คนไทยแห่ไหว้พระต่างแดน 4 เส้นทางหลัก พม่า อินเดีย ศรีลังกา บุโรพุทโธ มูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาทต่อปี คาดอีก 5 ปีคนแห่ไปอินเดียแซงพม่า ชูจุดเด่น “สักการะสังเวชนียสถาน 4 แห่ง” สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงธรรมเทศนา ปรินิพพาน แรงขนาดสายการบินเริ่มเพิ่มเที่ยวบิน ทัวร์เฉพาะกลุ่มยังได้เปรียบ เจาะกลุ่มวัด ฐานลูกค้าผู้ปฏิบัติธรรม กำลังทรัพย์ถึง ขณะที่บริษัททัวร์ ใช้แรงศรัทธาของประชาชนเชื่อไหว้ “สังเวชนียสถาน 4 แห่ง” ตายแล้วจะไปเกิดในโลกสวรรค์รับทรัพย์กันเนื้อๆ ด้าน ดร.เบิร์ต ผู้บริหารธรรมหรรษาทัวร์ บอกคนที่ไม่พร้อมประพฤติดีประพฤติชอบได้บุญเช่นกัน
แม้จะมีข่าวฉาวๆ ในวงการสงฆ์ ปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่องมาตลอดก็ตาม แต่ด้วยเหตุที่ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ การทำบุญตักบาตร เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิตของคนไทย ซึ่งทางการได้กำหนดให้วันสำคัญทางพุทธศาสนาหลายวันเป็นวันหยุดราชการ ช่วงที่ผ่านมาคนที่ใช้ชีวิตในเมืองต่างตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน ให้ความสำคัญกับศาสนาน้อยลง แต่ด้วยรากเหง้าของชาวพุทธ ผู้คนจำนวนไม่น้อยแม้แต่คนรุ่นใหม่เริ่มหันหน้าเข้าหาพุทธศาสนามากขึ้น
ทั้งจากกระแสของการไหว้พระ 9 วัด สวดมนต์ข้ามคืนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หรือแม้แต่การส่งเสริมให้ลูกหลานได้บวชเรียนในช่วงปิดเทอม ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ลูกหลานมีจิตใจที่สงบ เยือกเย็น หรือ สร้างระเบียบวินัยให้กับลูกหลานของตัวเอง มีสมาธิกับการเรียนมากขึ้น
ทัวร์ไหว้พระ 9 วัดสร้างบุญ เสริมบารมี
ขณะเดียวกันภาครัฐ รวมไปถึงวัดวาอารามต่างก็จัดให้มีกิจกรรมทางศาสนากันมากขึ้น รวมไปถึงภายในวัดต่างๆ ยังมีจุดขายทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ชวนให้ติดตาม ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย บริษัททัวร์ต่างๆ ก็จัดให้มีการไปเที่ยวชมวัดสำคัญๆ ทั้งวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว), วัดอรุณราชวรารามฯ วัดเชตุพนฯ, (วัดโพธิ์), วัดระฆังโฆสิตาราม เป็นต้น
ส่วนคนไทยเองก็ให้ความสนใจกับการเดินทางไปไหว้พระ 9 วัด เพื่อเป็นการทำบุญ เสริมบารมีให้กับตัวเอง ซึ่งการเดินทางนั้นจะมีทั้งในรูปแบบไปกันเอง และมีบริษัททัวร์จัดนำเที่ยวไหว้พระ 9 วัดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะที่จังหวัดอยุธยา ถือเป็นหนึ่งในจังหวัดที่คนไทยและชาวต่างชาตินิยมไปไหว้พระกันมาก
ส่วนคนที่ไม่อยากขับรถไปเอง หรือไม่ต้องการใช้บริการของทัวร์เอกชนที่รู้สึกว่ามีราคาแพง แต่ต้องการไปไหว้พระ 9 วัดก็สามารถใช้บริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ โดย ขสมก.มีการจัดทัวร์ไหว้พระ 9 วัดในหลายเส้นทางให้เลือก
อย่างไรก็ดี การเดินทางไหว้พระ 9 วัดนั้นบางกลุ่มจะเลือกไปที่วัดที่เป็นพระอารามหลวง บางกลุ่มมองที่เส้นทางการเดินทางที่สะดวก วัดไม่ห่างกันมาก แต่ต้องได้จำนวน 9 วัดเช่นกัน และหลายคนเช่นกันอธิบายว่าการไหว้พระ 9 วัดควรมาสิ้นสุดที่วัดชนะสงคราม เพราะเป็นความเชื่อว่าผู้ที่ไปไหว้จะชนะอุปสรรคทั้งมวลได้
“ชื่อวัดชนะสงคราม มีความหมายอยู่ในตัวเอง ซึ่งเป็นมงคลอยู่แล้ว”
4 เส้นทางหลักทัวร์ธรรมะ
เมื่อตลาดไหว้พระในประเทศเริ่มทรงตัว กระแสบุญยังคงถูกต่อยอดด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาของประเทศเพื่อนบ้าน คราวนี้ตัวกลางที่เข้ามาทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้แสวงบุญคือบริษัททัวร์ เนื่องจากเป็นการเดินทางไปต่างประเทศ ที่ต้องมีทั้งการติดต่อเรื่องสายการบิน ที่พัก รถเดินทางระหว่างการไปยังเมืองต่างๆ และเรื่องของมัคคุเทศก์
ดร.นิติกานต์ ธรรมหรรษากุล หรือ ดร.เบิร์ต เจ้าของบริษัทหรรษาธรรมทัวร์ กล่าวว่า เส้นทางหลักของทัวร์ธรรมะที่คนไทยนิยมเดินทางมี 4 เส้นทางหลักคือ ทัวร์พม่า อินเดีย ศรีลังกา และเจดีย์บุโรพุทโธ
ทัวร์ไหว้พระที่พม่ายังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง พม่ามีสถานที่สำคัญคือ เจดีย์ชเวดากอง จะมีลานอธิษฐานสมปรารถนา ที่ชาวพม่าเชื่อกันว่าถ้าได้มานั่งอธิษฐานขอสิ่งใดก็จะสมปรารถนา ส่วนการขอพรกับเทพทันใจ เมื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปรารถนา ส่วนพระธาตุอินทร์แขวน เป็นพระธาตุของผู้ที่เกิดปีจอ และเชื่อกันว่าการได้มาสักการะพระธาตุอินทร์แขวน 3 ครั้ง จะโชคดีประสบความสำเร็จในชีวิตทุกๆ ด้าน อีกแห่งคือพระธาตุมุเตา เชื่อกันว่าหากใครได้ไปกราบไหว้องค์พระธาตุ แล้วเอาไม้ไปค้ำไว้กับยอดพระธาตุที่หักลงมา จะทำให้ชีวิตของคนคนนั้นไม่ว่าจะถึงช่วงชีวิตที่ตกต่ำ ก็จะมีสิ่งค้ำจุนไว้ แม้ว่าทัวร์พม่าจะได้รับความนิยมมาระยะหนึ่งแล้วก็ตาม แต่คนไทยก็ยังนิยมเดินทางไป
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะใกล้กับประเทศไทย แม้ราคาจะไม่ค่อยถูกนัก เดินทางสะดวก อาหารการกิน ใกล้เคียงกับไทย โรงแรมที่พักดีกว่าที่อินเดีย อีกทั้งสามารถเดินทางได้ตลอดทั้งปี และเวลาต่อทริปไม่นานคือ 4 วัน 3 คืน หรือ 3 วัน 2 คืน กับค่าใช้จ่ายประมาณ 1.5 หมื่นบาทถึง 2 หมื่นบาทต้นๆ ขณะที่อินเดียต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 วัน กับค่าใช้จ่ายต่ำสุดที่ประมาณ 29,900 บาท
อีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจคือศรีลังกา ที่นี่มีพระเขี้ยวแก้วขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า มีเพียง 2 แห่งในโลกคือที่จีนและศรีลังกา นอกจากนี้ยังมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่เก่าแก่ที่สุด เป็นกิ่งที่มาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นแรกที่พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญเพียรและตรัสรู้ และเมืองแคนดี วิวทิวทัศน์ดีกว่าที่อินเดีย เดิมเคยมีความพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวอยู่ระยะหนึ่ง สายการบินมีทั้งการบินไทย ศรีลังกาแอร์ คาเธ่ย์ฯ เดิมเคยมีแอร์เอเชียบินทุกวัน จากนั้นก็ลดเที่ยวบินลงมาเหลือ 3 ไฟลต์ต่อสัปดาห์ จนสุดท้ายต้องยกเลิกเส้นทาง ระยะหลังคนไทยเดินทางไปค่อนข้างน้อย ค่าใช้จ่ายต่อหัวค่อนข้างแพง คืออยู่ที่ราว 2.7-3 หมื่นบาทกับระยะเวลา 3-5 วัน
เส้นทางสำคัญอีกแห่งหนึ่งก็คือเดินทางไปสักการะเจดีย์บุโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย ราคาพอๆ กับการไปศรีลังกา ที่ราว 3 หมื่นบาท เพราะการเดินทางต้องมีการบินต่อภายในประเทศอีกทั้งขาไปและกลับ ดังนั้นหลายคนจึงเลือกเดินทางเฉพาะที่บาหลี ส่วนที่จะต่อไปยังบุโรพุทโธก็มีอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น
เมื่อทัวร์ไหว้พระที่พม่าเริ่มอิ่มตัว ศรีลังกาและบุโรพุทโธที่อินโดนีเซียมีข้อจำกัด ตลาดใหม่อย่างอินเดียจึงกลายเป็นเป้าหมายใหม่ ด้วยจุดเด่นด้านความเป็นต้นกำเนิดของศาสนาพุทธ เพราะมีสังเวชนียสถาน 4 แห่งคือที่ประสูติ (เนปาล) ตรัสรู้ แสดงธรรมเทศนา และสถานที่ปรินิพพาน
อินเดียดาวรุ่ง:สังเวชนียสถาน 4
กระแสการไปไหว้สถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาที่อินเดียมีมานานแล้ว แต่ด้วยเส้นทางที่ยังไม่สะดวกมากนัก เลยทำให้ยังเป็นกลุ่มเฉพาะ เมื่อกระแสของอินเดียตอบรับเริ่มมีมากขึ้น ทั้งจากการสร้างพระพุทธเจ้าน้อย การเชิญชวนให้ทำบุญสร้างวัดในประเทศอินเดีย รวมไปถึงการจัดสรรงบของกรมการศาสนาที่เชิญพระสังฆาธิการและพุทธศาสนิกชนไปนมัสการสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่งที่อินเดีย รวมไปถึงการเผยแพร่สถานที่สำคัญทางศาสนาพุทธผ่านสื่อต่างๆ ยิ่งทำให้เกิดกระแสทัวร์ธรรมะที่อินเดียกันมากขึ้น
สายการบินอย่างการบินไทยและแอร์เอเชียต่างเพิ่มเส้นทางการบินไปยังเมืองต่างๆ ในอินเดียกันมากขึ้นเพื่อรองรับกับความนิยมเดินทางไปกราบไหว้สังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง โดยการบินไทยได้ประกาศไว้ว่าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 จะเพิ่มเที่ยวบินต่อสัปดาห์ของ THAI Smile ที่บินมาเมืองต่างๆ ในอินเดีย โดยเส้นทางกรุงเทพฯ-อาห์เมดาบัด จาก 2 เป็น 4 เที่ยวบิน เดลี/มุมไบ-ภูเก็ต จาก 2 เป็น 3 เที่ยวบิน และไฮเดอราบัด-กรุงเทพฯ จาก 4 เป็น 5 เที่ยวบิน ขยายจำนวนที่นั่งเป็น 1,000 ที่นั่งต่อสัปดาห์
ขณะที่แอร์เอเชีย อินเดีย มุ่งเน้นในการเชื่อมต่อระหว่างสนามบินที่ยังใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ภายในอินเดียเป็นหลัก
เจ้าของบริษัทธรรมหรรษาทัวร์ ที่เคยบวชเรียนที่ประเทศอินเดียมา 9 ปี ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้พม่ายังถือว่าได้รับความนิยมอยู่เหมือนเดิม แต่ระยะหลังทัวร์ธรรมะที่อินเดียเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น สำหรับที่อินเดียเดือนที่เหมาะสมในการเดินทางคือตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงมีนาคม เพราะอากาศไม่ร้อนเกินไป
สังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่งถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาโดยตรง นั่นคือสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงธรรมเทศนา และที่ปรินิพพาน แม้ว่าการเดินทางไปอินเดียจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นอย่างเช่น ทัชมาฮาล หรือแคชเมียร์ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่สังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง
ลูกทัวร์ที่เดินทางไปอินเดีย ส่วนใหญ่เป็นผู้ปฏิบัติธรรม อายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี คนรุ่นใหม่ยังน้อย คนที่จะไปอินเดียต้องไปด้วยศรัทธาจริงๆ เพราะการเดินทางไปสักการะสถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ได้สะดวกมากนัก แต่ก็เป็นเรื่องแปลกที่เมื่อคนที่เคยไปอินเดียมาแล้ว มักจะไปอีก อาจจะเว้นสัก 1-2 ปีแล้วก็ไปใหม่ ลูกค้าส่วนใหญ่ยังเป็นลูกค้าเดิมและไปชวนเพื่อนเข้ามาอีก เนื่องจากประทับใจ ชื่นใจ ที่ได้ไปสวดมนต์ไหว้พระยังสถานที่ต้นกำเนิดของพระพุทธศาสนา
รายการธรรมะเพิ่มลูกค้า
ดร.เบิร์ตไม่ปฏิเสธว่า กลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าที่ชอบปฏิบัติธรรม ดังนั้นวัดจึงเป็นช่องทางที่สำคัญที่จะแจ้งข้อมูลข่าวสาร ยิ่งถ้าวัดใดท่านเจ้าอาวาสเดินทางไปด้วยก็จะมีลูกศิษย์เดินทางไปพร้อมกัน ขณะเดียวกันนอกจากทางบริษัทธรรมหรรษาจะทำทัวร์ในกลุ่มที่นิยมไหว้พระแล้ว ยังมีการจัดรายการวิทยุรายการธรรมะ มีสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมรายการธรรมะอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้มีลูกค้าเดินทางไปทัวร์ธรรมะที่อินเดียเพิ่มขึ้น
ทัวร์ธรรมะหรือทัวร์ไหว้พระที่อินเดียนั้นอาจจะแยกเป็นกลุ่มได้ คือ กลุ่มที่ไม่ได้ทำการตลาดในเชิงกว้าง เช่น ธรรมหรรษาทัวร์ จะเน้นไปที่ลูกค้าบุคคล ส่วนรายอื่นจะเน้นไปที่ลูกค้าที่เป็นองค์กรหรือหน่วยงานราชการ กลุ่มนี้จะเน้นไปที่การไหว้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา ส่วนกลุ่มที่ทำตลาดในวงกว้างประกาศตามหน้าหนังสือพิมพ์ ส่วนใหญ่จะเน้นควบคู่กับในเชิงท่องเที่ยว
ไม่ได้ไป-ประพฤติดี ได้บุญเช่นกัน
ขณะที่บริษัททัวร์อินเดียมักหยิบยกคำกล่าวอ้างถึงพระไตรปิฎกเล่ม 10 มหาปรินิพพานสูตร ที่กล่าวถึงสังเวชนียสถาน 4 ตำบล กล่าวถึงตอนหนึ่ง ท่านพระอานนท์กราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อก่อนภิกษุทั้งหลายผู้จำพรรษาในทิศทั้งหลายมาเฝ้าพระตถาคต ข้าพระองค์ทั้งหลายย่อมได้พบ ได้ใกล้ชิดภิกษุทั้งหลายผู้เป็นที่เจริญใจ ก็เมื่อพระผู้มีพระภาคเสด็จล่วงลับไป ข้าพระองค์ทั้งหลายจะไม่ได้พบ ไม่ได้ใกล้ชิดภิกษุทั้งหลายผู้เป็นที่เจริญใจ (อีก)”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “อานนท์ สังเวชนียสถาน 4 แห่งนี้เป็นสถานที่ (เป็นศูนย์รวม) ที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู สังเวชนียสถาน 4 แห่ง อะไรบ้าง คือ
1. สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู ด้วยระลึกว่า “ตถาคต ประสูติในที่นี้”
2. สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู ด้วยระลึกว่า “ตถาคต ได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่นี้”
3. สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู ด้วยระลึกว่า “ตถาคต ทรงประกาศธรรมจักรอันยอดเยี่ยมในที่นี้”
4. สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู ด้วยระลึกว่า “ตถาคต ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุในที่นี้”
อานนท์ สังเวชนียสถาน 4 แห่งนี้เป็นสถานที่ที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ผู้มีศรัทธาจะมาดู
อานนท์ ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งจาริกไปยังเจดีย์จักมีจิตเลื่อมใสตายไป ชนเหล่านั้นทั้งหมดหลังจากตายแล้วจะไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์
ถ้อยความดังกล่าวจึงกลายเป็นสิ่งจูงใจให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยจำนวนไม่น้อยต้องการไปเยี่ยมชมสถานที่ดังกล่าว ด้านหนึ่งคือเป็นไปตามคำแนะนำขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าตามคำที่พระอานนท์กล่าวไว้ อีกด้านเพื่อต้องการให้ตนเองได้รับผลบุญจากการไปสักการะสถานที่สำคัญทางศาสนา ด้วยความหวังว่าเมื่อตัวเองพ้นจากโลกนี้แล้วจะได้เข้าสู่โลกสวรรค์
ตรงนี้จึงเป็นมูลเหตุจูงใจอย่างหนึ่งที่ทำให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยหันมาให้ความสำคัญต่อการเดินทางไปนมัสการสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 แห่งตามพุทธประวัติในประเทศอินเดียกันมากเป็นพิเศษหรือไม่
“คนที่จะไปไหว้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อินเดียได้ ส่วนใหญ่เป็นคนที่มาจากกลุ่มที่ไหว้พระในประเทศอยู่แล้ว กว่า 90% ของคนที่ไป ไปด้วยศรัทธา มีความพร้อมทั้งกาย วาจา ใจ เสริมความเชื่อมั่น มีความพร้อมด้านทุนทรัพย์ก็เดินทางไป ส่วนคนที่ยังไม่มีความพร้อม การทำบุญในบ้านเรา ประพฤติตนดี ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ก็ไม่แตกต่างกัน” เจ้าของบริษัทธรรมหรรษาทัวร์อธิบาย
ตลาดไหว้พระต่างแดนปีละ 5 หมื่นล้าน
การทำทัวร์ไปอินเดียนั้นถือว่าเป็นเรื่องของธุรกิจด้วย เพราะจะต้องมีการติดต่อเรื่องสายการบิน อาจารย์ที่จะมาบรรยายให้กับคณะทัวร์ โดยอาจจะเป็นพระไทยที่อินเดีย หรือนักเรียนไทยในอินเดียหรืออาจเป็นพระธรรมทูต ต้องมีการประสานในเรื่องของที่พัก อาหาร รถยนต์ที่ใช้เดินทาง
“ในปีหนึ่งน่าจะมีคนไทยเดินทางไปกราบสักการะสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่งที่อินเดีย ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน ดังนั้นมูลค่าตลาดของทัวร์ประเภทนี้น่าจะไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี เฉพาะลูกค้าของบริษัทก็มีไม่ต่ำกว่า 1,500 คนแล้ว ยิ่งถ้ามีการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่อินเดียเพิ่มเติมลูกค้าก็จะเพิ่มขึ้นกว่านี้” ดร.เบิร์ตกล่าว
ถ้าจัดอันดับที่คนไทยนิยมไปในตอนนี้ อินเดีย พม่า ศรีลังกา บุโรพุทโธ และต่อไปอินเดียจะมากขึ้นกว่าพม่า สายการบินเยอะ ถนนดีขึ้น ทำความเร็วได้มากขึ้น แต่ละสถานที่อาจต้องใช้เวลา 5-7 ชั่วโมง อีกไม่เกิน 5 ปีคนจะไปเยอะกว่าพม่า เพราะคนสนใจ เที่ยวด้วย ทำบุญไหว้พระด้วย และถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ไปกราบไหว้พระพุทธเจ้า ประเมินว่า 4 เส้นทางนี้ น่าจะมีมูลค่าตลาดเกินกว่า 5 หมื่นล้านบาทต่อปี
จากการสำรวจค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางไปอินเดียของบริษัททัวร์แต่ละแห่ง อาจจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของราคา มีระหว่างต่ำกว่า 3 หมื่นบาทจนถึง 8 หมื่นบาท หนึ่งในผู้ที่เคยเดินทางไปให้คำอธิบายว่า ราคาที่ต่ำที่สุดน่าจะอยู่ที่ 29,900 บาท ตรงนี้จะพักและทานอาหารที่วัดตลอดการเดินทาง คือราคานี้เครื่องบินที่ลงอาจจะอยู่ไกลจากสถานที่สำคัญ ดังนั้นอาจต้องใช้เวลาเดินทางค่อนข้างไกล ส่วนที่ราคาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ นั้นเครื่องบินที่ลงมักจะอยู่ไกลมากนัก ใช้เวลาเดินทางต่อมายังสถานที่สำคัญน้อยกว่า ที่พัก อาหารจะอยู่ที่โรงแรม หรืออาจมีระยะเวลาในอินเดียมากกว่า พาไปยังสถานที่อื่นๆ เพิ่มขึ้น
ดังนั้น การเลือกทัวร์ในราคาใด ควรต้องตรวจสอบความพร้อมของตัวเองก่อน โดยมีองค์ประกอบ 4 ด้านคือ มีศรัทธา มีเงิน มีเวลา และสังขารอำนวย รวมไปถึงความเชื่อและแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่เชื่อว่าการไปกราบไหว้สังเวชนียสถาน 4 แห่งนั้นตายแล้วจะได้ไปสวรรค์ จึงเป็นจุดขายสำคัญที่ทำให้มูลค่าของทัวร์ธรรมะเติบโตได้อย่างดี!
แม้จะมีข่าวฉาวๆ ในวงการสงฆ์ ปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่องมาตลอดก็ตาม แต่ด้วยเหตุที่ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ การทำบุญตักบาตร เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิตของคนไทย ซึ่งทางการได้กำหนดให้วันสำคัญทางพุทธศาสนาหลายวันเป็นวันหยุดราชการ ช่วงที่ผ่านมาคนที่ใช้ชีวิตในเมืองต่างตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน ให้ความสำคัญกับศาสนาน้อยลง แต่ด้วยรากเหง้าของชาวพุทธ ผู้คนจำนวนไม่น้อยแม้แต่คนรุ่นใหม่เริ่มหันหน้าเข้าหาพุทธศาสนามากขึ้น
ทั้งจากกระแสของการไหว้พระ 9 วัด สวดมนต์ข้ามคืนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หรือแม้แต่การส่งเสริมให้ลูกหลานได้บวชเรียนในช่วงปิดเทอม ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ลูกหลานมีจิตใจที่สงบ เยือกเย็น หรือ สร้างระเบียบวินัยให้กับลูกหลานของตัวเอง มีสมาธิกับการเรียนมากขึ้น
ทัวร์ไหว้พระ 9 วัดสร้างบุญ เสริมบารมี
ขณะเดียวกันภาครัฐ รวมไปถึงวัดวาอารามต่างก็จัดให้มีกิจกรรมทางศาสนากันมากขึ้น รวมไปถึงภายในวัดต่างๆ ยังมีจุดขายทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ชวนให้ติดตาม ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย บริษัททัวร์ต่างๆ ก็จัดให้มีการไปเที่ยวชมวัดสำคัญๆ ทั้งวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว), วัดอรุณราชวรารามฯ วัดเชตุพนฯ, (วัดโพธิ์), วัดระฆังโฆสิตาราม เป็นต้น
ส่วนคนไทยเองก็ให้ความสนใจกับการเดินทางไปไหว้พระ 9 วัด เพื่อเป็นการทำบุญ เสริมบารมีให้กับตัวเอง ซึ่งการเดินทางนั้นจะมีทั้งในรูปแบบไปกันเอง และมีบริษัททัวร์จัดนำเที่ยวไหว้พระ 9 วัดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะที่จังหวัดอยุธยา ถือเป็นหนึ่งในจังหวัดที่คนไทยและชาวต่างชาตินิยมไปไหว้พระกันมาก
ส่วนคนที่ไม่อยากขับรถไปเอง หรือไม่ต้องการใช้บริการของทัวร์เอกชนที่รู้สึกว่ามีราคาแพง แต่ต้องการไปไหว้พระ 9 วัดก็สามารถใช้บริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ โดย ขสมก.มีการจัดทัวร์ไหว้พระ 9 วัดในหลายเส้นทางให้เลือก
อย่างไรก็ดี การเดินทางไหว้พระ 9 วัดนั้นบางกลุ่มจะเลือกไปที่วัดที่เป็นพระอารามหลวง บางกลุ่มมองที่เส้นทางการเดินทางที่สะดวก วัดไม่ห่างกันมาก แต่ต้องได้จำนวน 9 วัดเช่นกัน และหลายคนเช่นกันอธิบายว่าการไหว้พระ 9 วัดควรมาสิ้นสุดที่วัดชนะสงคราม เพราะเป็นความเชื่อว่าผู้ที่ไปไหว้จะชนะอุปสรรคทั้งมวลได้
“ชื่อวัดชนะสงคราม มีความหมายอยู่ในตัวเอง ซึ่งเป็นมงคลอยู่แล้ว”
4 เส้นทางหลักทัวร์ธรรมะ
เมื่อตลาดไหว้พระในประเทศเริ่มทรงตัว กระแสบุญยังคงถูกต่อยอดด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาของประเทศเพื่อนบ้าน คราวนี้ตัวกลางที่เข้ามาทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้แสวงบุญคือบริษัททัวร์ เนื่องจากเป็นการเดินทางไปต่างประเทศ ที่ต้องมีทั้งการติดต่อเรื่องสายการบิน ที่พัก รถเดินทางระหว่างการไปยังเมืองต่างๆ และเรื่องของมัคคุเทศก์
ดร.นิติกานต์ ธรรมหรรษากุล หรือ ดร.เบิร์ต เจ้าของบริษัทหรรษาธรรมทัวร์ กล่าวว่า เส้นทางหลักของทัวร์ธรรมะที่คนไทยนิยมเดินทางมี 4 เส้นทางหลักคือ ทัวร์พม่า อินเดีย ศรีลังกา และเจดีย์บุโรพุทโธ
ทัวร์ไหว้พระที่พม่ายังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง พม่ามีสถานที่สำคัญคือ เจดีย์ชเวดากอง จะมีลานอธิษฐานสมปรารถนา ที่ชาวพม่าเชื่อกันว่าถ้าได้มานั่งอธิษฐานขอสิ่งใดก็จะสมปรารถนา ส่วนการขอพรกับเทพทันใจ เมื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปรารถนา ส่วนพระธาตุอินทร์แขวน เป็นพระธาตุของผู้ที่เกิดปีจอ และเชื่อกันว่าการได้มาสักการะพระธาตุอินทร์แขวน 3 ครั้ง จะโชคดีประสบความสำเร็จในชีวิตทุกๆ ด้าน อีกแห่งคือพระธาตุมุเตา เชื่อกันว่าหากใครได้ไปกราบไหว้องค์พระธาตุ แล้วเอาไม้ไปค้ำไว้กับยอดพระธาตุที่หักลงมา จะทำให้ชีวิตของคนคนนั้นไม่ว่าจะถึงช่วงชีวิตที่ตกต่ำ ก็จะมีสิ่งค้ำจุนไว้ แม้ว่าทัวร์พม่าจะได้รับความนิยมมาระยะหนึ่งแล้วก็ตาม แต่คนไทยก็ยังนิยมเดินทางไป
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะใกล้กับประเทศไทย แม้ราคาจะไม่ค่อยถูกนัก เดินทางสะดวก อาหารการกิน ใกล้เคียงกับไทย โรงแรมที่พักดีกว่าที่อินเดีย อีกทั้งสามารถเดินทางได้ตลอดทั้งปี และเวลาต่อทริปไม่นานคือ 4 วัน 3 คืน หรือ 3 วัน 2 คืน กับค่าใช้จ่ายประมาณ 1.5 หมื่นบาทถึง 2 หมื่นบาทต้นๆ ขณะที่อินเดียต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 วัน กับค่าใช้จ่ายต่ำสุดที่ประมาณ 29,900 บาท
อีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจคือศรีลังกา ที่นี่มีพระเขี้ยวแก้วขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า มีเพียง 2 แห่งในโลกคือที่จีนและศรีลังกา นอกจากนี้ยังมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่เก่าแก่ที่สุด เป็นกิ่งที่มาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นแรกที่พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญเพียรและตรัสรู้ และเมืองแคนดี วิวทิวทัศน์ดีกว่าที่อินเดีย เดิมเคยมีความพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวอยู่ระยะหนึ่ง สายการบินมีทั้งการบินไทย ศรีลังกาแอร์ คาเธ่ย์ฯ เดิมเคยมีแอร์เอเชียบินทุกวัน จากนั้นก็ลดเที่ยวบินลงมาเหลือ 3 ไฟลต์ต่อสัปดาห์ จนสุดท้ายต้องยกเลิกเส้นทาง ระยะหลังคนไทยเดินทางไปค่อนข้างน้อย ค่าใช้จ่ายต่อหัวค่อนข้างแพง คืออยู่ที่ราว 2.7-3 หมื่นบาทกับระยะเวลา 3-5 วัน
เส้นทางสำคัญอีกแห่งหนึ่งก็คือเดินทางไปสักการะเจดีย์บุโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย ราคาพอๆ กับการไปศรีลังกา ที่ราว 3 หมื่นบาท เพราะการเดินทางต้องมีการบินต่อภายในประเทศอีกทั้งขาไปและกลับ ดังนั้นหลายคนจึงเลือกเดินทางเฉพาะที่บาหลี ส่วนที่จะต่อไปยังบุโรพุทโธก็มีอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น
เมื่อทัวร์ไหว้พระที่พม่าเริ่มอิ่มตัว ศรีลังกาและบุโรพุทโธที่อินโดนีเซียมีข้อจำกัด ตลาดใหม่อย่างอินเดียจึงกลายเป็นเป้าหมายใหม่ ด้วยจุดเด่นด้านความเป็นต้นกำเนิดของศาสนาพุทธ เพราะมีสังเวชนียสถาน 4 แห่งคือที่ประสูติ (เนปาล) ตรัสรู้ แสดงธรรมเทศนา และสถานที่ปรินิพพาน
อินเดียดาวรุ่ง:สังเวชนียสถาน 4
กระแสการไปไหว้สถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาที่อินเดียมีมานานแล้ว แต่ด้วยเส้นทางที่ยังไม่สะดวกมากนัก เลยทำให้ยังเป็นกลุ่มเฉพาะ เมื่อกระแสของอินเดียตอบรับเริ่มมีมากขึ้น ทั้งจากการสร้างพระพุทธเจ้าน้อย การเชิญชวนให้ทำบุญสร้างวัดในประเทศอินเดีย รวมไปถึงการจัดสรรงบของกรมการศาสนาที่เชิญพระสังฆาธิการและพุทธศาสนิกชนไปนมัสการสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่งที่อินเดีย รวมไปถึงการเผยแพร่สถานที่สำคัญทางศาสนาพุทธผ่านสื่อต่างๆ ยิ่งทำให้เกิดกระแสทัวร์ธรรมะที่อินเดียกันมากขึ้น
สายการบินอย่างการบินไทยและแอร์เอเชียต่างเพิ่มเส้นทางการบินไปยังเมืองต่างๆ ในอินเดียกันมากขึ้นเพื่อรองรับกับความนิยมเดินทางไปกราบไหว้สังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง โดยการบินไทยได้ประกาศไว้ว่าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 จะเพิ่มเที่ยวบินต่อสัปดาห์ของ THAI Smile ที่บินมาเมืองต่างๆ ในอินเดีย โดยเส้นทางกรุงเทพฯ-อาห์เมดาบัด จาก 2 เป็น 4 เที่ยวบิน เดลี/มุมไบ-ภูเก็ต จาก 2 เป็น 3 เที่ยวบิน และไฮเดอราบัด-กรุงเทพฯ จาก 4 เป็น 5 เที่ยวบิน ขยายจำนวนที่นั่งเป็น 1,000 ที่นั่งต่อสัปดาห์
ขณะที่แอร์เอเชีย อินเดีย มุ่งเน้นในการเชื่อมต่อระหว่างสนามบินที่ยังใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ภายในอินเดียเป็นหลัก
เจ้าของบริษัทธรรมหรรษาทัวร์ ที่เคยบวชเรียนที่ประเทศอินเดียมา 9 ปี ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้พม่ายังถือว่าได้รับความนิยมอยู่เหมือนเดิม แต่ระยะหลังทัวร์ธรรมะที่อินเดียเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น สำหรับที่อินเดียเดือนที่เหมาะสมในการเดินทางคือตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงมีนาคม เพราะอากาศไม่ร้อนเกินไป
สังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่งถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาโดยตรง นั่นคือสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงธรรมเทศนา และที่ปรินิพพาน แม้ว่าการเดินทางไปอินเดียจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นอย่างเช่น ทัชมาฮาล หรือแคชเมียร์ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่สังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง
ลูกทัวร์ที่เดินทางไปอินเดีย ส่วนใหญ่เป็นผู้ปฏิบัติธรรม อายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี คนรุ่นใหม่ยังน้อย คนที่จะไปอินเดียต้องไปด้วยศรัทธาจริงๆ เพราะการเดินทางไปสักการะสถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ได้สะดวกมากนัก แต่ก็เป็นเรื่องแปลกที่เมื่อคนที่เคยไปอินเดียมาแล้ว มักจะไปอีก อาจจะเว้นสัก 1-2 ปีแล้วก็ไปใหม่ ลูกค้าส่วนใหญ่ยังเป็นลูกค้าเดิมและไปชวนเพื่อนเข้ามาอีก เนื่องจากประทับใจ ชื่นใจ ที่ได้ไปสวดมนต์ไหว้พระยังสถานที่ต้นกำเนิดของพระพุทธศาสนา
รายการธรรมะเพิ่มลูกค้า
ดร.เบิร์ตไม่ปฏิเสธว่า กลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าที่ชอบปฏิบัติธรรม ดังนั้นวัดจึงเป็นช่องทางที่สำคัญที่จะแจ้งข้อมูลข่าวสาร ยิ่งถ้าวัดใดท่านเจ้าอาวาสเดินทางไปด้วยก็จะมีลูกศิษย์เดินทางไปพร้อมกัน ขณะเดียวกันนอกจากทางบริษัทธรรมหรรษาจะทำทัวร์ในกลุ่มที่นิยมไหว้พระแล้ว ยังมีการจัดรายการวิทยุรายการธรรมะ มีสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมรายการธรรมะอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้มีลูกค้าเดินทางไปทัวร์ธรรมะที่อินเดียเพิ่มขึ้น
ทัวร์ธรรมะหรือทัวร์ไหว้พระที่อินเดียนั้นอาจจะแยกเป็นกลุ่มได้ คือ กลุ่มที่ไม่ได้ทำการตลาดในเชิงกว้าง เช่น ธรรมหรรษาทัวร์ จะเน้นไปที่ลูกค้าบุคคล ส่วนรายอื่นจะเน้นไปที่ลูกค้าที่เป็นองค์กรหรือหน่วยงานราชการ กลุ่มนี้จะเน้นไปที่การไหว้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา ส่วนกลุ่มที่ทำตลาดในวงกว้างประกาศตามหน้าหนังสือพิมพ์ ส่วนใหญ่จะเน้นควบคู่กับในเชิงท่องเที่ยว
ไม่ได้ไป-ประพฤติดี ได้บุญเช่นกัน
ขณะที่บริษัททัวร์อินเดียมักหยิบยกคำกล่าวอ้างถึงพระไตรปิฎกเล่ม 10 มหาปรินิพพานสูตร ที่กล่าวถึงสังเวชนียสถาน 4 ตำบล กล่าวถึงตอนหนึ่ง ท่านพระอานนท์กราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อก่อนภิกษุทั้งหลายผู้จำพรรษาในทิศทั้งหลายมาเฝ้าพระตถาคต ข้าพระองค์ทั้งหลายย่อมได้พบ ได้ใกล้ชิดภิกษุทั้งหลายผู้เป็นที่เจริญใจ ก็เมื่อพระผู้มีพระภาคเสด็จล่วงลับไป ข้าพระองค์ทั้งหลายจะไม่ได้พบ ไม่ได้ใกล้ชิดภิกษุทั้งหลายผู้เป็นที่เจริญใจ (อีก)”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “อานนท์ สังเวชนียสถาน 4 แห่งนี้เป็นสถานที่ (เป็นศูนย์รวม) ที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู สังเวชนียสถาน 4 แห่ง อะไรบ้าง คือ
1. สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู ด้วยระลึกว่า “ตถาคต ประสูติในที่นี้”
2. สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู ด้วยระลึกว่า “ตถาคต ได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่นี้”
3. สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู ด้วยระลึกว่า “ตถาคต ทรงประกาศธรรมจักรอันยอดเยี่ยมในที่นี้”
4. สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู ด้วยระลึกว่า “ตถาคต ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุในที่นี้”
อานนท์ สังเวชนียสถาน 4 แห่งนี้เป็นสถานที่ที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ผู้มีศรัทธาจะมาดู
อานนท์ ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งจาริกไปยังเจดีย์จักมีจิตเลื่อมใสตายไป ชนเหล่านั้นทั้งหมดหลังจากตายแล้วจะไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์
ถ้อยความดังกล่าวจึงกลายเป็นสิ่งจูงใจให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยจำนวนไม่น้อยต้องการไปเยี่ยมชมสถานที่ดังกล่าว ด้านหนึ่งคือเป็นไปตามคำแนะนำขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าตามคำที่พระอานนท์กล่าวไว้ อีกด้านเพื่อต้องการให้ตนเองได้รับผลบุญจากการไปสักการะสถานที่สำคัญทางศาสนา ด้วยความหวังว่าเมื่อตัวเองพ้นจากโลกนี้แล้วจะได้เข้าสู่โลกสวรรค์
ตรงนี้จึงเป็นมูลเหตุจูงใจอย่างหนึ่งที่ทำให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยหันมาให้ความสำคัญต่อการเดินทางไปนมัสการสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 แห่งตามพุทธประวัติในประเทศอินเดียกันมากเป็นพิเศษหรือไม่
“คนที่จะไปไหว้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อินเดียได้ ส่วนใหญ่เป็นคนที่มาจากกลุ่มที่ไหว้พระในประเทศอยู่แล้ว กว่า 90% ของคนที่ไป ไปด้วยศรัทธา มีความพร้อมทั้งกาย วาจา ใจ เสริมความเชื่อมั่น มีความพร้อมด้านทุนทรัพย์ก็เดินทางไป ส่วนคนที่ยังไม่มีความพร้อม การทำบุญในบ้านเรา ประพฤติตนดี ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ก็ไม่แตกต่างกัน” เจ้าของบริษัทธรรมหรรษาทัวร์อธิบาย
ตลาดไหว้พระต่างแดนปีละ 5 หมื่นล้าน
การทำทัวร์ไปอินเดียนั้นถือว่าเป็นเรื่องของธุรกิจด้วย เพราะจะต้องมีการติดต่อเรื่องสายการบิน อาจารย์ที่จะมาบรรยายให้กับคณะทัวร์ โดยอาจจะเป็นพระไทยที่อินเดีย หรือนักเรียนไทยในอินเดียหรืออาจเป็นพระธรรมทูต ต้องมีการประสานในเรื่องของที่พัก อาหาร รถยนต์ที่ใช้เดินทาง
“ในปีหนึ่งน่าจะมีคนไทยเดินทางไปกราบสักการะสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่งที่อินเดีย ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน ดังนั้นมูลค่าตลาดของทัวร์ประเภทนี้น่าจะไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี เฉพาะลูกค้าของบริษัทก็มีไม่ต่ำกว่า 1,500 คนแล้ว ยิ่งถ้ามีการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่อินเดียเพิ่มเติมลูกค้าก็จะเพิ่มขึ้นกว่านี้” ดร.เบิร์ตกล่าว
ถ้าจัดอันดับที่คนไทยนิยมไปในตอนนี้ อินเดีย พม่า ศรีลังกา บุโรพุทโธ และต่อไปอินเดียจะมากขึ้นกว่าพม่า สายการบินเยอะ ถนนดีขึ้น ทำความเร็วได้มากขึ้น แต่ละสถานที่อาจต้องใช้เวลา 5-7 ชั่วโมง อีกไม่เกิน 5 ปีคนจะไปเยอะกว่าพม่า เพราะคนสนใจ เที่ยวด้วย ทำบุญไหว้พระด้วย และถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ไปกราบไหว้พระพุทธเจ้า ประเมินว่า 4 เส้นทางนี้ น่าจะมีมูลค่าตลาดเกินกว่า 5 หมื่นล้านบาทต่อปี
จากการสำรวจค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางไปอินเดียของบริษัททัวร์แต่ละแห่ง อาจจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของราคา มีระหว่างต่ำกว่า 3 หมื่นบาทจนถึง 8 หมื่นบาท หนึ่งในผู้ที่เคยเดินทางไปให้คำอธิบายว่า ราคาที่ต่ำที่สุดน่าจะอยู่ที่ 29,900 บาท ตรงนี้จะพักและทานอาหารที่วัดตลอดการเดินทาง คือราคานี้เครื่องบินที่ลงอาจจะอยู่ไกลจากสถานที่สำคัญ ดังนั้นอาจต้องใช้เวลาเดินทางค่อนข้างไกล ส่วนที่ราคาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ นั้นเครื่องบินที่ลงมักจะอยู่ไกลมากนัก ใช้เวลาเดินทางต่อมายังสถานที่สำคัญน้อยกว่า ที่พัก อาหารจะอยู่ที่โรงแรม หรืออาจมีระยะเวลาในอินเดียมากกว่า พาไปยังสถานที่อื่นๆ เพิ่มขึ้น
ดังนั้น การเลือกทัวร์ในราคาใด ควรต้องตรวจสอบความพร้อมของตัวเองก่อน โดยมีองค์ประกอบ 4 ด้านคือ มีศรัทธา มีเงิน มีเวลา และสังขารอำนวย รวมไปถึงความเชื่อและแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่เชื่อว่าการไปกราบไหว้สังเวชนียสถาน 4 แห่งนั้นตายแล้วจะได้ไปสวรรค์ จึงเป็นจุดขายสำคัญที่ทำให้มูลค่าของทัวร์ธรรมะเติบโตได้อย่างดี!