xs
xsm
sm
md
lg

มาแล้ว “เสื้อแดง” นุ่งโสร่ง! ใบสั่งอดีตรัฐมนตรีบีบโรงงานช่วย นปช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เสื้อแดง” จับมืออดีตรัฐมนตรี จัดเต็มพิทักษ์รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” แบ่งสายปฏิบัติการ กลุ่มฮาร์ดคอร์ไล่ถล่มฝ่ายตรงข้าม คุกคาม ข่มขู่ กปปส.-ศาล-ป.ป.ช.แฉอาวุธส่วนใหญ่นำเข้าจากชายแดน อีกส่วนประกอบเอง ขณะที่อีกสายสำแดงมวลชน งานนี้วัดฝีมือ “จตุพร” ประธาน นปช.ระดมพลที่อักษะ แดงด้วยกันยังเย้ยเกินแสนก็เก่งแล้ว ฝ่ายความมั่นคงเผยแนวทางขับเคลื่อนใช้แรงงานต่างชาติเข้ามาเสริม โดยมีอดีตรัฐมนตรีและผู้ช่วยฯ 2 จังหวัดจัดให้ บีบโรงงานผิดกฎหมายขนคนร่วมงาน
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รักษาการ รมช.พาณิชย์ และเลขาธิการ นปช.ลงสั่งการจัดเตรียมพื้นที่การชุมนุมที่ถนนอักษะด้วยตัวเอง
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับฝ่ายที่ต่อต้าน หรือเป็นศัตรูกับฝ่ายรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในรูปของการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจรับมือกับผู้ชุมนุม และการเดินเกมใต้ดินทั้งการเข้ามาก่อกวน ข่มขู่ หรือประสงค์ถึงขั้นเอาชีวิต ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดก็มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น

เพียงแต่ในรูปแบบใต้ดินได้ก่อให้เกิดการสูญเสียกับฝ่ายผู้ต่อต้านรัฐบาลมากกว่า ที่สำคัญคือไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นฝีมือของใคร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้เลยสักคดี ไม่ว่าคดีนั้นจะนานมาแล้วเพียงใด

ตรงกันข้ามหากเป็นคดีที่ฝ่ายของรัฐบาลหรือผู้สนับสนุนรัฐบาลถูกกระทำ แม้จะไม่ทำให้ใครเสียชีวิตและหลักฐานยากเย็นเพียงใด ตำรวจก็สามารถหาตัวผู้กระทำผิดมาได้ ท่ามกลางข้อสงสัยว่าที่ตำรวจจับกุมตัวมานั้นเป็นตัวจริงหรือไม่

เปิดชื่อ “พัลลภ” เกิดเหตุต่อเนื่อง

เหตุระเบิดไม่ว่าจะเกิดจากกรณีของการยิงจากปืน M79 หรือระเบิดในรูปแบบต่างๆ แม้ก่อนหน้านี้จะเกิดขึ้นมาบ้าง แต่หากนับจากความต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในระยะหลังนี้ คงจะต้องเริ่มกันที่ข่าวการแต่งตั้งพลเอก พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่จะให้ไปช่วยงานในศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2557 พร้อมๆ กับเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นทันที ทั้งระเบิดที่ย่านประตูน้ำเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ การถล่มเวที กปปส.จังหวัดตราด ในวันที่ 22 และระเบิดที่บิ๊กซีย่านราชประสงค์ 23 กุมภาพันธ์ ทั้ง 2 เหตุการณ์ทำให้มีผู้เสียชีวิต ในจำนวนนั้นเป็นเด็ก 4 ราย และผู้บาดเจ็บจำนวนมาก และเหตุความรุนแรงยังเกิดต่อเนื่อง

ที่อุกอาจที่สุดคือกลุ่มคนเสื้อแดงไล่ยิงนายสุทิน ธราทิน แกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ จนเสียชีวิต ที่หน้าวัดศรีเอี่ยม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลากลางวัน มีหลักฐานต่างๆ มากมาย แต่คดีไม่มีความคืบหน้า

ใกล้เชือด “ยิ่งลักษณ์” ยิ่งหนัก

ยิ่งในช่วงที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.กล่าวโทษจากคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เหตุระเบิดตามพื้นที่ต่างๆ ยิ่งมากขึ้น คู่ขัดแย้งถูกขยายวงไม่เพียงแค่ผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลเท่านั้น แต่ยังลามไปถึงหน่วยงานที่ชี้เป็นชี้ตายสถานะของนายกรัฐมนตรี

สถานที่ทำงานอย่างสำนักงาน ป.ป.ช. ระเบิด M79 ตกใส่เป็นว่าเล่น หรือที่ศาลอาญาและศาลรัฐธรรมนูญ และยังลามไปถึงตัวบุคคลที่คาดหมายกันว่าจะเป็นคนที่ทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์ตกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ทั้งที่บ้านของนายวิชา มหาคุณ ป.ป.ช. และบ้านของนายจรัล ภักดีธนากุล ศาลรัฐธรรมนูญ

แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าตรวจค้นเวทีการชุมนุมของกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ กวป.ที่มาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีบริเวณหน้า ป.ป.ช.จนพบอาวุธสงครามจำนวนมาก ทั้งปืนอาก้า เครื่องยิงระเบิด M79 และระเบิดชนิดขว้าง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่มีการตรวจสอบว่าอาวุธที่พบนั้น เกี่ยวข้องกับการใช้ก่อกวนหรือคุกคามองค์กรอิสระเหล่านี้หรือไม่

กระทั่งการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม กปปส.เมื่อ 29 มีนาคม ก็เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ถนนสวรรคโลก แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ และในช่วงค่ำของวันเดียวกัน เกิดเหตุระเบิดบริเวณถนนราษฎร์อุทิศ ซอย 25 เขตมีนบุรี มีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยยังพบระเบิดอีก 1 ลูกชนิดไปป์บอมบ์ และยังพบอุปกรณ์ในการประกอบวัตถุระเบิดในบ้านเช่าอีกจำนวนหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิดตามพื้นที่ต่างๆ

“เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นเป้าหมายหลักคือกลุ่มที่เป็นศัตรูกับรัฐบาล ไม่เพียงแค่ฝ่ายผู้ชุมนุม กปปส.เท่านั้น แต่ยังมุ่งไปถึงองค์กรอิสระ ทั้ง ป.ป.ช.หรือศาล ที่มีส่วนสำคัญกับการตัดสินคดีความของรัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากลำพังการขับเคลื่อนของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ คงไม่สามารถทำให้รัฐบาลชุดนี้พ้นสภาพไปได้ ดังนั้นในระยะหลังจากมุ่งไปกดดันที่หน่วยงานเหล่านี้แทน ทั้งในรูปของการข่มขู่ที่สถานที่ทำงานหรือที่บ้านพักของบางบุคคล”

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงประเมินต่อไปว่า ที่กล่าวอย่างนี้เป็นเพราะว่าฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลหรือฝ่ายรัฐบาลเองไม่ได้ถูกกระทำเหมือนฝ่ายตรงข้ามที่เจอแทบทุกวัน แม้จะมีบ้างในบางรายของแกนนำเสื้อแดงแต่ก็เสียหายน้อยมากและก็ไม่แน่ใจว่าใครทำ

พฤติกรรมที่เกิดขึ้นในเวลานี้ถือว่าเป็นเหมือนกับเหตุการณ์ปี 2553 เป็นคนกลุ่มเดียวกันที่บงการ ครั้งนั้นใช้ความรุนแรงหรือเผาบ้านเผาเมืองเพื่อโค่นล้มรัฐบาลเพื่อให้ฝ่ายของตัวเองกลับเข้ามามีอำนาจ วันนี้แม้พรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลแต่ก็ต้องหันมาใช้ความรุนแรงเช่นเดียวกัน แต่เป้าหมายเป็นไปเพื่อป้องกันอำนาจรัฐไว้ได้นานที่สุด จึงต้องทำทุกวิถีทาง

ยิ่งพวกเขากระทำการที่รุนแรงมากขึ้นเท่าไหร่ แสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบและกำลังจะพ่ายแพ้ จึงต้องเร่งก่อเหตุมากขึ้น
อาวุธที่ยึดได้ในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม กวป.
อุปกรณ์นำเข้าจากชายแดน

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวทางทหารย้ำว่า พวกที่เข้ามาก่อเหตุนั้นเชื่อว่าเป็นกลุ่มคนไทยที่เข้ามารับงานนี้ ระเบิดที่ใช้มีทั้งการประกอบเองและนำเข้า อย่าง RGB-5 นั้นไม่มีในประเทศไทยแน่นอน ส่วนหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบว่ามาจากหน่วยงานไหน และราคาตามชายแดนกัมพูชาไม่แพง การนำเข้ามาสะดวกหากเจ้าหน้าที่เปิดทางให้ เช่นเดียวกับระเบิด M79 ส่วนปืนที่ใช้อย่างอาก้านั้นในกองทัพและตำรวจไม่ใช้แล้ว มีใช้เฉพาะในทหารพรานและกลุ่มคอมมิวนิสต์เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีปืนเซกาเซ CKC ที่เป็นปืนเล็กยาวกึ่งอัตโนมัติ มีความแม่นยำสูง ซึ่งเป็นปืนที่กลุ่มคอมมิวนิสต์รุ่นเก่าชอบใช้ หาได้ตามชายแดนอีกเช่นกัน

หรือการใช้ระเบิดประกอบเองอย่างไปป์บอมบ์ ระเบิดที่มีนบุรีนั้น ถือเป็นความผิดพลาดของผู้ประกอบเอง ซึ่งระเบิดชนิดนี้ประกอบง่าย เรื่องนี้จึงทำให้รู้ว่าฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลนั้นมีขบวนการก่อเหตุอย่างไร และระเบิดชนิดนี้เคยใช้ในกรณีขว้างบ้านพักของนายณัฎฐพลและนางทยา ทีปสุวรรณ มาแล้วแต่ไม่ระเบิด รัศมีการทำลายประมาณ 10 เมตรขึ้นไป

จัดทัพต่างด้าวเพิ่มจำนวนเสื้อแดง

นอกเหนือจากเรื่องของการข่มขู่ด้วยอาวุธเพื่อสกัดกั้นฝ่ายตรงข้ามทั้งกลุ่ม กปปส.และองค์กรอิสระแล้ว การเดินเกมอีกด้านหนึ่งด้วยการใช้มวลชนคนเสื้อแดงเข้ามาแสดงพลังสนับสนุนรัฐบาลโดยในวันที่ 5 เมษายนนี้ ตามที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศไว้ โดยนัดแสดงพลังที่บริเวณถนนอักษะ ย่านพุทธมณฑล ด้วยการประกาศระดมพล 5 แสนคน ทำให้หลายฝ่ายกังวลถึงสถานการณ์ที่อาจจะเกิดการปะทะกันของมวลชน 2 ฝ่าย เนื่องจากพื้นที่ในการชุมนุมของ นปช. ใกล้กรุงเทพมหานครมาก

ขณะที่การนัดชุมนุมในครั้งนี้มีกระแสข่าวออกมาว่าครั้งนี้อาจมีการนำเอาแรงงานต่างด้าวเข้ามาร่วมชุมนุมด้วย เพราะมีการประสานความร่วมมือระหว่างแกนนำ นปช.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี เพื่อสามารถระดมคนเข้ามาร่วมชุมนุมให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะให้ได้จำนวนตามที่นายจตุพรลั่นวาจาไว้

“ลำพังคนจากพื้นที่อีสานคงหาได้สัก 7-8 หมื่นคน เบ็ดเสร็จแล้ววันที่ 5 เมษายนนั้นถ้าได้สัก 1 แสนคนก็เก่งแล้ว เรื่อง 5 แสนคนอย่าได้หวังเลย” หนึ่งในแกนนำเสื้อแดงพื้นที่อีสานคาดการณ์ ส่วนแกนนำจากส่วนกลางจะไปหามาจากไหนนั้นเป็นเรื่องของเขาที่ต้องแสดงผลงาน"

ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงมองว่า เสื้อแดงปี 57 กับปี 53 นั้นแตกต่างกัน เห็นได้จากการนัดชุมนุมใหญ่ของเสื้อแดงไม่ประสบความสำเร็จมากนักในด้านปริมาณคน ขณะที่พื้นที่ในการนัดชุมนุมนั้นห่างไกลกับ กปปส.อยู่พอสมควร คาดว่าสถานการณ์ในวันนั้นคงไม่มีอะไรรุนแรงระหว่างมวลชน 2 ฝ่าย

ดังนั้นการนัดชุมนุมของคนเสื้อแดงในครั้งนี้ เรื่องของมวลชนที่จะมาด้วยใจ มาด้วยอุดมการณ์นั้นคงมีไม่มากนัก และหลายคนยังต้องช่วยเหลือตัวเองกับปัญหาเมื่อปี 2553 ในเรื่องคดีความ ยังต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันอยู่ทุกวันนี้

การที่จะเติมคนให้ได้มากๆ ตามที่ประธาน นปช.กล่าวอ้างนั้น จะต้องมีการหาคนเข้ามาเสริมเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย อย่างที่นัดชุมนุมที่พัทยานั้น มีการนำแรงงานต่างชาติจากพื้นที่แถบภาคตะวันออกเข้ามาสมทบ เพื่อสร้างภาพว่ามีคนเข้ามาร่วมชุมนุมมาก มีแรงงานจากกัมพูชามาจากจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.
แรงงาน “อ้อมน้อย-อ้อมใหญ่-มหาชัย” กำลังหลัก

แกนนำคนเสื้อแดงอธิบายต่อว่า การนัดชุมนุมครั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในย่านพุทธมณฑลก็มีความเหมาะสม หากยึดจากถนนอักษะ ที่เป็นหลักแล้วพื้นที่ใกล้เคียงจะประกอบไปด้วยอำเภออ้อมน้อยและอ้อมใหญ่ จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรม ติดต่อกับพื้นที่ของจังหวัดสมุทรสาคร

โดยเป็นที่รู้กันว่าพื้นที่แถบนี้เต็มไปด้วยแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาขายแรงงานในไทย เกือบทุกโรงงานทั้งเล็กและใหญ่เลือกใช้แรงงานต่างด้าวทั้งหมด ซึ่งมากที่สุดคือแรงงานพม่า

แหล่งข่าวระบุว่า โรงงานในพื้นที่ใกล้เคียงนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือโรงงานที่ถูกกฎหมาย แรงงานพม่าที่มาทำงานด้วยก็เป็นแรงงานถูกกฎหมาย ในส่วนนี้คงไม่เป็นปัญหาเพราะแรงงานเหล่านี้คงไม่เข้ามาร่วมชุมนุมทางการเมืองกับคนเสื้อแดงอยู่แล้ว เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นมาแรงงานเหล่านี้จะถูกส่งกลับประเทศทันที ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่พวกเขาต้องจ่ายเพื่อมาขายแรงงานในประเทศไทย

อีกส่วนหนึ่งจะเป็นโรงงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ในส่วนนี้เป็นได้ทั้งโรงงานถูกกฎหมาย แต่แรงงานที่ใช้อยู่ไม่มีการขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย เจ้าของโรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ต้องพึ่งพาบารมีของนักการเมืองในพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องที่ไม่ถูกกฎหมาย
ถนนอักษะพื้นที่นัดชุมนุม(ภาพ:Internet)
นักการเมืองจัดให้หวังเข้าตานายใหญ่

ดังนั้น หากนักการเมืองขอร้องมาจึงเป็นเรื่องยากที่นายจ้างเหล่านั้นจะปฏิเสธ การเอาแรงงานต่างชาติเข้ามาร่วมสมทบเพื่อให้ภาพการชุมนุมของคนเสื้อแดงออกมาว่ามีคนเข้ามาร่วมมาก จึงเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับแกนนำเสื้อแดงได้

“พื้นที่อ้อมน้อยและอ้อมใหญ่อยู่ในเขตจังหวัดนครปฐม คนที่มีอิทธิพลในเรื่องนี้มากที่สุดคืออดีตรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งถูกปรับออกไป แต่วันนี้คนที่มาคุมกระทรวงแรงงาน ก็คือ นายเฉลิม อยู่บำรุง การบีบให้นายจ้างเหล่านั้นนำคนงานเข้ามาร่วมชุมนุมด้วยจึงทำได้สะดวก”

นอกจากนี้ยังมีอีกพื้นที่หนึ่งที่มีแรงงานพม่ามากและติดกับพื้นที่ดังกล่าวคือที่มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร โดยเฉพาะในย่านสะพานปลา มหาชัย มีแรงงานพม่าเป็นจำนวนมาก และในพื้นที่ดังกล่าวก็มีคนของพรรคเพื่อไทยที่เคยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคุมอยู่

ที่สำคัญหากภาพในการชุมนุมครั้งนี้มีคนเข้ามาร่วมมาก ก็จะกลายเป็นผลงานของทั้งอดีตรัฐมนตรีและอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี เข้าตานายใหญ่ได้ ซึ่งจะส่งผลให้การเลือกตั้งในครั้งต่อไปมีโอกาสที่จะได้รับการปรับตำแหน่งให้ได้นั่งในเก้าอี้สำคัญต่อไป รวมไปถึง นปช.ก็จะเกิดความฮึกเหิมกล้าชนกับกลุ่ม กปปส.มากขึ้น

ทั้งนี้ ด้วยข้อจำกัดเรื่องของแรงงานต่างชาตินั้นจะถูกล็อกพื้นที่ไว้ การเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัดนั้นทำไม่ได้ แต่ในพื้นที่ดังกล่าวอย่างที่มหาชัย อ้อมน้อย อ้อมใหญ่ กระทุ่มแบน ถือเป็นพื้นที่เดียวกัน การเคลื่อนย้ายแรงงานในส่วนนี้มาจึงไม่ติดขัดเรื่องกฎหมาย

หากจะมีการนำแรงงานต่างชาติจากพื้นที่อื่นเข้ามาร่วมสมทบ เช่น จากจังหวัดกาญจนบุรี หรือแถบระนอง และจังหวัดอื่นๆ นั้น ในทางทฤษฎีทำไม่ได้เพราะถือว่าข้ามเขตกัน แต่ในทางปฏิบัตินั้น ถ้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกแล้วก็ไม่มีปัญหา

“ค่าแรงที่ได้อาจจะได้ตั้งแต่ 500-1,000 บาท สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ แต่ก็ต้องประเมินด้วยว่าคุ้มหรือไม่”

ทั้งนี้ เพราะการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นของคู่ขัดแย้งเป็นเรื่องภายในประเทศ ซึ่งการแสดงสิทธิในการชุมนุมจึงเป็นเรื่องของคนไทยเท่านั้น และถ้าเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นมาแล้ว แรงงานเหล่านี้จะฟ้องร้องเอาผิดหรือเรียกร้องค่าเสียหายได้ยาก และอาจถูกส่งกลับประเทศได้ทันทีเช่นกัน

**หมายเหตุ - กรณีที่มีการนำภาพตัดต่อมาประกอบข่าว ทางทีมงานได้ลบภาพดังกล่าวออกไปแล้ว ขออภัยในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

กำลังโหลดความคิดเห็น