xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มนักธุรกิจก้มกราบรอง ผบช.ภ.9 ขอให้ปลด “พ.ต.อ.” พ้นราชการ หลังศาลพิพากษาเป็นชู้อดีตภรรยา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยะลา - หนุ่มนักธุรกิจชาวหาดใหญ่ ก้มกราบรอง ผบช.ภ.9 หลังเข้ายื่นหนังสือพิจารณาปลดนายตำรวจยศ “พันตำรวจเอก” ให้ออกจากราชการ หลังศาลพิพากษาคดีเป็นชู้กับอดีตภรรยา

วันนี้ (29 ส.ค.) นายพินิจ รุจิรวนิช หนุ่มนักธุรกิจชาวหาดใหญ่ ได้ก้มลงกราบเท้า พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ทันที หลังจากที่ได้ยื่นหนังสือร้องขอให้พันตำรวจเอกนายหนึ่งออกจากราชการ หลังจากศาลพิพากษาคดีลักลอบเป็นชู้กับอดีตภรรยาของตนเอง

โดยนายพินิจ รุจิรวนิช นักธุรกิจหาดใหญ่ พร้อมด้วยทนายความ ได้เดินทางนำหนังสือมาที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า อ.เมืองฯ จ.ยะลา ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยศ พันตำรวจเอก นายหนึ่งออกจากราชการ มายื่นให้แก่ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 โดยมี พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เป็นผู้รับหนังสือแทน

พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า เนื่องจากมีผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนมายื่นคำร้องทุกข์กล่าวหาข้าราชการตำรวจ ในส่วนของตนที่เป็นผู้บังคับบัญชาก็รับเรื่องเอาไว้และจะเร่งรัดดำเนินการทั้งกระบวนการและความยุติธรรมให้แก่ผู้เสียหายอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลใจ ทางผู้บังคับบัญชาในส่วนของตำรวจภูธรภาค 9 ก็จะดำเนินการทุกเรื่องอย่างตรงไปตรงมา พร้อมให้ตรวจสอบ ตนจะดำเนินการให้โดยไม่รอช้า หากมีความคืบหน้าประการใดก็จะแจ้งให้ผู้เสียหายได้รับทราบโดยตรง ส่วนเรื่องการติดขัดต่างๆ การข่มขู่อะไรต่างๆ ก็จะนำเรียนให้ผู้บังคับบัญชาเพื่อจะดำเนินการในเรื่องวินัยตามความเหมาะสม ส่วนเรื่องที่เป็นหลักฐานทางคดีที่มีเอกสาร เรื่องนี้ก็คงจะไม่ช้า

ด้านนายพินิจ รุจิรวนิช นักธุรกิจหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้เพื่อที่จะมายื่นเรื่องขอให้ตำรวจออกจากราชการ เนื่องจากมีคำพิพากษาออกมาแล้วเกี่ยวกับพันตำรวจเอกนายหนึ่งซึ่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสงขลา ได้ตัดสินมาแล้วว่าพันตำรวจเอกนายนี้มีความสัมพันธ์กับอดีตภรรยาของตน ในคดีที่เรียกค่าทดแทนจากการเป็นชู้ หลังจากได้ยื่นหนังสือแล้วก็มีความสบายใจมากขึ้น และหวังที่จะได้รับความเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมามีการร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 9 และหน่วยงานรัฐหลายแห่ง ไม่มีความคืบหน้า

แต่ในครั้งนี้รู้สึกสบายใจขึ้น เนื่องจากท่านรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ท่านรับปากที่จะเร่งดำเนินการให้ ซึ่งหลังจากวันนี้ไปจะต้องเฝ้ารอและติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงาน ที่ผ่านมาตนทำหนังสือไปยังคณะกรรมการสอบวินัย และไม่เคยได้รับหนังสือตอบกลับมาว่าผลการดำเนินการเป็นอย่างไรบ้าง หวังจะให้ดำเนินการให้เร็วขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทางคณะกรรมการสอบวินัยได้แจ้งมาว่าจะต้องรอผลคดีที่ศาล ซึ่งขณะนี้มีทั้งคดียักยอกทรัพย์ที่ศาลพิพากษามาแล้วว่าจำคุกพันตำรวจเอกท่านนั้น ประกอบกับมีคดีเรื่องที่ศาลเยาวชนได้ตัดสินว่ามีความสัมพันธ์กับอดีตภรรยาของตน ทั้งสองคำพิพากษานี้เป็นสิ่งที่คณะกรรมการสอบวินัยรออยู่ แต่เมื่อตนยื่นไปแล้วและได้ทำหนังสือติดตาม กลับไม่ได้หนังสือตอบกลับมา

“ที่ผ่านมาผมถูกกลั่นแกล้งหลายอย่าง ในแต่ละเดือนตนเองจะถูกพันตำรวจเอกท่านนั้น และกลุ่มพรรคพวกเขาไปแจ้งความตามสถานีตำรวจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอหงห์ หาดใหญ่ ทุ่งลุง ให้ตนเองเป็นผู้ต้องหา ส่วนใหญ่จะเป็นข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้ผมจะต้องเดินทางไปที่สถานีตำรวจพิมพ์ลายนิ้วมืออยู่เป็นประจำ” นายพินิจกล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น