กลุ่มหน้ากากขาวเดินหน้าเปิดยุทธการ “ดอกไม้บานสะท้านปฐพี” เดินเครื่อง 9 จังหวัดพร้อมกันอาทิตย์นี้ ขยายฐานสู่ทุกจังหวัด ด้านหน้ากากแดงเริ่มท้อ หลังแกนนำอย่างณัฐวุฒิปฏิเสธไม่เกี่ยว ทั้งๆ ที่เคยร่วมรบมาด้วยกัน ด้าน “แก้วสรร-นพ.ตุลย์-สุริยะใส” เห็นพ้องหน้ากากขาวปรากฏการณ์ใหม่ รอสถานการณ์สุกงอมรวมพลคนต้านทักษิณครั้งใหม่
หลังจากเปิดปฏิบัติการแสดงตัวบนโลกออนไลน์ ตามโซเชียลเน็ตเวิร์กของรัฐบาล ทำเอาทั้งฝ่ายรัฐบาลและผู้คนทั่วไปตื่นตะลึงกับปรากฏการณ์หน้ากากขาว พร้อมด้วยข้อความ “ขณะนี้กองทัพประชาชนได้ลุกขึ้นมาแล้ว ข้าขอประกาศว่า ข้าจะล้มล้างระบบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย” ที่มีเพจ V For Thailand บนเฟซบุ๊กเป็นศูนย์กลาง
ตามมาด้วยการขับเคลื่อนขบวนการหน้ากากขาวที่ออกมาสู่ท้องถนนเมื่อ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา บนถนนสีลม และ 2 มิถุนายนที่เซ็นทรัลเวิลด์ ย่านราชประสงค์ แม้ในครั้งนั้นจะเริ่มมีกลุ่มที่นิยมชมชอบในอดีตนายกฯ ทักษิณ ส่งทีมงานหน้ากากแดงออกมาแสดงพลังเช่นกัน แต่ด้วยข้อจำกัดที่มีการระดมพลอย่างรีบเร่งและทีมงานที่ดำเนินการอยู่เป็นเพียงสายของคนเสื้อแดงในระดับปลายทาง จึงทำให้หน้ากากแดงยังมีไม่มากนัก
ยิ่งเมื่อหน้ากากขาวประกาศตนออกมาอย่างชัดเจนบนท้องถนน ทำให้จำนวนสมาชิกที่เข้ามากด like บนแฟนเพจของ V For Thailand เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กจำนวนไม่น้อยที่เปลี่ยนรูปของตนเองแล้วนำเอารูปหน้ากากสีขาวเข้ามาใส่ ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้กระแสหน้ากากขาวรับความสนใจบนโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก
เสื้อแดง-หน้ากากแดง
ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามแม้จะมีการจัดทีมหน้ากากแดงออกมาเคลื่อนไหว แต่กลับมีบรรดาคนเสื้อแดงออกมาแสดงความเห็นว่าไม่ควรไปตอบโต้กลุ่มหน้ากากขาว เพราะยิ่งเป็นการเพิ่มเครดิตให้กลุ่มหน้ากากขาวมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงแกนนำเสื้อแดงอย่าง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ออกมาปฏิเสธว่ากลุ่มหน้ากากแดงไม่ใช่กลุ่ม นปช. ทำเอาทีมงานที่เดินเครื่องในวันดังกล่าวออกอาการน้อยใจ
ในวันดังกล่าวกลุ่มหน้ากากขาวนั้นยังไม่มีใครควานหาแกนนำที่แท้จริงได้ แต่กลุ่มหน้ากากแดงกลับพบบุคคลที่ถือโทรโข่งนำคนหน้ากากแดงอยู่คือ จ.เจตน์ หรือนายจิรปาณ ศรีเนียน ที่โด่งดังหลังจากบุกเข้าไปเรียกร้องให้ นายกนก รัตน์วงศ์สกุล พิธีกรจากค่ายเนชั่น ที่จัดรายการข่าวข้นคนข่าวที่ช่อง 9 ทบทวนการทำงานของตัวเอง และท้ายที่สุดรายการของเครือเนชั่นก็หลุดผังของช่อง 9 อสมท
ไม่ว่าแกนนำเสื้อแดงอย่าง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จะปฏิเสธว่าหน้ากากแดงไม่ใช่ส่วนหนึ่งของคนเสื้อแดง แต่จากภาพของ จ.เจตน์ที่มีอยู่บนโลกออนไลน์ เป็นหนึ่งในพิธีกรที่ทำหน้าที่บนเวทีการชุมนุมเสื้อแดง ในภาพดังกล่าวก็มีณัฐวุฒิอยู่บนเวทีด้วยเช่นกัน รวมถึงการถ่ายภาพร่วมกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในต่างประเทศ รวมถึงภาพที่ถ่ายร่วมกับเสธ.แดง-พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล
ทุกปัญหาคือที่มา “หน้ากากขาว”
ภายใต้แฟนเพจที่มากขึ้นเรื่อยๆ ที่เดินหน้าเข้าสู่หลัก 6 หมื่นภายในระยะเวลาที่รวดเร็วของ V For Thailand ทำให้เพจนี้ถูกจับตามองจากฝ่ายรัฐบาลมากเป็นพิเศษ Special Scoop ผู้จัดการรายวัน ได้สอบถามถึงจุดประสงค์ของการขับเคลื่อนในครั้งนี้ ได้รับคำตอบสั้นๆ ว่า
“เชื่อว่าที่ผ่านมา ปัญหาทุกปัญหาทุกคนทราบ เพียงแต่ไม่มีที่ระบาย ภายใต้หน้ากาก ก็คือความอัดอั้นตันใจของประชาชนนั่นเอง หมายถึงทุกวันนี้ประชาชนแทบทุกคนที่ไม่แสดงออกต่างใส่หน้ากากแสดงให้เห็นว่าทนไหว แต่ที่จริง คือทนไม่ไหวแล้วนั่นเอง”
นอกจากนี้ V For Thailand ยังแจ้งถึงเป้าหมายของทางกลุ่มว่า เป้าหมายของเรามีดังนี้
1. รวมพลังล้มล้างระบอบทักษิณ
2. สลายสี สร้างความสามัคคีให้เกิดในสังคม
3. เปิดโปงหน้ากากขบวนการเผด็จการ ที่ใช้ประชาธิปไตยบังหน้า
พร้อมทั้งตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามที่กล่าวหาว่าหน้ากากขาวเป็นพวกที่ล้มสถาบัน โดยได้แจ้งจุดยืนบนเพจ V For Thailand ว่า ประกาศเพื่อทราบ ขอให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน
1. เสื้อแดงพยายามดิสเครดิตเราว่า หน้ากากขาวเป็นสัญลักษณ์ล้มเจ้า แต่ในความเป็นจริงแล้ว หน้ากากขาวหรือหน้ากากกายฟอร์ก เป็นบุคคลที่พยายามลอบสังหารพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ซึ่งเป็นหลานของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ผู้สถาปนานิกาย Chruch of England ขึ้นมา แต่ ฟอร์ก และครอบครัว นับถือนิกายคาทอลิก จึงรวมกลุ่มกันก่อการล้มล้างพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ลงเพื่อให้พระมหากษัตริย์ในนิกายโรมันคาทอลิกขึ้นครองราชย์แทน ดังนั้น หน้ากากกายฟอร์ก จึงมิใช่สัญลักษณ์ของการล้มล้างสถาบันแต่อย่างใด
2. ต่อข้อถามเรื่องความไม่จงรักภักดี แอดมิน ทุกคนขอบอกไว้เลยว่า สองสิ่งที่พวกเราจะตายแทนได้ก็คือ ชาติไทย และองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
3. มีนักการเมืองพยายามใส่ร้ายว่ากลุ่มเรามีคนนั้น มีคนนี้ หรือมีนักการเมืองหนุนหลัง ก็ขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ว่า สิ่งที่คุณเห็นเกิดจากพลังความอึดอัดในความชั่วของระบอบทักษิณ เท่านั้น ไม่ต้องให้ใครหนุนหลัง พี่น้องชาวไทยผู้ตื่นรู้ก็พร้อมที่จะโค่นระบอบทักษิณออกจากประเทศไทย
4. ฝากบอกพวกที่ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยนะ นี่ไม่ใช่กระแสที่เป็นไฟไหม้ฟางที่เดี๋ยวก็มอดเหมือนที่พวกคุณคิด แต่ปรากฏการณ์ครั้งนี้เป็นสัญญาณของคลื่นสึนามิครั้งใหญ่ที่พร้อมจะกวาดระบอบทักษิณ และนักโกงเมืองให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย
5. ขอขอบคุณทุกแรงใจที่มอบให้เพจเรา ขอบคุณ
ยุทธการดอกไม้บานสะท้านปฐพี
หลังจากที่การระดมพลหน้ากากขาวเพื่อต่อต้านระบอบทักษิณผ่านพ้นไป 2 ครั้ง V For Thailand ได้ดำเนินกิจกรรมเปิดกลุ่มรวมพลหน้ากากขึ้นทุกจังหวัด และนัดหมายรวมตัวกันตามจังหวัดต่างๆ ภายใต้ยุทธการดอกไม้จะบานทั่วประเทศไทย และที่รวมตัวกันเมื่อ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่สะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับคำพูดของปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และเรียกร้องให้ลาออก โดยยังมีการชุมนุมเรียกร้องให้ปลดปลอดประสพอีกที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อ 7 มิถุนายน
พร้อมทั้งนัดหมายอีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 9 จังหวัด เริ่มที่กรุงเทพฯ หน้าห้าง ZEN เซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ จังหวัดตรัง ที่ลานน้ำพุพยูน จังหวัดราชบุรี ที่ลานกีฬาหน้าเขาแก่นจันทร์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ เซ็นทรัล พลาซา สุราษฎร์ธานี (สี่แยกท่ากูบ) และเกาะสมุย ที่พลุเฉวง จังหวัดขอนแก่น ที่ลานหน้าเซ็นทรัล (ฝั่งมีจอใหญ่) จังหวัดภูเก็ต ที่วงเวียนหอย สะพานหิน จังหวัดนนทบุรี ที่หอนาฬิกา ท่าน้ำนนท์ จังหวัดสงขลา ที่ลานหน้าหอนาฬิกา หาดใหญ่ จังหวัดนครสวรรค์ ที่หน้าป้ายอุทยานสวรรค์ และในวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน จังหวัดเชียงใหม่ ที่สวนสุขภาพข้างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ด้านสโมสรศิษย์เก่า
โลกไซเบอร์คือทางออก
อย่างไรก็ดี ในการขับเคลื่อนของกลุ่มหน้ากากขาวในครั้งนี้ นับเป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตามอง ท่ามกลางข้อจำกัดของสภาพการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ที่รัฐบาลเดินหน้าบริหารประเทศชนิดที่ไม่ต้องฟังเสียงท้วงติงจากใคร ดำเนินการหลายเรื่องที่ขัดต่อความรู้สึกของภาคประชาชน
นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ปัจจุบันเป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มไทยสปริง กล่าวถึงกลุ่มหน้ากากขาวว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการเมืองได้เข้ามาคุมทั้งหมด ดังนั้นพื้นที่ในไซเบอร์จึงเปิดกว้าง อีกทั้งการรวมกลุ่มกันยังแก้ปัญหาข้อจำกัดเรื่องสถานที่ เวลา การลงทุนหรืออื่นๆ ได้เป็นอย่างดี ถือว่าวิธีการนี้เป็นจุดแข็ง
สำหรับพัฒนาการขั้นต่อไปจะมีการรวมตัวกันกับกลุ่มอื่นๆ ที่มีแนวคิดเดียวกันหรือไม่นั้น ต้องดูภาวะวิสัย ระยะการสั่งสมของแต่ละกลุ่ม แต่ถ้าหากกลุ่มต่างๆ รวมตัวกันได้แล้วจะกลายเป็นพลังขึ้นมาทันที
แม้ว่าจะเริ่มมีการออกมาต่อต้านจากฝ่ายตรงข้ามบ้างแล้ว เรื่องนี้ อดีตกรรมการ คตส. มองว่า พวกนั้นกำลังเรียกแขกให้กลุ่มหน้ากากขาว ยิ่งถ้ารัฐบาลดำเนินการเรื่องกฎหมายล้างผิด หรือปัญหาเรื่องข้าวยากหมากแพงปะทุขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์ก็จะเริ่มสุกงอม ก็จะเป็นชนวนให้ภาคประชาชนที่ไม่พอใจแสดงตัวออกมามากขึ้น
สัญลักษณ์สากล-ทักษิณร้อน
นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี กล่าวว่า กลุ่มหน้ากากขาวเกิดขึ้นจากคนเห็นว่ารัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินไม่ถูกต้อง และมาจากหลายกลุ่มที่รวมตัวกัน แต่ไม่มีแกนนำที่ชัดเจน
ภายใต้การแสดงพลังบนหน้ากาก หลายคนยินดีที่จะเข้าร่วม เพราะใส่หน้ากากแล้วไม่รู้ว่าใครเป็นใคร คนจำนวนไม่น้อยเป็นกลุ่มที่มีฐานะ คนที่ไม่ชอบทักษิณอยู่แล้ว เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างติดขัดไปหมด แล้วมีหน้ากากขาวที่มีการสร้างรูปแบบขึ้นมาจึงเป็นอีกทางออกหนึ่งของเขา
“หน้ากากขาวถือเป็นสัญลักษณ์ในการขับเคลื่อนที่เป็นสากล เมื่อคนเห็นก็เข้าใจได้ทันทีว่าคืออะไร ดังนั้นงานนี้ทักษิณจึงเดือดร้อนจากข่าวที่นำเสนอ”
เมื่อให้ประเมินถึงศักยภาพของกลุ่มนี้ว่ามีมากพอหรือไม่ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสีกล่าวว่า ก็ยังสงสัยอยู่ ไม่มีแกนนำ ทำให้ขาดพลัง อาจถูกแทรกแซงจากตำรวจที่อาจหาวิธีปิดกั้นหรือกดดันได้ง่าย ดังนั้นถ้าขับเคลื่อนด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียวคงทำตามเป้าหมายให้สำเร็จได้ยาก
นพ.ตุลย์ยังแนะนำว่า ต้องรักษากลุ่มเอาไว้ ดำเนินกิจกรรมเป็นระยะ เปิดสภา ทำ event เป็นช่วงๆ ส่วนโอกาสในการรวมตัวกับกลุ่มอื่นๆ ที่เคยต่อต้านระบอบทักษิณนั้น ทางกลุ่มต่างๆ จะต้องมาหารือพูดคุยกันเพื่อเป้าหมายเดียวกันอีกครั้ง
“โดยส่วนตัวเชื่อว่ารัฐบาลจะล้มด้วยคนเสื้อแดง เพราะคนที่รับผลเสียคือคนเสื้อแดงได้ค่าแรง 300 บาท แต่ข้าวของกลับมาแพง ตอนนี้กลุ่มแท็กซี่ก็เริ่มไม่พอใจรัฐบาลมากขึ้น ส่วนที่บ้านเมืองเละอย่างทุกวันนี้อย่าโทษนักการเมือง ต้องโทษคุณภาพของประชาชนที่เลือกผู้แทนเหล่านั้นเข้ามา”
อย่างไรก็ดี ในกรุงเทพฯ มีการลงโทษนักการเมืองบางพรรคมาแล้ว แต่ในต่างจังหวัดยังไม่เห็น เนื่องจากในพื้นที่ต่างจังหวัดจะใช้วิธีการผูกใจกับชาวบ้าน ดูแลวิถีความเป็นอยู่ในชีวิต มีเรื่องกองทุนหมู่บ้านเข้ามาเป็นตัวขู่ให้คนเลือกหรือไม่เลือก ดังนั้นจึงแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้
โอกาสรวมตัวมีสูง
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มการเมืองสีเขียว กล่าวว่า การตอบรับที่ดีของหน้ากากขาวนั้นเพื่อต้องการให้รัฐบาลมีคุณธรรม เพราะในบ้านเราจริยธรรมทางการเมืองหายาก การที่หวังจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็ยากเช่นกัน เว้นแต่เป็นไฟลามทุ่ง ออกเดินสู่ท้องถนนกันในปริมาณมหาศาล
“หน้ากากขาวถือเป็นกรณีศึกษา ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ และประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง”
สิ่งที่เราคาดหวังอยู่คือการรวมตัวกันของกลุ่มที่มีเป้าหมายเดียวกัน อย่างกรณีของพันธมิตร ก่อนหน้านี้ก็มีจุดประสงค์ต่างกัน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็รวมตัวกันได้ ครั้งนี้เริ่มมีกลุ่มหน้ากากขาวเดินหน้าก่อน ดังนั้นส่วนที่เหลือก็ต้องหารือกัน ส่วนจะถึงขั้นเป็นการปฏิวัติโดยประชาชนหรือไม่ เรื่องนี้ต้องมีการหารือกันอย่างจริงจังอีกครั้ง หากเห็นว่าระบอบทักษิณเป็นตัวปัญหาของแผ่นดิน
ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่สุกงอมพอ ดังนั้นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แม้จะแยกย้ายกันออกไปบ้าง แต่โอกาสที่จะกลับมารวมกันอีกครั้งก็ยังมีอยู่
หลังจากเปิดปฏิบัติการแสดงตัวบนโลกออนไลน์ ตามโซเชียลเน็ตเวิร์กของรัฐบาล ทำเอาทั้งฝ่ายรัฐบาลและผู้คนทั่วไปตื่นตะลึงกับปรากฏการณ์หน้ากากขาว พร้อมด้วยข้อความ “ขณะนี้กองทัพประชาชนได้ลุกขึ้นมาแล้ว ข้าขอประกาศว่า ข้าจะล้มล้างระบบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย” ที่มีเพจ V For Thailand บนเฟซบุ๊กเป็นศูนย์กลาง
ตามมาด้วยการขับเคลื่อนขบวนการหน้ากากขาวที่ออกมาสู่ท้องถนนเมื่อ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา บนถนนสีลม และ 2 มิถุนายนที่เซ็นทรัลเวิลด์ ย่านราชประสงค์ แม้ในครั้งนั้นจะเริ่มมีกลุ่มที่นิยมชมชอบในอดีตนายกฯ ทักษิณ ส่งทีมงานหน้ากากแดงออกมาแสดงพลังเช่นกัน แต่ด้วยข้อจำกัดที่มีการระดมพลอย่างรีบเร่งและทีมงานที่ดำเนินการอยู่เป็นเพียงสายของคนเสื้อแดงในระดับปลายทาง จึงทำให้หน้ากากแดงยังมีไม่มากนัก
ยิ่งเมื่อหน้ากากขาวประกาศตนออกมาอย่างชัดเจนบนท้องถนน ทำให้จำนวนสมาชิกที่เข้ามากด like บนแฟนเพจของ V For Thailand เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กจำนวนไม่น้อยที่เปลี่ยนรูปของตนเองแล้วนำเอารูปหน้ากากสีขาวเข้ามาใส่ ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้กระแสหน้ากากขาวรับความสนใจบนโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก
เสื้อแดง-หน้ากากแดง
ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามแม้จะมีการจัดทีมหน้ากากแดงออกมาเคลื่อนไหว แต่กลับมีบรรดาคนเสื้อแดงออกมาแสดงความเห็นว่าไม่ควรไปตอบโต้กลุ่มหน้ากากขาว เพราะยิ่งเป็นการเพิ่มเครดิตให้กลุ่มหน้ากากขาวมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงแกนนำเสื้อแดงอย่าง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ออกมาปฏิเสธว่ากลุ่มหน้ากากแดงไม่ใช่กลุ่ม นปช. ทำเอาทีมงานที่เดินเครื่องในวันดังกล่าวออกอาการน้อยใจ
ในวันดังกล่าวกลุ่มหน้ากากขาวนั้นยังไม่มีใครควานหาแกนนำที่แท้จริงได้ แต่กลุ่มหน้ากากแดงกลับพบบุคคลที่ถือโทรโข่งนำคนหน้ากากแดงอยู่คือ จ.เจตน์ หรือนายจิรปาณ ศรีเนียน ที่โด่งดังหลังจากบุกเข้าไปเรียกร้องให้ นายกนก รัตน์วงศ์สกุล พิธีกรจากค่ายเนชั่น ที่จัดรายการข่าวข้นคนข่าวที่ช่อง 9 ทบทวนการทำงานของตัวเอง และท้ายที่สุดรายการของเครือเนชั่นก็หลุดผังของช่อง 9 อสมท
ไม่ว่าแกนนำเสื้อแดงอย่าง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จะปฏิเสธว่าหน้ากากแดงไม่ใช่ส่วนหนึ่งของคนเสื้อแดง แต่จากภาพของ จ.เจตน์ที่มีอยู่บนโลกออนไลน์ เป็นหนึ่งในพิธีกรที่ทำหน้าที่บนเวทีการชุมนุมเสื้อแดง ในภาพดังกล่าวก็มีณัฐวุฒิอยู่บนเวทีด้วยเช่นกัน รวมถึงการถ่ายภาพร่วมกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในต่างประเทศ รวมถึงภาพที่ถ่ายร่วมกับเสธ.แดง-พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล
ทุกปัญหาคือที่มา “หน้ากากขาว”
ภายใต้แฟนเพจที่มากขึ้นเรื่อยๆ ที่เดินหน้าเข้าสู่หลัก 6 หมื่นภายในระยะเวลาที่รวดเร็วของ V For Thailand ทำให้เพจนี้ถูกจับตามองจากฝ่ายรัฐบาลมากเป็นพิเศษ Special Scoop ผู้จัดการรายวัน ได้สอบถามถึงจุดประสงค์ของการขับเคลื่อนในครั้งนี้ ได้รับคำตอบสั้นๆ ว่า
“เชื่อว่าที่ผ่านมา ปัญหาทุกปัญหาทุกคนทราบ เพียงแต่ไม่มีที่ระบาย ภายใต้หน้ากาก ก็คือความอัดอั้นตันใจของประชาชนนั่นเอง หมายถึงทุกวันนี้ประชาชนแทบทุกคนที่ไม่แสดงออกต่างใส่หน้ากากแสดงให้เห็นว่าทนไหว แต่ที่จริง คือทนไม่ไหวแล้วนั่นเอง”
นอกจากนี้ V For Thailand ยังแจ้งถึงเป้าหมายของทางกลุ่มว่า เป้าหมายของเรามีดังนี้
1. รวมพลังล้มล้างระบอบทักษิณ
2. สลายสี สร้างความสามัคคีให้เกิดในสังคม
3. เปิดโปงหน้ากากขบวนการเผด็จการ ที่ใช้ประชาธิปไตยบังหน้า
พร้อมทั้งตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามที่กล่าวหาว่าหน้ากากขาวเป็นพวกที่ล้มสถาบัน โดยได้แจ้งจุดยืนบนเพจ V For Thailand ว่า ประกาศเพื่อทราบ ขอให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน
1. เสื้อแดงพยายามดิสเครดิตเราว่า หน้ากากขาวเป็นสัญลักษณ์ล้มเจ้า แต่ในความเป็นจริงแล้ว หน้ากากขาวหรือหน้ากากกายฟอร์ก เป็นบุคคลที่พยายามลอบสังหารพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ซึ่งเป็นหลานของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ผู้สถาปนานิกาย Chruch of England ขึ้นมา แต่ ฟอร์ก และครอบครัว นับถือนิกายคาทอลิก จึงรวมกลุ่มกันก่อการล้มล้างพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ลงเพื่อให้พระมหากษัตริย์ในนิกายโรมันคาทอลิกขึ้นครองราชย์แทน ดังนั้น หน้ากากกายฟอร์ก จึงมิใช่สัญลักษณ์ของการล้มล้างสถาบันแต่อย่างใด
2. ต่อข้อถามเรื่องความไม่จงรักภักดี แอดมิน ทุกคนขอบอกไว้เลยว่า สองสิ่งที่พวกเราจะตายแทนได้ก็คือ ชาติไทย และองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
3. มีนักการเมืองพยายามใส่ร้ายว่ากลุ่มเรามีคนนั้น มีคนนี้ หรือมีนักการเมืองหนุนหลัง ก็ขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ว่า สิ่งที่คุณเห็นเกิดจากพลังความอึดอัดในความชั่วของระบอบทักษิณ เท่านั้น ไม่ต้องให้ใครหนุนหลัง พี่น้องชาวไทยผู้ตื่นรู้ก็พร้อมที่จะโค่นระบอบทักษิณออกจากประเทศไทย
4. ฝากบอกพวกที่ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยนะ นี่ไม่ใช่กระแสที่เป็นไฟไหม้ฟางที่เดี๋ยวก็มอดเหมือนที่พวกคุณคิด แต่ปรากฏการณ์ครั้งนี้เป็นสัญญาณของคลื่นสึนามิครั้งใหญ่ที่พร้อมจะกวาดระบอบทักษิณ และนักโกงเมืองให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย
5. ขอขอบคุณทุกแรงใจที่มอบให้เพจเรา ขอบคุณ
ยุทธการดอกไม้บานสะท้านปฐพี
หลังจากที่การระดมพลหน้ากากขาวเพื่อต่อต้านระบอบทักษิณผ่านพ้นไป 2 ครั้ง V For Thailand ได้ดำเนินกิจกรรมเปิดกลุ่มรวมพลหน้ากากขึ้นทุกจังหวัด และนัดหมายรวมตัวกันตามจังหวัดต่างๆ ภายใต้ยุทธการดอกไม้จะบานทั่วประเทศไทย และที่รวมตัวกันเมื่อ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่สะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับคำพูดของปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และเรียกร้องให้ลาออก โดยยังมีการชุมนุมเรียกร้องให้ปลดปลอดประสพอีกที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อ 7 มิถุนายน
พร้อมทั้งนัดหมายอีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 9 จังหวัด เริ่มที่กรุงเทพฯ หน้าห้าง ZEN เซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ จังหวัดตรัง ที่ลานน้ำพุพยูน จังหวัดราชบุรี ที่ลานกีฬาหน้าเขาแก่นจันทร์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ เซ็นทรัล พลาซา สุราษฎร์ธานี (สี่แยกท่ากูบ) และเกาะสมุย ที่พลุเฉวง จังหวัดขอนแก่น ที่ลานหน้าเซ็นทรัล (ฝั่งมีจอใหญ่) จังหวัดภูเก็ต ที่วงเวียนหอย สะพานหิน จังหวัดนนทบุรี ที่หอนาฬิกา ท่าน้ำนนท์ จังหวัดสงขลา ที่ลานหน้าหอนาฬิกา หาดใหญ่ จังหวัดนครสวรรค์ ที่หน้าป้ายอุทยานสวรรค์ และในวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน จังหวัดเชียงใหม่ ที่สวนสุขภาพข้างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ด้านสโมสรศิษย์เก่า
โลกไซเบอร์คือทางออก
อย่างไรก็ดี ในการขับเคลื่อนของกลุ่มหน้ากากขาวในครั้งนี้ นับเป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตามอง ท่ามกลางข้อจำกัดของสภาพการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ที่รัฐบาลเดินหน้าบริหารประเทศชนิดที่ไม่ต้องฟังเสียงท้วงติงจากใคร ดำเนินการหลายเรื่องที่ขัดต่อความรู้สึกของภาคประชาชน
นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ปัจจุบันเป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มไทยสปริง กล่าวถึงกลุ่มหน้ากากขาวว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการเมืองได้เข้ามาคุมทั้งหมด ดังนั้นพื้นที่ในไซเบอร์จึงเปิดกว้าง อีกทั้งการรวมกลุ่มกันยังแก้ปัญหาข้อจำกัดเรื่องสถานที่ เวลา การลงทุนหรืออื่นๆ ได้เป็นอย่างดี ถือว่าวิธีการนี้เป็นจุดแข็ง
สำหรับพัฒนาการขั้นต่อไปจะมีการรวมตัวกันกับกลุ่มอื่นๆ ที่มีแนวคิดเดียวกันหรือไม่นั้น ต้องดูภาวะวิสัย ระยะการสั่งสมของแต่ละกลุ่ม แต่ถ้าหากกลุ่มต่างๆ รวมตัวกันได้แล้วจะกลายเป็นพลังขึ้นมาทันที
แม้ว่าจะเริ่มมีการออกมาต่อต้านจากฝ่ายตรงข้ามบ้างแล้ว เรื่องนี้ อดีตกรรมการ คตส. มองว่า พวกนั้นกำลังเรียกแขกให้กลุ่มหน้ากากขาว ยิ่งถ้ารัฐบาลดำเนินการเรื่องกฎหมายล้างผิด หรือปัญหาเรื่องข้าวยากหมากแพงปะทุขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์ก็จะเริ่มสุกงอม ก็จะเป็นชนวนให้ภาคประชาชนที่ไม่พอใจแสดงตัวออกมามากขึ้น
สัญลักษณ์สากล-ทักษิณร้อน
นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี กล่าวว่า กลุ่มหน้ากากขาวเกิดขึ้นจากคนเห็นว่ารัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินไม่ถูกต้อง และมาจากหลายกลุ่มที่รวมตัวกัน แต่ไม่มีแกนนำที่ชัดเจน
ภายใต้การแสดงพลังบนหน้ากาก หลายคนยินดีที่จะเข้าร่วม เพราะใส่หน้ากากแล้วไม่รู้ว่าใครเป็นใคร คนจำนวนไม่น้อยเป็นกลุ่มที่มีฐานะ คนที่ไม่ชอบทักษิณอยู่แล้ว เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างติดขัดไปหมด แล้วมีหน้ากากขาวที่มีการสร้างรูปแบบขึ้นมาจึงเป็นอีกทางออกหนึ่งของเขา
“หน้ากากขาวถือเป็นสัญลักษณ์ในการขับเคลื่อนที่เป็นสากล เมื่อคนเห็นก็เข้าใจได้ทันทีว่าคืออะไร ดังนั้นงานนี้ทักษิณจึงเดือดร้อนจากข่าวที่นำเสนอ”
เมื่อให้ประเมินถึงศักยภาพของกลุ่มนี้ว่ามีมากพอหรือไม่ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสีกล่าวว่า ก็ยังสงสัยอยู่ ไม่มีแกนนำ ทำให้ขาดพลัง อาจถูกแทรกแซงจากตำรวจที่อาจหาวิธีปิดกั้นหรือกดดันได้ง่าย ดังนั้นถ้าขับเคลื่อนด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียวคงทำตามเป้าหมายให้สำเร็จได้ยาก
นพ.ตุลย์ยังแนะนำว่า ต้องรักษากลุ่มเอาไว้ ดำเนินกิจกรรมเป็นระยะ เปิดสภา ทำ event เป็นช่วงๆ ส่วนโอกาสในการรวมตัวกับกลุ่มอื่นๆ ที่เคยต่อต้านระบอบทักษิณนั้น ทางกลุ่มต่างๆ จะต้องมาหารือพูดคุยกันเพื่อเป้าหมายเดียวกันอีกครั้ง
“โดยส่วนตัวเชื่อว่ารัฐบาลจะล้มด้วยคนเสื้อแดง เพราะคนที่รับผลเสียคือคนเสื้อแดงได้ค่าแรง 300 บาท แต่ข้าวของกลับมาแพง ตอนนี้กลุ่มแท็กซี่ก็เริ่มไม่พอใจรัฐบาลมากขึ้น ส่วนที่บ้านเมืองเละอย่างทุกวันนี้อย่าโทษนักการเมือง ต้องโทษคุณภาพของประชาชนที่เลือกผู้แทนเหล่านั้นเข้ามา”
อย่างไรก็ดี ในกรุงเทพฯ มีการลงโทษนักการเมืองบางพรรคมาแล้ว แต่ในต่างจังหวัดยังไม่เห็น เนื่องจากในพื้นที่ต่างจังหวัดจะใช้วิธีการผูกใจกับชาวบ้าน ดูแลวิถีความเป็นอยู่ในชีวิต มีเรื่องกองทุนหมู่บ้านเข้ามาเป็นตัวขู่ให้คนเลือกหรือไม่เลือก ดังนั้นจึงแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้
โอกาสรวมตัวมีสูง
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มการเมืองสีเขียว กล่าวว่า การตอบรับที่ดีของหน้ากากขาวนั้นเพื่อต้องการให้รัฐบาลมีคุณธรรม เพราะในบ้านเราจริยธรรมทางการเมืองหายาก การที่หวังจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็ยากเช่นกัน เว้นแต่เป็นไฟลามทุ่ง ออกเดินสู่ท้องถนนกันในปริมาณมหาศาล
“หน้ากากขาวถือเป็นกรณีศึกษา ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ และประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง”
สิ่งที่เราคาดหวังอยู่คือการรวมตัวกันของกลุ่มที่มีเป้าหมายเดียวกัน อย่างกรณีของพันธมิตร ก่อนหน้านี้ก็มีจุดประสงค์ต่างกัน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็รวมตัวกันได้ ครั้งนี้เริ่มมีกลุ่มหน้ากากขาวเดินหน้าก่อน ดังนั้นส่วนที่เหลือก็ต้องหารือกัน ส่วนจะถึงขั้นเป็นการปฏิวัติโดยประชาชนหรือไม่ เรื่องนี้ต้องมีการหารือกันอย่างจริงจังอีกครั้ง หากเห็นว่าระบอบทักษิณเป็นตัวปัญหาของแผ่นดิน
ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่สุกงอมพอ ดังนั้นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แม้จะแยกย้ายกันออกไปบ้าง แต่โอกาสที่จะกลับมารวมกันอีกครั้งก็ยังมีอยู่