xs
xsm
sm
md
lg

“ทอมมี่” แจ้งความ 2 สื่อใหญ่บิดเบือน “ภาพก้มกราบ” เปิดเบื้องลึกและคลิปต้นเหตุสู่คดีความดรามา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ภาพเหตุการณ์ก้มกราบ รอง ผบช.ภาค 9 ท่านหนึ่งที่กลายเป็นสาเหตุของการแจ้งความสื่อมวลชน
 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “ทอมมี่-พินิจ รุจิรวนิช” นักธุรกิจอสังหาฯ ที่เป็นข่าวดรามาครึกโครม หันมาแจ้งความสื่อ 2 สำนักฐานหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพ์ กรณีลงข่าวขมาในศาลต่อ “พ.ต.อ.” ที่เคยกล่าวหามีเรื่องชู้สาวกับอดีตภรรยาและพยายามฆ่า เปิดข้อเท็จริง ที่มา-ที่ไปและบันทึกคำขอขมา พร้อมคลิปลับแย่งโฉนดพ่อตาในสำนักงานที่ดิน ก่อนดรามาฟ้องดะทั้งอดีตเมีย ผู้กำกับ และสื่อมวลชน
  

นายพินิจ รุจิรวนิช กับ รอง ผบช.ภาค 9 เมื่อครั้งไปร้องขอความช่วยเหลือ
 
มีรายงานข่าวว่า ช่วงบ่ายวานนี้ (16 ต.ค.) นายพินิจ รุจิรวนิช หรือ “ทอมมี่” นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ใน จ.สงขลา ซึ่งเคยเป็นข่าวเกี่ยวกับการฟ้องร้องกับครอบครัวอดีตภรรยา และ “พ.ต.อ.” นายหนึ่งที่ปฏิบัติราชการอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 ได้เข้าแจ้งร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวหาสื่อมวลชน 2 สำนักนำเสนอข่าวเชิงหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จจริง
 
ทั้งนี้ เป็นผลจากเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา สื่อมวลชนนำเสนอข่าวกรณีที่ศาลแขวงสงขลา ได้นัดสืบพยานโจทก์ในคดีที่ “พ.ต.อ.” นายหนึ่งได้ฟ้องร้องนายพินิจ ในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งไปกล่าวหาว่า พ.ต.อ.คู่กรณีมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับอดีตภรรยาของนายพินิจ และพยายามตามฆ่านายพินิจ ถึง 2 ครั้ง และศาลได้ให้ทั้งสองฝ่ายไกล่เกลี่ยและระงับข้อพิพาท ซึ่งทั้งสองฝ่ายยอมยุติข้อพิพาทในคดีนี้ โดยนายพินิจ ได้ยอมยกมือไหว้ขอขมา พ.ต.อ.คู่กรณีต่อหน้าผู้พิพากษาและอัยการหน้าบัลลังก์ ในขณะ พ.ต.อ.คู่กรณีได้รับคำขอขมา เพราะเห็นว่านายพินิจ สำนึกผิดกับสิ่งที่หมิ่นประมาทใส่ร้ายป้ายสีตัวเองโดยไม่เป็นความจริง แต่ยอมความเฉพาะคดีหมิ่นประมาทที่อยู่ในอำนาจศาลแขวงเท่านั้น
 
นายพินิจ รุจิรวนิช กับ รอง ผบช.ภาค 9 เมื่อครั้งไปร้องขอความช่วยเหลือ
 
สำหรับข้อเท็จจริงข่าวเกี่ยวกับการขมากันในศาลนั้น ในส่วนของเนื้อข่าวที่นายพินิจ ขอขมาที่ปรากฏในข่าว เป็นข้อเท็จจริงตามบันทึกของศาลแขวงสงขลาที่นายพินิจ ได้กล่าวคำขอขมาเอาไว้ ซึ่งทางสื่อมวลชนได้นำมาใช้อ้างอิงประกอบข่าวบางส่วนเพื่อความถูกต้อง ส่วนประเด็นเรื่องภาพที่นำมาใช้ประกอบข่าว ซึ่งเป็นเหมือนต้นเหตุให้มีการแจ้งความสื่อมวลชนครั้งนี้ก็ไม่ได้ระบุว่า เป็นภาพที่นายพินิจ ก้มกราบเท้า “พ.ต.อ.” คู่กรณีแต่อย่างใด แต่เป็นภาพที่นายพินิจ ก้มกราบเท้า “รอง ผบช.ภาค 9 ท่านหนึ่ง” ขณะไปยื่นเรื่องร้องเรียนให้ดำเนินการทางวินัยต่อ พ.ต.อ.คู่กรณีที่นายพินิจ กล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับภรรยา ซึ่งก็เคยเป็นข่าวมาแล้ว
 
อีกทั้งในเนื้อข่าวเกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยและระงับข้อพิพาทก็เขียนชัดเจนว่า นายพินิจ เพียงได้กระทำเพียงแค่ “ไหว้ขอขมา” ไม่ได้ “กราบเท้า พ.ต.อ.คู่กรณี” แต่อย่างใด ที่สำคัญข่าวการขอขมา พ.ต.อ.คู่กรณีก็เป็นข่าวต่อเนื่องมาจากข่าวที่นายพินิจเคยไปร้องเรียนรอง ผบช.ภาค 9 และได้ก้มกราบเท้ารอง ผบช.ภาค 9 ท่านนั้น ซึ่งเป็นที่มาของภาพดังกล่าว
 
นอกจากนี้ ภาพการก้มกราบดังกล่าวก็เคยปรากฏในสื่อมวลชนหลายสำนักมาก่อนแล้ว ที่สำคัญในข่าวการขอขมาในเวลาต่อมาก็มีการกล่าวย้อนหลังไปถึงเรื่องที่นายพินิจ เข้าร้องเรียนต่อรอง ผบช.ภาค 9 ไว้เช่นกัน เพียงแต่ไม่ได้ระบุว่าได้ก้มกราบเท้าด้วยและเป็นที่มาของภาพดังกล่าว
 
สำหรับความเป็นมาเรื่องข่าวดรามาของนายพินิจ ซึ่งเป็นอดีตลูกเขยของนักธุรกิจเจ้าของบริษัทบ้านจัดสรรรายใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เริ่มต้นจากการฟ้องร้องอดีตภรรยาเพื่อแบ่งทรัพย์สินมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท จำนวน 14 คดี แต่ศาลยกฟ้องทั้งหมด แม้ว่าจะเคยมีการทำสัญญากันแล้วว่า จะไม่ติดใจเรียกร้องหรือดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ต่อกัน ไม่ว่าต่อส่วนตัวหรือเกี่ยวกับทรัพย์สินทั้งทางแพ่งและอาญา
 
นอกจากนี้แล้ว นายพินิจ ยังมีเรื่องแย่งชิงโฉนดที่ดินกับอดีตพ่อตา เหตุเกิดที่สำนักงานที่ดิน จ.สงขลา ซึ่งมีภาพวงจรปิดชัดเจนและเป็นหนึ่งในคดีที่มีการฟ้องร้องกัน 
 
บันทึกคำขอขมาในศาลระหว่างนายพินิจ รุจิรวนิช กับ พ.ค.อ.คู่กรณี
 
ต่อมา นายพินิจ ถูกบริษัท บ้านกาญจนทรัพย์ จำกัด ฟ้องร้องในข้อหายักยอกเงินของบริษัทไปจำนวน 916,800 บาท เมื่อปี 2560 โดยเมื่อวันที่ 24 ก.ย.2562 ที่ผ่านมา ศาลแขวงสงขลามีคำพิพากษาให้นายพินิจ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคแรก จำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา และให้จำเลยคืนเงิน 916,800 บาทแก่โจทก์ร่วม ซึ่งอยู่ระหว่างชั้นอุทธรณ์ รวมทั้งยังเคยถูกลูกบ้านแจ้งความข้อหายักยอกเงินราว 1 ล้านบาท แต่คดีนี้ยอมชดใช้คืน จึงมีการถอนแจ้งความ
 
รวมทั้งนายพินิจ ยังเคยถูกออกหมายจับโดยศาลจังหวัดสงขลา ที่ จ.142/2561 ลงวันที่ 26 มี.ค.2561 โดยมีข้อกล่าวหาว่า ทำให้เสียหาย ทำลาย เอาไปเสีย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น และได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 4 เม.ย.2561 โดยให้การปฏิเสธ
 
นอกจากนี้ นายพินิจ ยังฟ้องร้อง พ.ต.อ.คู่กรณีอีกหลายคดี รวมถึงคดีที่ต้องยอมขอขมา พ.ต.อ.คู่กรณีด้วย และยังเคยฟ้องร้องอธิบดีอัยการภาค 9 และอัยการอีก 1 ท่าน ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากไม่พอใจเกี่ยวกับผลคดี แต่ศาลทุจริตฯ ยกฟ้อง กระทั่งล่าสุดได้แจ้งความดำเนินคดีกับสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวการขอขมาดังกล่าว โดยกล่าวหาว่าลงข่าวบิดเบือนว่าไปกราบเท้า พ.ต.อ.คู่กรณี
 
บันทึกคำขอขมาในศาลระหว่างนายพินิจ รุจิรวนิช กับ พ.ค.อ.คู่กรณี
 
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง 
 
- หนุ่มนักธุรกิจก้มกราบรอง ผบช.ภ.9 ขอให้ปลด “พ.ต.อ.” พ้นราชการ หลังศาลพิพากษาเป็นชู้อดีตภรรยา
 
- นักธุรกิจสาวทายาทเจ้าของบ้านจัดสรรที่สงขลา โต้อดีตสามีสร้างเรื่องฟ้องร้อง แฉหวังแบ่งสมบัตินับ 100 ล.
 
- ศาลสั่งจำคุก 1 ปี ปรับกว่า 9 แสน “ทอมมี่” นักธุรกิจร้อยล้าน อมเงินส่วนกลางบ้านจัดสรรบริษัทพ่อตา
 
- “ทอมมี่” นักธุรกิจอสังหาฯ ยอมขอขมา “พ.ต.อ.” คู่กรณี คดีหมิ่นประมาทกุเรื่องเป็นชู้กับอดีตเมีย 
 


กำลังโหลดความคิดเห็น