร้อมที่จะมีคู่ครอง แต่ยังมีอุปสรรคแคล้วคลาด มีคนขัดขวางมากมาย การไปไหว้พระขอพร หรือการไปเสริมดวงในเรื่องความรักจะมีด้วยกันหลายวิธี
เช่นการไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีสถานที่ 4 แห่งที่คนนิยมขอพร ได้แก่ “พระตรีมูรติ” อยู่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชประสงค์ ที่บรรดาคู่รักและยังไม่มีคู่นิยมไปขอพรในคืนวันพฤหัสฯ ด้วยมีความเชื่อว่า พระตรีมูรติเป็นเทพประทานพรด้านความรัก ที่จะทำให้คู่รักสมหวัง ดังนั้นจึงมีผู้ที่ต้องการสมหวังในความรักต่างพากันไปขอพรพระตรีมูรติ ด้วยการนำดอกกุหลาบสีแดง 9 ดอก ธูปแดง 9 ดอก ไปบูชาองค์ท่าน
ส่วนสถานที่ใกล้กันที่นิยมอีกแห่งคือ “พระแม่ลักษมี” ที่ห้างสรรพสินค้าเกษรพลาซ่า ชั้น 4 พระแม่ลักษมี เป็นองค์เทพของฮินดูด้านความรักและความร่ำรวย ที่คนนิยมไปขอพรองค์ท่านด้วยการบูชาดอกบัวสีชมพู และธูป เทียน
ขณะเดียวกันที่ศาลย่านาค “วัดมหาบุศย์” ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มีตำนานความรักถ่ายทอดมายังรุ่นสู่รุ่น ทั้งในรูปของการบอกกล่าว บทละคร และหนังใหญ่ ถึงความรักที่หญิงสาวนามว่า “นาค” มีต่อชาวหนุ่มนามว่า “มาก” ผู้คนที่ศรัทธาและเชื่อมั่นในความรักจึงมักจะนิยมมาขอพรซึ่งมักสมหวัง แต่ศาลแห่งนี้มีความสำคัญ ตรงที่คู่รักจะต้องมีความซื่อสัตย์ต่อกัน ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาเกิดขึ้น
ส่วนการบูชา จะใช้ธูป 2 ดอก พร้อมดอกไม้หรือพวงมาลัย และบางคนก็จะมีของถวายเช่นชุดแม่นาค หรือของเด็กเล็กที่ต้องการให้กับลูกของแม่นาค
อีกแห่งหนึ่งที่นิยมกันมาก “พระแม่อุมาเทวีที่วัดแขก” ถนนสีลม ซึ่งเป็นที่นิยมไปขอพรด้วยความศรัทธา และมั่นคงต่อความรักที่พระแม่อุมาเทวีมีต่อพระศิวะ ดังนั้นถ้าใครอยากสมหวังและมีความรักที่มั่นคงก็สามารถไปที่แห่งนี้ได้เช่นกัน
นอกจากนี้หมอช้างยังแนะเคล็ดลับให้สมหวังในเรื่องความรักด้วยการไปทำบุญถวายพระด้วยสิ่งของที่จัดกันเป็นคู่ อย่างรองเท้าแตะ แจกัน และเชิงเทียน ซึ่งสามารถทำได้ในทุกๆ วัด
“ส่วนคนที่มีคู่อยู่แล้ว การทำบุญจะช่วยทำให้จิตใจสงบ ใจเย็นมากขึ้น และควรตั้งใจมีสมาธิในการทำบุญอธิษฐานเรื่องความรักหรือขจัดสิ่งที่มาบังตาออกไป อย่างน้อยการมาทำบุญร่วมกัน ก็แสดงให้เห็นว่า ยอมลดทิฐิ ลดความเป็นตัวตนมาทำบุญร่วมกัน เป็นเหมือนกุศโลบายอย่างหนึ่ง ที่สำคัญที่สุดคือ คู่รักต้องจับมือกัน และกรวดน้ำด้วยขันเดียวกัน”
ใช้ฮวงจุ้ยลดอุปสรรค-รักมั่นคง
หมอช้างบอกว่า ในเรื่องของความรัก นอกจากขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังมีเรื่องของฮวงจุ้ยเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งถ้าเรามีความเชื่อและศรัทธาก็จะทำให้ชีวิตคู่ราบรื่น โดยในทางศาสตร์ฮวงจุ้ย มีข้อควรระวัง คือ ปัจจุบันคนนิยมสร้างห้องน้ำไว้ในห้องนอน ดังนั้นคนที่มีห้องน้ำในห้องนอน และตั้งอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะทำให้ความรักมีปัญหา ในเชิงฮวงจุ้ยต้องกลับไปสำรวจห้องนอนที่อยู่ทิศนี้ และ
หลักสำคัญคือ เรื่องเป็นระเบียบ ความสะอาด ต้องจัดให้สะอาดสวยงาม อย่างน้อยเพื่อช่วยลดความรุนแรงของดวงดาว
โรสควอตซ์ (หินสีชมพู) นำมาตั้งไว้ทางมุมตะวันตกเฉียงใต้ของห้องนอน พลังนี้จะช่วยเสริมโอกาสความรักพลังใหม่ให้เข้ามา กรณีคนแต่งงานแล้ว และเป็นคนจีนด้วยนั้น นิยมนำสิ่งของที่เป็นคู่ๆ อย่างมังกร หงส์คู่ เป็ดคู่ เป็นสัญลักษณ์ที่มีมงคลในเรื่องความรักนำมาตั้งไว้ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อทำให้เกิดความรักที่มั่นคงยิ่งขึ้น
เคล็ดลับเสริมโชค-คนอยากรวย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าใครๆ ก็อยากรวย ในมุมของโหราศาสตร์นั้น “หมอช้าง” แนะนำคนที่อยากรวยว่า “ความรวย” กับ “ความสุข” ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน เพราะความมั่งคั่งทำให้เกิดความสะดวกสบาย แต่ไม่ได้ทำให้เกิดความสุขที่แท้จริง ที่สำคัญความรวยไม่มีมาตรฐาน จะสร้างปัญหาให้กับสังคมตามมาหากไม่รู้จักคำว่าพอ
อย่างไรก็ตาม ในหลักของโหราศาสตร์ คือ การทำ “ฮวงจุ้ยไม่ให้เงินทองติดขัด” มีกินมีใช้ ไม่มีปัญหาเรื่องของรายจ่าย โดยต้องให้ความสำคัญกับการจัดฮวงจุ้ยที่สมดุลในบริเวณหน้าบ้าน ห้องครัว โต๊ะกินข้าว และตู้เซฟ
หลักการแรก เริ่มจากพื้นที่หน้าบ้าน (จากรั้วมาถึงหน้าประตูบ้าน) ซึ่งถือกันว่า เป็นทางเข้าของโชค “ประตูหน้าบ้าน” ต้องไม่สกปรกและไม่มีสิ่งของมาวางกองไว้ เพราะจะเป็นการบังโชคที่เข้ามาสู่ตัวบ้าน แม้จะไม่มีสิ่งของวางกองอยู่หน้าบ้าน แต่หากมีของใช้ตั้งอยู่ในลักษณะเสื่อมสภาพ แตกหัก ก็ถือว่าไม่ดีต่อฮวงจุ้ย พื้นหน้าบ้านต้องไม่ทรุดหรือมีรอยแตกร้าว เพราะจะส่งผลให้โชคลาภที่เข้าสู่ตัวบ้านลดลงเช่นกัน
สำหรับปัญหาของโชคลาภที่เข้ามาแล้วออกไปเร็ว ลักษณะนี้จะเกิดกับบ้านที่มีประตูตรงกัน เปิดประตูหน้าเข้าบ้านแล้วเจอประตูหลังเลย ทำให้เงินที่เข้าบ้านไหลออกไปหมด ต้องแก้ด้วยวิธีการตกแต่งในบ้าน เช่น การวางตู้โชว์ การทำฉากมากั้นไว้ เพื่อให้พลังโชคลาภหล่อเลี้ยงอยู่ในบ้านได้นานยิ่งขึ้น
ขณะที่เคล็ดลับความรวยอีกประการ คือ ฮวงจุ้ยบอกว่า “สิ่งที่ทำให้มีเงิน” มีกินมีใช้ คือ ต้องทำครัว แต่ไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบัน มักไม่ทำครัวที่บ้าน หรือมีไว้เพื่อโชว์เท่านั้น ฮวงจุ้ยที่ดีครัวต้องมีเตา ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งเตาถ่าน เตาแก๊ส หรือเตาไฟฟ้า และต้องติดไฟ ไม่ว่าจะเพื่อทำกับข้าวหรืออุ่นอาหารก็ได้ เพื่อให้เกิดพลังธาตุไฟ โดยพลังแห่งความร้อนจะส่งผลต่อโชคให้มีกินมีใช้ รวมทั้งครัวต้องสะอาด เพราะตามความเชื่อ ครัวจะมีเทพเจ้าคอยดูแล
พื้นที่ต่อมา คือ การจัดโต๊ะกินข้าว หรือที่นั่งกินข้าว ต้องแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน พฤติกรรมของคนไทยปัจจุบันมักนั่งรับประทานอาหารหน้าทีวี หากต้องการมีกินมีใช้ดีๆ ต้องจัดพื้นที่เป็นที่เป็นทางเข้าสู่หลักพื้นฐาน “หลักฮวงจุ้ยเป็นหลักการที่มีแนวคิดตามหลักธรรมชาติ ซึ่งเราเองทำแบบนี้มาก่อนในอดีต แต่มองข้ามไปเมื่อเวลาเปลี่ยนไป จึงอยากให้กลับไปมองถึงวิถีชีวิตแบบเดิมบ้าง”
จุดสำคัญอีกอย่างคือตู้เซฟ บางคนแม้จะมีทรัพย์สินที่หามาได้มาก แต่มีการใช้จ่ายออกไปมากเช่นกัน ลักษณะนี้เกี่ยวข้องกับพื้นที่ที่เก็บเงิน ซึ่งต้องคำนึงถึงความสำคัญ และให้ถูกฮวงจุ้ย ข้อห้ามคือไม่ให้เปิดประตู หรือเดินเข้าห้องแล้วเจอประตูเซฟ จะทำให้เกิดปัญหาเงินทองไม่นิ่ง โดยหลักการที่ดี คือ ต้องอยู่ในแนวทแยงมุมกับประตูทางเข้าห้อง ซึ่งได้ทั้งมุมซ้ายหรือขวา ถือว่าเป็นจุดเก็บทรัพย์ที่ปลอดภัย ข้อควรระวัง คือ ผนังที่นำตู้เซฟไปเก็บเงิน ห้ามเป็นผนังเดียวกับห้องน้ำ เพราะตามศาสตร์ฮวงจุ้ยแล้วจะทำให้การเงินมีปัญหา
บูชาสิ่งของเสริมโชคเรื่องเงิน
ตามตำรากล่าวว่า “ถ้าอยากมีเงินมีทอง เราต้องเห็นเงินทองทุกวัน” คนจีนจึงนิยมประดับบ้านเรือนด้วยเงินตำลึงแบบจีน ดีไซน์เป็นรูปเรือสำเภา สัญลักษณ์ของธุรกิจการค้า หรือลักษณะของเงินโบราณที่เป็นเหรียญและมีรูสี่เหลี่ยมตรงกลาง ถือเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นมงคล ฟ้าคือวงกลม ส่วนสี่เหลี่ยมเปรียบเป็นดิน โดยนิยมนำมาประดับตกแต่งในบริเวณที่เก็บเงิน และจำนวนมักจะเป็นเลขมงคล เช่น 8 เหรียญหรือ 9 เหรียญให้เหมาะสมกับพื้นที่
ขณะเดียวกันยังมีวัตถุมงคลที่คนจีนนิยม เพื่อเสริมโชคในด้านการเงินโดยตรง คือ ปี่เซี๊ยะตามความเชื่อ ที่ว่าเป็นสิ่งที่กินอย่างเดียวไม่ถ่ายเพราะไม่มีทวาร วิธีการวางปี่เซี๊ยะ เนื่องจากเป็นรูปมังกรธาตุน้ำ ดังนั้นเวลาตั้งต้องมีน้ำแก้วเล็กวางอยู่ข้างหน้า และหันหน้าให้ตรงกับประตู
อย่างไรก็ดี ตามหลักการของฮวงจุ้ยมีความหลากหลาย ทั้งในเรื่องวัตถุมงคล การดูแลเอาใจใส่ การจัดการพลังงานในบ้านให้เกิดสมดุล ซึ่งมีหลายองค์ประกอบเข้ามาเกี่ยวข้อง หากจะแก้ไขจึงควรเริ่มจากจุดแรก
“คนที่จะรวยได้ มีโชคได้ต้องเริ่มจากใจที่เป็นสุขก่อน คนที่ซื้อหวยแล้วเก็งเลขเด็ดไม่เคยถูกหวย เพราะใจเครียด แต่คนที่ไม่หวังซื้อแบบส่งๆ พวกนี้มักจะถูก”
“ฮวงจุ้ย คือของที่เป็นพลังเหมือนกัน และมีพลังที่เหมือนกันเข้ามา เช่นเดียวกับบ้านที่มีฮวงจุ้ยดี คนอยู่อาศัยมีความสุขจะดึงสิ่งดีๆ เข้ามา ในทางกลับกันคนที่จิตใจมีความเครียดอิจฉาริษยานั้น จะดึงสิ่งที่ไม่ดีเข้ามาสู่ตัวบ้านด้วยเช่นกัน”
เลขที่บ้านทุกหลังมีความหมาย
หมอช้างบอกอีกว่า เลขที่บ้านทุกหลังที่เราอยู่มีความหมายตามศาสตร์ฮวงจุ้ย อีกทั้งเลขที่บ้านเป็นสิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้เพราะราชการเป็นผู้กำหนดขึ้นมา แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงให้คนอยู่มีความสุขและดีได้ ดังนั้นเพื่อจัดบ้านให้มีฮวงจุ้ยส่งเสริมกับเลขที่บ้านจึงต้องทำความเข้าใจกับเลขบ้านเพื่อปรับให้มีความสมดุล โดยหลักการให้นำเลขทั้งหมดของเลขที่บ้านมารวมกัน ให้มีผลรวมเป็นเลขตัวเดียว เช่นบ้านเลขที่ 375 บวกกันได้ 15 แล้วบวกกันอีกได้ 6 ซึ่งในแต่ละเลขจะมีความหมายไล่ตั้งแต่เลข 1 จนถึงเลข 9
เลข 1 ถือว่า เป็นเลขแห่งผู้นำ เป็นบ้านแห่งผู้นำ นักเดินทาง คนที่ต้องพบปะทางสังคม ดังนั้นการจัดบ้านของบ้านเลขที่มีผลรวมเท่ากับ 1 นั้น เป็นเลขของธาตุไฟ แสงสว่างคือ สิ่งที่จำเป็นในบ้านคืออย่าปล่อยให้บ้านมืดโดยเฉพาะในบริเวณรั้ว หรือประตูเข้าบ้าน และบ้านที่มีสวนควรจัดบริเวณสวนให้มีเนิน เพราะความเป็นผู้นำ หมายถึง ความโดดเด่นและความสุข
บ้านเลขที่รวมกันได้เลข 2 เป็นเลขของธาตุน้ำ ดังนั้นต้องมีจุดที่รวมตำแหน่งของน้ำ เช่นน้ำพุ น้ำตก อะไรก็ตามที่เป็นน้ำเคลื่อนไหว และต้องดูดีและสะอาด เพื่อเป็นการเสริมฮวงจุ้ยให้กับบ้าน
บ้านเลขที่รวมกันได้ 3 เป็นบ้านที่ค่อนข้างแรง ส่วนใหญ่อยู่ตรงหัวมุมทางแพร่ง บางอาชีพที่ต้องเดินทางบ่อย ติดต่อสื่อสารกับคนจำนวนมาก ฝ่ายบุคคล หมอ ตำรวจ การจัดบ้านต้อง “ปลูกต้นไม้บริเวณริมรั้ว” เพื่อป้องกันความแรงของพลังจากภายนอก ไม่ให้มารบกวนในบ้าน
บ้านเลขที่ 4 เกี่ยวข้องกับต้นไม้โดยตรง เป็นเลขที่ดีมาก เพราะเป็นเลขแห่งการสื่อสาร อาชีพที่เกี่ยวข้องกับงานขาย การพูด การติดต่อเจราจา สื่อสารมวลชน จะดีมากขึ้นไปอีก หากพยายาม “ปลูกพืชไม้ดอก ไม้กระถาง” หลากสี ประดับตกแต่ง ทำให้บ้านมีสีสัน เพื่อเสริมฮวงจุ้ยไม่ให้มีเพียงสีเขียวอย่างเดียว
บ้านเลขที่ 5 เป็นบ้านที่บ่งบอกถึงความมั่นคง เกี่ยวข้องกับศีลธรรม คุณธรรมโดยตรง เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ มีวิชาความรู้ เป็นครูบาอาจารย์ เหมาะกับบ้านที่มีตำรับตำรา ความรู้ หนังสือจำนวนมาก และควรมีพื้นที่สำหรับสวดมนต์ไหว้พระ
บ้านเลขที่ 6 เป็นธาตุลมซึ่งเกี่ยวข้องกับเสียง ควรเป็นบ้านที่มีความสวยงาม มีของกระจุกกระจิก ของสะสมน่ารักๆ การเสริมฮวงจุ้ยต้องใช้โมบาย มีเสียงกระดิ่งดัง
บ้านเลขที่ 7 เกี่ยวกับธุรกิจ มีลักษณะเป็นบ้านและออฟฟิศอยู่ในหลังเดียวกัน ทำกิจการค้าด้วย จะเป็นบ้านที่มีของเยอะ จึงไม่ต้องหาอะไรมาเสริม แต่ในทางตรงกันข้ามนั้น ให้นำของเก่าของโบราณและสิ่งของที่ไม่ใช้ ไม่จำเป็นออกจากบ้านไป โดยการบริจาคจะเป็นสิ่งที่ช่วยได้ เพราะยิ่งให้ ก็ยิ่งได้รับกลับคืนมา
บ้านเลขที่ 8 เป็นบ้านที่มีอิทธิพลของดวงดาวพระราหูเข้ามา ทำให้บ้านเหมือนมีเงามืดอยู่เสมอ หรือคนในบ้านอาจจะเดินทางบ่อย ตามหลักต้องไม่ทำให้เกิดเงามืด หรือมีซอกมุมในบ้านมากเกินไป หลีกเลี่ยงการต่อเติมเพิ่มห้องในบ้าน อย่าทำให้มีเงามีมุมอับ แต่ต้องมีแสงสว่างในบ้านที่มากพอสมควร ซึ่งผลไม่ดีในกรณีนี้จะทำให้เกิดการทะเลาะกัน ด้านมืดๆ จะเป็นด้านลบของพระราหูที่ออกมา คือ คดีความหรือโรคเจ็บป่วย
เลขสุดท้ายคือเลข 9 เป็นเลขที่บ่งบอกถึงความศักดิ์สิทธิ์ เป็นบ้านที่ต้องหมั่นสวดมนต์ไหว้พระ เจ้าที่เจ้าทาง หรือทำบุญบ้านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล โดยสถิติบ้านเลขที่ 9 เป็นบ้านที่มีโอกาสพบกับสิ่งลี้ลับได้ง่าย
อย่างไรก็ดี หมอช้างย้ำว่า ความเชื่อเรื่องดวง โหราศาสตร์ โชคชะตาราศี ฮวงจุ้ย ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น ควรยึดหลักความพอดีในการดำเนินชีวิต หากสามารถนำมาปรับใช้เพื่อความมีสติ และพิจารณาแล้วแต่ความศรัทธาที่มี หลีกเลี่ยงสิ่งที่นำไปสู่ความเสื่อม ความถดถอย ถือว่าสามารถใช้ได้อย่างมีปัญญา แต่หากนำความเชื่อไปใช้อย่างงมงาย รอคอยโชคลาภแบบไม่ช่วยตนเอง หรือขาดความพอ ก็อาจเป็นปัญหาของสังคมได้เช่นกัน