ทุกครั้งที่เกิดเรื่องเน่าๆ ที่เกี่ยวข้องกับ มาเฟีย คุมแหล่งผลประโยชน์ หรือเกิดฆาตกรรมอำพราง ทำไม? "เสธ.ไอซ์" จึงตกเป็นจำเลยของสังคม และ/หรือ กรณีของ เอกยุทธ อัญชันบุตร ก็เช่นเดียวกัน ถูกโยงว่าเป็นฝีมือของซุ้มเขาอีกแล้ว วงในเชื่อ "เอกยุทธ" ซ่อนหลักฐานเด็ดในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของ "ว.5" ณ มัลดีฟส์ ที่สามารถทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์และตระกูลชินวัตรพังได้!
ปฏิบัติการอุ้มบุคคลตามใบสั่ง รวมถึงการเคลียร์สถานที่ที่เป็นอุปสรรคต่อผู้ว่าจ้างนั้น มีเพียงคนไม่กี่กลุ่มที่ทำได้ เช่นเดียวกับการหายตัวไปของคนหลายคนที่เป็นข่าว ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับคนมีสีทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นสีเขียวหรือสีกากี
คดีการอุ้มฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร ที่ตำรวจเค้นจนนายสันติภาพ เพ็งดวง คนขับรถของนายเอกยุทธรับสารภาพว่าได้ลงมือฆ่าเพื่อชิงทรัพย์เงิน 5 ล้านบาท ขณะที่ผู้คนทั่วไปยังเคลือบแคลงเกี่ยวกับผู้ต้องหาในคดีนี้ ที่ดูเหมือนว่าทุกอย่างมันง่ายเกินไปที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้
ขณะเดียวกันในส่วนของความเห็นทนายของนายเอกยุทธอย่างนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ที่กล่าวว่าผู้ต้องหารับสารภาพว่าถูกคนจ้างวานให้ลงมือสังหารนายเอกยุทธ ตนเชื่อมั่นว่านายสันติภาพได้วางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะพบว่าเป็นลูกน้องของ เสธ.คนดัง และได้แฝงตัวเข้ามา แต่ยังไม่ขอตอบว่าเป็นใคร และยังรับราชการอยู่หรือไม่
ส่วนแผนการนั้น จะมีทีมสังหารที่รออยู่ในกรุงเทพฯ และแฝงตัวอยู่ในรถโฟล์กสีดำ หลังจากที่นายสันติภาพขับรถไปส่งนายเอกยุทธที่ร้านอาหารแล้ว จึงวนมารับทีมฆ่า เมื่อนายเอกยุทธกลับเข้ามาในรถก็ถูกล็อกตัวทันที ทั้งนี้กลุ่มเพื่อนของนายสันติภาพที่จังหวัดพัทลุงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับทีมฆ่า ส่วนการเสียชีวิตของนายเอกยุทธจะเชื่อมโยงกับการเมืองหรือไม่นั้นต้องพิจารณาจากพยานหลักฐาน
ใครๆ ก็ชอบโยนความผิดให้ "เสธ.ไอซ์"
อย่างไรก็ดีทุกครั้งที่เกิดคดีในลักษณะนี้ชื่อของเสธ.คนดังมักถูกกล่าวถึงอยู่เป็นประจำ แม้จะไม่มีการเปิดเผยชื่อ แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเสธ.คนดังนั้น จะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก พลเอกไตรรงค์ อินทรทัต หรือเสธ.ไอซ์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ผู้กว้างขวางในวงการนี้
อีกทั้งถ้าเรื่องใดเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยแล้ว เสธ.ไอซ์ จะยิ่งถูกพาดพิงหรือถูกขีดวงว่าเป็นซุ้มจากทีมเสธ.ไอซ์ทั้งสิ้น
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเสธ.ไอซ์ เป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และมีความสนิทสนมกันโดยได้รับความไว้วางใจให้รับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ด้านความมั่นคง และงานมวลชนสัมพันธ์ ในรัฐบาลทักษิณ
เห็นได้จากคดีลอบสังหารนายกรเทพ วิริยะ หรือ "ชิปปิ้งหมู" ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญในคดีทุจริตของรัฐบาลทักษิณ เสธ.ไอซ์ก็ถูกมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงในการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงแผ่นดิน พ.ศ. 2553 ที่มีการวางระเบิดและเหตุความรุนแรงหลายครั้งในหลายจุด ก็ถูกมองว่าเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
อีกทั้งเมื่อครั้งเสื้อแดงชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบพบกลุ่มบุคคลและนิติบุคคล มีการเคลื่อนไหวในการทำธุรกรรมทางการเงินผิดปกติ ที่คาดว่าอาจเข้ามาสนับสนุนการชุมนุม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเครือข่ายของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเสธ.ไอซ์
รวมไปถึงเหตุการณ์อุ้มเพื่อปลิดชีวิตของนายเอกยุทธ ก็ถูกสร้างกระแส เชื่อมโยงและพุ่งเป้าไปที่ เสธ.ไอซ์อีกเช่นกัน
“เสธ.คนดังจึงถูกเชื่อมโยงว่าอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ด้วยเหตุที่เอกยุทธเป็นบุคคลที่มีแนวคิดต่อต้านทักษิณ ชินวัตร มาโดยตลอดและต่อเนื่องมาจนถึงรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงคาดกันไปถึงว่าคนจากแดนไกลที่ใกล้ชิดกับเสธ.ไอซ์ ต้องการยุติปัญหาที่จะตามมาหากปล่อยให้เอกยุทธที่กำความลับบางประการเมื่อครั้งที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์เดินทางไปเยือนมัลดีฟส์ และอาจจะทำให้รัฐบาลของน้องสาวอยู่ในสถานที่เสี่ยงต่อการถูกล้มได้เช่นกัน” แหล่งข่าวระบุ
ขณะเดียวกัน การปลิดชีวิตของนายเอกยุทธ ก็เท่ากับเป็นการปิดฉากหลักฐานทั้งหมดที่จะมาโจมตี เพราะเชื่อกันว่านายเอกยุทธ เป็นพยานปากเอกที่จะช่วยให้พรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าเอาผิดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้
โดยข้อมูลที่คาดว่าได้มีการนำเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์ก็คือเหตุการณ์ ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ ยังเป็นเพียงแค่จุดเดียว แต่เหตุการณ์ที่มัลดีฟส์ จะหนักแน่นที่โชว์ความสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนในทางธุรกิจเกิดขึ้นได้ จากนโยบายการลงทุนด้านระบบสาธารณูปโภคของรัฐ ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์พยายามผลักดันให้เกิดโดยเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท และโครงการระบบน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เป็นต้น
“เอกยุทธ ลงทุนจ้างปาปารัซซี ตามเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้แล้ว และบางส่วนเอกยุทธได้เขียนไว้ใน facebook/Akeyuth Anchanbutr กับ www.Thaiinsider.com เพื่อให้สังคมออนไลน์ได้รับรู้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น"
แหล่งข่าวระบุว่า เชื่อมั่นว่ายังมีหลักฐานที่สามารถมัดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้แน่นอน เพียงแต่ว่าหลักฐานดังกล่าวนายเอกยุทธ ไปเก็บไว้ที่ใดบ้าง หรือฝากกับใครไว้ เพราะคนที่มีศัตรูมากย่อมจะรู้ช่องทางเก็บหลักฐานไว้เพื่อเปิดโปงหากเกิดอะไรขึ้นกับเขา
แม้ว่าผู้สั่งการ หรือผู้กระทำการปลิดชีวิตนายเอกยุทธ อาจเชื่อว่าหลักฐานจะตายไปกับนายเอกยุทธก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงอาจมีอยู่ และถ้าหลักฐานนี้ถูกเปิดขึ้นมา รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ต้องปิดฉากตัวเองเช่นกัน
ขณะที่โครงการเงินกู้ หรือโครงการต่างๆ ที่จะสร้างผลประโยชน์ตามมานั้นต้องสูญหายไป
แต่สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่ากับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หมดโอกาสที่จะได้กลับประเทศ และ/หรือได้เงินที่รัฐยึดไปแล้วกลับคืนมา คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
คดีเอกยุทธสาวไม่ถึงจอมบงการ!
ดังนั้นแม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามหาหลักฐาน และมุ่งคดีของนายเอกยุทธ แค่ประเด็นเรื่องของการชิงทรัพย์เท่านั้น แต่ผู้คนในสังคมจำนวนหนึ่งกลับมองไปถึงเสธ.ไอซ์ และยังเชื่อมั่นว่าคดีนี้มีการตัดตอนเกิดขึ้นแน่ที่จะไม่สามารถสาวให้ถึงจอมบงการตัวจริงได้เช่นกัน
“แต่ละคนที่เกี่ยวข้องในทีม จะรู้แค่ในระดับของตัวเอง ส่วนใครสั่งการสูงสุดไม่มีทางรู้ได้ เพราะแต่ละทีมจะมีหัวหน้าหน่วยของตัวเองรับผิดชอบเป็นทอดๆ ไป เขาถึงเรียกว่าเป็นการตัดตอน อย่างสันติภาพก็จะรู้แค่นั้นเช่นกัน” แหล่งข่าวจากสีกากีระบุ
พิจารณาได้จากในหลายคดีดังที่ผู้คนมองกันว่าจะมีชื่อของเสธ.ไอซ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นคดีที่เกิดขึ้นจากบุคคลในระดับที่เรียกว่ว เสธ.หรือระดับผู้กอง กับคดีต่างๆ ทั้งเรื่องรื้อบาร์เบียร์ หรือคดีไล่รื้อชาวบ้านสมาชิกเครือข่ายสภาประชาชน 4 ภาคในพื้นที่ของบริษัทไทยเมลอน รวมถึงเรื่องของตลาดคลองเตย
แต่ทุกคดีล้วนแล้วมีบุคคลที่เข้ามารับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นเสธ.หิ ผู้กองนัส ซึ่งไม่มีเสธ.ไอซ์ เข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรง แต่หลายคนกลับพูดถึงเสธ.ไอซ์ในแง่ของการให้ความเคารพหรือเป็นลูกน้องกันมาก่อน
อย่างกรณีคดีลอบสังหารนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี และอดีตประธานศาลฎีกา ที่หนึ่งในผู้ต้องหาคือ น.อ.จักรกฤษณ์ เสขะนันท์ หรือ เสธ.เป๊ก ผอ.กองวิทยาการกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ที่มีการกล่าวอ้างว่าใกล้ชิดกับเสธ.ไอซ์
ในครั้งนั้น พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวว่า ไม่สบายใจในเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีการออกข่าวระบุว่า น.อ.จักรกฤษณ์ มีความใกล้ชิดกับตน อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่รู้จัก น.อ.จักรกฤษณ์ เป็นการส่วนตัว แต่ยอมรับว่าเคยมีความสนิทสนมกับนายทหารบกที่ชื่อ "เสธ.เป๊ก" ซึ่งมีชื่อเล่นเหมือนกับ น.อ.จักรกฤษณ์ อาจเป็นไปได้ว่าจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น
ดังนั้นแม้หลายครั้งหลายคราที่ชื่อของเสธ.ไอซ์ถูกเชื่อมโยงเข้ากับเหตุการณ์สำคัญต่างๆ แต่กลับไม่พบคดีความเหล่านี้กับเสธ.ไอซ์
“ผมเป็นทหาร มีศักดิ์ศรี ผมไม่เคยยุ่งกับใคร และผมไม่เคยกลัวใครเหมือนกัน ดังนั้นจะทำอะไรทำกันบนดิน นักการเมืองใหญ่ควรจะเล่นการเมืองในรัฐสภา อย่าเป็นนักการเมืองข้างถนน ผมไม่ท้อหรอก กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ที่ผมพูดก็พูดด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยคิดจะด่าว่าหรือเป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น เมื่อมีการพาดพิงมาถึงตัวผม ก็เป็นสิทธิของผมเหมือนกันว่าต้องแถลงความบริสุทธิ์ของตัวผม มีหลายคนบอกว่าอย่าพูดดีกว่า แต่ผมบอกว่า ผมพูดดีกว่า เมื่อเราพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็ขอพูดครั้งเดียวให้จบไป” นี่เป็นถ้อยคำของ เสธ.ไอซ์ ที่เคยระบุไว้
ข้อมูลลับ “ยิ่งลักษณ์-เจ้าพ่อแสนสิริ”
แหล่งข่าวระบุว่า นายเอกยุทธมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับพรรคประชาธิปัตย์ไว้ระดับหนึ่งเพื่อเตรียมให้พรรคประชาธิปัตย์เปิดข้อมูล “ลับ” ที่เกาะมัลดีฟส์ โดยทั้งเอกยุทธ และประชาธิปัตย์ เชื่อมั่นอย่างมากว่าจะเป็น “ข้อมูลเด็ดที่สุดเท่าที่เคยมีมา” และแสดงให้เห็นถึงการคอร์รัปชันของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่จะถึงขั้นล้มรัฐบาลได้
ข้อมูลเด็ดนั้น แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ต้องเชื่อมโยง “ยิ่งลักษณ์-ชินวัตร” และ “เศรษฐา ทวีสิน” อย่างมิต้องสงสัย
อย่าลืมว่า นายเศรษฐา ทวีสิน ถูกแฉขึ้นมาว่ามีความสัมพันธ์พิเศษกับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ก็จากการเปิดเผยของเอกยุทธคนนี้เอง ทำให้กรณี ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ ถูกพูดถึงในทางเสียหายอย่างสุดขั้วตั้งแต่เกิดเรื่อง คือในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน
ในวันที่ 1 มิถุนายน 2556 เขายังเปิดเผยเรื่อง “ลับ” ของ “ยิ่งลักษณ์-เศรษฐา” ที่ไม่ควรให้ “โลก” รู้ขึ้นมาอีกที่เกาะสวาทหาดสวรรค์อย่างมัลดีฟส์
การเจอกันทุกครั้งของ ยิ่งลักษณ์-เศรษฐา กระหึ่มในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนพอๆ กับเรื่องความสัมพันธ์พิเศษ
โดยแสนสิริเริ่มต้นพัฒนาที่ดินมาตั้งแต่ปี 2531 โดยเริ่มจากการพัฒนาคอนโดฯ ก่อนขยายมาสู่บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์ระดับกลาง-บน ล่าสุดกำลังขยายฐานลูกค้าในตลาดแมสด้วยแบรนด์คอนโดฯ "ดีคอนโด-เดอะเบส" กับแนวราบ "คณาสิริ-เมททาวน์" โดยปี 2556 นี้จะเปิดโครงการทุกเซกเมนต์รวมกัน 45 โครงการ รวมมูลค่าขายกว่า 6.1 หมื่นล้านบาท
25 ปีของการดำเนินงานของบริษัท แสนสิริ ประสบผลชัดว่าปี 2555 ที่ผ่านมา แสนสิริทำยอดขายทุบสถิติไปที่ 4.26 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 3 หมื่นล้านบาท สูงสุดในวงการอสังหาฯ โดยในไตรมาสแรกของปีนี้สามารถทำยอดพรีเซลได้แล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายปี 2556 ที่ 4.8 หมื่นล้านบาท
แรงประสบความสำเร็จของ “แสนสิริ” ย่อมถูกเมาท์กันให้แซดว่า เศรษฐา เขาคือ “Insider” ตัวจริง รู้ข้อมูลโครงการรัฐบาลก่อนใคร ตีคู่ผลประโยชน์อสังหาริมทรัพย์คู่ “เอสซี แอสเสท”
อย่าลืมว่าช่วงเหตุการณ์ ว.5 โฟร์ซีซั่นส์สั่นสะเทือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างมาก ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องชู้สาว แต่เป็นเรื่องแผนการจัดการน้ำท่วมของรัฐบาล ที่ภายหลังเป็นรูปเป็นร่างที่เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทเพื่อวางระบบน้ำใหม่ทั้งประเทศ พื้นที่ไหนเป็นพื้นที่รับน้ำ พื้นที่ไหนจะมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ “เศรษฐา” รู้ก่อนเพื่อน
ช่วงเกิดวิกฤตน้ำท่วม การที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ยอมผันน้ำไปทางทิศตะวันออก แต่กลับผันน้ำไปทางทิศตะวันตกแทน ทั้งๆ ที่ทิศตะวันออกเป็นพื้นที่รับน้ำนั้น เป็นกรณีที่เห็นได้ชัดว่าเอื้อประโยชน์ให้โครงการของบริษัท เอสซี แอสเสท และบริษัท แสนสิริ ไปเต็มๆ เพราะทั้ง 2 บริษัทมีโครงการจำนวนมากในพื้นที่ทางตะวันออกของกรุงเทพมหานคร
ไปดูชื่อกรรมการอิสระของบริษัท แสนสิริ เวลานี้ยังพบชื่อ “นายมานะ นพพันธ์” อดีตรองปลัดกรุงเทพมหานคร และเป็นอดีตผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ กทม. มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาคณะทำงานบริหารจัดการระบบน้ำในพื้นที่ที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง เพื่อร่วมพิจารณาผลกระทบจากการเปิดประตูระบายคลองสามวา เนื่องจากอาจกระทบกับนิคมอุตสาหกรรมบางชัน รวมถึงพื้นที่จาก 3 เขต คือ บางกะปิ สะพานสูง บึงกุ่ม เพราะเป็นพื้นที่ติดคลองแสนแสบที่รับน้ำโดยตรง
“นายมานะ นพพันธ์” วันนี้ทำงานให้แสนสิริอย่างเปิดเผย
ความเป็น Insider ของแสนสิริ ทำให้แสนสิริขึ้นสู่ความเป็น “บิ๊กทรี” ด้านอสังหาฯที่ชัดเจนขึ้น ร่วมกับพฤกษาฯ และแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และในช่วงน้ำท่วมปี 2554 ที่พฤกษาฯ และแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ถึงกับแพ้แสนสิริด้านยอดขาย
นายอนันต์ อัศวโภคิน สนิทกับ พ.ต.ท.ทักษิณแค่ไหน เป็นที่รับรู้กันอยู่แล้ว แต่ก็ยังถือว่าแพ้ความสัมพันธ์ระหว่าง ยิ่งลักษณ์-เศรษฐา
นอกจากนี้ เศรษฐา ยังประกาศรุกเจาะอสังหาริมทรัพย์ ทุกตลาดทุกเซกเมนต์ ไม่เว้นตลาดเฉพาะหรือนิช มาร์เกต ตั้งแต่ คอนโดมิเนียมระดับกลาง ราคา 1-2 ล้านบาท, ตลาดบ้านหรูที่ปี 2556 ผุด 4 แบรนด์ใหม่ในชื่อ “นาราสิริ” มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท, บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ระดับราคา 3 ล้านบาท โดยเน้นการเจาะตลาดอสังหาฯ ภูธรในหัวเมืองใหญ่ ที่มีแผนจะเปิด 10 โครงการใหม่ 11 ทำเล ได้แก่ ระยอง อุดรธานี มหาสารคาม หาดใหญ่
ทั้งพิษณุโลก สุราษฎร์ธานี กาญจนบุรี และอุบลราชธานี
มัลดีฟส์ กับผลประโยชน์ทับซ้อน
จุดนี้แหละคือสิ่งสำคัญของการเจรจาแบบตัวต่อตัวที่ “มัลดีฟส์” เพราะหลังจากกว้านซื้อที่ดินเตรียมพัฒนาไว้พร้อมหมดแล้วสำหรับโครงการน้ำท่วม 3.5 แสนล้าน คิวต่อไปคือการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่รัฐบาลกำลังเดินหน้า พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนของรถไฟฟ้าความเร็วสูง
รถไฟฟ้าความเร็วสูงนั้น รัฐบาลมีแผนลงทุนเฟสแรกด้วยเงิน 783,229 ล้านบาท ประกอบด้วย1.เส้นทางกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทาง 382 กิโลเมตร 2.เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา 3.เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 225 กิโลเมตร และ 4.เส้นทางกรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา-ระยอง ระยะทาง 221 กิโลเมตร ส่วนเฟสที่ 2 จะมี 3 สายทาง โดยเชื่อมต่อจากพิษณุโลก -เชียงใหม่, นครราชสีมา-หนองคาย, อำเภอหัวหิน-ปาดังเบซาร์
ไปๆ มาๆ ข้อมูลถูกพลิกและสรุปให้เห็นว่า สายที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะทำก่อนเพื่อนคือ เส้นทางกรุงเทพฯ-พิษณุโลก และเชื่อมต่อไปให้ถึงจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยเหตุผลทางการเมืองของคนตระกูลชินวัตรล้วนๆ ที่แม้กระทั่ง EIRR หรือการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจของเส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย จะมากกว่ากรุงเทพฯ-เชียงใหม่ หลายเปอร์เซ็นต์ในการศึกษาที่ผ่านมา แต่รัฐบาลชัดเจนว่าจะต้องทำ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เป็นเป้าหมายหลัก
อย่าลืมว่า 2 พื้นที่ที่จะเป็นสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่สำคัญทั้ง พิษณุโลก และเชียงใหม่ วันนี้ “แสนสิริ” ก็กรุยทางไว้หมดแล้ว รวมถึงเส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ที่มีแนวโน้มสร้างเป็นเส้นที่ 2 โดยที่หนองคาย แสนสิริได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เดอะเบส ไฮต์-อุดรธานี” ส่วนเชียงใหม่และขอนแก่นก็เป็นพื้นที่ที่แสนสิริวางเป้าไว้ว่าจะผุดโครงการมากถึง 40% ของโครงการรวมทั้งหมดด้วย
อย่าลืมอีกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เคยเป็นผู้บริหารสูงสุดธุรกิจอสังหาฯ มาก่อน ที่ดินตรงไหนเป็นทำเลทอง นายกฯ ยิ่งลักษณ์คงไม่ต้องใช้ให้ใครเขียนโพยให้
ที่สำคัญประชาชนต้องจับตาดูสถานีต่างๆ ของโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ และมอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะถูกออกแบบในที่ดินของนักธุรกิจคนใดบ้างที่ไปกว้านซื้อไว้ก่อนล่วงหน้า !!!
ดังนั้นการปลิดชีวิตนายเอกยุทธ อัญชันบุตร อย่างโหดเหี้ยมก็อาจจะเป็นดาบสองคมในการปลุกพลังคนไทยผู้รักชาติให้ออกมาต่อสู้ ขับไล่จอมบงการ หรืออาจจะทำให้คนที่เคยคิดจะโค่นรัฐบาลยิ่งลักษณ์เกิดความหวั่นวิตกและยุติบทบาทก็เป็นได้...
ขณะเดียวกันที่มีการพยายามเชื่อมโยงว่า เสธ.ไอซ์ เป็นผู้เกี่ยวข้องกับการปลิดชีวิตนายเอกยุทธ ก็อาจจะไม่ใช่ตามกระแสข่าวที่มีการพาดพิงก็ได้...ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูจากนี้ไป !
ปฏิบัติการอุ้มบุคคลตามใบสั่ง รวมถึงการเคลียร์สถานที่ที่เป็นอุปสรรคต่อผู้ว่าจ้างนั้น มีเพียงคนไม่กี่กลุ่มที่ทำได้ เช่นเดียวกับการหายตัวไปของคนหลายคนที่เป็นข่าว ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับคนมีสีทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นสีเขียวหรือสีกากี
คดีการอุ้มฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร ที่ตำรวจเค้นจนนายสันติภาพ เพ็งดวง คนขับรถของนายเอกยุทธรับสารภาพว่าได้ลงมือฆ่าเพื่อชิงทรัพย์เงิน 5 ล้านบาท ขณะที่ผู้คนทั่วไปยังเคลือบแคลงเกี่ยวกับผู้ต้องหาในคดีนี้ ที่ดูเหมือนว่าทุกอย่างมันง่ายเกินไปที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้
ขณะเดียวกันในส่วนของความเห็นทนายของนายเอกยุทธอย่างนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ที่กล่าวว่าผู้ต้องหารับสารภาพว่าถูกคนจ้างวานให้ลงมือสังหารนายเอกยุทธ ตนเชื่อมั่นว่านายสันติภาพได้วางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะพบว่าเป็นลูกน้องของ เสธ.คนดัง และได้แฝงตัวเข้ามา แต่ยังไม่ขอตอบว่าเป็นใคร และยังรับราชการอยู่หรือไม่
ส่วนแผนการนั้น จะมีทีมสังหารที่รออยู่ในกรุงเทพฯ และแฝงตัวอยู่ในรถโฟล์กสีดำ หลังจากที่นายสันติภาพขับรถไปส่งนายเอกยุทธที่ร้านอาหารแล้ว จึงวนมารับทีมฆ่า เมื่อนายเอกยุทธกลับเข้ามาในรถก็ถูกล็อกตัวทันที ทั้งนี้กลุ่มเพื่อนของนายสันติภาพที่จังหวัดพัทลุงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับทีมฆ่า ส่วนการเสียชีวิตของนายเอกยุทธจะเชื่อมโยงกับการเมืองหรือไม่นั้นต้องพิจารณาจากพยานหลักฐาน
ใครๆ ก็ชอบโยนความผิดให้ "เสธ.ไอซ์"
อย่างไรก็ดีทุกครั้งที่เกิดคดีในลักษณะนี้ชื่อของเสธ.คนดังมักถูกกล่าวถึงอยู่เป็นประจำ แม้จะไม่มีการเปิดเผยชื่อ แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเสธ.คนดังนั้น จะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก พลเอกไตรรงค์ อินทรทัต หรือเสธ.ไอซ์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ผู้กว้างขวางในวงการนี้
อีกทั้งถ้าเรื่องใดเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยแล้ว เสธ.ไอซ์ จะยิ่งถูกพาดพิงหรือถูกขีดวงว่าเป็นซุ้มจากทีมเสธ.ไอซ์ทั้งสิ้น
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเสธ.ไอซ์ เป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และมีความสนิทสนมกันโดยได้รับความไว้วางใจให้รับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ด้านความมั่นคง และงานมวลชนสัมพันธ์ ในรัฐบาลทักษิณ
เห็นได้จากคดีลอบสังหารนายกรเทพ วิริยะ หรือ "ชิปปิ้งหมู" ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญในคดีทุจริตของรัฐบาลทักษิณ เสธ.ไอซ์ก็ถูกมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงในการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงแผ่นดิน พ.ศ. 2553 ที่มีการวางระเบิดและเหตุความรุนแรงหลายครั้งในหลายจุด ก็ถูกมองว่าเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
อีกทั้งเมื่อครั้งเสื้อแดงชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบพบกลุ่มบุคคลและนิติบุคคล มีการเคลื่อนไหวในการทำธุรกรรมทางการเงินผิดปกติ ที่คาดว่าอาจเข้ามาสนับสนุนการชุมนุม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเครือข่ายของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเสธ.ไอซ์
รวมไปถึงเหตุการณ์อุ้มเพื่อปลิดชีวิตของนายเอกยุทธ ก็ถูกสร้างกระแส เชื่อมโยงและพุ่งเป้าไปที่ เสธ.ไอซ์อีกเช่นกัน
“เสธ.คนดังจึงถูกเชื่อมโยงว่าอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ด้วยเหตุที่เอกยุทธเป็นบุคคลที่มีแนวคิดต่อต้านทักษิณ ชินวัตร มาโดยตลอดและต่อเนื่องมาจนถึงรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงคาดกันไปถึงว่าคนจากแดนไกลที่ใกล้ชิดกับเสธ.ไอซ์ ต้องการยุติปัญหาที่จะตามมาหากปล่อยให้เอกยุทธที่กำความลับบางประการเมื่อครั้งที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์เดินทางไปเยือนมัลดีฟส์ และอาจจะทำให้รัฐบาลของน้องสาวอยู่ในสถานที่เสี่ยงต่อการถูกล้มได้เช่นกัน” แหล่งข่าวระบุ
ขณะเดียวกัน การปลิดชีวิตของนายเอกยุทธ ก็เท่ากับเป็นการปิดฉากหลักฐานทั้งหมดที่จะมาโจมตี เพราะเชื่อกันว่านายเอกยุทธ เป็นพยานปากเอกที่จะช่วยให้พรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าเอาผิดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้
โดยข้อมูลที่คาดว่าได้มีการนำเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์ก็คือเหตุการณ์ ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ ยังเป็นเพียงแค่จุดเดียว แต่เหตุการณ์ที่มัลดีฟส์ จะหนักแน่นที่โชว์ความสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนในทางธุรกิจเกิดขึ้นได้ จากนโยบายการลงทุนด้านระบบสาธารณูปโภคของรัฐ ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์พยายามผลักดันให้เกิดโดยเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท และโครงการระบบน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เป็นต้น
“เอกยุทธ ลงทุนจ้างปาปารัซซี ตามเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้แล้ว และบางส่วนเอกยุทธได้เขียนไว้ใน facebook/Akeyuth Anchanbutr กับ www.Thaiinsider.com เพื่อให้สังคมออนไลน์ได้รับรู้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น"
แหล่งข่าวระบุว่า เชื่อมั่นว่ายังมีหลักฐานที่สามารถมัดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้แน่นอน เพียงแต่ว่าหลักฐานดังกล่าวนายเอกยุทธ ไปเก็บไว้ที่ใดบ้าง หรือฝากกับใครไว้ เพราะคนที่มีศัตรูมากย่อมจะรู้ช่องทางเก็บหลักฐานไว้เพื่อเปิดโปงหากเกิดอะไรขึ้นกับเขา
แม้ว่าผู้สั่งการ หรือผู้กระทำการปลิดชีวิตนายเอกยุทธ อาจเชื่อว่าหลักฐานจะตายไปกับนายเอกยุทธก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงอาจมีอยู่ และถ้าหลักฐานนี้ถูกเปิดขึ้นมา รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ต้องปิดฉากตัวเองเช่นกัน
ขณะที่โครงการเงินกู้ หรือโครงการต่างๆ ที่จะสร้างผลประโยชน์ตามมานั้นต้องสูญหายไป
แต่สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่ากับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หมดโอกาสที่จะได้กลับประเทศ และ/หรือได้เงินที่รัฐยึดไปแล้วกลับคืนมา คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
คดีเอกยุทธสาวไม่ถึงจอมบงการ!
ดังนั้นแม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามหาหลักฐาน และมุ่งคดีของนายเอกยุทธ แค่ประเด็นเรื่องของการชิงทรัพย์เท่านั้น แต่ผู้คนในสังคมจำนวนหนึ่งกลับมองไปถึงเสธ.ไอซ์ และยังเชื่อมั่นว่าคดีนี้มีการตัดตอนเกิดขึ้นแน่ที่จะไม่สามารถสาวให้ถึงจอมบงการตัวจริงได้เช่นกัน
“แต่ละคนที่เกี่ยวข้องในทีม จะรู้แค่ในระดับของตัวเอง ส่วนใครสั่งการสูงสุดไม่มีทางรู้ได้ เพราะแต่ละทีมจะมีหัวหน้าหน่วยของตัวเองรับผิดชอบเป็นทอดๆ ไป เขาถึงเรียกว่าเป็นการตัดตอน อย่างสันติภาพก็จะรู้แค่นั้นเช่นกัน” แหล่งข่าวจากสีกากีระบุ
พิจารณาได้จากในหลายคดีดังที่ผู้คนมองกันว่าจะมีชื่อของเสธ.ไอซ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นคดีที่เกิดขึ้นจากบุคคลในระดับที่เรียกว่ว เสธ.หรือระดับผู้กอง กับคดีต่างๆ ทั้งเรื่องรื้อบาร์เบียร์ หรือคดีไล่รื้อชาวบ้านสมาชิกเครือข่ายสภาประชาชน 4 ภาคในพื้นที่ของบริษัทไทยเมลอน รวมถึงเรื่องของตลาดคลองเตย
แต่ทุกคดีล้วนแล้วมีบุคคลที่เข้ามารับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นเสธ.หิ ผู้กองนัส ซึ่งไม่มีเสธ.ไอซ์ เข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรง แต่หลายคนกลับพูดถึงเสธ.ไอซ์ในแง่ของการให้ความเคารพหรือเป็นลูกน้องกันมาก่อน
อย่างกรณีคดีลอบสังหารนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี และอดีตประธานศาลฎีกา ที่หนึ่งในผู้ต้องหาคือ น.อ.จักรกฤษณ์ เสขะนันท์ หรือ เสธ.เป๊ก ผอ.กองวิทยาการกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ที่มีการกล่าวอ้างว่าใกล้ชิดกับเสธ.ไอซ์
ในครั้งนั้น พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวว่า ไม่สบายใจในเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีการออกข่าวระบุว่า น.อ.จักรกฤษณ์ มีความใกล้ชิดกับตน อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่รู้จัก น.อ.จักรกฤษณ์ เป็นการส่วนตัว แต่ยอมรับว่าเคยมีความสนิทสนมกับนายทหารบกที่ชื่อ "เสธ.เป๊ก" ซึ่งมีชื่อเล่นเหมือนกับ น.อ.จักรกฤษณ์ อาจเป็นไปได้ว่าจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น
ดังนั้นแม้หลายครั้งหลายคราที่ชื่อของเสธ.ไอซ์ถูกเชื่อมโยงเข้ากับเหตุการณ์สำคัญต่างๆ แต่กลับไม่พบคดีความเหล่านี้กับเสธ.ไอซ์
“ผมเป็นทหาร มีศักดิ์ศรี ผมไม่เคยยุ่งกับใคร และผมไม่เคยกลัวใครเหมือนกัน ดังนั้นจะทำอะไรทำกันบนดิน นักการเมืองใหญ่ควรจะเล่นการเมืองในรัฐสภา อย่าเป็นนักการเมืองข้างถนน ผมไม่ท้อหรอก กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ที่ผมพูดก็พูดด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยคิดจะด่าว่าหรือเป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น เมื่อมีการพาดพิงมาถึงตัวผม ก็เป็นสิทธิของผมเหมือนกันว่าต้องแถลงความบริสุทธิ์ของตัวผม มีหลายคนบอกว่าอย่าพูดดีกว่า แต่ผมบอกว่า ผมพูดดีกว่า เมื่อเราพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็ขอพูดครั้งเดียวให้จบไป” นี่เป็นถ้อยคำของ เสธ.ไอซ์ ที่เคยระบุไว้
ข้อมูลลับ “ยิ่งลักษณ์-เจ้าพ่อแสนสิริ”
แหล่งข่าวระบุว่า นายเอกยุทธมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับพรรคประชาธิปัตย์ไว้ระดับหนึ่งเพื่อเตรียมให้พรรคประชาธิปัตย์เปิดข้อมูล “ลับ” ที่เกาะมัลดีฟส์ โดยทั้งเอกยุทธ และประชาธิปัตย์ เชื่อมั่นอย่างมากว่าจะเป็น “ข้อมูลเด็ดที่สุดเท่าที่เคยมีมา” และแสดงให้เห็นถึงการคอร์รัปชันของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่จะถึงขั้นล้มรัฐบาลได้
ข้อมูลเด็ดนั้น แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ต้องเชื่อมโยง “ยิ่งลักษณ์-ชินวัตร” และ “เศรษฐา ทวีสิน” อย่างมิต้องสงสัย
อย่าลืมว่า นายเศรษฐา ทวีสิน ถูกแฉขึ้นมาว่ามีความสัมพันธ์พิเศษกับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ก็จากการเปิดเผยของเอกยุทธคนนี้เอง ทำให้กรณี ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ ถูกพูดถึงในทางเสียหายอย่างสุดขั้วตั้งแต่เกิดเรื่อง คือในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน
ในวันที่ 1 มิถุนายน 2556 เขายังเปิดเผยเรื่อง “ลับ” ของ “ยิ่งลักษณ์-เศรษฐา” ที่ไม่ควรให้ “โลก” รู้ขึ้นมาอีกที่เกาะสวาทหาดสวรรค์อย่างมัลดีฟส์
การเจอกันทุกครั้งของ ยิ่งลักษณ์-เศรษฐา กระหึ่มในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนพอๆ กับเรื่องความสัมพันธ์พิเศษ
โดยแสนสิริเริ่มต้นพัฒนาที่ดินมาตั้งแต่ปี 2531 โดยเริ่มจากการพัฒนาคอนโดฯ ก่อนขยายมาสู่บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์ระดับกลาง-บน ล่าสุดกำลังขยายฐานลูกค้าในตลาดแมสด้วยแบรนด์คอนโดฯ "ดีคอนโด-เดอะเบส" กับแนวราบ "คณาสิริ-เมททาวน์" โดยปี 2556 นี้จะเปิดโครงการทุกเซกเมนต์รวมกัน 45 โครงการ รวมมูลค่าขายกว่า 6.1 หมื่นล้านบาท
25 ปีของการดำเนินงานของบริษัท แสนสิริ ประสบผลชัดว่าปี 2555 ที่ผ่านมา แสนสิริทำยอดขายทุบสถิติไปที่ 4.26 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 3 หมื่นล้านบาท สูงสุดในวงการอสังหาฯ โดยในไตรมาสแรกของปีนี้สามารถทำยอดพรีเซลได้แล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายปี 2556 ที่ 4.8 หมื่นล้านบาท
แรงประสบความสำเร็จของ “แสนสิริ” ย่อมถูกเมาท์กันให้แซดว่า เศรษฐา เขาคือ “Insider” ตัวจริง รู้ข้อมูลโครงการรัฐบาลก่อนใคร ตีคู่ผลประโยชน์อสังหาริมทรัพย์คู่ “เอสซี แอสเสท”
อย่าลืมว่าช่วงเหตุการณ์ ว.5 โฟร์ซีซั่นส์สั่นสะเทือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างมาก ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องชู้สาว แต่เป็นเรื่องแผนการจัดการน้ำท่วมของรัฐบาล ที่ภายหลังเป็นรูปเป็นร่างที่เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทเพื่อวางระบบน้ำใหม่ทั้งประเทศ พื้นที่ไหนเป็นพื้นที่รับน้ำ พื้นที่ไหนจะมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ “เศรษฐา” รู้ก่อนเพื่อน
ช่วงเกิดวิกฤตน้ำท่วม การที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ยอมผันน้ำไปทางทิศตะวันออก แต่กลับผันน้ำไปทางทิศตะวันตกแทน ทั้งๆ ที่ทิศตะวันออกเป็นพื้นที่รับน้ำนั้น เป็นกรณีที่เห็นได้ชัดว่าเอื้อประโยชน์ให้โครงการของบริษัท เอสซี แอสเสท และบริษัท แสนสิริ ไปเต็มๆ เพราะทั้ง 2 บริษัทมีโครงการจำนวนมากในพื้นที่ทางตะวันออกของกรุงเทพมหานคร
ไปดูชื่อกรรมการอิสระของบริษัท แสนสิริ เวลานี้ยังพบชื่อ “นายมานะ นพพันธ์” อดีตรองปลัดกรุงเทพมหานคร และเป็นอดีตผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ กทม. มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาคณะทำงานบริหารจัดการระบบน้ำในพื้นที่ที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง เพื่อร่วมพิจารณาผลกระทบจากการเปิดประตูระบายคลองสามวา เนื่องจากอาจกระทบกับนิคมอุตสาหกรรมบางชัน รวมถึงพื้นที่จาก 3 เขต คือ บางกะปิ สะพานสูง บึงกุ่ม เพราะเป็นพื้นที่ติดคลองแสนแสบที่รับน้ำโดยตรง
“นายมานะ นพพันธ์” วันนี้ทำงานให้แสนสิริอย่างเปิดเผย
ความเป็น Insider ของแสนสิริ ทำให้แสนสิริขึ้นสู่ความเป็น “บิ๊กทรี” ด้านอสังหาฯที่ชัดเจนขึ้น ร่วมกับพฤกษาฯ และแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และในช่วงน้ำท่วมปี 2554 ที่พฤกษาฯ และแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ถึงกับแพ้แสนสิริด้านยอดขาย
นายอนันต์ อัศวโภคิน สนิทกับ พ.ต.ท.ทักษิณแค่ไหน เป็นที่รับรู้กันอยู่แล้ว แต่ก็ยังถือว่าแพ้ความสัมพันธ์ระหว่าง ยิ่งลักษณ์-เศรษฐา
นอกจากนี้ เศรษฐา ยังประกาศรุกเจาะอสังหาริมทรัพย์ ทุกตลาดทุกเซกเมนต์ ไม่เว้นตลาดเฉพาะหรือนิช มาร์เกต ตั้งแต่ คอนโดมิเนียมระดับกลาง ราคา 1-2 ล้านบาท, ตลาดบ้านหรูที่ปี 2556 ผุด 4 แบรนด์ใหม่ในชื่อ “นาราสิริ” มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท, บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ระดับราคา 3 ล้านบาท โดยเน้นการเจาะตลาดอสังหาฯ ภูธรในหัวเมืองใหญ่ ที่มีแผนจะเปิด 10 โครงการใหม่ 11 ทำเล ได้แก่ ระยอง อุดรธานี มหาสารคาม หาดใหญ่
ทั้งพิษณุโลก สุราษฎร์ธานี กาญจนบุรี และอุบลราชธานี
มัลดีฟส์ กับผลประโยชน์ทับซ้อน
จุดนี้แหละคือสิ่งสำคัญของการเจรจาแบบตัวต่อตัวที่ “มัลดีฟส์” เพราะหลังจากกว้านซื้อที่ดินเตรียมพัฒนาไว้พร้อมหมดแล้วสำหรับโครงการน้ำท่วม 3.5 แสนล้าน คิวต่อไปคือการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่รัฐบาลกำลังเดินหน้า พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนของรถไฟฟ้าความเร็วสูง
รถไฟฟ้าความเร็วสูงนั้น รัฐบาลมีแผนลงทุนเฟสแรกด้วยเงิน 783,229 ล้านบาท ประกอบด้วย1.เส้นทางกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทาง 382 กิโลเมตร 2.เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา 3.เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 225 กิโลเมตร และ 4.เส้นทางกรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา-ระยอง ระยะทาง 221 กิโลเมตร ส่วนเฟสที่ 2 จะมี 3 สายทาง โดยเชื่อมต่อจากพิษณุโลก -เชียงใหม่, นครราชสีมา-หนองคาย, อำเภอหัวหิน-ปาดังเบซาร์
ไปๆ มาๆ ข้อมูลถูกพลิกและสรุปให้เห็นว่า สายที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะทำก่อนเพื่อนคือ เส้นทางกรุงเทพฯ-พิษณุโลก และเชื่อมต่อไปให้ถึงจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยเหตุผลทางการเมืองของคนตระกูลชินวัตรล้วนๆ ที่แม้กระทั่ง EIRR หรือการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจของเส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย จะมากกว่ากรุงเทพฯ-เชียงใหม่ หลายเปอร์เซ็นต์ในการศึกษาที่ผ่านมา แต่รัฐบาลชัดเจนว่าจะต้องทำ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เป็นเป้าหมายหลัก
อย่าลืมว่า 2 พื้นที่ที่จะเป็นสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่สำคัญทั้ง พิษณุโลก และเชียงใหม่ วันนี้ “แสนสิริ” ก็กรุยทางไว้หมดแล้ว รวมถึงเส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ที่มีแนวโน้มสร้างเป็นเส้นที่ 2 โดยที่หนองคาย แสนสิริได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เดอะเบส ไฮต์-อุดรธานี” ส่วนเชียงใหม่และขอนแก่นก็เป็นพื้นที่ที่แสนสิริวางเป้าไว้ว่าจะผุดโครงการมากถึง 40% ของโครงการรวมทั้งหมดด้วย
อย่าลืมอีกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เคยเป็นผู้บริหารสูงสุดธุรกิจอสังหาฯ มาก่อน ที่ดินตรงไหนเป็นทำเลทอง นายกฯ ยิ่งลักษณ์คงไม่ต้องใช้ให้ใครเขียนโพยให้
ที่สำคัญประชาชนต้องจับตาดูสถานีต่างๆ ของโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ และมอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะถูกออกแบบในที่ดินของนักธุรกิจคนใดบ้างที่ไปกว้านซื้อไว้ก่อนล่วงหน้า !!!
ดังนั้นการปลิดชีวิตนายเอกยุทธ อัญชันบุตร อย่างโหดเหี้ยมก็อาจจะเป็นดาบสองคมในการปลุกพลังคนไทยผู้รักชาติให้ออกมาต่อสู้ ขับไล่จอมบงการ หรืออาจจะทำให้คนที่เคยคิดจะโค่นรัฐบาลยิ่งลักษณ์เกิดความหวั่นวิตกและยุติบทบาทก็เป็นได้...
ขณะเดียวกันที่มีการพยายามเชื่อมโยงว่า เสธ.ไอซ์ เป็นผู้เกี่ยวข้องกับการปลิดชีวิตนายเอกยุทธ ก็อาจจะไม่ใช่ตามกระแสข่าวที่มีการพาดพิงก็ได้...ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูจากนี้ไป !