xs
xsm
sm
md
lg

สัญญาณรุนแรงมาแล้ว! “2 ฝ่าย” เตรียมกำลังพร้อม-รอจังหวะใครชิงลงมือก่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จับตา “ยิ่งลักษณ์” เลือกเดินหน้า พ.ร.บ. หรือ พ.ร.ก.นิรโทษกรรมล้างผิดช่วยพี่ชาย นักกฎหมายชี้ทักษิณหวังผลประโยชน์จากช่องโหว่ พ.ร.ก.โดยอิงการตีความเก่าของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญช่วยล้างผิด ขณะที่ความจริงแล้วท้ายที่สุดแม้ พ.ร.ก.นั้นจะสะดุด ทำไม่ได้จริง เพราะ รธน.50 แก้ช่องโหว่ไปแล้ว แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังได้ประโยชน์จากการเมือง โดย “ถาวร เสนเนียม” ชี้ให้ดูว่าพุ่งเป้ากดดันสถาบัน! ส.ว.เผยสถานการณ์ตึงเครียดทั้ง 2 ฝ่าย “หนุน-ต้าน” ทักษิณ เตรียมพร้อมด้านกำลังหมดแล้ว รอข่าวเชิงลึก-ใครจะชิงลงมือก่อน?

ทำไม 7 ส.ค. หลายฝ่ายถึงฟันธงว่าการเมืองจะร้อนที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา?

หากจับสัญญาณ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ติดต้องโทษคดีที่ดินรัชดาฯ 2 ปีโดยคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เลือกที่จะเดินหน้าหนีออกนอกประเทศไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551

นับเป็นเวลา 5 ปีกว่าแล้ว สำหรับการหนีเอาตัวรอดแบบระหกระเหินของ พ.ต.ท.ทักษิณที่แม้เขาจะประกาศอยู่เสมอว่าเขาจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวทางการเมือง แต่ปรากฏว่าที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ เดินหน้างานทางการเมือง และออกคำสั่งให้พลพรรค ส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินหน้าล้างความผิดให้ตัวเขา โดยยังเลือกส่งพี่น้องตระกูลชินวัตรนั่งบังเหียนอำนาจในประเทศไทยเพื่อดำเนินงานตามสิ่งที่เขาต้องการ

แน่นอนว่าตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2556 มานั้น ความต้องการที่จะกลับมาเหยียบประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นมีคำสั่งที่ชัดเจนว่าจะต้องทำอย่างเร่งด่วนโดยเฉพาะเนื้อหาที่ พ.ต.ท.ทักษิณสไกป์มาถึง ส.ส.พรรคเพื่อไทยตั้งแต่ต้นปี ที่ทุกครั้งแทบจะมีเนื้อหาวนเวียนกันอยู่แค่ ให้ ส.ส.เข้าประชุมสภาฯ ให้ครบ ให้สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท และที่สำคัญคือให้เดินหน้าผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้ถึงที่สุด

แถมยังชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณนั้นสนับสนุนให้มีการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ด้วยการใช้คำพูดว่า ร่างนี้ต้องทำให้สุดซอย เพราะร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของ ร.ต.อ.เฉลิมนั้น มีชื่อของ พ.ต.ท ทักษิณเป็นผู้ได้ประโยชน์

ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.ที่นำเสนอโดยนายวรชัย เหมะ พ.ต.ท.ทักษิณใช้คำว่า “ไม่สุดซอย” กับร่างนี้ เพราะไม่มีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าเอี่ยว

“ผมลอยคอในทะเลมันหนาว” นี่คือคำที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งสัญญาณถึง ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพื่อบ่งบอกว่า “มึงปล่อยให้กูลำบากนานเกินไปแล้ว” หรือไม่?

ดังนั้น 7 ส.ค.จึงเป็นวันสำคัญสำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ พลพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงที่จะหลุดพ้นความผิดแต่จะออกมาในรูปแบบไหน ระหว่างการนำเสนอเป็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือการนำเสนอเป็น พ.ร.ก.นิรโทษกรรมล้วนแต่เป็นความพยายามของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กำลังจะปรากฏภาพชัด!

เพราะล่าสุดหากมีอุบัติเหตุทางการเมือง หรือการต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่รุนแรง ก็มีแนวโน้มว่านายกฯ ยิ่งลักษณ์จะสั่งให้มีการถอดแม้น ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะหนุนให้เดินหน้าต่อก็ตาม และหันมาพิจารณาผลักดัน พ.ร.ก.นิรโทษกรรมแทนก็เป็นได้

“แต่รัฐบาลอาจจะมีการเสนอเป็น พ.ร.ก.นิรโทษกรรมแทน เพราะเร็วกว่า และสามารถทำได้ทันที เพราะพ.ร.ก.ออกได้โดยมติคณะรัฐมนตรี” แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ระบุ

อย่าลืมว่าคลิปถั่งเช่าที่หลุดออกมา ก็เปิดเผยความลับอย่างที่สุดมาแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องการที่จะผลักดันการล้างผิดด้วย พ.ร.ก. โดยตอนแรกกะจะให้พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา นำเรื่องนี้เข้าสู่การประชุมสภากลาโหม และประชุมสภาความมั่นคง และเนียนๆ ทำเป็นเสนอให้รัฐบาลออกเป็น พ.ร.ก.นิรโทษกรรม เพื่อให้ภาพสวยหรูว่าทหารอยากให้เกิดการปรองดอง ไม่ได้เป็นความคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซ้ำด้วยล่าสุดที่นายวรชัย เหมะ ก็มาพูดทำนองว่า ทำพ.ร.ก.ดีกว่าเร็วดี

ส่วน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กับ พ.ร.ก.นิรโทษกรรม ต่างกันอย่างไร? ใครจะได้ประโยชน์? ขณะที่บ้านเมืองจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเป็นเรื่องที่น่าติดตาม

บรรเจิดชี้ทักษิณเดินหน้า “พ.ร.ก.” เตรียมรับวิกฤตการเมือง

รศ.ดร.บรรเจิด สิงคเนติ คณบดีคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่าต้องจับตาดูการเมืองในช่วงนี้ให้ดี เพราะการนำเสนอเรื่องการนิรโทษกรรมเป็นร่าง พ.ร.บ. และร่าง พ.ร.ก.นั้นมีความแตกต่างกัน ซึ่งอยู่ที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเลือกวิธีที่ทำตามขั้นตอน หรือจะเลือกวิธีหักด้ามพร้าด้วยเข่า

โดยการนำเสนอเรื่องการนิรโทษกรรมในรูปแบบ พ.ร.บ.นั้น จะเป็นวิธีที่เลือกดำเนินการตามขั้นตอน คือฝ่ายบริหาร ให้ฝ่ายกฎหมายคือรัฐสภาในการพิจารณากฎหมาย เนื่องจากฝ่ายของพรรคเพื่อไทยมีคะแนนเสียงในรัฐสภาเป็นเสียงข้างมากอยู่แล้ว ก็คาดว่าจะผ่านการพิจารณา รวมถึงในขั้นตอนของการพิจารณาในวุฒิสภาซึ่งก็คาดว่ามีคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคเพื่อไทยในการผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนี้เช่นกัน

แต่ก็ใช่ว่าง่าย!

เพราะจะติดเงื่อนไขที่ ส.ส.และ ส.ว.จำนวน 1 ใน 10 ของสมาชิกรัฐสภาสามารถทำเรื่องร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ เพราะมี 3-4 ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญสามารถวินิจฉัยได้ ประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวขัดต่อเจตจำนงรัฐธรรมนูญ ทั้งนิติรัฐ และนิติธรรม คือหลักความเสมอภาค ที่มีเงื่อนไขให้ใครคนใดคนหนึ่งได้ประโยชน์หลัก

“ยังถือว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นด่านสำคัญที่ไม่ง่ายสำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณที่จะทำอะไรตามต้องการได้”

ส่วนการออกเป็น พ.ร.ก.นิรโทษกรรมนั้น จะเป็นอีกวิธีที่ พ.ต.ท.ทักษิณมีแนวโน้มที่จะดำเนินการไปในทางนี้ได้สูงมาก โดย พ.ร.ก.นั้นสามารถออกได้จากมติคณะรัฐมนตรี และมีผลประกาศใช้ได้ในทันที

เชื่อทักษิณมองช่องโหว่ “พ.ร.ก” ช่วยพ้นผิดได้

การเลือกวิธีนี้ถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ตัดสินใจแล้วที่จะใช้วิธีหักด้ามพร้าด้วยเข่า คือเลือกที่จะเผชิญหน้ากับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

โดยการเดินหน้าเสนอ พ.ร.ก.นั้น มีช่องโหว่สำคัญที่จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หลุดคดีได้แม้จะมีผู้ต่อต้าน กล่าวคือ เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรมเสร็จ ถือว่า พ.ร.ก.นี้จะประกาศใช้ และมีผลบังคับใช้ทันที แม้ว่า ส.ส.และ ส.ว.จำนวน 1 ใน 5 ของรัฐสภาจะสามารถร้องเรียนไปที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ ว่าเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 184 หรือไม่ คือเป็นเรื่องเร่งด่วน ฉุกเฉิน หรือเกี่ยวกับความมั่นคงหรือไม่ ถ้าไม่ก็ถือว่ารัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องออกเป็น พ.ร.ก.และถือว่ากระบวนการดังกล่าวมีความผิดฐานเจตนาขัดรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ดี การออก พ.ร.ก. นี้ก็ยังมีช่องโหว่ที่ใหญ่มาก กล่าวคือ ที่ผ่านมาเคยมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นแล้ว หลังการปฏิวัติรัฐประหารโดย รสช. ที่มีการออกกฎหมายล้างผิดและไม่ได้ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาแต่ พ.ร.ก.ประกาศใช้ไปแล้ว และภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าผิดเพราะขัดกับรัฐธรรมนูญ และต้องมีการกลับมาเข้ากระบวนการของรัฐสภาใหม่ แต่ปรากฏว่าก็มีการส่งเรื่องให้ตุลาการรัฐธรรมนูญตีความว่า การล้างผิดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาระหว่างการร้องเรียนนั้น ถือว่าคณะรัฐประหารถูกล้างผิดไปหรือยัง ปรากฏว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในเวลานั้น ให้ความเห็นว่า ล้างผิดไปแล้วเรียบร้อย

“แม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะพยายามอาศัยการตีความของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องการล้างผิดว่าล้างผิดไปแล้วเพื่อสร้างภาพขาวสะอาดให้ตัวเองได้ในช่องโหว่ที่มี แต่ทางสังคมไม่ใช่เลย จะเกิดวิกฤตทางการเมืองที่ชัดเจน เพราะประชาชนจะรับไม่ได้”

ประเด็นนี้ นายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณเชื่อได้ว่าเคยมีกรณีที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปในทางนั้นในปี พ.ศ. 2534 แต่มองว่าโอกาสจะเกิดขึ้นอีกในเรื่อง พ.ร.ก.นิรโทษกรรมในเรื่องที่จะช่วยล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นไปไม่ได้แล้ว โอกาสของพ.ต.ท.ทักษิณถูกปิดไปแล้ว ด้วยรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่มีการแก้ไขปัญหาตรงนี้ไปแล้ว ซึ่งถ้า พ.ต.ท.ทักษิณยังเดินหน้าเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ล้างผิดให้ตัวเองก็ถือว่าเป็นไปไม่ได้

ถ้าเป็นเช่นนี้คำถามคือ แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณจะได้ประโยชน์อะไร หากมีการถอนการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แล้วเดินหน้า พ.ร.ก.แทน คำตอบอยู่ที่ผลทางการเมืองล้วนๆ

ฟันธง! “ทักษิณ” ต้องการกดดันสถาบัน

ด้าน นายถาวร เสนเนียม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ประเมินว่า ความจริงแล้วตามขั้นตอนจะต้องเดินหน้าเสนอเป็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่การที่ประชาชนไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองที่ทำให้พรรคเพื่อไทยไม่สามารถเดินหน้า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมได้นั้น ก็น่าจะมีการเรียกประชุม ครม.นัดพิเศษเพื่อพิจารณาเป็น พ.ร.ก. ซึ่งรัฐบาลก็จะทำได้ในทันที เพราะการที่ นายวรชัย เหมะ นำมาพูดก็เป็นที่ชัดเจนว่ามีความพยายามที่จะนำเสนอเป็น พ.ร.ก.อย่างมากด้วย

“คุณวรชัยพูดเลยว่า การออก พ.ร.ก.ดีกว่า พ.ร.บ. เพราะมีผลในทางปฏิบัติทางกฎหมายทันที ก็จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้เปรียบ ไปด่าทีหลังก็ไม่เกิดประโยชน์เพราะพ้นผิดแล้ว ดังนั้นมีความชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณก็มีโอกาสให้เดินหน้า พ.ร.ก.นิรโทษกรรมได้มาก และหวังผลทางการเมืองสูง”

ผลทางการเมืองที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการ หากเดินหน้าเป็น พ.ร.ก.นิรโทษกรรมนั้นคือขั้นตอนสุดท้ายก่อนประกาศใช้ เนื่องจากพอมีการอนุมัติโดยคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว จะต้องมีขั้นตอนของการทูลเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธย ซึ่งในขั้นตอนนี้จะมีการตรวจสอบเอกสารจากคณะองคมนตรีก่อน และอาจไม่ผ่านในขั้นตอนนี้ แต่ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณอาจนำเรื่องนี้ไปใช้ในทางการเมือง คือไปบอกประชาชนฝั่งเสื้อแดงว่า ไม่ได้รับความเมตตา ซึ่งแม้ พ.ร.ก.จะนำมาใช้จริงไม่ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปตามกรอบรัฐธรรมนูญที่เป็นเรื่องฉุกเฉิน เรื่องเร่งด่วนของชาติ อย่างภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือความมั่นคง ก็ไม่ได้เข้าองค์ประกอบของการทำ พ.ร.ก.ซึ่งเป็นความผิด

ถ้าผลที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการคือการกดดันสถาบัน พ.ต.ท.ทักษิณก็จะยังคงสั่งเดินหน้าให้ ครม.อนุมัติ พ.ร.ก.นิรโทษกรรมแน่นอน ต้องจับตาดูเรื่องนี้ให้ดี เพราะในขณะนี้จากที่สังเกตแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณมีความเครียดมาก เหมือนคนเกิดอาการทางจิตที่คุมวุฒิภาวะของตัวเองไม่ได้

2 ฝ่ายเช็กข่าวลับตลอด-เตรียมพร้อมรุนแรง!

ในส่วนบรรยากาศทางการเมืองที่มีการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในขณะนี้นั้น นอกจากจะมีการปราศรัยผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ที่ลานกีฬาใต้ทางด่วน บริเวณแยกอุรุพงษ์ ซึ่งวันนี้จะมีการชุมนุมต่อเนื่องไปจนถึงวันพุธ (7 ส.ค.) จากนั้นจะเคลื่อนพลไปที่หน้ารัฐสภา แล้วยังมีการชุมนุมของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่สวนลุมพินี พร้อมๆ กับกระแสข่าวลือเกิดขึ้นมากมายโดยเฉพาะข่าวการปฏิวัติ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นสัญญาณความรุนแรงที่พร้อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กล่าวต่อเรื่องนี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะเดินหน้าเสนอเป็น พ.ร.ก.นิรโทษกรรมได้เช่นกัน โดยสามารถเสนอในการประชุมคณะรัฐมนตรีได้เลย แต่ถ้าทำอย่างนั้นก็ถือว่าคณะรัฐมนตรีเอาตัวเองลงมาเล่นในเกมนี้เอง ซึ่งแน่นอนว่าทาง ส.ว.จะมีการยื่นเรื่องเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ ถ้าเป็นการทำผิดรัฐธรรมนูญ คณะรัฐมนตรีก็ต้องลาออก จะกล้าเสี่ยงไหม อยู่ที่รัฐบาล

ทั้งนี้ กระแสข่าวปฏิวัติที่หนาหูอยู่ในเวลานี้ ถามว่าเป็นไปได้ไหม ส.ว.ไพบูลย์กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในเวลานี้ถือว่าทั้ง 2 ฝ่ายคือฝ่ายสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ และฝ่ายต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ มีการเตรียมพร้อมด้านกำลังของตัวเองไว้แล้ว ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีการสืบข่าวในเชิงลึก และขณะนี้หากเกิดความระแวงขึ้นมาเมื่อไร อุบัติเหตุทางการเมืองจะเกิดขึ้นทันที

“ตอนนี้แวดวงทหาร และแวดวงทางสังคม มีความซับซ้อนมากขึ้น และถ้าเกิดความระแวงต่อกันขึ้นมาเมื่อไร การต่อสู้จากอีกฝั่งหนึ่งจะมีการยกระดับทันที อุบัติเหตุทางการเมืองจะเกิดขึ้นเร็วมาก เพราะแต่ละฝ่ายพร้อมเต็มที่แล้ว อยู่ที่ว่าใครจะชิงลงมือก่อน แต่จะสำเร็จหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง”

ตอนนี้ข่าวลือมีมากก็จริง แต่ทั้งสองฝ่ายก็สืบข่าวในเชิงลับตลอดเวลา และเมื่อไรข่าวที่สืบมาพบว่าอีกฝ่ายเคลื่อนไหวแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิจะตัดสินใจชิงลงมือก่อนได้ทันทีเช่นกัน

ถึงเวลานั้นโอกาสเสียเลือดเสียเนื้อ จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้!!

กำลังโหลดความคิดเห็น