xs
xsm
sm
md
lg

พิสูจน์ธรรมาภิบาลโรงถลุงเหล็กสหวิริยา เร่งถมดินไม่สนเสียงท้วงขัดอีไอเอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการออนไลน์ – บทพิสูจน์คุณธรรมโรงถลุงเหล็กเครือสหวิริยาประกาศธรรมาภิบาลทำธุรกิจบนพื้นฐานความรับผิดชอบ โปร่งใส ซื่อสัตย์ คำนึงถึงผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ท่ามกลางเสียงก่นด่าของชุมชนรอบข้างโครงการที่แตกกันเป็นเสี่ยง

เครือสหวิริยา เจ้าของโครงการโรงเหล็กและโรงถลุงเหล็ก ได้ประกาศถึงหลักจริยธรรมธรรมในการประกอบธุรกิจเผยแพร่ต่อสาธารณะผ่านเว็บไซต์ของสหวิริยาอินดัสตรี (เอสเอสไอ) เอาไว้อย่างสวยหรูว่า “เพื่อสร้างดุลยภาพของการเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ เอสเอสไอมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความรับผิดชอบ ความโปร่งใส ความซื่อสัตย์ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยปฏิบัติต่อบุคคลทุกกลุ่มด้วยความเป็นธรรม

สำหรับ “ชุมชนและสังคม บริษัทพึงดำเนินธุรกิจโดยมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม และคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม”
และต่อ “รัฐบาล บริษัทพึงดำเนินธุรกิจเพื่อการเสริมสร้างและพัฒนาความเจริญก้าวหน้าของประเทศ โดยปฏิบัติให้ถูกต้องตามข้อกำหนดของกฎหมาย และเป็นไปตามครรลองประเพณีธุรกิจทั่วไป”

แต่คำประกาศหลักธรรมาภิบาลกับรูปธรรมที่เกิดขึ้นในการดำเนินโครงการโรงถลุงเหล็กสหวิริยา ที่ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม เหตุการณ์รุนแรงที่ชุมชนรอบโครงการเกิดความขัดแย้ง แตกแยก กลายเป็นม็อบเผชิญหน้าม็อบเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมายังไม่สิ้นกลิ่นควันคาวเลือด การสะสางคดียังไม่คืบหน้าถึงไหน บริษัทในเครือสหวิริยากลับเร่งรีบเดินหน้าขุดคลอง ถมดิน ปรับพื้นที่ โดยไม่นำพาต่อเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้น และไม่สนกระแสคัดค้านใดๆ

ถึงแม้ว่า เครือสหวิริยาจะกล่าวอ้างถึงหลักธรรมาภิบาลต่อรัฐบาลว่า จะปฏิบัติให้ถูกต้องตามข้อกำหนดของกฎหมาย แต่เมื่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมส่งสัญญาณให้บริษัทหยุดดำเนินการใดๆ จนกว่ารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) จะผ่านการพิจารณา แต่กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่กลับมีท่าทีเมินเฉย โดยอ้างว่า การขุดคลองและถมดินได้รับอนุญาตตามพ.ร.บ.การขุดดินและการถมดิน พ.ศ. 2543 ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับอีไอเอ

หลังเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ มีชาวบ้านเสียชีวิต ในวันที่ 24 ม.ค. 2551อันเนื่องมาจากการคัดค้านกลุ่มทุนเข้าขุดคลองระบายน้ำของโครงการที่ยังมีปัญหาเรื่องอีไอเอและทางสาธารณะ

ซึ่งต่อมา นายสันติ บุญประคับ ผู้อำนวยการส่วนวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวในงานเสวนา “โรงถลุงเหล็กสหวิริยา vs ป่าพรุแม่รำพึง ทำไมต้องมาถึงวันนี้” ว่า หากตรวจสอบพบว่าการขุดคลองและถมดินอยู่ในส่วนที่ต้องทำอีไอเอถือว่าทำผิด เพราะเมื่อบริษัทยื่นอีไอเอฉบับใหม่มาให้ สผ. พิจารณาตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. 2550 การดำเนินการใดๆ ก็ต้องหยุดหมด และสผ.จะทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เพื่อให้ออกคำสั่งระงับการดำเนินการใดๆ ที่ขัดต่ออีไอเอ

สุพจน์ ส่งเสียง แกนนำกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง เปิดเผยว่า จนถึงวันนี้ ยังไม่มีการคืบหน้าใดๆ ในด้านการลดปัญหาความรุนแรง และไม่สามารถหยุดโครงการให้กระบวนการตรวจสอบอีไอเอได้ดำเนินการแต่อย่างใด โครงการยังเดินหน้าต่ออย่างไม่ใยดีต่อชาวบ้านโดยรอบ แถมยังนำเครื่องจักรลงไปเพิ่มในพื้นที่โครงการอย่างเร่งรีบอีกจำนวนมาก เพื่อใช้วิธีเดิม ๆ จากอดีต คือผิด ถูก ค่อยว่ากันที่หลัง

นายสุพจน์ กล่าวต่อว่า การกระทำของกลุ่มทุนและหน่วยงานรัฐที่ยังไม่มีรูปธรรมการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน ทำให้ชาวบ้านรอบโครงการที่คัดค้านเรื่องผลกระทบรุนแรงที่ชุมชนจะได้รับสับสน ขณะที่รัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 67 ก็รับรองสิทธิของชุมชนที่จะปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

“ยังหาเจ้าภาพออกมาจัดการไม่ได้ มีแต่หลาย ๆ หน่วยงานออกมาบอกแต่ว่า ตนไม่มีอำนาจสั่งการ และถึงวันนี้ทางโครงการเองก็ได้เร่งเดินหน้าขุดต่ออย่างไม่สนใจใคร แสดงให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของกลุ่มทุนที่บอกว่ารับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน อย่างโปร่งใสในขณะที่เพิ่งจะสังเวยชีวิตประชาชนที่เป็นเหยื่อของโครงการไปหมาด ๆ แม้แต่แสดงออกในการแสดงความจริงใจแก้ปัญหาก็ยังไม่มีให้เห็น” นายสุพจน์ กล่าว

นายสุพจน์ ยังกล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้ชาวบ้านกำลังหารือกันว่าจะหาทางดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งที่จะทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง
กำลังโหลดความคิดเห็น