แบงก์กลาง-เล็กฮึดสู้แบงก์ใหญ่ แห่ผุดบัญชีออมทรัพย์พิเศษดอกเบี้ยสูงเข้าล่อ แบงก์ใหญ่แนะเป็นผลิตภัณฑ์ปิดจุดอ่อนทั้งเรื่องสาขาที่เป็นรองและหาลูกค้าใหม่เพิ่ม แนะนำคนฝากหากมั่นใจทำตามเงื่อนไขได้คุ้มค่า แต่ถ้าพลาดอาจเจอโขกค่าธรรมเนียม 500 บาท แถมฟรีค่าบิลกำลังแรง เผยจากนี้ไปผลิตภัณฑ์เงินฝากรูปแบบนี้จะมากขึ้น
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษดอกเบี้ยสูง กำลังกลายเป็นโปรโมชันล่อใจคนฝากเงินได้ไม่น้อย ด้วยคำว่าเงินฝากออมทรัพย์นั่นหมายถึงไม่ต้องเสียภาษีจากดอกเบี้ยรับ 15% เหมือนกับบัญชีเงินฝากประจำ
หลายคนอาจเปรียบเทียบดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3.5% เมื่อหักภาษีแล้วจะเหลือดอกเบี้ยสุทธิ 2.975% ขณะที่ออมทรัพย์พิเศษบางแห่งให้ดอกเบี้ยสูงถึง 2.9% แถมเปิดโอกาสให้เบิกถอนได้เดือนละ 2 ครั้ง ส่วนฝากประจำเบิกถอนก่อนกำหนดไม่ได้หรือต้องยอมถูกปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมา
นอกเหนือจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงแล้ว ยังมีบัญชีเงินฝากที่ให้สิทธิพิเศษในการจ่ายบิลหรือการโอนเงินได้โดยที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมออกมาล่อใจอีกบัญชีหนึ่ง ใครที่ต้องจ่ายบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์หรือโอนเงินให้ญาติในแต่ละเดือนย่อมต้องเหลียวมามองบัญชีเงินฝากประเภทนี้
เดือนหนึ่งต้องทำ 5 รายการ รวมแล้วปีหนึ่ง 60 รายการ ก็ประหยัดค่าธรรมเนียมไปได้ไม่น้อย แถมเบิกถอนเงินได้ทุกตู้ ATM ทั่วประเทศฟรีไม่จำกัดจำนวนครั้ง ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจเข้าไปใหญ่
ดูเงื่อนไขให้ละเอียด
ฝ่ายผลิตภัณฑ์เงินฝากของธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ แนะนำว่า การชูเรื่องอัตราดอกเบี้ยสูงเพื่อจูงใจคนฝากเงินหรือการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ส่วนใหญ่แล้วธนาคารผู้ออกผลิตภัณฑ์จะแจ้งข้อมูลให้กับผู้ที่สนใจไม่หมด เน้นไปที่ตัวอัตราดอกเบี้ยสูงและสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับเป็นหลัก
เมื่อผู้ออมเงินเห็นโฆษณาอาจทำให้ตัดสินใจไปใช้บริการของธนาคารที่ออกผลิตภัณฑ์นั้นทันที โดยไม่ได้ศึกษาเงื่อนไขหรือข้อกำหนดอย่างละเอียด อาจจะทำให้แทนที่จะได้ประโยชน์กลับกลายเป็นเสียประโยชน์
ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ออกมานี้ไม่ดี ต้องยอมรับว่าผลิตภัณฑ์ที่ออกมานี้ดีสำหรับผู้ที่มีความพร้อมและสามารถปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
ผลิตภัณฑ์ที่ผู้มีเงินออมควรจะต้องศึกษาถึงรายละเอียดให้มากก่อนตัดสินใจ มี 2 ประเภทคือบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงและฟรีค่าธรรมเนียมจ่ายบิล
พลาดปรับ 500 บาท
กลุ่มบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง ไม่ว่าจะตั้งชื่อบัญชีว่าอย่างไร แต่มีคุณลักษณะที่เหมือนกันคือให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าดอกเบี้ยออมทรัพย์ปกติมาก และอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าดอกเบี้ยฝากประจำปกติ ใกล้เคียงกับดอกเบี้ยฝากประจำพิเศษ
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างดอกเบี้ยประจำพิเศษที่หักภาษีเงินได้แล้ว ดอกเบี้ยสุทธิจะใกล้เคียงกับดอกเบี้ยออมทรัพย์พิเศษ แต่ออมทรัพย์พิเศษเบิกถอนได้ ทำให้บัญชีประเภทนี้กลายเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของผู้ที่ออมเงินและเปิดบัญชีไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินที่ต้องเบิกถอน
ดอกเบี้ยที่กำหนดไว้สูงนั้นจะแจ้งเฉพาะตอนที่โฆษณาเท่านั้น หลังจากนั้นการปรับดอกเบี้ยจะเป็นไปตามประกาศของธนาคาร เมื่อผ่านไประยะหนึ่งส่วนใหญ่จะปรับลดลงมาตรงนี้จะไม่มีการแจ้งให้ผู้ฝากทราบ เพราะดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์นั้นธนาคารสามารถปรับลดได้ตลอดเวลา
เงินฝากออมทรัพย์พิเศษ มักจะกำหนดให้เบิกถอนได้เดือนละไม่เกิน 2 ครั้ง ที่สำคัญมากที่สุดเมื่อศึกษาถึงรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวคือค่าธรรมเนียมในกรณีที่เบิกถอนเกินกว่าที่กำหนด บางแห่งคิดครั้งละ 50 บาท ที่หนักกว่านั้นคือคิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 500 บาทต่อครั้ง
"โดยส่วนใหญ่คนเราเมื่อเปิดบัญชีไปแล้วก็มักจะลืมเงื่อนไขดังกล่าว หรืออาจเข้าใจว่าเหมือนกับบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปที่เบิกถอนได้ไม่เกิน 4 ครั้งต่อเดือน ถ้าในเดือนใดเดือนหนึ่งเบิกถอนไปแล้ว 2 ครั้ง หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินต้องถอนเงินขึ้นมาท่านก็อาจจะเจอกับค่าธรรมเนียมที่สูงมาก"
ถามว่าบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงนั้นให้ดอกเบี้ยสูงจริงหรือไม่ คำตอบคือให้สูงกว่าดอกเบี้ยออมทรัพย์ปกติมาก แต่ก็ต้องแลกกับเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตาม ถ้าใครทำได้ก็จะได้รับประโยชน์จากบัญชีเงินฝากประเภทนี้
ฟรีบิล-เงื่อนไขเพียบ
อีกประเภทหนึ่งคือ บัญชีที่ให้สิทธิประโยชน์จากการจ่ายบิลค่าใช้จ่ายต่างๆ ฟรี บางแห่งให้ 5 บิล บางแห่งเลือกได้ว่าจะเป็น 10 หรือ 20 บิล
หลักการที่เหมือนกันคือฟรีค่าธรรมเนียมในการจ่ายบิลในรายการต่างๆ แต่จะมีข้อแตกต่างกันในเรื่องเงื่อนไขอื่น เช่น เรื่องเงินเปิดบัญชีขั้นต่ำ ยอดเงินคงค้างในบัญชี อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมของบัตรเดบิตในตอนสิ้นปี
บางแห่งได้ดอกเบี้ย 0% เพื่อแลกกับค่าธรรมเนียมในการจ่ายบิลฟรี หรือถ้าให้ดอกเบี้ยก็ถือว่าต่ำมากเช่น 0.125% ดังนั้นผู้ที่ต้องการได้สิทธิดังกล่าวต้องตรวจสอบเงื่อนไขให้ครบถ้วนก่อนการตัดสินใจ
ในสนามนี้มีเพียงธนาคารทหารไทยกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่ลงมาเล่น แต่ทั้ง 2 แบงก์มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรสำรวจความพร้อมของตัวเองก่อนเลือกใช้บริการ โดยเฉพาะเงื่อนไขยอดเงินคงค้างในบัญชีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ เช่น บัตรเดบิตที่ใช้ร่วมกับตัวบัญชี รวมถึงเรื่องของ SMS ที่อาจเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
เรียกลูกค้า-เพิ่มรายได้
“ธนาคารส่วนใหญ่ที่ออกผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากทั้ง 2 รูปแบบนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นแบงก์ขนาดกลางลงมา” นายธนาคารกล่าว
สำหรับสาเหตุหลักด้านหนึ่งเกิดจากความต้องการในการระดมเงินเพื่อปล่อยสินเชื่อ ซึ่งตรงนี้เหมือนกันทุกแบงก์ แต่ส่วนที่แตกต่างกันคือก่อนหน้านี้ธนาคารหลายแห่งออกตั๋วแลกเงินที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากปกติ เมื่อมีการเปลี่ยนกฎให้เงินในส่วนนี้ต้องส่งเงินสมทบในอัตราใหม่ที่ 0.47% เท่ากับเงินฝากปกติ ทำให้เมื่อตั๋วครบกำหนด เงินในส่วนนี้ของแบงก์ขนาดกลางและเล็กจึงถูกดูดไปยังธนาคารที่มีขนาดใหญ่กว่า
เมื่อเงินหายไปจากเดิม ก็ต้องหาวิธีดึงเงินกลับ แต่การต่อสู้ของธนาคารขนาดกลางและเล็กกับธนาคารขนาดใหญ่มีข้อเสียเปรียบในเรื่องความมั่นคง แม้ทุกแบงก์จะมั่นคงแต่ในด้านความรู้สึกทางจิตใจของคนฝากเงินจะเชื่อมั่นในธนาคารขนาดใหญ่มากกว่า
ด้วยข้อจำกัดเรื่องสาขาในการให้บริการที่น้อยกว่าและด้านความเชื่อมั่น การออกผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ดึงดูดใจ ให้ดอกเบี้ยที่สูงกว่ารวมถึงบริการพิเศษอื่นๆ จึงเป็นทางออกของธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็ก
ดอกเบี้ยที่สูงจูงใจ ย่อมทำให้ผู้มีเงินออมตัดสินใจที่จะเข้ามาใช้บริการของธนาคารนั้นๆ แม้ว่าสาขาของธนาคารนั้นจะไกลจากที่พักอาศัยอยู่บ้าง วิธีนี้ถือเป็นการใช้กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์เงินฝากมาเป็นตัวลดข้อจำกัดของสาขาที่มีน้อยกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่
นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มลูกค้าใหม่หรือตรึงลูกค้าเดิมไว้กับธนาคาร เพราะอาจถูกโปรโมชันเงินฝากประจำดอกเบี้ยพิเศษของธนาคารขนาดใหญ่ดูดลูกค้าไป หลังจากที่ตั๋วแลกเงินของหลายธนาคารครบอายุ
ภายใต้ผลิตภัณฑ์เงินฝากดังกล่าว ยังมีมิติด้านอื่นอีกคือ โอกาสของการสร้างรายได้จากบัญชีดังกล่าว หากลูกค้าที่เปิดบัญชีเงินฝากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดได้
เชื่อว่าเป้าหมายหลักคงไม่ใช่เรื่องของรายได้จากการผิดเงื่อนไข แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากโปรโมชันนี้สามารถดึงลูกค้าให้มาเปิดบัญชีได้มาก แล้วลูกค้าเกิดผิดเงื่อนไขหลายราย ธนาคารก็จะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมส่วนนี้
ผู้ฝากต้องทำการบ้าน
ผลิตภัณฑ์เงินฝากของธนาคารขนาดกลางลงไปที่ออกมานี้ ย่อมทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นจากเดิมเนื่องจากมีการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยให้ลูกค้าสูงกว่าอัตราปกติ ดังนั้นค่าธรรมเนียมที่ธนาคารเรียกเก็บจากการปฏิบัติตามเงื่อนไขไม่ได้ก็จะเข้ามาเป็นตัวช่วยลดต้นทุนได้
สำหรับผู้ที่ต้องการฝากเงินกับบัญชีดังกล่าวคงต้องดูเงื่อนไขทั้งหมดให้ดี ซักถามให้ละเอียด และต้องสำรวจตัวเองด้วยว่าทำตามเงื่อนไขที่แบงก์กำหนดมาให้ได้หรือไม่ คุ้มค่าหรือไม่หากผิดเงื่อนไขขึ้นมา แต่ถ้ามั่นใจว่าปฏิบัติได้ก็ถือว่าได้ประโยชน์
จากนี้ไปผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยสูงหรือให้สิทธิพิเศษอื่นๆ จะเพิ่มมากขึ้น ตามภาวะการแข่งขัน ส่วนจะนำเอาบัญชีเงินฝากไปพ่วงหรือเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ใดคงต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่ในฐานะคนออมเงินคงต้องศึกษาถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้รู้เท่าทันต่อเงินฝากประเภทใหม่ๆ และง่ายต่อการตัดสินใจว่าจะเลือกใช้บริการหรือไม่