ผู้จัดการออนไลน์ – กระทรวงทรัพยากรฯ ชี้ การขุดคลอง-ถมดินของโรงถลุงเหล็กสหวิริยา ขณะที่รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาถือเป็นการกระทำผิด เตรียมส่งหนังสือด่วนถึงผู้ว่าฯประจวบฯ ให้ออกคำสั่งระงับ พร้อมแจ้งกรมโรงงาน แจ้งบริษัทหยุดดำเนินการใดๆ จนกว่าอีไอเอจะได้รับการอนุมัติ พร้อมตั้งคณะอนุ กก.พิจารณาขึ้นแบล็กลิสต์บริษัท ปัญญาคอนซัลแตนส์ ที่ทำอีไอเอทำผิดจรรยาบรรณ
เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.วันนี้ (30 ม.ค.) ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม ได้จัดเสวนา เรื่อง “โรงเหล็กสหวิริยา VS ป่าพรุแม่รำพึง ทำไมต้องมาถึงวันนี้” โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมนำเสวนา คือ นายชนินทร์ ทองธรรมชาติ รองเลขาธิการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายสันติ บุญประคับ ผู้อำนวยการกองวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม สผ., ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, ตัวแทนเครือบริษัท สหวิริยา เจ้าของโครงการโรงถลุงเหล็กครบวงจร และตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง
อย่างไรก็ตาม ทางผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งว่า ไม่สามารถเข้าร่วมงานเสวนาครั้งนี้ และไม่ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ผู้ใดเข้าร่วม เนื่องจากจังหวัดมีประชุมประจำเดือน ส่วนทางเครือบริษัท สหวิริยา ไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมเช่นกัน
นายสันติ บุญประคับ ได้ให้ข้อมูลในวงเสวนาและสรุปประเด็นกรณีการขุดคลองและถมดิน ซึ่งบริษัทกำลังเร่งดำเนินการอยู่ในเวลานี้ ขณะที่รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมกำลังอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณา ว่า หากตรวจสอบพบว่าการขุดคลองและถมดินอยู่ในส่วนที่ต้องทำอีไอเอถือว่าทำผิด เพราะเมื่อบริษัทยื่นอีไอเอฉบับใหม่มาให้ สผ.พิจารณาตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. 2550 การดำเนินการใดๆ ก็ต้องหยุดหมด ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) ทาง สผ.จะมีหนังสือไปถึงผู้ว่าฯ ให้ออกคำสั่งให้ทาง อบต.ระงับการอนุญาตถมดิน
นอกจากนั้น เมื่อทาง สผ.ตรวจสอบเป็นที่ชัดเจนว่า แปลงที่ดินที่มีการขุดคลอง-ถมดิน อยู่ในพื้นที่ที่ต้องทำอีไอเอ ทาง สผ.จะทำหนังสือไปยังกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะหน่วยงานผู้อนุญาตก่อสร้างโรงงาน ทำหนังสือแจ้งไปยังบริษัทเอกชน ให้ระงับการขุดคลอง ถมดิน หรือดำเนินการใดๆ ในระหว่างที่อีไอเอกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
อย่างไรก็ตาม นายสันติ บอกว่า ในเรื่องนี้ ทางผู้ว่าฯ ประจวบฯ ส่งหนังสือขึ้นมาถามที่ สผ.เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2551 ที่ผ่านมาว่า ในการขุดคลอง ถมดิน ในระหว่างที่อีไอเอกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา สามารถทำได้หรือไม่ เพราะ อบต.หน่วยงานที่อนุญาตแจ้งต่อทางจังหวัดว่าทำได้ตามพ.ร.บ.ถมดิน ซึ่งเป็นอำนาจมหาดไทย ดังนั้น แม้ว่า สผ.จะทำหนังสือไปที่จังหวัดว่าให้ออกคำสั่งระงับการดำเนินการใดๆ ในระหว่างที่อีไอเออยู่ระหว่างการพิจารณา ก็ไม่ทราบว่าทางผู้ว่าฯ กับ อบต.จะทำตามหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้อยู่นอกขอบอำนาจของ สผ.
ส่วนกรมโรงงานนั้น หลังจาก สผ.ตรวจสอบข้อมูลแผนผังโครงการและทำหนังสือไปยังกรมโรงงานฯ เพื่อให้ออกคำสั่งระงับการถมดิน รอให้อีไอเอผ่านการเห็นชอบก่อน ก็ขึ้นอยู่กับว่า กรมโรงงานฯ จะพิจารณาเรื่องนี้อย่างที่ สผ.ชี้ไปหรือไม่ โดย สผ.เห็นว่า การขุดคลอง ถมดิน หรือการดำเนินการใดๆ ถือเป็นการเตรียมก่อสร้างโรงงานที่จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่กรมโรงงานฯ อาจจะพิจารณาว่าการขุดคลอง ถมดิน ก็ส่วนหนึ่ง ส่วนการอนุญาตสร้างโรงงานก็ส่วนหนึ่ง
“ความจริงแล้ว อำนาจทางปกครอง เมื่อเกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่ ทางผู้ว่าฯ มีอำนาจสั่งระงับการดำเนินการใดๆ ที่เป็นเหตุให้เกิดความรุนแรงได้อยู่แล้ว” ผู้อำนวยการกองวิเคราะห์ กล่าว
นอกจากนั้น วงเสวนายังหยิบยกประเด็นเรื่องจรรยาบรรณของบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม คือ บริษัท ปัญญาคอนซัลแตนส์ ว่า มีความบกพร่อง เช่น ในอีไอเอ ฉบับแรกที่ถูกถอนออกไปนั้น ไม่ได้ศึกษาสภาพพื้นที่ป่าพรุซึ่งอยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับชาติ แต่กลับระบุในอีไอเอ ว่า เป็นป่าเสื่อมโทรม ส่วนอีไอเอ ฉบับหลังที่ยื่นเข้ามาให้พิจารณาใหม่ ไม่ได้ระบุว่าสภาพพื้นที่ที่จะก่อสร้างโรงงานมีการถมดิน เมื่อการถมดินเกิดขึ้นหลังยื่นอีไอเอมาให้พิจารณาแล้ว ถือว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดไม่ตรงกับความจริง
“ขณะนี้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณาจรรยาบรรณทางวิชาชีพของบริษัทที่ปรึกษารายดังกล่าวแล้ว กรณีนี้คล้ายกับการทำอีไอเอโรงไฟฟ้าหินกรูด ที่ไม่ได้สำรวจพบว่ามีปะการังทั้งๆ ที่มีปะการังขนาดใหญ่ ในที่สุดบริษัทที่ปรึกษาดังกล่าวก็ถูกถอนใบอนุญาตที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ สผ.” นายสันติ ให้ข้อมูล
ทางด้าน นางจินตนา แก้วขาว ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงและกลุ่มอนุรักษ์ บ้านกรูด-บ่อนอก กล่าวว่า กระบวนการพิจารณาสั่งระงับการขุดคลอง ถมดิน ของหน่วยงานรัฐ ไม่รู้ว่าจะเห็นผลเมื่อใด ขณะที่ความขัดแย้งในพื้นที่ยังร้อนระอุ ทางบริษัทได้เร่งระดมเครื่องจักร และหน่วยคุ้มกันเพื่อเร่งทำงานอย่างเต็มที่ เวลานี้ ชาวบ้านกำลังปรึกษากันว่า จะนำเรื่องฟ้องร้องต่อศาลปกครองขอให้มีการไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อให้มีการระงับการดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ที่จะก่อให้เกิดปัญหาความรุนแรงบานปลายออกไป
อนึ่ง เวลา 14.00 น.วันนี้ (31 ม.ค.) นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ได้นำผู้ต้องหายิง นายรักศักดิ์ คงตระกูล เสียชีวิตในเหตุม็อบเผชิญหน้ากันเข้ามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีรายงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมารับผู้ต้องหาด้วยตนเอง ทั้งนี้ จะมี นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ และ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายประกัน
เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.วันนี้ (30 ม.ค.) ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม ได้จัดเสวนา เรื่อง “โรงเหล็กสหวิริยา VS ป่าพรุแม่รำพึง ทำไมต้องมาถึงวันนี้” โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมนำเสวนา คือ นายชนินทร์ ทองธรรมชาติ รองเลขาธิการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายสันติ บุญประคับ ผู้อำนวยการกองวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม สผ., ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, ตัวแทนเครือบริษัท สหวิริยา เจ้าของโครงการโรงถลุงเหล็กครบวงจร และตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง
อย่างไรก็ตาม ทางผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งว่า ไม่สามารถเข้าร่วมงานเสวนาครั้งนี้ และไม่ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ผู้ใดเข้าร่วม เนื่องจากจังหวัดมีประชุมประจำเดือน ส่วนทางเครือบริษัท สหวิริยา ไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมเช่นกัน
นายสันติ บุญประคับ ได้ให้ข้อมูลในวงเสวนาและสรุปประเด็นกรณีการขุดคลองและถมดิน ซึ่งบริษัทกำลังเร่งดำเนินการอยู่ในเวลานี้ ขณะที่รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมกำลังอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณา ว่า หากตรวจสอบพบว่าการขุดคลองและถมดินอยู่ในส่วนที่ต้องทำอีไอเอถือว่าทำผิด เพราะเมื่อบริษัทยื่นอีไอเอฉบับใหม่มาให้ สผ.พิจารณาตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. 2550 การดำเนินการใดๆ ก็ต้องหยุดหมด ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) ทาง สผ.จะมีหนังสือไปถึงผู้ว่าฯ ให้ออกคำสั่งให้ทาง อบต.ระงับการอนุญาตถมดิน
นอกจากนั้น เมื่อทาง สผ.ตรวจสอบเป็นที่ชัดเจนว่า แปลงที่ดินที่มีการขุดคลอง-ถมดิน อยู่ในพื้นที่ที่ต้องทำอีไอเอ ทาง สผ.จะทำหนังสือไปยังกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะหน่วยงานผู้อนุญาตก่อสร้างโรงงาน ทำหนังสือแจ้งไปยังบริษัทเอกชน ให้ระงับการขุดคลอง ถมดิน หรือดำเนินการใดๆ ในระหว่างที่อีไอเอกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
อย่างไรก็ตาม นายสันติ บอกว่า ในเรื่องนี้ ทางผู้ว่าฯ ประจวบฯ ส่งหนังสือขึ้นมาถามที่ สผ.เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2551 ที่ผ่านมาว่า ในการขุดคลอง ถมดิน ในระหว่างที่อีไอเอกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา สามารถทำได้หรือไม่ เพราะ อบต.หน่วยงานที่อนุญาตแจ้งต่อทางจังหวัดว่าทำได้ตามพ.ร.บ.ถมดิน ซึ่งเป็นอำนาจมหาดไทย ดังนั้น แม้ว่า สผ.จะทำหนังสือไปที่จังหวัดว่าให้ออกคำสั่งระงับการดำเนินการใดๆ ในระหว่างที่อีไอเออยู่ระหว่างการพิจารณา ก็ไม่ทราบว่าทางผู้ว่าฯ กับ อบต.จะทำตามหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้อยู่นอกขอบอำนาจของ สผ.
ส่วนกรมโรงงานนั้น หลังจาก สผ.ตรวจสอบข้อมูลแผนผังโครงการและทำหนังสือไปยังกรมโรงงานฯ เพื่อให้ออกคำสั่งระงับการถมดิน รอให้อีไอเอผ่านการเห็นชอบก่อน ก็ขึ้นอยู่กับว่า กรมโรงงานฯ จะพิจารณาเรื่องนี้อย่างที่ สผ.ชี้ไปหรือไม่ โดย สผ.เห็นว่า การขุดคลอง ถมดิน หรือการดำเนินการใดๆ ถือเป็นการเตรียมก่อสร้างโรงงานที่จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่กรมโรงงานฯ อาจจะพิจารณาว่าการขุดคลอง ถมดิน ก็ส่วนหนึ่ง ส่วนการอนุญาตสร้างโรงงานก็ส่วนหนึ่ง
“ความจริงแล้ว อำนาจทางปกครอง เมื่อเกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่ ทางผู้ว่าฯ มีอำนาจสั่งระงับการดำเนินการใดๆ ที่เป็นเหตุให้เกิดความรุนแรงได้อยู่แล้ว” ผู้อำนวยการกองวิเคราะห์ กล่าว
นอกจากนั้น วงเสวนายังหยิบยกประเด็นเรื่องจรรยาบรรณของบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม คือ บริษัท ปัญญาคอนซัลแตนส์ ว่า มีความบกพร่อง เช่น ในอีไอเอ ฉบับแรกที่ถูกถอนออกไปนั้น ไม่ได้ศึกษาสภาพพื้นที่ป่าพรุซึ่งอยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับชาติ แต่กลับระบุในอีไอเอ ว่า เป็นป่าเสื่อมโทรม ส่วนอีไอเอ ฉบับหลังที่ยื่นเข้ามาให้พิจารณาใหม่ ไม่ได้ระบุว่าสภาพพื้นที่ที่จะก่อสร้างโรงงานมีการถมดิน เมื่อการถมดินเกิดขึ้นหลังยื่นอีไอเอมาให้พิจารณาแล้ว ถือว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดไม่ตรงกับความจริง
“ขณะนี้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณาจรรยาบรรณทางวิชาชีพของบริษัทที่ปรึกษารายดังกล่าวแล้ว กรณีนี้คล้ายกับการทำอีไอเอโรงไฟฟ้าหินกรูด ที่ไม่ได้สำรวจพบว่ามีปะการังทั้งๆ ที่มีปะการังขนาดใหญ่ ในที่สุดบริษัทที่ปรึกษาดังกล่าวก็ถูกถอนใบอนุญาตที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ สผ.” นายสันติ ให้ข้อมูล
ทางด้าน นางจินตนา แก้วขาว ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงและกลุ่มอนุรักษ์ บ้านกรูด-บ่อนอก กล่าวว่า กระบวนการพิจารณาสั่งระงับการขุดคลอง ถมดิน ของหน่วยงานรัฐ ไม่รู้ว่าจะเห็นผลเมื่อใด ขณะที่ความขัดแย้งในพื้นที่ยังร้อนระอุ ทางบริษัทได้เร่งระดมเครื่องจักร และหน่วยคุ้มกันเพื่อเร่งทำงานอย่างเต็มที่ เวลานี้ ชาวบ้านกำลังปรึกษากันว่า จะนำเรื่องฟ้องร้องต่อศาลปกครองขอให้มีการไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อให้มีการระงับการดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ที่จะก่อให้เกิดปัญหาความรุนแรงบานปลายออกไป
อนึ่ง เวลา 14.00 น.วันนี้ (31 ม.ค.) นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ได้นำผู้ต้องหายิง นายรักศักดิ์ คงตระกูล เสียชีวิตในเหตุม็อบเผชิญหน้ากันเข้ามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีรายงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมารับผู้ต้องหาด้วยตนเอง ทั้งนี้ จะมี นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ และ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายประกัน