xs
xsm
sm
md
lg

โจรสาวย่องฉกเงินขวัญถุงบนหิ้งพระ-นางกวัก ขณะเจ้าของร้านเสริมสวยเมืองสตูลเผลอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
สตูล - กล้องวงจรปิดจับภาพวินาทีโจรสาวแอบย่องฉกเงินขวัญถุงบนหิ้งพระ และนางกวัก ขณะเจ้าของร้านเสริมสวยในเมืองสตูลเผลอ กวาดเงินไปได้ 120 บาท หลบหนีลอยนวล

วันนี้ (6 ส.ค.) กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพหญิงสาวอายุประมาณ 25 ปี และไม่เกิน 30 ปี ได้ขณะขี่รถจักรยานยนต์สีฟ้า ที่ทำทีขี่รถผ่านบ้านหลังเกิดเหตุ แต่สุดท้ายได้เลี้ยววกกลับ จากนั้นได้เลี้ยวขึ้นไปบนบ้านเลขที่ 659/1 ซอย 33 หมู่ที่ 7 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งเปิดเป็นร้านเสริมสวย โดยคนร้ายเข้าไปภายในร้านนานร่วม 5 นาที ก่อนจะฉกเงินภายในร้านไป 120 บาท พร้อมสายชาร์จโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะขี่รถหนีออกไปอย่างลอยนวล
 

 
โดยขณะนั้น นางปราณี วงศ์สุวรรณ อายุ 33 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยในซอยหมู่บ้าน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ภายในร้านเสริมสวยกับลูกสาว แต่เป็นช่วงบังเอิญที่โทรศัพท์ดังพอดี จึงคว้าโทรศัพท์เข้าไปคุยในห้อง จังหวะนั้นไม่มีลูกค้าเข้ามาในร้าน แต่ประตูหน้าร้านซึ่งเป็นกระจกได้ปิดไว้เฉยๆ ไม่ได้ใส่กลอน และลูกสาวก็อาบน้ำอยู่ด้านใน ตนคุยโทรศัพท์นานร่วม 10 นาที เมื่อออกมาหน้าร้านพบว่า ประตูกระจกถูกเปิดออก และยังพบว่าเงินที่ตั้งเป็นขวัญถุงใส่ไว้ในขันสีทอง 20 บาท ตรงนางกวักหายไป แต่เงิน 100 บาท ที่ม้วนให้นางกวักหนีบไว้ เชื่อว่าโจรน่าจะไม่เห็น และไม่ได้เอาไปด้วย

ส่วนตรงบริเวณตู้ลิ้นชักภายในร้านถูกเปิดออก เงินอีก 100 บาท ที่ตั้งไว้บูชาที่บนหิ้งกราบไหว้บรรพบุรุษตายายก็หายไปด้วย พร้อมกับสายชาร์จโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งถอดออก หลังโทรศัพท์ดังแล้วเดินไปคุยในห้องก็หายไป และโชคดีที่โจรไม่ได้หยิบไดร์เป่าผม รวมทั้งเครื่องมือทำมาหากินภายในร้านเสริมสวยไปด้วย เชื่อว่าโจรรีบออกไปหลังได้ยินลูกสาวออกจากออกน้ำ และสุนัขออกมาหน้าบ้าน ซึ่งวันนี้ตนได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสตูล ไว้เป็นหลักฐานแล้ว
 

 
พร้อมเห็นว่าแม้เงินจะหายไปเพียง 120 บาท แต่ก็ไม่อยากให้เกิดกับคนอื่นอีก และต้องการให้เป็นอุทาหรณ์ หลังพบว่าร้านเสริมสวยมักจะเป็นเป้าให้คนร้ายเข้ามาฉกเงิน หรือหยิบของภายในร้านยามเจ้าของร้านเผลอ และไม่เป็นเป้ากับคนทั่วไปมากนัก เนื่องจากอาจเห็นว่าขี่รถเข้ามาใช้บริการเสริมสวยได้

ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า คดีนี้พบว่าคนร้ายน่าจะเป็นรายเดียวกันที่เคยก่อเหตุในหลายพื้นที่ ซึ่งขณะนี้พนักงานสืบสวนสอบสวนกำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบว่าเป็นรายเดียวกันหรือไม่ เพื่อขอหมายจับดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 




กำลังโหลดความคิดเห็น