ผู้จัดการออนไลน์ – “วีระ สมความคิด” นำผู้ต้องสงสัยคดียิง นายรักศักดิ์ ลูกจ้างสหวิริยา เสียชีวิตในเหตุการณ์ม็อบเผชิญหน้าเข้ามอบตัวที่ สตช.วันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) “ไกรศักดิ์” และ “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” ยื่นความจำนงขอเป็นนายประกัน กังขาสภาพศพผู้ตายถูกยิงจากด้านหลัง กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ทวงถามนายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ ขอให้เปิดเผยข้อมูลกรณีการให้เอกชนเช่าที่ดินสาธารณะเพื่อใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ
นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) เวลา 11.00 น.ตนเองพร้อมกับชาวบ้านจากกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงและกลุ่มอนุรักษ์บ้านกรูด จำนวนกว่า 100 คน จะเดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อร่วมกันมอบตัว นายบำรุง สุดสวาท ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.แม่รำพึง ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีที่ นายรักศักดิ์ คงตระกูล ลูกจ้างบริษัท สหวิริยาฯ ถูกกระสุนปืนเสียชีวิตในเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กับกลุ่มเสื้อแดงผู้สนับสนุนของ บ.สหวิริยา เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา
นายวีระ กล่าวว่า ได้ประสานงานที่จะนำ นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ และ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งแสดงความจำนงที่จะมาขอเป็นนายประกัน มาร่วมในวันและเวลาดังกล่าวด้วย
เลขาธิการ คปต.กล่าวว่า เมื่อตนเองลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐานจากทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดี ไปดูสภาพศพ แล้วประมวลข้อมูลพบว่า ผู้ต้องสงสัยไม่ได้รับความเป็นธรรม ตำรวจไม่มีหลักฐานว่าผู้ต้องสงสัยอยู่ในที่เกิดเหตุ ปืนที่ค้นพบในบ้านของแม่ผู้ต้องสงสัยก็ไม่ใช่ปืนชนิดเดียวกัน แต่นายตำรวจผู้ใหญ่ในจังหวัดประจวบฯ กลับออกข่าวว่า จับไม่ผิดตัวแน่ เป็นการทำให้คนทั้งประเทศเข้าใจว่าฝ่ายคัดค้านโครงการ ใช้ความรุนแรง
“ผู้ต้องสงสัยถูกกล่าวหาจากตำรวจที่บิดเบือนข้อเท็จจริงว่าชาวบ้านที่ออกมาคัดค้านโครงการมีอาวุธ ยิงใส่ฝ่ายหนุนโรงงานตาย ผมถือว่านายตำรวจใหญ่ที่ให้ข่าวคนดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เรื่องนี้ผมจะแจ้งความหรือฟ้องดำเนินคดีแน่ เป็นไปได้อย่างไร ม็อบเผชิญหน้ากัน แต่สภาพศพกลับพบว่าถูกยิงจากข้างหลัง หากอีกฝ่ายยิงกระสุนต้องเข้าด้านหน้า มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการถูกยิงจากพวกเดียวกันเอง” นายวีระ กล่าว
นายสุพจน์ ส่งเสียง ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ที่คัดค้านโครงการโรงถลุงเหล็กสหวิริยา บางสะพาน ให้สัมภาษณ์ว่าตามที่ ภรรยา นายรักศักดิ์ ผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิตในวันที่ 24 ม.ค.2551 ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าแปลกใจทำไมสามีตนถูกยิงจากด้านหลัง ทั้งๆ ที่เป็นเหตุการณืประจันหน้ากับฝ่ายคัดค้านว่า ไม่ต้องแปลกใจ เพราะนายสุพจน์เองอยู่ในที่เกิดเหตุและวิ่งหลบลูกกระสุนปืนของฝ่ายคนงานบริษัท สหวิริยา อย่างชุลมุน เหมือนกับในสนามรบ ซึ่งยังโชคดีที่มีต้นมะพร้าวให้หลบ
นายสุพจน์ ยืนยันว่า นายรักศักดิ์ ตายเพราะกระสุนฝ่ายเดียวกัน รวมทั้งในวันที่ 24 ม.ค.ที่เกิดการเผชิญหน้ากัน ตนเองได้โทรศัพท์ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางสะพาน ตั้งแต่เช้าก่อนเคลื่อนขบวนไปคัดค้านรถขุดร่องน้ำ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ดำเนินการใดๆ ถ้าหากเจ้าหน้าที่มาห้ามปรามและตรวจอาวุธทั้ง 2 ฝ่ายตั้งแต่เช้า นายรักศักดิ์ ก็อาจไม่ตาย เพราะเมื่อไม่มีปืนก็ไม่มีการยิงกันเกิดขึ้น
“ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ตาย ฝ่ายคัดค้านไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสีย แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทำให้เกิดการยิงของคนงานสหวิริยา และคนงานสหวิริยา ก็มีอาการเมามายด้วย ทำให้เกิดลูกหลงถูกนายรักศักดิ์ ดังที่ทราบกันอยู่แล้ว” นายสุพจน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าของคดีทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน ยังไม่ได้สรุปชัดเจนว่า ฝ่ายใดเป็นผู้ลงมือยิง นายรักศักดิ์
วันนี้ กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ยังได้ไปที่ที่ดินส่วนแยกบางสะพาน เพราะสมาชิกของกลุ่มประมาณ 15 ราย ได้นำโฉนด และ น.ส.3 ไปประเมินราคาที่ดินสำหรับเตรียมไว้ประกันสมาชิกและเครือข่ายที่อาจถูกใส่ร้ายป้ายสี แจ้งความดำเนินคดีจากเหตุการณ์วันที่ 24 ม.ค.2551 โดยมีการประเมินเอกสารสิทธิทั้งหมดรวม 6 ล้านบาท
วันนี้ (29 ม.ค.) นายวิฑูรย์ บัวโรย ประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ได้ออกจดหมายเปิดผนึกผ่านสื่อมวลชนถึงนายก อบจ.จังวัดประจวบคีรีขันธ์ ขอให้เปิดเผยข้อมูลกรณีการเช่าใช้ที่ดินสาธารณะในเขตอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ครั้งที่ 1)
โดยมีเนื้อความ ระบุว่า ทางกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ใคร่ขอทราบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับที่ดินสาธารณะที่อยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในเขต ต.แม่รำพึง ต.กำเนิดนพคุณ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทราบข่าวว่า มีการนำที่ดินสาธารณะซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ แก้มลิงทางธรรมชาติบริเวณอำเภอบางสะพาน ไปให้เอกชนเช่าใช้ทำประโยชน์เพื่อแสวงหากำไรในธุรกิจ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมบางสะพานซ้ำซาก
กลุ่มอนุรักษ์ฯ ขอทราบรายละเอียดข้อมูลในแปลงที่ดินสาธารณะเพื่อใช้ประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเหล็ก ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน ดังนี้
1) จำนวนเนื้อที่ดิน แผนที่ตั้ง ตำแหน่ง รูปลักษณะขอบเขตของที่ดินสาธารณะ ระยะเวลาการเช่า เงื่อนไขสัญญาเช่า 2) ค่าเช่าที่ดินสาธารณะเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ 3) เหตุผลในการอนุญาตให้เอกชนเช่าใช้ 4) ขอทราบชื่อคณะกรรมการที่พิจารณาอนุมัติให้เช่าใช้ที่ดินสาธารณะ
ข้อมูลทั้งหมดดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทางกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงและประชาชนทั่วไปสนใจ และให้ความสำคัญ เพื่อความโปร่งใส และเป็นการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารต่อประชาชน ทางกลุ่มอนุรักษ์ฯ จึงใคร่ขอใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ขอให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงด้วย
นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) เวลา 11.00 น.ตนเองพร้อมกับชาวบ้านจากกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงและกลุ่มอนุรักษ์บ้านกรูด จำนวนกว่า 100 คน จะเดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อร่วมกันมอบตัว นายบำรุง สุดสวาท ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.แม่รำพึง ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีที่ นายรักศักดิ์ คงตระกูล ลูกจ้างบริษัท สหวิริยาฯ ถูกกระสุนปืนเสียชีวิตในเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กับกลุ่มเสื้อแดงผู้สนับสนุนของ บ.สหวิริยา เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา
นายวีระ กล่าวว่า ได้ประสานงานที่จะนำ นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ และ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งแสดงความจำนงที่จะมาขอเป็นนายประกัน มาร่วมในวันและเวลาดังกล่าวด้วย
เลขาธิการ คปต.กล่าวว่า เมื่อตนเองลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐานจากทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดี ไปดูสภาพศพ แล้วประมวลข้อมูลพบว่า ผู้ต้องสงสัยไม่ได้รับความเป็นธรรม ตำรวจไม่มีหลักฐานว่าผู้ต้องสงสัยอยู่ในที่เกิดเหตุ ปืนที่ค้นพบในบ้านของแม่ผู้ต้องสงสัยก็ไม่ใช่ปืนชนิดเดียวกัน แต่นายตำรวจผู้ใหญ่ในจังหวัดประจวบฯ กลับออกข่าวว่า จับไม่ผิดตัวแน่ เป็นการทำให้คนทั้งประเทศเข้าใจว่าฝ่ายคัดค้านโครงการ ใช้ความรุนแรง
“ผู้ต้องสงสัยถูกกล่าวหาจากตำรวจที่บิดเบือนข้อเท็จจริงว่าชาวบ้านที่ออกมาคัดค้านโครงการมีอาวุธ ยิงใส่ฝ่ายหนุนโรงงานตาย ผมถือว่านายตำรวจใหญ่ที่ให้ข่าวคนดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เรื่องนี้ผมจะแจ้งความหรือฟ้องดำเนินคดีแน่ เป็นไปได้อย่างไร ม็อบเผชิญหน้ากัน แต่สภาพศพกลับพบว่าถูกยิงจากข้างหลัง หากอีกฝ่ายยิงกระสุนต้องเข้าด้านหน้า มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการถูกยิงจากพวกเดียวกันเอง” นายวีระ กล่าว
นายสุพจน์ ส่งเสียง ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ที่คัดค้านโครงการโรงถลุงเหล็กสหวิริยา บางสะพาน ให้สัมภาษณ์ว่าตามที่ ภรรยา นายรักศักดิ์ ผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิตในวันที่ 24 ม.ค.2551 ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าแปลกใจทำไมสามีตนถูกยิงจากด้านหลัง ทั้งๆ ที่เป็นเหตุการณืประจันหน้ากับฝ่ายคัดค้านว่า ไม่ต้องแปลกใจ เพราะนายสุพจน์เองอยู่ในที่เกิดเหตุและวิ่งหลบลูกกระสุนปืนของฝ่ายคนงานบริษัท สหวิริยา อย่างชุลมุน เหมือนกับในสนามรบ ซึ่งยังโชคดีที่มีต้นมะพร้าวให้หลบ
นายสุพจน์ ยืนยันว่า นายรักศักดิ์ ตายเพราะกระสุนฝ่ายเดียวกัน รวมทั้งในวันที่ 24 ม.ค.ที่เกิดการเผชิญหน้ากัน ตนเองได้โทรศัพท์ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางสะพาน ตั้งแต่เช้าก่อนเคลื่อนขบวนไปคัดค้านรถขุดร่องน้ำ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ดำเนินการใดๆ ถ้าหากเจ้าหน้าที่มาห้ามปรามและตรวจอาวุธทั้ง 2 ฝ่ายตั้งแต่เช้า นายรักศักดิ์ ก็อาจไม่ตาย เพราะเมื่อไม่มีปืนก็ไม่มีการยิงกันเกิดขึ้น
“ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ตาย ฝ่ายคัดค้านไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสีย แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทำให้เกิดการยิงของคนงานสหวิริยา และคนงานสหวิริยา ก็มีอาการเมามายด้วย ทำให้เกิดลูกหลงถูกนายรักศักดิ์ ดังที่ทราบกันอยู่แล้ว” นายสุพจน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าของคดีทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน ยังไม่ได้สรุปชัดเจนว่า ฝ่ายใดเป็นผู้ลงมือยิง นายรักศักดิ์
วันนี้ กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ยังได้ไปที่ที่ดินส่วนแยกบางสะพาน เพราะสมาชิกของกลุ่มประมาณ 15 ราย ได้นำโฉนด และ น.ส.3 ไปประเมินราคาที่ดินสำหรับเตรียมไว้ประกันสมาชิกและเครือข่ายที่อาจถูกใส่ร้ายป้ายสี แจ้งความดำเนินคดีจากเหตุการณ์วันที่ 24 ม.ค.2551 โดยมีการประเมินเอกสารสิทธิทั้งหมดรวม 6 ล้านบาท
วันนี้ (29 ม.ค.) นายวิฑูรย์ บัวโรย ประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ได้ออกจดหมายเปิดผนึกผ่านสื่อมวลชนถึงนายก อบจ.จังวัดประจวบคีรีขันธ์ ขอให้เปิดเผยข้อมูลกรณีการเช่าใช้ที่ดินสาธารณะในเขตอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ครั้งที่ 1)
โดยมีเนื้อความ ระบุว่า ทางกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ใคร่ขอทราบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับที่ดินสาธารณะที่อยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในเขต ต.แม่รำพึง ต.กำเนิดนพคุณ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทราบข่าวว่า มีการนำที่ดินสาธารณะซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ แก้มลิงทางธรรมชาติบริเวณอำเภอบางสะพาน ไปให้เอกชนเช่าใช้ทำประโยชน์เพื่อแสวงหากำไรในธุรกิจ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมบางสะพานซ้ำซาก
กลุ่มอนุรักษ์ฯ ขอทราบรายละเอียดข้อมูลในแปลงที่ดินสาธารณะเพื่อใช้ประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเหล็ก ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน ดังนี้
1) จำนวนเนื้อที่ดิน แผนที่ตั้ง ตำแหน่ง รูปลักษณะขอบเขตของที่ดินสาธารณะ ระยะเวลาการเช่า เงื่อนไขสัญญาเช่า 2) ค่าเช่าที่ดินสาธารณะเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ 3) เหตุผลในการอนุญาตให้เอกชนเช่าใช้ 4) ขอทราบชื่อคณะกรรมการที่พิจารณาอนุมัติให้เช่าใช้ที่ดินสาธารณะ
ข้อมูลทั้งหมดดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทางกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงและประชาชนทั่วไปสนใจ และให้ความสำคัญ เพื่อความโปร่งใส และเป็นการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารต่อประชาชน ทางกลุ่มอนุรักษ์ฯ จึงใคร่ขอใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ขอให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงด้วย