ตีแผ่เส้นทางเดินของ “โกตี๋” ทำไมจึงอหังการบังอาจหมิ่นเบื้องสูง? พบ “3 กลุ่ม” ผลประโยชน์หนุนหลัง ทั้งบิ๊กทหารอากาศใน-นอกราชการ เสธ.คนดังรัชดาฯ ตำรวจ และนักการเมือง ล้วนใกล้ชิดเครือข่ายทักษิณ เชื่อกลุ่มขบวนการล้มเจ้าวาง “โกตี๋” เป็นหมากเกมข่มขู่คุกคาม-ปล่อยข่าวแตกแยกให้บ้านเมือง จับตากลิ่นตุๆ อาจเกิดเหตุ “ปลิดชีพ” ตามที่โกตี๋เปรย “เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล” กลายเป็นเหยื่อการเมืองป้ายสีฝ่ายตรงข้าม!
“โกตี๋” คือใคร
ชื่อของ “โกตี๋” หรือนายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ ปรากฏมาพร้อมๆ กับขบวนการคนเสื้อแดงปกป้อง “ทักษิณ ชินวัตร” ในสายแดงฮาร์ดคอร์ แต่ระยะแรกอาจไม่โดดเด่นมากนัก เพราะคนเสื้อแดงที่โดดเด่นมีหลายคน โดยเฉพาะสายแดงฮาร์ดคอร์ก็มีทั้งนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดอุดรธานี, นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง, นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ฯลฯ
แต่หลังจากเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองปี 2553 เสร็จสิ้น แดงฮาร์ดคอร์ต่างกระจัดกระจายไปคนละทาง อาจจะเป็นเพราะระวังตัวมากขึ้นก็เป็นได้ ทั้งอริสมันต์ และสุภรณ์ แม้ว่าจะยังออกอาการฮึ่มๆ ประกาศจัดตั้งกองกำลังโน่นนี่ แต่ก็ไม่มีบทบาทในการเป็น “ตัวสำคัญ” ในการออกมา “บู๊” หรือออกมาต่อกรกับกลุ่มต้านรักษาการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือ กปปส.มากนัก ขณะที่นายขวัญชัย ไพรพนา แม้อยากออกมาซ่าแค่ไหนก็คงไม่ได้เพราะตอนนี้มีสภาพย่ำแย่ต้องรักษาตัวเองเช่นกัน
ที่เหลือโดดเด่นในเวลานี้ก็มีแต่ “โกตี๋” ที่ออกมาสร้างความปั่นป่วนให้บ้านเมือง ใครจะเลือดตกยางออกเท่าไร “โกตี๋” ไม่สน ที่ผ่านมาก็มีข่าวแสดงพฤติกรรมใช้กองกำลังใต้ดินติดอาวุธ ก่อกวนมุ่งร้ายชีวิตกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ที่ปรากฏตามโซเซียลมีเดียอย่างชัดเจน ท้าทายอำนาจรัฐและกฎหมายว่าไม่สามารถเอาผิดเขาได้แน่
โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่หลักสี่ จนเกิดกลุ่มป๊อปคอร์นจับปืนเข้าต่อสู้กับกลุ่มโจรของโกตี๋ แต่ตำรวจกลับมุ่งเอาผิดกลุ่มป๊อปคอร์น ปล่อยโกตี๋ลอยนวล ทั้งๆ ที่มีหลักฐานชัดเจนขนาดนั้น
อีกทั้งยังปากพล่อยพูดจาบจ้วงหลายครั้งหลายหน ทั้งที่วิทยุชุมชน เอฟเอ็ม 106.10 เรดการ์ดเรดิโอ, เวทีคนเสื้อแดงที่ราชมังคลาฯ, อนุสรณ์สถานแห่งชาติ และแทบทุกที่ที่เขาปรากฏตัวจะต้องมีการพูดถึงการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ซ้ำยังเคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศหลายครั้ง ก่อนหน้าให้สัมภาษณ์ผ่าน VICE News ครั้งนี้ก็เคยให้สัมภาษณ์ The Telegraph ว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะกำจัดอำมาตย์ ชนชั้นสูง”
นอกจากนี้ พฤติกรรมนายโกตี๋ที่แสดงออกชัดเจนว่าไม่เกรงกลัวกฎหมาย หรือใครๆ ในบ้านเมือง ก็มีอีก คือมีการขึ้นป้ายผ้าไวนิลสีแดง แขวนอยู่บนสะพานลอย ย่านอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้สนามบินดอนเมือง และหลายพื้นที่ช่วงต้นเดือนมีนาคม 2557 ด้วยข้อความที่อหังการและสร้างความแตกแยกให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น
“ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม กู ขอแยกเป็นประเทศล้านนา”
“อยู่ด้วยกันด้วยความสามัคคีไม่ได้….ก็แบ่งแยกกันอยู่”
“มึงกับกู แยกแผ่นดินกันเลย” ลงชื่อโกตี๋ เรดการ์ด
การกระทำของ “โกตี๋” ที่แสดงการยั่วยุ ท้าทายถึงขนาดนี้ แต่เขาก็ยังรอดอำนาจกฎหมายได้ทุกครั้ง จะมีก็แต่ฝ่ายความมั่นคงไปแจ้งความดำเนินคดี แต่โกตี๋กลับไม่เกรงกลัว ไม่หวั่นเกรงใดๆ ล่าสุดก็ยังไปให้สัมภาษณ์นักข่าวต่างประเทศ โดยพูดจาจาบจ้วงเบื้องสูงในทำนองเอ่ยว่าคนที่ตนเองกำลังต่อสู้ด้วยนั้นเป็นใคร การให้สัมภาษณ์ดังกล่าว เกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงของคนไทยที่รักสถาบันเพราะรู้สึกว่า “เกินไป” และรับไม่ได้ ทำให้หลายฝ่ายออกมากดดันตำรวจ และรัฐบาลให้จัดการจับตัว “โกตี๋” มาลงโทษให้เร็วที่สุด
ทว่าการจับกุมโกตี๋กลับไม่เห็นมีความจริงจังแต่อย่างใดจากฝ่ายตำรวจ (อีกแล้ว) แถมยังเหมือนกับว่ามีขบวนการพาโกตี๋ไปอยู่ในที่ปลอดภัยและพร้อมลี้ภัยไปต่างประเทศเป็นอย่างดีด้วยซ้ำ
พฤติกรรมที่ท้าทายอำนาจทั้งหมดจึงเป็นที่มาของการตั้งคำถามที่ว่า “โกตี๋” แค่คนธรรมดา แต่ทำไม? ถึงหาญกล้าขนาดนี้ และใครอยู่เบื้องหลังการกระทำที่เกิดขึ้น ที่สำคัญคอยให้การช่วยเหลือและปกป้อง “โกตี๋”!
เปิด 3 กลุ่มปกป้อง “โกตี๋” แดงล้มเจ้า
“โกตี๋เป็นคนโนเนม ทำงานเกี่ยวข้องกับบ่อนในพื้นที่ปทุมธานี ดอนเมือง มาก่อน แต่ต้องการยกระดับขึ้นมาเป็นแกนนำคนเสื้อแดง เลยมาเริ่มต้นจัดรายการวิทยุปทุมธานี ด่าฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล” แหล่งข่าวจากคนมีสีระบุ
พร้อมเปิดเผยว่า จริงๆ โกตี๋ความคิดความอ่านไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่เนื่องจากสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับขบวนการผลประโยชน์ใต้ดินที่แน่นหนาของพื้นที่ปทุมธานี ดอนเมือง ทำให้โกตี๋เป็น “ตัวหมาก” ที่ถูกเลือกมาใช้ในขบวนการทำลายสถาบัน
“ฟังวิทยุชุมชนที่เขาจัด ในช่วงปี 2552-2553 เน้นโจมตีไปที่องคมนตรี และนายอภิสิทธิ์ มีการพูดจากระทบกระเทียบ และใช้คำหยาบคาย หลังจากนั้นเริ่มมาพูดถึงศาลอย่างเหิมเกริมว่า ถ้าเอามีดมาตัดศีรษะ เอาเลือดคนเหล่านี้มาล้างเท้าก็ไม่บาป จนระยะหลังๆ ก็มีการพูดจากระทบกระเทียบสถาบันหลายครั้ง แต่มักไม่ใช้คำพูดตรงๆ มาพลาดเอาที่การให้สัมภาษณ์ VICE News ที่หมิ่นสถาบันอย่างมาก”
ด้านแหล่งข่าวนักการเมืองในพื้นที่ปทุมธานี-ดอนเมือง กล่าวว่า เห็นด้วยกับสิ่งที่คนมีสี ระบุ เพราะระยะหลังๆ นี้ โกตี๋เป็นตัวขับเคลื่อนหนึ่งของขบวนการล้มสถาบัน โดยมีความพยายามติดป้ายในพื้นที่ มีการพูดจาโน้มน้าวใจผ่านรายการวิทยุให้คนรู้สึกว่าต้องเลือก ว่าจะจงรักภักดีต่อพระบรมวงศานุวงศ์คนไหน ซึ่งเป็นการกระทำต่อเนื่องมาระยะหนึ่งแล้ว มองว่าเป็นเจตนาแบ่งแยกประชาชนคนไทยให้แตกออกจากกัน สร้างความวุ่นวายกับประเทศชาติอย่างมาก ซึ่งฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ก็รู้หมด แต่ไม่มีใครทำอะไรโกตี๋ได้
สาเหตุที่ฝ่ายความมั่นคงไม่มีใคร “แตะต้อง” ตัวโกตี๋นั้น เป็นเพราะสายสัมพันธ์ผลประโยชน์ใต้ดินในพื้นที่ดังกล่าวล้วนๆ
“คนในพื้นที่รู้กันดีว่า โกตี๋ ได้ชื่อว่าเป็นคนของนายการุณ โหสกุล และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง แต่ลึกๆ ยังมีคนหนุนหลังโกตี๋อีกมาก เรียกได้ว่าเป็นคนที่เติบโตขึ้นมาในธุรกิจไม่สะอาด”
คนที่หนุนหลังโกตี๋นั้น เป็นเครือข่ายผลประโยชน์ 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย
กลุ่มที่หนึ่งคือ กลุ่มธุรกิจผ่านผลประโยชน์ทางการเมือง กลุ่มนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์การสัมปทานในการท่าอากาศยาน
กลุ่มที่สองคือ กลุ่มสายอำนาจ กลุ่มนี้คือคนมีสี ทั้งทหาร ตำรวจ และนักเลงในพื้นที่ เป็นกลุ่มที่เกี่ยวกับผลประโยชน์
กลุ่มที่สามคือ กลุ่มธุรกิจมืด โดยมีบ่อนการพนันเป็นธุรกิจหลักที่ตำรวจไม่กล้าทำอะไรคนกลุ่มนี้ เพราะเชื่อมอยู่กับกลุ่มคนมีสีทั้งทหาร ตำรวจในกลุ่มที่ 2 อย่างแนบแน่น
“ทั้ง 3 กลุ่มดูแลโกตี๋หมด เพราะคนในเครือข่ายที่ต้องวิ่งส่งส่วย แต่จะไม่ได้มีแค่ตำรวจ หรือแค่พลตำรวจโทคำรณวิทย์ที่ถูกพาดพิงว่าปกป้องโกตี๋”
ด้านแหล่งข่าวจากคนมีสีในพื้นที่ ย้ำว่าคนที่เป็นเครือข่ายนี้เริ่มตั้งแต่การคุมบ่อน ที่มีคนในทหารอากาศระดับจ่า ที่ผันตัวเองมาคุมบ่อน ไล่ส่งส่วยผลประโยชน์กันมาเรื่อยๆ จนมาถึงระดับ “ผู้ใหญ่”
โดยระดับผู้ใหญ่ในพื้นที่นี้ ไม่ได้ดูแลแค่พื้นที่ปทุมธานี ดอนเมือง แต่ยังมีอิทธิพลดูแลไปถึงพื้นที่สายไหม รังสิต อยุธยาบางส่วน และสระบุรีบางส่วน
แต่แน่นอนว่าพื้นที่ปทุมธานี ดอนเมืองยังเป็นพื้นที่ผลประโยชน์หลัก
“ผู้ใหญ่ที่ดูแลโกตี๋ ตัวหลักคือทหารอากาศที่ยังรับราชการอยู่ และไม่รับราชการแล้ว บางคนมีตำแหน่งทางการเมืองเป็นรัฐมนตรี เป็นอดีต ส.ส. คนเหล่านี้เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกับนายใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะบางคนมีฐานะเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย”
อีกทั้งยังมีนายทหารระดับ เสธ.เข้ามาเกี่ยว เป็นนายทหารระดับ เสธ.ที่ดูแลพื้นที่รัชดาภิเษกที่ใครๆ ก็รู้จัก และยังมีคนที่เหนือกว่า เสธ.คนนี้อีก
ขณะเดียวกันไม่ต้องพูดถึง “ตำรวจ” เพราะตำรวจคือผู้ดูแลผลประโยชน์ในพื้นที่โดยตรง มีตำรวจผู้ใหญ่เกี่ยวข้องทั้งในนครบาลและระดับสูงกว่า ที่ต้องดูแลกันไปเป็นทอดๆ ส่วนโกตี๋ เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย เกี่ยวข้องกับการส่งส่วย จึงทำให้โกตี๋มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตำรวจและได้รับการดูแลเป็นพิเศษเช่นกัน
โกตี๋มีสิทธิถูกฆ่าป้ายสีการเมือง
แหล่งข่าวในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นความจริง และจะจับใคร หรือเปิดเผยขบวนการนี้เป็นเรื่องยากมาก เข้าทำนอง “หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ”
“เรารู้เสียยิ่งกว่ารู้อีก ว่าใครบ้างที่หนุนหลังโกตี๋อยู่ สายงานความมั่นคงรู้หมด กองทัพก็รู้ แต่ทำอะไรไม่ได้ หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ ทหารนอกคอกมีอยู่แล้ว รู้ๆ กันอยู่ใครบ้าง โดยเฉพาะคนระดับ เสธ.ที่คุมพื้นที่รัชดาฯ รู้หมด แต่ เสธ.นั้นก็เป็นแค่ระดับกลาง ยังมีคนที่ใหญ่กว่านั้นอีก ไปแตะมากๆ ก็ไม่ได้ แตะมากๆ ก็สะเทือน” แหล่งข่าวในสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าว
โดยยอมรับว่า โกตี๋มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ นปช.พรรคเพื่อไทย และรัฐบาล อย่างใกล้ชิดมากด้วย เหมือนกับกรณี ตั้ง อาชีวะ ที่หมิ่นสถาบันแต่ก็ได้รับความคุ้มครองจาก ส.ส.พาไปดูแลที่จังหวัดเชียงใหม่บ้าง ภูเก็ตบ้าง แต่ตอนนี้ก็ไปอยู่แถวๆ ชายแดน
ส่วนโกตี๋ ขณะนี้ได้รับการดูแลจาก “ตำรวจ” ส่งผลให้ตำรวจดีๆ ต้องทำงานลำบาก !
“โกตี๋นี่ไม่ใช่วีไอพีนะ แต่เป็นแค่หมากตัวหนึ่ง เดินในแนวทางข่มขู่คุกคามเป็นหลัก เป็นหนึ่งในขบวนการล้มเจ้าเท่านั้น”
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวกล่าวว่า เส้นทางที่โกตี๋เลือกเดิน รวมไปถึงสายสัมพันธ์ที่เขามีอยู่ทั้งหมดในเวลานี้นั้น อาจไม่ได้นำสู่ความสำเร็จหรือความปลอดภัย และการเลือกใช้ชีวิตตามที่คาดหวังไว้ก็ได้
โดยเฉพาะหากมีการช่วยเหลือโกตี๋ ให้หลุดรอดปลอดภัยจากกรณีหมิ่นเบื้องสูง ด้วยการเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หรือถึงขั้นเปิดทางให้ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ก็ใช่ว่าเขาจะอยู่ได้ โดยแหล่งข่าวความมั่นคงบอกว่า เป็นเรื่องยากที่โกตี๋จะไปอยู่ต่างประเทศได้ เพราะโกตี๋เองไม่ได้เป็นคนที่จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ในต่างประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็น ประเทศ สิงคโปร์ ฮ่องกง จะมีก็แต่เขมรที่พอจะอยู่ได้
แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ขณะนี้เขมรอาจไม่ได้เออออห่อหมกกับเครือข่ายระบอบทักษิณมากนัก เพราะข่าวเรื่องที่ขัดผลประโยชน์กันระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับ ฮุน เซน เป็นเรื่องจริง
“จักรภพ เพ็ญแข ตอนนี้อยู่เขมร มีทหารของรัฐบาลมาดูแลอย่างดี แต่นั่นคือข้อตกลงก่อนหน้าที่จะมีเรื่องทะเลาะกัน ส่วนชูพงศ์ ถี่ถ้วน อยู่อเมริกา คนอย่างโกตี๋ก็คงไปอยู่ไม่ได้ หรือถ้าอยู่ได้ ใครจะลงทุนให้โกตี๋ คนที่พาไปจะยอมจ่ายไหม ถ้าคิดว่าจะหนีจริงๆ ก็อยู่ได้แค่เขมร แถวๆ บ่อน นอกนั้นดูแล้วไม่มีใครยอมจ่ายตังค์คุ้มครองโกตี๋”
โกตี๋ไม่ใช่คนมีเงินทองมากมายนัก การที่จะดูแลโกตี๋ให้อยู่ต่างประเทศนั้น จะต้องใช้เงินดูแลจำนวนมาก หากเป็นระยะสั้นๆ พอเป็นไปได้ แต่หากระยะยาว คงไม่มีใครให้ค่ากับคนอย่างโกตี๋มากขนาดนั้น
ถึงวันนี้ ชีวิตโกตี๋เดินมาถึงจุดลำบากแล้วเพราะผลจากการกระทำของเขาเอง!
“เราประเมินกันนะ ไม่เกินปลายเดือนเมษายน หรือต้นพฤษภาคม โกตี๋จะถูกเก็บ ถูกเก็บจากคนในขบวนการเดียวกันนี้ เพื่อสร้างข่าวให้คนรู้สึกว่าคนฝ่ายตรงข้ามฆ่าโกตี๋ เหมือนกรณี เสธ.แดงที่ต้องมาตายเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง” แหล่งข่าวจากคนมีสีระบุ
อย่างไรก็ดี การคาดการณ์ของแหล่งข่าวจากคนมีสีในพื้นที่นั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นจริง แต่อย่างน้อยก็อาจมีกลิ่นตุตุเกิดขึ้นมาแล้ว เพราะขนาดตัว “โกตี๋” เองก็รู้ตัวดี ถึงขนาดออกมาพูดทำนองว่า เขารู้นะว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ในอันตราย เข้าทำนอง เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล!
ดังนั้น จากนี้ไปคงต้องจับตาดูว่าหาก “โกตี๋” มีอันเป็นไป คนที่จัดการโกตี๋คงไม่ใช่ใครอื่น นอกจากพวกเดียวกันเองใช่หรือไม่!?